มาแชร์ประสบการณ์สอบ TOEIC บ้างค่ะ

กระทู้สนทนา
หลังจากที่มีเวลาเตรียมตัวประมาณ 3-4 วันก่อนสอบ แล้วก็ได้ความอนุเคราะห์เรื่องตัวอย่างข้อสอบจากเพื่อนใจดีใน pantip
เมื่อวานไปสอบมาเรียบร้อยแล้วค่ะ สอบรอบบ่าย

ไปถึงประมาณเกือบเที่ยง คนมาสอบเยอะมากค่ะ ต้องต่อแถวเพื่อลงทะเบียน พนักงานจะถามชื่อนามสกุล เลขบัตรประชาชน ให้สะกดอีกครั้ง แล้วก็ถ่ายรูปค่ะ พอเสร็จก็ลุกไปจ่ายเงินตรง counter ณ จุดนี้จะเพิ่งเห็นภาพที่เมื่อกี๊ถ่ายตอนลงทะเบียนค่ะ
เรานั่งมอเตอร์ไซค์ไปสอบ หัวฟูเป็นพุมบ้าไลอ้อนคิงเลย พนักงานไม่มีเตือน (T_T) มาเห็นตอนจ่ายเงินเรียบร้อย

ระหว่างรอให้ถึงเวลาสอบ ผู้สอบมากมายนั่ง ๆ กันตามพื้นหน้าห้องรอเวลา่สอบ หลาย ๆ คนนั่งอ่านหนังสือก่อนสอบ
บรรยากาศเหมือนการสอบสมัยเรียนหนังสือเลยที่มีคนมานั่งอ่านหนังสือนั่งติวกันหน้าห้อง

ในห้องสอบแอร์เย็นมากค่ะ ยิ่งนั่งไปยิ่งเย็น คิดไม่ผิดที่เอาเสื้อหนาวเผื่อไปด้วย
รอบบ่ายคนเยอะมากค่ะ โต๊ะสอบเป็นโต๊ะยาวตัวเดียวมีที่กั้นเล็ก ๆ กั้นแบ่งเป็นสองที่นั่งติดกัน
ใครโชคดีได้นั่งคนเดียว ส่วนเราได้นั่งกับน้องอีกคนค่ะ ซึ่งน้องลบคำตอบบ่อยมาก ลบทีโต๊ะสั่น หงึก ๆๆๆๆ เสียสมาธิเหมือนกัน
แอบคิดว่าถ้าต้องสอบรอบหน้ามาสอบตอนเช้าดีกว่า

หลังจากเข้าไปในห้องสอบ เจ้าหน้าที่จะค่อย ๆ บอกให้กรอกข้อมูลทีละส่วน แล้วก็เปิดเทปอธิบายถึงการสอบในแต่ละส่วนพร้อมตัวอย่างให้ฟัง
Part นี้ใช้เวลานานมากค่ะ เราว่าประมาณ 30-40 นาทีก่อนการสอบจริงจะเริ่ม

หลังจากเปิดข้อสอบแล้ว ส่วนแรกเป็นการฟังค่ะ จะให้ฟังตัวอย่างข้อสอบ 1 ข้อซ้ำอีกรอบแล้วเริ่มกันเลยค่ะ
(เห็นมีพี่ ๆ บางคนบอกว่าเตรียมตัวไม่ทันเหมือนกัน บางทีฟังผ่าน ๆ คิดว่าเค้ายังพูดถึงตัวอย่างอยู่ รู้ตัวอีกทีขึ้นข้อสองแล้วค่ะ)
ส่วนแรกของการฟังเป็นรูป แล้วให้เลือกคำตอบที่ถูกที่สุดเกี่ยวกับรูปนั้นค่ะ
การฟังส่วนที่สอง เป็นบทสนทนาสั้น ๆ
เราพยายามฟังจับใจความ และตั้งใจฟังตอนต้นคำถามมาก เช่น who what when where how หรือว่าขึ้นต้นด้วย Do/did, Was/is
เพราะบางที part นี้ชอบมีคำตอบหลอกค่ะ
แบบถามว่า Did he pass the exam?
แต่คำตอบคือ Yes he does.. >> อันนี้ผิด
ต้องไปเลือกคำตอบอื่นที่ใกล้เคียงแทน
ส่วนการฟัง part ที่สาม เป็นการสนทนาระหว่างบุคคลค่ะ ส่วนนี้จะมีคำถามและคำตอบมาให้แล้ว หนึ่งบทสนทนาตอบประมาณ 3 ข้อ
คำถามก็แนว ๆ ว่า ผู้พูดทำอาชีพอะไร? บทสนทนานี้น่าจะเกิดขึ้นที่ไหน ประมาณนี้
เราพยายามตอบให้เสร็จเร็ว ๆ และไปอ่านคำถามคำตอบของข้อต่อไปให้จบก่อนที่บทสนทนาของข้อต่อไปจะเริ่มค่ะ
การอ่านคำถามก่อนทำให้เรารู้เลยว่าเรามองหาอะไรบ้างแล้วตั้งใจฟังเพื่อหาคำตอบเลยค่ะ ไม่งั้นบางทีถ้าไม่ได้อ่านคำถามฟังไปก่อนบางทีมีหลุดค่ะ
การฟังส่วนสุดท้ายเป็นบทความประกาศ เช่น โฆษณาของห้างสรรพสินค้า การประกาศที่สนามบินอะไรประเภทนี้ค่ะ
ทริคเดียวกันเราอ่านคำถามคำตอบทุกข้อก่อนค่ะ แล้วพอฟังไปอันไหนตรงกะคำตอบเราจะทำเครื่องหมายติ๊กไว้ในข้อสอบแล้วรีบมาถม ๆ ก่อนที่ข้อต่อไปจะเริ่ม

