ซื้อหุ้นเหมือนซื้อที่

ถ้าเราไปดูทำเลที่แล้ว ดูราคาแล้ว ต่อราคาแล้ว พิจารณาอย่างครบถ้วนแล้ว คิดว่าราคาเหมาะสม และที่ดินนั้นน่าจะมีศักยภาพดีในระยะยาว แล้ว เราตัดสินใจซื้อด้วยราคา 5 ล้านบาท ต่อมาฝรั่งเจ้าของที่ข้าง ๆ ขายที่ดินที่ราคา 4 ล้านบาท เพราะจะเอาเงินกลับไปตั้งรกรากที่ประเทศเขา เป็นผม ผมไม่ตกใจขายที่ดินตามนะครับ (ถึงแม้ราคาตลาดของที่ดินละแวกนั้นจะกลายเป็น 4 ล้านบาทแล้วก็กตาม) และถ้ามีเงินจะซื้อที่นั้นเพิ่มอีกต่างหาก

แต่ถ้าท่านซื้อที่ดินมา 5 ล้านบาท โดยดูแต่โฉนด ไม่ได้รู้เลยว่าที่ดินนั้นอยู่ไหน อันนี้น่ากลัวครับ ที่ดินอาจจะน้ำท่วมอยู่ ไม่มีทางออก แล้วท่านซื้อโดยไม่ดูพื้นฐานเลย อันนี้ อาจจะต้องเดินทางไปสำรวจที่ดินหน่อยครับว่าเป็นอย่างไร กรณีนี้ถึงขายขาดทุนก็คงต้องขายครับ

ผมจะขายที่ดินที่ผมซื้อ เมื่อพื้นฐานที่ดินเปลี่ยน เช่น กลายเป็นที่ระบายน้ำ หรือโรงงานจะมาตั้งใกล้ ๆ หรือไปเจอที่ดินที่ทำเลดีกว่าแต่ราคาถูกกว่ามาก ๆ แต่ไม่มีเงินซื้อ (เลยอาจจะต้องขายที่ดินนี้ไปซื้อที่ดินใหม่) หรือมีคนมาขอซื้อที่ดินนี้ในราคาที่แพงมาก ๆ จนจูงใจเท่านั้น ไม่เช่นนั้นที่ดินนั้นก็จะเป็นสินทรัพย์ของผมในระยะยาวครับ เราซื้อที่ดิน เราไม่เคยประเมินราคาตลาดของที่ดินทุกวันใช่ไหมครับ

ผมว่าหุ้นก็ไม่ต่างกันนะครับ บริษัทขาดทุนจะทำให้ผมอยากขายหุ้นมากกว่าราคาหุ้นลดลงเพราะ Fund Flow น่ะครับ อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวผมนะครับ อาจจะแตกต่างจากหลายท่าน เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ขาดทุนหุ้นอยู่ครับ