JJNY : เท้งรอดู ทักษิณ│ลงมติถอน "ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ"│อนุทินยันไม่ได้ใส่สีตีไข่│การเมือง-ภาษีทรัมป์ฟาดดัชนีเชื่อมั่น

เท้ง แนะ รบ.ปลูกย่านสร้างสรรค์ชูซอฟต์พาวเวอร์ รอดู ทักษิณ โชว์วิสัยทัศน์ จุดยืนกับกัมพูชา 
https://www.matichon.co.th/politics/news_5267245
.
.
‘เท้ง’ แนะ รัฐบาลลงทุนปลูกย่านสร้างสรรค์ชูซอฟต์พาวเวอร์มากกว่าจัดอีเวนต์ บอก ขอรอดู ‘ทักษิณ’ ขึ้นเวทีโชว์วิสัยทัศน์สามารถกู้ภาพลักษณ์ รบ.ได้หรือไม่ เชื่อ หาก รบ.ใช้อำนาจต่อรองเป็นจะทำให้กัมพูชากลับเข้าสู่การเจรจาที่ถูกต้องได้
.
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายทักษิณ​ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมขึ้นเวทีเอ็กซ์คลูซีฟทอล์ก กับ 4 ผู้นำทางความคิดร่วมชี้ทางรอดการเมือง ทางออกประเทศไทย ของเครือเนชั่น ในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ คาดหวังการแสดงออกประเด็นทางการเมืองประเด็นทางการเมือง ว่า ตนได้ติดตามการแสดงวิสัยทัศน์ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมไปแล้ว ซึ่งถามว่าคาดหวัง และอยากเห็นอะไรจากนายทักษิณ หากเป็นเฉพาะในส่วนของซอฟต์พาวเวอร์ ตนคาดหวังเรื่องการลงทุนในต้นทุนของวัฒนธรรม เพราะที่ผ่านมาเราเห็นการดำเนินการนโยบายเรื่องซอฟต์พาวเวอร์เป็นการจัดอีเวนต์ต่างๆ เหมือนเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ที่สำคัญคือการลงทุนต่างๆ หรือนำวัฒนธรรมที่เรามีอยู่ไปทำให้เกิดประโยชน์ เช่น สำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับย่านสร้างสรรค์ หลายๆ ย่านทั่วประเทศไทย และจริงๆ แล้วในแต่ละหัวเมืองของเรามีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งสำนักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์พยายามที่จะประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่จะทำอย่างไรให้ท้องถิ่นมีการตั้งงบประมาณในการพัฒนาย่านสร้างสรรค์แต่ละย่านในแต่ละหัวเมือง
.
นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า โดยที่ผ่านมาอาจจะยังไม่ได้รับความร่วมมือกับท้องถิ่นหรือกระทรวงมหาดไทย ในเมื่อตอนนี้พรรคเพื่อไทย (พท.) ขึ้นมาคุมกระทรวงมหาดไทย และถือเป็นนโยบายเรือธงในการที่จะผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ ตนอยากส่งข้อแนะนำและอยากเห็นพรรค พท.นำผลการศึกษาที่หน่วยงานของไทยได้ศึกษาไว้ มาลองลงทุนดู ในการที่จะปลูกเมืองสร้างสรรค์ในประเทศไทยให้เกิดขึ้นจริง รวมถึงอยากให้มีการใช้งบประมาณให้ถูกจุดมากกว่าการจัดอีเวนท์ธรรมดา
.
เมื่อถามว่า การปรากฏตัวของนายทักษิณในช่วงนี้จะสามารถประเมินเสถียรภาพของรัฐบาลได้หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า ต้องรอดูการแสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ของนายทักษิณว่าจะสามารถสามารถกอบกู้ภาพลักษณ์ได้หรือไม่ แต่หากคิดในทางกลับกัน ช่วงหลังที่มีความขัดแย้งสูงในพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ก่อนที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะถอนตัวออกมา ก็จะเห็นบทบาทของนายทักษิณที่ออกมาปรากฏตัวตามหน้าสื่อต่างๆ น้อยลง ฉะนั้น ในตอนนี้ที่นายทักษิณกลับมาปรากฏตัวตามหน้าสื่ออีกครั้ง ก็ต้องรอดูว่าท่านจะแสดงวิสัยทัศน์อย่างไร
.
ถามต่อว่า คาดหวังว่าจะได้เห็นประเด็นตอบโต้สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ตนเห็นว่าเวลานายทักษิณขึ้นเวทีจะมีประเด็นทางการเมืองอยู่ด้วย ฉะนั้น ในครั้งนี้คงต้องรอติดตามดูว่าจะมีประเด็นทางการเมืองหรือการแสดงวิสัยทัศน์ที่สร้างทางออกให้ประเทศอย่างไร เราต้องรอดู
.
