ส่วนตัวคิดว่าส่วนหนึ่งมาจาก การที่เราชอบลอกเอาผลิตภัณฑ์ทางการเงินของต่างประเทศมาใช้ก็คือ การซื้อขายอนุพันธ์นั่นเอง ซึ่งถ้าว่ากันตามหลักการถ้าใช้ถูกต้องมันควรจะลดความผันผวนก็ตลาดด้วยซ้ำ ไม่ใช้ออกมาแบบนี้
เพราะการที่ลอกเขามาทั้งดุ้นโดยที่ไม่ได้ดูขนาดของตลาดเรา เลยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินให้กับต่างประเทศแบบง่ายๆ ตามรูปแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ยิ่งตอนนี้มีลงไปถึงระดับหุ้นรายตัวเลย ก็เลยยิ่งไปกันใหญ่
อนุพันธ์ตัวแรกที่ซื้อขายกันก็คือ SET50 Index Futures เริ่มขาย 2549 ซึ่งผมคิดว่าก่อนหน้าปี 2549 ตลาดมันก็ไม่ได้ผันผวนเป็นรายวันถึงขนาดนี้ พอมีการซื้อขายอนุพันธ์กัน กลับกลายเป็นการเก็งกำไรอนุพันธ์กันไป โดยดูจากปริมาณสัญญาที่ซื้อขายกันรวมๆกันเป็นหลักแสนสัญญาเลย
ผมไม่ได้บอกว่า อนุพันธ์ มันไม่ดี แต่กำลังบอกว่ามันกำลังใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ด้วยเพราะบ้านเรามันเป็นตลาดเล็กเทียบกับเม็ดเงินต่างชาติ ดังนั้นพวกราคาหุ้นหรือดัชนีมันสามารถสั่งได้ด้วยเม็ดเงินไม่มาก ดังนั้นการหากำไรจากอนุพันธ์ของต่างชาติเป็นเรื่องไม่ยากเลย
ถ้าเราคงไว้กับการซื้อขายอนุพันธ์ มันควรต้องมีข้อจำกัดอะไรบ้างมาป้องกันการเก็งกำไรจากการที่เรามี Market Cap เล็กกว่ามาก ไม่ให้กลายเป็นเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กไป โดยเฉพาะรายย่อยที่เข้ามาซื้อขายโดยที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ป้องกันความเสี่ยงแต่กลายเป็นการสร้างความเสี่ยงไป
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการเปิดเสรีการเงินก่อนหน้าต้มยำกุ้ง ซึ่งจริงเป็นเรื่องดีแต่ขาดการป้องกัน หรือปรับมาตรการอย่างอื่นให้เหมาะสม เช่นเปิดเสรีการเงินแล้ว ก็ควรต้องลอยตัวค่าเงินบาทกับเปิดเผยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งถ้าทำแบบนี้วิกฤตต้มยำกุ้งคงไม่เกิดล่ะครับ
เป็น คหสต ครับ อาจมีผิดถูก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วย
ทำไมตลาดหุ้นไทยถึงผันผวนรายวันขนาดนี้
เพราะการที่ลอกเขามาทั้งดุ้นโดยที่ไม่ได้ดูขนาดของตลาดเรา เลยกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำเงินให้กับต่างประเทศแบบง่ายๆ ตามรูปแบบปลาใหญ่กินปลาเล็ก ยิ่งตอนนี้มีลงไปถึงระดับหุ้นรายตัวเลย ก็เลยยิ่งไปกันใหญ่
อนุพันธ์ตัวแรกที่ซื้อขายกันก็คือ SET50 Index Futures เริ่มขาย 2549 ซึ่งผมคิดว่าก่อนหน้าปี 2549 ตลาดมันก็ไม่ได้ผันผวนเป็นรายวันถึงขนาดนี้ พอมีการซื้อขายอนุพันธ์กัน กลับกลายเป็นการเก็งกำไรอนุพันธ์กันไป โดยดูจากปริมาณสัญญาที่ซื้อขายกันรวมๆกันเป็นหลักแสนสัญญาเลย
ผมไม่ได้บอกว่า อนุพันธ์ มันไม่ดี แต่กำลังบอกว่ามันกำลังใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ด้วยเพราะบ้านเรามันเป็นตลาดเล็กเทียบกับเม็ดเงินต่างชาติ ดังนั้นพวกราคาหุ้นหรือดัชนีมันสามารถสั่งได้ด้วยเม็ดเงินไม่มาก ดังนั้นการหากำไรจากอนุพันธ์ของต่างชาติเป็นเรื่องไม่ยากเลย
ถ้าเราคงไว้กับการซื้อขายอนุพันธ์ มันควรต้องมีข้อจำกัดอะไรบ้างมาป้องกันการเก็งกำไรจากการที่เรามี Market Cap เล็กกว่ามาก ไม่ให้กลายเป็นเรื่องปลาใหญ่กินปลาเล็กไป โดยเฉพาะรายย่อยที่เข้ามาซื้อขายโดยที่ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ป้องกันความเสี่ยงแต่กลายเป็นการสร้างความเสี่ยงไป
เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงการเปิดเสรีการเงินก่อนหน้าต้มยำกุ้ง ซึ่งจริงเป็นเรื่องดีแต่ขาดการป้องกัน หรือปรับมาตรการอย่างอื่นให้เหมาะสม เช่นเปิดเสรีการเงินแล้ว ก็ควรต้องลอยตัวค่าเงินบาทกับเปิดเผยเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งถ้าทำแบบนี้วิกฤตต้มยำกุ้งคงไม่เกิดล่ะครับ
เป็น คหสต ครับ อาจมีผิดถูก ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วย