ปลายปี 2540 หลังจากบิ๊กจิ๋วลาออกจากนายกฯ
จากความกรุณาของกลุ่มงูเห่า ทำให้นายชวน หลีกภัย ได้ขึ้นเป็นนายกฯครั้งที่ 2
(ผลตอบแทน ก็คือ "คลองด่าน" อันลือลั่น เหมือนกับที่แหลมาร์คตอบแทนกลุ่มเนวินจนพุงกางนั่นแหละครับ)
นายชวนก็นั่งควบตำแหน่ง รมว. กลาโหมด้วย
ควบอยู่ เกือบสี่ปี คือจากปลายปี 2540 ถึงต้นปี 2544
ปี 2539 ก็มีการเลือกตั้งใหญ่
ช่วงนั้น บิ๊กจิ๋วเป็นหัวพรรคความหวังใหม่ สู้กันดุเดือดกับพรรค ปชป. ในภาคอีสาน
ช่วงนั้น แม่ทัพภาค 2 ที่คุมภาคอีสานก็คือ พล.ท.สุรยุทธ จุลานนท์
ว่ากันว่า การเลือกตั้งปี 2539
เด็กบิ๊กจิ๋ว หอบกระสอบเงินไปหาแม่ทัพภาค 2
ขอให้ช่วยแจกเงิน ให้ใช้อิทธพลของทหารช่วยการเลือกตั้งในภาคอีสาน
แต่แม่ทัพภาคสองปฏิเสธ
ผลการเลือกตั้ง ความหวังใหม่ชนะ ปชป. บิ๊วจิ๋วได้เป็นนายกฯ
ปี 2540 แม่ทัพภาค 2 เลยโดนเด้งเข้ากรุไปเป็นที่ปรึกษา และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งเป็นการ "ปิดทาง" ขึ้นสู่ตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. อันมีสิทธิ์ที่จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต่อไป
แต่หลังจากบิ๊กจิ๋วลาออกปลายปี 2540 และนายชวนได้ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน พร้อมควบ รมว.กลาโหม
1 ตุลาคม 2541 นายชวนก็ควักผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ชื่อสุรยุทธออกมาเป็น ผบ.ทบ.
ซึ่งว่ากันว่า เป็นการคืนความชอบธรรมให้ พล.อ.สุรยุทธ
แ่ต่ผมมองว่า ตอบแทนกันมากกว่าบ่ะ
และคนกลุ่มนี้ ก็พวกเดียวกัน เห็นชัดเจนมากหลังจากรัฐประหาร 2549
(ลุงเที่ยงแกเป็น ผบ.ทบ. ตั้งแต่ปี 2541 - 2545 แล้วทักษิณก็เลยย้ายแกไปเป็น ผบ.สส. ในปี 2545
อันนี้จะทำให้ลุงเที่ยงแกงอนทักษิณหรือเปล่าไม่รู้สิ ถึงได้กระโดดขึ้นมาเป็นนายกฯในปี 49
แบบว่า แกปลดข้าจาก ผบ.ทบ. ข้าก็มาเป็นนายกฯก็ได้โว้ย ข้าไม่ใช่ขี้ไก่นะโว้ย)
ตอนนั้น ตอนที่จะดึงสุรยุทธจากผู้ทรงวุฒิมาเป็น ผบ.ทบ.
นายชวนก็ไม่ประสาอะไร ยังต้องถามนายประสงค์ สุ่นศิริ ว่า สามารถทำได้ไหม
(แปลกนะ ทำไมไม่ถามกองทัพ ทำไมต้องไปถามประสงค์)
นายประสงค์ตอบว่า ทำได้ นายชวนก็ทำ
ทำแล้วกองทัพก็ไม่มีปฏิกริยาอะไร ก็ใครจะกล้า ลูกป๋าทั้งนั้น
ก็เล่าให้ฟังครับ
ไม่ใช่ผมรู้เองเห็นเองหรอก ก็อ่าน ๆ จำ ๆ มาจากข่าวจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ นั่นแหละ
เล่าให้ฟังเพื่อจะได้รู้ว่า การที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะควบ รมว.กลาโหมนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
การเมืองเรามันไม่ปกติครับ ชิงไหวชิงพริบชิงเล่ห์เล่นเหลี่ยมกันตลอดเวลา
ศาลไม่เ็ป็นศาล สื่อไม่เป็นสื่อ
เรื่องควบกลาโหม จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรเลย
ทหารเองยังไม่ว่าอะไรสักแอะ (ก็แน่ล่ะ รัฐบาลกับกองทัพคงคุยกันเป็นการภายในแล้วก่อนจะโปรดเกล้าฯรายชื่อ)