เมื่อถามว่า เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการที่ศาลไทยออกหมายจับ นายก๊ก อาน เจ้าของคราวน์กาสิโนในเมืองปอยเปต ซึ่งมีการโยงถึงนายทักษิณ มองว่าจะทำให้การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทำงานยากขึ้นหรือไม่ นายณัฐพงษ์กล่าวว่า สิ่งที่เป็นความเห็นของตนต่อกรณีดังกล่าว สิ่งที่ไทยสามารถกดดันสมเด็จฮุน เซน ได้เช่นกัน คือเรื่องของการสื่อสาร เพราะการที่เขาออกมาสื่อสารเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าเขาอ่อนไหวต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ฉะนั้น อำนาจต่อรองหากเราใช้เป็น หรือใช้การสื่อสารในเรื่องของพลังสื่อมวลชน ที่เราต้องการดำเนินการว่าในการสื่อสารที่เราต้องการดำเนินการคือการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนคิดว่าจะสามารถกดดันกัมพูชา ในการที่จะกลับเข้าสู่การเจรจาในทางที่ถูกต้องมากขึ้น ไม่ใช่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วทำให้เกิดปัญหาที่มีผลกระทบเกิดขึ้นตามมาเหมือนในอดีต
.

.
ที่ประชุมสภาฯลงมติถอน "ร่างเอ็นเตอร์เทนเมนท์ฯ" ออกจากวาระ  253 เสียงต่อ 67 
.
วันที่ 9 ก.ค.2568 เมื่อเวลา 12.20 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรที่หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมในขณะนั้น ได้แจ้งที่ประชุมถึงรายชื่อผู้อภิปรายที่เหลือ 
.
นายวัชระพล ขาวขำ สส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นเสนอให้ประธานวินิจฉัยข้อที่ 74 อีกครั้ง พร้อมกล่าวว่า ไม่ได้มีปัญหาว่าเพื่อนสมาชิกมีความเห็นอย่างไร แต่ส่วนตัวเห็นว่าใช้เวลาพอสมควรแล้ว จึงขอให้วินิจฉัย เพื่อปิดการอภิปราย ตามข้อ 73(2) ให้ที่ประชุมลงมติ 
.
ขณะที่นายวรศิษฎ์ เสียงประสิทธิ์ สส.สตูล พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า การที่เพื่อนสมาชิกเสนอให้มีการปิดอภิปราย ตนจึงอยากขอเหตุผล เพราะเพิ่งมีการอภิปรายไปเพียงแค่ 5-6 คนเท่านั้น ไม่ได้รบกวนเวลาขนาดนั้น เข้าใจว่าท่านคือเสียงข้างมาก ถึงจะโหวตท่านก็ชนะอยู่แล้ว ตนเชื่อแบบนั้น แต่ท่านไม่คิดถึงภาพที่จะออกไป หรือความเห็นของประชาชนที่รอฟังอยู่บ้างหรือ
.
นายวัชระพล จึงกล่าวย้ำถึงเหตุผลที่รัฐมนตรีได้มีการตอบไปแล้ว ซึ่งเนื้อหาที่สมาชิกอภิปรายทั้งหมดวนเวียนซ้ำซากอยู่ที่เดิม ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เราคุยกันเลย เพราะญัตติคือถอนหรือไม่ถอน 
.
นายพลพีร์ สุวรรณฉวี สส.นครราชสีมา พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เราอภิปรายไปได้แค่ประมาณครึ่งชั่วโมง ฝั่งรัฐบาลรอไม่ได้หรือแค่ 49 นาที สมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะชาวมุสลิม อยากจะท้อนว่า กฎหมายนี้ไม่ดีอย่างไร "ทนหน่อยสิครับ รัฐมนตรีก็อยู่กันเต็มสภาไปหมด ทำไมรอชั่วโมงเดียวไม่ได้ ทุกคนจะออกไปข้างนอกหรืออย่างไร
.
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สส.อุบลราชธานี พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ถ้ามีสมาชิกเสนอให้ปิดการอภิปราย ตนก็ขอเสนอให้มีการอภิปรายต่อ เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุด การจะวินิจฉัยว่าสมาชิกท่านใดอภิปรายแบบไหน เป็นหน้าที่เป็นประธาน เมื่อประธานไม่ได้มีการทักท้วง ก็สามารถให้สมาชิกอภิปรายได้ "ขอความกรุณาเถอะค่ะ อย่าใช้นิสัยเดิมๆ ในการปิดปาก ไม่ให้มีการพูดกันในสภาแบบเมื่อสมัยก่อนๆ"
.
จากนั้นได้มีการถกเถียงกัน ระหว่าง สส.ของพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย อยู่พักหนึ่ง กระทั่ง นายพิเชษฐ์ได้กดออดเรียกสมาชิกเข้าแสดงตนในห้องประชุมอีกหลายครั้ง  
.
นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นกล่าวว่า "ขอความกรุณาประธานใจเย็นนิดนึง ในการตรวจสอบองค์ประชุม เพราะตอนนี้ก็เวลาเที่ยงคนอยู่เยอะ ผู้สูงอายุที่เหนือกว่าตนเดินเข้ามาในห้องประชุมยาก บางคนอยู่ในห้องประชุมกรรมาธิการก็อาจจะมาช้า ไม่ได้คิดว่าจะมีการตรวจสอบองค์ประชุมไวขนาดนี้ จึงขอเวลาอีกสักนิด
.
สุดท้าย เมื่อนายพิเชษฐ์ ปิดการแสดงตน พบว่า มีองค์ประชุมอยู่ 253 เสียง ซึ่งถือว่าเกินกึ่งหนึ่ง มาเพียง 7 คน โดยผลการลงมติจากจำนวนสมาชิก 259 เสียง เห็นด้วย 251 เสียง ไม่เห็นด้วย 3 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 4 เสียง เป็นอันว่าที่ประชุมฝ่ายเห็นชอบให้มีการปิดอภิปราย
.
จากนั้นเวลา 12.55 น. นายพิเชษฐ์ ได้ขอให้มติที่ประชุม ว่า จะยินยอมให้ถอนร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถาบันเทิงครบวงจรหรือ เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ออกจากระเบียบวาระการประชุมหรือไม่  ผลปรากฎว่า จากจำนวนสมาชิก 318 เสียง เห็นด้วย 253 เสียง ไม่เห็นด้วย 67 เสียง งดออกเสียง 0 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 0 เสียง เป็นอันว่า ที่ประชุมมีมติยินยอมที่จะถอนร่างพระราชบัญญัตฉบับนี้ ออกจากเบียบวาระการประชุม
.

.
อนุทิน ยัน สีจิ้นผิง ไม่พอใจกาสิโน ต้นเหตุทำนักท่องเที่ยวจีนลด ไม่ได้ใส่สีตีไข่
.
อนุทิน ยัน สีจิ้นผิง ไม่พอใจกาสิโน ต้นเหตุทำนักท่องเที่ยวจีนลด ไม่ได้ใส่สีตีไข่
.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 9 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ออกมาแฉว่านายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงท่าทีไม่พอใจต่อนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล โดยมีการเตือนถึง 3 ครั้ง ในตอนที่ไทยเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการ ว่า ไม่ได้แฉ แฉที่ไหน
.
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม เป็นเพราะนักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นเรื่องปลอดภัยในช่วงที่ผ่านมา ที่ต้องดูแลโดยกระทรวงมหาดไทยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า หลายๆเรื่องประกอบกัน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ดูตำรวจ และตำรวจท่องเที่ยวก็ไม่ได้ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดในสมัยที่ตนเป็นรมว.มหาดไทย ก็ได้รับการกำชับว่าจะต้องอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย และความเป็นธรรมทุกๆอย่าง
.
เมื่อถามว่า นายกฯระบุว่าการที่ออกมาโพสต์ข้อความแบบนี้เป็นการใส่สีตีไข่มากเกินไป นายอนุทิน กล่าวว่าไม่มี ตนไม่เคยใส่สีตีไข่ มีแต่เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง แล้วจริงๆที่ตนเขียนเพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาลถอนร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบสถานบันเทิงครบวงจร หรือ ร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไป โดยเป็นการถอนแล้วถอนเลย ไม่ใช่ถอนแล้วนำกลับมาใหม่ ถ้าจะพิจารณาก็ให้พิจารณาวันนี้เลย ซึ่งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเป็นแบบนี้มาตลอด
.
เมื่อถามว่า ต้องฟังเหตุผลของรัฐบาลในการถอนตามกฎหมายดังกล่าวออกไปก่อนหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ในเมื่อร่างกฎหมายเข้ามาแล้วถ้าคิดว่าเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์ เลื่อนจากลำดับท้ายสุดมาเป็นลำดับแรก ถ้ามั่นใจก็พิจารณาร่วมกันไปเลย ผลออกมาเป็นอย่างไรก็เป็นแบบนั้น
.
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงมีการเปิดเผยในสาระสำคัญที่ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้พูดคุยกัน นายอนุทินกล่าวว่า ตนไม่ได้เปิดเผย แค่จะบอกว่าถ้าวันนี้รัฐบาลจะถอนร่างกฎหมายดังกล่าว จะต้องแถลงว่าถอน และยกเลิกนโยบายนี้ไปเลย พรรคภูมิใจไทยก็พร้อมที่จะโหวตช่วยสนับสนุนให้การถอนญัตตินี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
.
“พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ไม่เห็นด้วย กับสถานบันเทิงครบวงจร เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับในส่วนที่เป็นกาสิโนเท่านั้น ถ้าสถานบันเทิงครบวงจรยังจะเดินต่อไปก็ยินดี ที่จะให้การสนับสนุน ต่อให้เป็นฝ่ายค้านก็จะสนับสนุน” นายอนุทิน กล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่