สิ่งที่ผมเห็นในสมาธิ คืออะไร

กระทู้คำถาม
คือ นานมาแล้วสมัย เรียนอยู่ ป.5 มีคุณครูท่านนึง ท่านชอบปฏิบัติธรรมมากๆ ท่านเลยสอนให้ ลูกศิษย์ (พวกเพื่อนๆและตัวผม) นั่งสมาธิในห้องเรียน
นั่นคือครั้งแรกในชีวิตของผมเลยที่นั่ง สมาธิ ผมนั่งอยู่คิดว่าไม่นานมากนัก ไม่น่า่จะเกิน 20นาที ผมก็เห็น ลูกแก้ว 2ดวงลอยมา จากด้านหน้าผม ชัดเจนมาก ลูกแก้วมีสีหลากสี สุกสว่างแบบประมาณว่าเรืองแสงได้และมีหลายสีในตัว ลอยจากใกลๆแบบ วนไปวนมา2ดวง ค่อยๆเข้ามาตรงหน้า ประมาณแถวหน้าผากผม ตอนนั้นผมคิดว่า ลูกอะไรสวยจัง ในความคิดผมจึงทำมือแบบจะคว้าอยากได้ประมาณนั้น แต่คว้าไม่ได้
แล้วลูกแก้วก็หายไปเลย พอออกจากสมาธิ คุณครูเดินมาที่ผมแล้วถามว่าเห็นลูกแก้วใช่มั๊ย ผมตอบว่าใช่ ท่านบอกผมแต่เพียงว่าพยายามเข้านะ
ทำถูกทางแล้ว แต่ตอนนั้นผมยังเด็กมากไม่ใด้สนใจทำต่ออีกเลย จนโตมาและบวชเรียนแล้ว บวช1พรรษา ก็ลองนั่งบ่อยๆ แต่ไม่เคยเห็นอีกเลย
ผมเก็บคำถามนี้มานานมากกับตัว ถามใครก็ไม่มีใครตอบแบบอธิบายได้  
  1.     ผมอยากทราบว่า ดวงแก้วที่ผมเห็นนั่นคืออะไรครับ    ถ้าผมไม่คว้าไม่เกิดกิเลสอยากได้ปล่อยให้ดวงแก้วนั้นผ่านไป ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นกับผม
  2.     ถ้าผมอยากเห็นอีก ผมต้องปฏิบัติอย่างไรครับ         ขอบคุณครับ............
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
สิ่งที่คุณ jaithonsitt เห็น  เรียกว่า นิมิต...

   ซึ่งนิมิตนี้จะเกิดกับคนที่ฝึกสมาธิจำนวนหนึ่ง  แต่ก็มีมากมายที่ไม่เคยเห็นนิมิตอะไรเลย  แม้ฝึกๆๆไปนานๆก็เห็นแต่ความมืดมิด...
   นิมิตที่เห็นๆกันนั้น มีสารพัดรูปแบบ นับไม่ถ้วน  เช่น กรณีของคุณเห็นเป็นลูกแก้วหลากสี  แต่ของคนอื่นๆอาจจะเห็นเป็นภาพคนหรือซากศพหรือเป็นภาพนรก สวรรค์ หรือ ผีสาง เทวดา หรืออื่นๆ  อะไรก็ได้ฯลฯ  มากมายนับไม่ถ้วนที่อาจจะเห็นไป...ตามแต่จริตนิสัยของผู้นั้น ... นิมิต ไม่ใช่จะมีเป็นแบบภาพ เท่านั้น เป็นแบบเสียงก็มี เช่น บางคนฝึกๆไปก็ได้ยินเสียงแปลกๆต่างๆนานา หรือเสียงคล้ายมีใคครมากระซิบในหูตลอดเวลา ... และยังมีนิมิตแบบอื่นๆอีก เช่น แบบเป็นกลิ่น หรือแบบรู้สึกตามร่างกาย ฯลฯ

...สรุปสำหรับผู้ฝึกสมาธิใหม่ๆ ยังไม่ชำนาญ  ไม่ควรไปสนใจนิมิตสารพัดแบบต่างๆเหล่านั้น  เพราะจะเป็นอันตรายมากๆ  จะเป็นตัวขวางทางที่น่ากลัวที่สุด  และถ้าละนิมิตพวกนั้นไม่ได้  ส่วนมากจะเป็นวิปลาส หรือเป็นบ้า หรือเป็นผู้หลงผิดเป็นคนที่มีความเห็นผิดในหลักธรรม เป็นมิจฉาทิฏฐิ ไปในที่สุด  

...ดังนั้น การฝึกสมาธิครั้งต่อๆไป อย่าไปตั้งจุดหมายว่าอยากจะเห็นนิมิตเหล่านั้นอีก  ..ควรตั้งจุดหมายว่า จะฝึกเพื่อให้จิตสงบลงแน่วแน่เป็นกลางวางเฉย ... เมื่อได้ความสงบดังว่านี้มาแล้ว  ก็เอามาใช้พิจารณาทางด้านปัญญา คือ พิจารณาขันธ์ ๕ หรือ ร่างกายและจิตใจของตนเอง ให้เห็นเป็นของไม่เที่ยง ไม่ใช่ตัวตน หรือเป็นแค่ธาตุ ๔ เท่านั้น ... เพื่อชำระล้างกิเลสทั้งหลาย ได้แก่ ความโลภ  โกรธ  หลง ทั้งปวง ให้สูญสิ้นไปให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้   นี่จึงจะเป็นการตั้งจุดหมายการฝึกที่ตรงทาง ถูกทาง...

...เมื่อคุณมาฝึกอีกครั้งต่อไป  สิ่งที่คุณเจอ จะไม่เหมือนของเดิมอีกแล้ว  แต่จะเป็นของใหม่ ที่ลึกละเอียดกว่าเดิม  แต่จะทำได้ยากกว่าการทำครั้งแรก  ยากกว่ามาก  เพราะความอยากที่เกิดในใจคุณจะมาเป็นตัวขัดขวางอย่างแรง แก้ยากมากๆ..ดังนั้น ถ้าคิดจะฝึกครั้งต่อไปให้ได้ผลไวๆ  ก็ต้องพยายาม ละลด เลิก ความอยากจะเห็นผล หรือความอยากในการห่วงอาลัยต่อของเก่าที่เคยเห็นมา  ออกไปจากใจให้ได้ ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่