เมื่อย จบ
นายชวน หลีกภัย เป็น รมว.กลาโหม นายชวนเองก็ไม่ประสาเลยในเรื่องทหาร
จากความกรุณาของกลุ่มงูเห่า ทำให้นายชวน หลีกภัย ได้ขึ้นเป็นนายกฯครั้งที่ 2
(ผลตอบแทน ก็คือ "คลองด่าน" อันลือลั่น เหมือนกับที่แหลมาร์คตอบแทนกลุ่มเนวินจนพุงกางนั่นแหละครับ)
นายชวนก็นั่งควบตำแหน่ง รมว. กลาโหมด้วย
ควบอยู่ เกือบสี่ปี คือจากปลายปี 2540 ถึงต้นปี 2544
ปี 2539 ก็มีการเลือกตั้งใหญ่
ช่วงนั้น บิ๊กจิ๋วเป็นหัวพรรคความหวังใหม่ สู้กันดุเดือดกับพรรค ปชป. ในภาคอีสาน
ช่วงนั้น แม่ทัพภาค 2 ที่คุมภาคอีสานก็คือ พล.ท.สุรยุทธ จุลานนท์
ว่ากันว่า การเลือกตั้งปี 2539
เด็กบิ๊กจิ๋ว หอบกระสอบเงินไปหาแม่ทัพภาค 2
ขอให้ช่วยแจกเงิน ให้ใช้อิทธพลของทหารช่วยการเลือกตั้งในภาคอีสาน
แต่แม่ทัพภาคสองปฏิเสธ
ผลการเลือกตั้ง ความหวังใหม่ชนะ ปชป. บิ๊วจิ๋วได้เป็นนายกฯ
ปี 2540 แม่ทัพภาค 2 เลยโดนเด้งเข้ากรุไปเป็นที่ปรึกษา และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ
ซึ่งเป็นการ "ปิดทาง" ขึ้นสู่ตำแหน่ง 5 เสือ ทบ. อันมีสิทธิ์ที่จะก้าวขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ต่อไป
แต่หลังจากบิ๊กจิ๋วลาออกปลายปี 2540 และนายชวนได้ขึ้นมาเป็นนายกฯแทน พร้อมควบ รมว.กลาโหม
1 ตุลาคม 2541 นายชวนก็ควักผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบกที่ชื่อสุรยุทธออกมาเป็น ผบ.ทบ.
ซึ่งว่ากันว่า เป็นการคืนความชอบธรรมให้ พล.อ.สุรยุทธ
แ่ต่ผมมองว่า ตอบแทนกันมากกว่าบ่ะ
และคนกลุ่มนี้ ก็พวกเดียวกัน เห็นชัดเจนมากหลังจากรัฐประหาร 2549
(ลุงเที่ยงแกเป็น ผบ.ทบ. ตั้งแต่ปี 2541 - 2545 แล้วทักษิณก็เลยย้ายแกไปเป็น ผบ.สส. ในปี 2545
อันนี้จะทำให้ลุงเที่ยงแกงอนทักษิณหรือเปล่าไม่รู้สิ ถึงได้กระโดดขึ้นมาเป็นนายกฯในปี 49
แบบว่า แกปลดข้าจาก ผบ.ทบ. ข้าก็มาเป็นนายกฯก็ได้โว้ย ข้าไม่ใช่ขี้ไก่นะโว้ย)
ตอนนั้น ตอนที่จะดึงสุรยุทธจากผู้ทรงวุฒิมาเป็น ผบ.ทบ.
นายชวนก็ไม่ประสาอะไร ยังต้องถามนายประสงค์ สุ่นศิริ ว่า สามารถทำได้ไหม
(แปลกนะ ทำไมไม่ถามกองทัพ ทำไมต้องไปถามประสงค์)
นายประสงค์ตอบว่า ทำได้ นายชวนก็ทำ
ทำแล้วกองทัพก็ไม่มีปฏิกริยาอะไร ก็ใครจะกล้า ลูกป๋าทั้งนั้น
ก็เล่าให้ฟังครับ
ไม่ใช่ผมรู้เองเห็นเองหรอก ก็อ่าน ๆ จำ ๆ มาจากข่าวจากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ นั่นแหละ
เล่าให้ฟังเพื่อจะได้รู้ว่า การที่นายกฯยิ่งลักษณ์จะควบ รมว.กลาโหมนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
การเมืองเรามันไม่ปกติครับ ชิงไหวชิงพริบชิงเล่ห์เล่นเหลี่ยมกันตลอดเวลา
ศาลไม่เ็ป็นศาล สื่อไม่เป็นสื่อ
เรื่องควบกลาโหม จึงไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโตอะไรเลย
ทหารเองยังไม่ว่าอะไรสักแอะ (ก็แน่ล่ะ รัฐบาลกับกองทัพคงคุยกันเป็นการภายในแล้วก่อนจะโปรดเกล้าฯรายชื่อ)
เมื่อย จบ