O แรกอรุโณทัย .. O




0 เมื่อแสงเรื่อรองงามแห่งยามรุ่ง
ค่อยค่อยฟุ้งฟายอณูเพรียกตรู่สาง
คลี่ปลายปีกปักษินล้อมถิ่นทาง
โลกเบื้องล่างก็ค่อยฟื้นขึ้นตื่นตัว
0 ดอกดวงมวลน้ำค้าง .. หยาดวางเม็ด
พร่างราวเกล็ดแก้วบน .. ความหม่นหลัว
ลมโรยริ้วเรียวใบ, ดอก-ไหวรัว
รับรื่นเย็นเกลือกกลั้วอยู่ทั่วใบ
0 มัวหมอกค่อยค่อยจางลงกลางแดด
ร่ำรอแวดล้อมระยับ .. การขับไข
ของแรกยามรุจิราฟากฟ้าไกล
เคลื่อนตอบรุ่งรับอุทัยสมัยนั้น
0 จึงเห็นปีกผีเสื้อบินเหนือพื้น
รับแช่มชื่นลมร่ำ .. เมื่อน้ำกลั่น
ค่อยหยาดรูปหล่นร่วง .. เมื่อดวงวัน
ลอยดวงขึ้นบังจันทร์ในชั้นฟ้า
0 พร้อมเหน็บหนาวอวลอณูล้อมตรู่สาง
คือหมอกพรางแทรกตัวอยู่ทั่วป่า
จนแสงแรกเบิกคาบลงทาบทา
ก็รู้ว่า .. วันเคลื่อนผ่านเดือนปี
0 รื่นรับดวงดอกไม้ .. แกว่งไกวช่อ
หวานร่ำรอจบจีบแทรกกลีบสี
ปีก-ลายต้องลมโกรก .. ก็โบก .. วี
กลางหอมที่ .. รายล้อมให้ยอมตัว
0 ตื่นหอม .. เข้าตฤปหวาน .. จนหวานหยด
กลั่นรูปอวลกลิ่นรสคอยหยดยั่ว
โลกยามแรกเมื่อนั้นค่อยสั่นรัว
ไปกับการเกลือกกลั้วของตัวตน
0 ลมเหนื่อยอ่อนโรยตัวอยู่ทั่วแหล่ง
พารื่นล้ำแทรกแฝงทุกแห่งหน
พื้นหญ้าไหวเรียวลู่ .. ก็ลู่จน
น้ำค้างหล่นร้างถิ่นจนสิ้นรอย
0 ระบัดเรียวเขียวรอ .. แดดทอทาบ
ลงลบภาพเย็นเยียบแสนเงียบหงอย
เพื่อปลุกโลกให้ตื่นขึ้นยืนคอย
รับรูปรอยแรกรังสี .. ให้ปรีดา
0 แตะตื่นแผ่นพื้นโลกเคยโชกชุ่ม
ด้วยแดดรุมรอบล้อมอยู่พร้อมท่า
จนสรรพเสียงรอบด้านแว่วผ่านมา
ปรารถนาทั้งปวงก็ช่วงแรง

0 หมุนโลก - พลิกบท .. พางดงาม
ล้อม, คุกคามไม่เว้น .. ก่อนเร้นแฝง
เป็นรูปพักตร์งามล้ำที่สำแดง
ล่มเงียบเหงาปรับแปลงให้แฝงรอย !
0 พร้อมเรียวหญ้าระบัดใบขึ้นไหวรับ
เนตรวามวับเหมือนรออยู่ไม่รู้ถอย
ปวงโลกอันแวดล้อม .. ก็พร้อมคอย
ตอบรับรู้ห่วงละห้อยทุกรอยใจ
0 ริ้วสายลมร่ำผ่านอยู่นานเนิ่น
ยั่วหยอกเอินอาวรณ์ผู้อ่อนไหว
ลมร่ำสายโอบเอื้อ .. สายเยื่อใย
เหมือนคลี่ผูกพันไว้ .. ทั้งใจนี้ !
0 ที่เบื้องบน .. ปีกนกกางโบกบิน
เมื่อถวิลในคนเริ่มล้นปรี่
ผ่านรูปรอย, อิริยา ผ่านท่าที
เยี่ยงปีกนกเหยียดคลี่ .. วาดวีลม
0 ที่โผผกวกร่าง .. อยู่กลางหาว
ให้แดดวาววับพร้อม .. ลงล้อมห่ม
เยี่ยงรูปรอยปรารถนา .. ล้อมอารมณ์
ค่อยค่อยถมงามระยับ .. เกินยับยั้ง !
0 ปีกผีเสื้อลวดลายยังบ่ายบิน
สืบเสาะกลิ่นมธุรสให้รด .. หลั่ง
หอมหวานอวลอบใต้ .. ร่มใบบัง
เพื่อแทรกหวานลงฝัง .. ลงฝากรส
0 หอมหวานจากอีกผู้ที่จู่โจม
ผ่านรูปโฉมเอี่ยมลออลงจ่อ .. จรด
เมื่อปีกบางเกาะเกี่ยวคลานเลี้ยวลด
งามก็ชดช้อยร่างลงกลางคะนึง
0 รูปรสจากไหนเล่าจะเข้าขวาง
ปีกหรุบกลางเรณู ของภู่ผึ้ง ?
ลมโรยริ้ว, ปฏิพัทธ์เมื่อรัดรึง
รสหวานซึ้งลดาชาติ ฤๅอาจเทียม ?
0 เมื่อมีรูป .. มีใจ-หวั่นไหวรูป
สบตาวูบแววคล้ายจะอายเหนียม
อิริยารูปละม่อม .. ใช่-จ่อมเจียม
หากเต็มเปี่ยมจริตนวลให้ชวนชม
0 จน-ท่ามกลางแสงช่วงแห่งดวงดาว
ริ้วลมหนาวเหน็บพร้อมก็ล้อมห่ม
ยิ้มรับท่าเอียงอาย, เมื่อสายลม
ล้ออารมณ์ชายชาญ .. นั้นหวานนัก !
0 ไม่มีปีกผึ้งภู่ .. เรณูหอม
เหลือเพียงรูปพักตร์ละม่อม .. เข้าล้อมกัก
อีกแววตาเหลือบอ้อน .. ไม่ผ่อนพัก
การณ์ก็ชักชวนงามเข้าล่ามตรึง
0 เมื่อมีรูป .. เผยรอยให้คอยหา
ทั้งรูปหน้า, รูปจริต .. ให้คิดถึง
กลางสายลมโลมพัด .. ที่รัดรึง
คือความซึ้งหวานซาบลงอาบทรวง !
0 หมื่นแสนล้านดวงดาวย่อมพราวพร่าง
ส่องโลกต่ำเบื้องล่าง .. จากกลางสรวง
ที่เผยแววผุดผ่อง .. อีกสองดวง
คล้ายโชนแววจนช่วง .. กว่า-ดวงดาว !

0 ดวงดาวคู่ .. วามตอบเหมือนลอบเร้น
เข้าตอบเต้นรองรับ .. เพื่อขับหนาว
ทั้งรออุ่นโอบคืนให้ยืนยาว
พร้อมรอก้าวย่างเดียว .. ก้อยเกี่ยว .. เดิน !
.
.
.
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=sdayoo&month=11-2025&date=16&group=190&gblog=9
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่