ด้วยความที่เคยเป็นคนข้างบ้านของอุเทนถวาย และค่อนข้างไม่เห็นด้วยกับมหาวิทยาลัยดัง บอกตรงๆว่าเอียนในความงกเงิน ที่ที่พระมหากษัตริย์บริจาคมาให้เป็นที่เพี่อสร้างความรู้ก็เอาไปใช้หาตังค์หมดแล้ว
ในเมื่อสองฝ่ายต่างยืนยันว่าเป็นกรรมสิทธิ์ น่าจะเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาแย้งกัน บอกตรงๆว่าไม่คิดว่ากระทรวงศธ จะมีกึ๋นอะไร ควรจะไปศาลซะและสู้กัน แน่นอนว่าคงโอนที่ให้ไม่ได้ แต่มหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่มีทางที่จะมาไล่ที่อุเทนถวายได้
ในเมื่อมีพระประสงค์ชัดเจนขนาดในการใช้งานของพื้นที่ดังกล่าว มหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่ควรจะมาบอกว่า ไม่ทราบ เพราะว่าเสมือนมีคนย้ายเข้ามาอยุ่ในที่ของคุณ เนื่องจากในเวลานั้น เจ้าของที่ตัวจริงไม่คิดว่าจะมีเรื่องยามที่แต่ละฝ่ายเริ่มแยกจากกัน และฝ่ายหนึ่งเริ่มปฏิบัติตนแบบนิติบุคคล ถ้าฝ่ายหนึ่งยอมไปก็ดีไป แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมล่ะ อะไรคือบรรทัดฐาน
ถ้าเป็นที่ของนิติบุคคลแล้วคุณรับรู้มาตลอด 60 ปีว่ามีคนมาสร้างบ้าน แต่คุณไม่เคยไปไล่เขา ไม่เคยเตือน ไม่เคยอะไรเลย ที่ตรงนั้นเหมือนถูกยอมรับการเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม ทีนี้มันก็ตรงกับพระราชประสงค์ของ ร 6 แต่ไม่ตรงกับประสงค์ขอ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าว เราว่าตรงนี้น่าจะนับ ว่าที่ผ่านมายอมรับการใช้ที่ของอุเทนถวายโดยชอบธรรม ตามพระราชประสงค์ของพระมหาแผ่นดินมาตลอด แต่ตอนนี้ อยากหาเงินเพิ่มว่างั้นเหอะ เลยมาทำเอะอะ หน้าด้านบอกว่า ไม่เห็นมีหลักฐาน ถ้างั้นก็น่าจะกลับไปอิงพระราชประสงค์ หรือ เอกสารที่มีทั้งสองด้าน เพราะว่าอีกฝ่ายละเมิดสิทธิในการใช้พื้นที่ ที่ ร 6 ต้องการให้อุเทนถวายใช้ หน้าด้านและน่าอายจริงๆ
เมื่อไหร่จะถึงคราวโรงเรียนข้าพเจ้ากับม ศ ว ล่ะเนี่ย อยากให้ผุ้รู้ออกมาให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับอุเทนถวายหน่อยค่ะ เราเองไม่ประสากับกม ไทย น่าจะมีข้อที่ช่วยอุเทนถวายได้ ไม่งั้นแล้วอนาคตที่พระราชทานก็คงจะถูกเอาไปยำใช้ในทางที่ไม่ถุกต้องกันอีก
ตกลงว่าอุเทนถวายควรจะฟ้องมหาวิทยาลัยดังหรือไม่และควรจะเสนอในแนวไหนถึงจะสามารถชนะคดีนี้ได้
ในเมื่อสองฝ่ายต่างยืนยันว่าเป็นกรรมสิทธิ์ น่าจะเอาหลักฐานทางประวัติศาสตร์มาแย้งกัน บอกตรงๆว่าไม่คิดว่ากระทรวงศธ จะมีกึ๋นอะไร ควรจะไปศาลซะและสู้กัน แน่นอนว่าคงโอนที่ให้ไม่ได้ แต่มหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่มีทางที่จะมาไล่ที่อุเทนถวายได้
ในเมื่อมีพระประสงค์ชัดเจนขนาดในการใช้งานของพื้นที่ดังกล่าว มหาวิทยาลัยดังกล่าวไม่ควรจะมาบอกว่า ไม่ทราบ เพราะว่าเสมือนมีคนย้ายเข้ามาอยุ่ในที่ของคุณ เนื่องจากในเวลานั้น เจ้าของที่ตัวจริงไม่คิดว่าจะมีเรื่องยามที่แต่ละฝ่ายเริ่มแยกจากกัน และฝ่ายหนึ่งเริ่มปฏิบัติตนแบบนิติบุคคล ถ้าฝ่ายหนึ่งยอมไปก็ดีไป แต่ถ้าอีกฝ่ายไม่ยอมล่ะ อะไรคือบรรทัดฐาน
ถ้าเป็นที่ของนิติบุคคลแล้วคุณรับรู้มาตลอด 60 ปีว่ามีคนมาสร้างบ้าน แต่คุณไม่เคยไปไล่เขา ไม่เคยเตือน ไม่เคยอะไรเลย ที่ตรงนั้นเหมือนถูกยอมรับการเป็นเจ้าของโดยชอบธรรม ทีนี้มันก็ตรงกับพระราชประสงค์ของ ร 6 แต่ไม่ตรงกับประสงค์ขอ่งมหาวิทยาลัยดังกล่าว เราว่าตรงนี้น่าจะนับ ว่าที่ผ่านมายอมรับการใช้ที่ของอุเทนถวายโดยชอบธรรม ตามพระราชประสงค์ของพระมหาแผ่นดินมาตลอด แต่ตอนนี้ อยากหาเงินเพิ่มว่างั้นเหอะ เลยมาทำเอะอะ หน้าด้านบอกว่า ไม่เห็นมีหลักฐาน ถ้างั้นก็น่าจะกลับไปอิงพระราชประสงค์ หรือ เอกสารที่มีทั้งสองด้าน เพราะว่าอีกฝ่ายละเมิดสิทธิในการใช้พื้นที่ ที่ ร 6 ต้องการให้อุเทนถวายใช้ หน้าด้านและน่าอายจริงๆ
เมื่อไหร่จะถึงคราวโรงเรียนข้าพเจ้ากับม ศ ว ล่ะเนี่ย อยากให้ผุ้รู้ออกมาให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับอุเทนถวายหน่อยค่ะ เราเองไม่ประสากับกม ไทย น่าจะมีข้อที่ช่วยอุเทนถวายได้ ไม่งั้นแล้วอนาคตที่พระราชทานก็คงจะถูกเอาไปยำใช้ในทางที่ไม่ถุกต้องกันอีก