๐๐๐๐๐ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” นโยบายหลักที่ดึงดูดคะแนนเสียงจากชาวนาทั่วประเทศ ๐๐๐๐๐

ถือว่าเป็น Core business ของธุรกิจ “ทักษิณคิด”...เชียวนะ

แต่..ถ้าทักษิณรู้ว่าจะมีวันนี้...วันที่ “กลืนไม่เข้า คายไม่ออก” กับนโยบายหลักที่คิดค้นมาด้วยตัวเอง

ทักษิณจะทำเหมือนเดิม..รึเปล่า???

ที่ทักษิณคิดไว้น่ะ..หวังให้รัฐบาลเป็น “ผู้ค้าข้าวผูกขาด” รายเดียวในประเทศ
โดยตั้งตัวเป็นผู้รับซื้อผลผลิตข้าวจากชาวนาที่ผลิตได้ “ทุกเมล็ด”
จะได้เป็นผู้กำหนดราคาในประเทศและในตลาดโลกได้

ผู้ส่งออกต้องการทำธุรกิจต่อไป..ต้องมาซื้อข้าวจากรัฐบาลในราคาที่สูงกว่าตันละ 15,000 บาท
ราคาต่ำกว่านี้ รัฐบาลไม่ขาย หวังจะบีบให้ผู้ส่งออกวิ่งไปขายให้ได้

แฮ่ๆๆ..เสร็จกัน

เพราะในความเป็นจริง ใครจะยอมเจ๊ง ทั้งๆรู้ล่วงหน้า
พ่อค้าส่งออกเลยไปซื้อข้าวจากเพื่อนบ้านขายซะเลย
V
V

ทักษิณคาดหวังจะเป็นผู้กำหนด “ราคาข้าวในตลาดโลก”

เพราะไทยเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่
เป็นผู้ส่งออกอันดับ 1. ถึงแม้จะผลิตข้าวน้อยกว่าผู้ส่งออกอันดับ 2, 3...

ทักษิณวางแผนว่าจะเจรจารวมกลุ่ม “ผู้ผลิตข้าว” ได้สำเร็จ เพื่อ “กำหนดราคาข้าวโลก
เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน “โอเปค

แต่ทักษิณคาดผิด จึงผิดหวัง เพราะนอกจากการรวมกลุ่มจะล้มเหลวแล้ว..
ผู้ผลิตข้าวรายใหญ่ในเอเซีย...ไม่ใช่หมูให้ใครต้อนเข้าเล้าได้ง่ายๆ..

ยิ่งเห็นว่าประเทศไทย โดยยิ่งลักษณ์ประกาศนโยบายรับซื้อข้าวทุกเมล็ด ตันละ 15,000 บาท
ก็พากันยิ้มแก้มตุ่ย...

หวานเราแล้วจ้า..ผู้นำประเทศเพื่อนบ้านต่างบอกประชาชนของตน..
เราจะรวยแล้วพี่น้อง...เวียตนาม อินเดีย พม่า..โหย ยิ่งกัมพูชานะ(ญาติเกี่ยวดอง) นั่งตีพุงหัวเราะหยุดไม่หยุด 555

แล้วก็เป็นจริงดั่งคาด (ของนักวิชาการ คนไทยทั่วไป..ยกเว้นคนเสื้อแดงนะ)

เพื่อนบ้านเราขายข้าวได้เยอะ คนซื้อยิ่งกว่า hot cake อีกแน่ะ
แถมได้ราคาดี ราคาสูงกว่าเดิมโด้ย
เพราะได้อานิสงส์จากพี่ไทย ที่กำหนดราคาขายให้โดยปริยาย
ใครซื้อจากไทย (ข้าว 5% ) ต้องซื้อที่ราคา 542 เหรียญยูเอส/ตัน
ขณะที่เวียตนามขาย 375, อินเดีย 445

ผลคือ เวียตนามและอินเดีย ต่างเลื่อนอันดับเป็นผู้ส่งออกข้าว จากอันดับ 2 และ 3 เป็นอันดับ 1 และ 2 ซะนี่

เตะไทยจนร่วงไปอยู่อันดับ 3


เวียตนามถึงกับออกมาขอบคุณรัฐบาลไทยออกสื่อ
กัมพูชาก็ไม่น้อยหน้านะคะ
ออกมาขอบคุณไทย ที่ซื้อข้าวจากเค้ามากเป็นประวัติการณ์

โอ้ว..รัฐบาลไทย ที่เป็นผู้ซื้อข้าวผูกขาดรายเดียว ได้แต่ซื้อ..แต่ขายไม่ออก
ผลคือ ต้องเก็บสต็อคข้าวสารเต็มโกดังทั่วประเทศ

ถามจริงนะคะ

“ถ้า”เป็นกิจการของทักษิณเอง ทำธุรกิจแบบนี้
Core Business ของทักษิณ ขาดทุนเบอะบะ

แถมยังไม่รู้ตัวเลขจริงด้วย..

เพราะผู้จัดการฝ่ายขายซึ่งรับผิดชอบกับ Core business โดยตรง
บอกว่า “ไม่รู้ตัวเลขจริงในตอนนี้” รู้แต่ว่า “ไม่เยอะหรอก”

ต้องขายสินค้า (ที่มีเต็มโกดัง) ให้หมดก่อน..ถึงจะทำบัญชีรายงานตัวเลขได้

ถามว่า..

CEO ทักษิณจะทำอย่างไรคะ?




...................................................
ปล. กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อเนื่องจากกระทู้ “ทักษิณคิดผิด..ได้มั้ยจ๊า”

http://pantip.com/topic/30584720
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่