Part ต่อไปคือ Reading 100 ข้อ มีเวลา 75 นาทีค่ะ
40 ข้อแรกเป็น grammar ยากง่ายผสมกัน เราพยายามทำเร็ว ๆ ค่ะ ข้อไหนที่เรากาไปแล้วไม่แน่ใจ เราทำเครื่องหมายคำถามเล็ก ๆ ไว้ตรงเลขข้อใน answer sheet คือ ถ้ามีเวลาจะกลับมาดูอีกที สอบ TOEIC ห้ามคิดนานค่ะ ไม่งั้นทำไม่ทัน
Part ที่สองของ Reading เป็นการเติมคำในประกาศค่ะ อันนี้ก็อาศัยความเข้าใจ ประกาศนึงแบ่งเป็นประมาณ 3 ข้อย่อย
ทำเสร็จเราจะกลับมาอ่านผ่าน ๆ อีกรอบนึงทั้งประกาศว่ามันสะดุดไหมเป็นไปในทิศทางเดียวกันรึป่าว เพราะบางทีคำเชื่อมที่ให้มาเป็นคำเชื่อมหลอก ๆ ค่ะ ในประโยคอ่านแล้วเหมือนใช่ พออ่านรวม ๆ อ้าว ไม่ใช่!!!
Part สุดท้ายของ reading เป็นบทความให้อ่านค่ะ
แรก ๆ จะเป็นบทความโฆษณาบ้าง ตัวอย่างข่าวสั้น ๆ บ้าง ตอบคำถาม 3 ข้อค่ะ
เหมือนกัน เราอ่านคำถามคำตอบก่อนเลย แล้วค่อยมาอ่านในบทความเพื่อหาคำตอบค่ะ เพราะถ้าอ่านบทความก่อนแล้วมาอ่านคำถามคำตอบ ก็ต้องเสียเวลามานั่งหาคำตอบในบทความอีกอยู่ดี เพราะคนส่วนมากอ่านรอบแรกอ่านผ่าน ๆ ทำให้เสียเวลาค่ะ
ส่วนสุดท้ายเลยจะเป็นจดหมาย หรือ email สองฉบับส่งตอบกันระหว่างคนสองคนค่ะ ตอบคำถามประมาณ 5 ข้อ
ส่วนมากเป็นจดหมายนัดแนะไปฟังสัมมนา จดหมายขอยื่นลาออก จดหมายขอสมัครงาน ไม่ก็จดหมาย complain สินค้าอะไรบางอย่าง

เราทำเสร็จทั้งหมดโดยเหลือเวลาอีก 5 นาทีค่ะ เลยมีเวลากลับไปดู part grammar ที่ไม่ค่อยแน่ใจอีก 2-3 ข้อ
(ดูเสร็จก็ไม่แน่ใจอยู่ดี โชคดีที่ตอนแรกไม่ได้เสียเวลาคิดอยู่ตรงนั้นนาน)

สำหรับเพื่อน ๆ ที่จะไปสอบขอให้โชคดีนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่