
ไม่เคยรู้ เหตุผล ดลพันผูก
ต้นรักปลูกแตกหน่อ รอวันหวาน
หากเมื่อใด มีดอก ออกผลิบาน
คงเหมือนอยู่ ทิพย์สถาน สำราญรมย์
เฝ้าครุ่นคิด พิศวัน ที่หวานฉ่ำ
ระรินร่ำ คำร้อย คอยสุขสม
โอ้รักเอย...เอ่ยรอ ขอชื่นชม
จะคลายปม ปกปิด เพื่อชิดเชย
แต่...ที่คิด ที่หวัง พังหมดสิ้น
เมื่อได้ยิน น้ำคำ พร่ำเฉลย
ไม่มีรัก มอบจิต สักนิดเลย
ที่คุ้นเคย...อ่อนไหว เพราะใกล้กัน
น้ำตาร่วง สุดรั้ง ทั้งปวดปร่า
มันเจ็บช้ำ ทรมาน์ แทบอาสัญ
ทั้งดวงใจ เหน็บหนาว ร้าวจาบัลย์
เหมือนถูกหั่นให้ยับสิ้นดับไป
ฉันจะอยู่ อย่างไร? ไร้เธอคู่
น้ำตาพลู ร่วงกราว ร้าวหวั่นไหว
ขาดเธอพิงอิงแอบแทบขาดใจ
เหมือนร่างไร้ วิญญาณ์..ตอ้งอาดูร...
"สุนันยา"

....ฉันจะอยู่ อย่างไร?....
ไม่เคยรู้ เหตุผล ดลพันผูก
ต้นรักปลูกแตกหน่อ รอวันหวาน
หากเมื่อใด มีดอก ออกผลิบาน
คงเหมือนอยู่ ทิพย์สถาน สำราญรมย์
เฝ้าครุ่นคิด พิศวัน ที่หวานฉ่ำ
ระรินร่ำ คำร้อย คอยสุขสม
โอ้รักเอย...เอ่ยรอ ขอชื่นชม
จะคลายปม ปกปิด เพื่อชิดเชย
แต่...ที่คิด ที่หวัง พังหมดสิ้น
เมื่อได้ยิน น้ำคำ พร่ำเฉลย
ไม่มีรัก มอบจิต สักนิดเลย
ที่คุ้นเคย...อ่อนไหว เพราะใกล้กัน
น้ำตาร่วง สุดรั้ง ทั้งปวดปร่า
มันเจ็บช้ำ ทรมาน์ แทบอาสัญ
ทั้งดวงใจ เหน็บหนาว ร้าวจาบัลย์
เหมือนถูกหั่นให้ยับสิ้นดับไป
ฉันจะอยู่ อย่างไร? ไร้เธอคู่
น้ำตาพลู ร่วงกราว ร้าวหวั่นไหว
ขาดเธอพิงอิงแอบแทบขาดใจ
เหมือนร่างไร้ วิญญาณ์..ตอ้งอาดูร...
"สุนันยา"