สวัสดีครับ
ตอนนี้ผมว่างเ้ว้นจากการทำงานวิจัยและค้นคว้าหาำคำตอบใหม่ๆแห่งโลกมนุษย์(นักวิทยศาสตร์นั่นเอง)
เลยพอจะมีเวลามาเขียนเล่าประสบการ์ณที่ผมเคยพบเจอมา
ไม่น่าเชื่อ จากเด็กเกเรคนนึงในจังหวัดพะเยาจะแปรผันตัวเองจนกลายเป็นคนๆหนึ่งที่มีประโยชน์กับประเทศ(มันสมองของประเทศ)สร้างคุณประโยชน์ให้กับคลายๆคนบนโลกใบนี้ ขอบอกเลยครับ ผมดีใจมากๆที่ได้มายืนอยู่ในจุดนี้ ถ้าถามว่าผมดีใจไหม ผมก็ดีใจนิดหน่อยนะ เพราะว่ายังไม่ได้ไปอยู่บนจุดสูงสุด ผมเชื่อว่าสั้กวันนึง ผมจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดให้ได้ครับ
ผมเรียนจบเร็วกว่าคนอื่น ตอนนั้นจบมัธยมออกมา อายุแค่ 16 ปี หลายคนบอกว่าผมฉลาด ผมไม่โต้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มมุมปากให้เค้า
คำถามของชีวิต อย่างหนึ่ง คือ ผมจะเรียนต่อมหา'ลัย หรือว่าำทำงานดี?? หลายคำตอบที่สมองผมประมวลผลออกมา สุดท้ายทำให้ผมเลือกไปเรียนที่มหา'แห่งหนึ่งของประเทศจีน...ด้วยทุนของ king
ด้วยความฉลาดเป็นทุนเดิม(ไม่เรียนพิเศษ ไม่อ่านหนังสือสอบได้ 4.00)ผมจึงใช้เวลาในมหา'ลัย เพียง 2ปีครึ่งเท่านั้น
ในวันนั้นผมในอายุ 19 ปี ก็รู้สึกมีต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าคนอื่น กลับมาประเทศไทยแล้วรู้สึกผิดหวังกับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังต้องมาก้มหน้าก้มตารับน้อง ด่าน้อง หรือว่าเรียนอย่างคร่ำเคร่ง ผมดีใจ ที่ไม่ได้เรียนในเมืองไทยครับ และคิดว่าปัญหานี้ควรจะแก้ไขให้ไวที่สุด
กลับมาอยู่ไทยไม่นาน มีสายโทรศัำำพท์แปลกๆโทรมาหาผม บอกว่าอยากให้ช่วยงานหน่อย ผมครึ้มอกครึ้มใจ
สามปีที่เรียนมา วิญญาณนักวิทย์ในตัวกำลังประทุออกมาแล้ว
ขอตัวไปจิบชาก่อนนะครับ แม่บ้านเรียกแล้ว
เดี๋ยวมาเขียนเรื่องต่อนะครับ
ชีวิตที่ดีของผม : (way of my life)
ตอนนี้ผมว่างเ้ว้นจากการทำงานวิจัยและค้นคว้าหาำคำตอบใหม่ๆแห่งโลกมนุษย์(นักวิทยศาสตร์นั่นเอง)
เลยพอจะมีเวลามาเขียนเล่าประสบการ์ณที่ผมเคยพบเจอมา
ไม่น่าเชื่อ จากเด็กเกเรคนนึงในจังหวัดพะเยาจะแปรผันตัวเองจนกลายเป็นคนๆหนึ่งที่มีประโยชน์กับประเทศ(มันสมองของประเทศ)สร้างคุณประโยชน์ให้กับคลายๆคนบนโลกใบนี้ ขอบอกเลยครับ ผมดีใจมากๆที่ได้มายืนอยู่ในจุดนี้ ถ้าถามว่าผมดีใจไหม ผมก็ดีใจนิดหน่อยนะ เพราะว่ายังไม่ได้ไปอยู่บนจุดสูงสุด ผมเชื่อว่าสั้กวันนึง ผมจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดให้ได้ครับ
ผมเรียนจบเร็วกว่าคนอื่น ตอนนั้นจบมัธยมออกมา อายุแค่ 16 ปี หลายคนบอกว่าผมฉลาด ผมไม่โต้ตอบอะไร ได้แต่ยิ้มมุมปากให้เค้า
คำถามของชีวิต อย่างหนึ่ง คือ ผมจะเรียนต่อมหา'ลัย หรือว่าำทำงานดี?? หลายคำตอบที่สมองผมประมวลผลออกมา สุดท้ายทำให้ผมเลือกไปเรียนที่มหา'แห่งหนึ่งของประเทศจีน...ด้วยทุนของ king
ด้วยความฉลาดเป็นทุนเดิม(ไม่เรียนพิเศษ ไม่อ่านหนังสือสอบได้ 4.00)ผมจึงใช้เวลาในมหา'ลัย เพียง 2ปีครึ่งเท่านั้น
ในวันนั้นผมในอายุ 19 ปี ก็รู้สึกมีต้นทุนชีวิตที่ดีกว่าคนอื่น กลับมาประเทศไทยแล้วรู้สึกผิดหวังกับเพื่อนๆ น้องๆ ที่ยังต้องมาก้มหน้าก้มตารับน้อง ด่าน้อง หรือว่าเรียนอย่างคร่ำเคร่ง ผมดีใจ ที่ไม่ได้เรียนในเมืองไทยครับ และคิดว่าปัญหานี้ควรจะแก้ไขให้ไวที่สุด
กลับมาอยู่ไทยไม่นาน มีสายโทรศัำำพท์แปลกๆโทรมาหาผม บอกว่าอยากให้ช่วยงานหน่อย ผมครึ้มอกครึ้มใจ
สามปีที่เรียนมา วิญญาณนักวิทย์ในตัวกำลังประทุออกมาแล้ว
ขอตัวไปจิบชาก่อนนะครับ แม่บ้านเรียกแล้ว
เดี๋ยวมาเขียนเรื่องต่อนะครับ