รีวิวการสอบ CEFR กับศูนย์ HCEC ซึ่งคนไม่ค่อยพูดถึงเท่าไร

มีโอกาสได้ไปสอบมาเมื่อวันที่ 16 มีนา กับ 23 มีนา รอบแรกระบบล่ม เลยได้ลองข้อสอบ รอบ2 ศูนย์ชดเชยให้เลยไม่ต้องเสียเงิน แต่ที่เสียใจคือขนาดได้ลองข้อสอบแล้วก็ยังได้ overall แค่ B1+ 😭😭😭 รอบแรกรู้สึกข้อสอบง่ายกว่า ทำได้เยอะ แต่เนื่องจากเป็นโมฆะเลยไม่มีการตรวจข้อสอบให้ได้ทราบคะแนน โดยคะแนนแต่ละ part ของเรา เป็นดังนี้ reading ได้ B2   Listening ได้ B1   Speaking ได้ B1   Writing   ได้ B2- ซึ่งการสอบจะแบ่งเป็น 4 part พาร์ทแรก การอ่านๆแค่เรื่องเดียว ตอบคำถามแบบchoice 12 ข้อ โดยข้อสุดท้ายจะให้เราจับคู่เลือกคำศัพท์ลงในตารางให้ถูกต้อง โดยโจทย์แจ้งว่าจะมี 2 ตัวเลือกที่ไม่ถูกใช้ แอบใจดีอยู่ มีเวลาทำ 20 นาที พาร์ทการฟังเป็นเรื่องยาวประมาณ 6 นาที dialogue 2 คนคุยกัน ตอบคำถามประมาณ 8 ข้อ มี 2 ข้อ ที่ให้ฟังเน้นๆประโยคต่างหาก แล้วถามว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร ซึ่งรอบแรกเราได้ชุด อาจารย์กับนักเรียนคุยกัน อันนี้ส่วนใหญ่ฟังรู้เรื่อง แต่พอสอบรอบ2 ได้ชุดข้อสอบใหม่ (ลืมบอก reading เราได้เรื่องเดิมทั้ง 2 รอบ ตอนนั้นsurprise มาก นึกว่าโชคเข้าข้างละ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการบินด้วย canopy) listening เกี่ยวกับการบริจาคfurniture เหมือนมีผู้ชายที่สนใจบริจาคคุยกะstaff ซึ่งฟังไม่รู้เรื่องเลย มารู้อีกทีตอนเห็นคำถามเลยพอเดาได้ว่าคุยเรื่องอะไร แต่ดีเทลไม่รู้ พาร์ทนี้มีเวลาทำโดยรวม 10 นาที ถัดมาพาร์ทการพูด มีโจทย์เดียว ให้เวลา 1นาที แบ่งเป็น15วินาที เตรียมตัว 45 วินาที เริ่มอัดเสียงพูดคำตอบ โจทย์รอยแรกเป็น Describe your city กับรอบ 2 เป็น what's your favorite song style? เขียนแบบนี้เปล่าไม่แน่ใจ เห็นเกี่ยวกับเพลงเลยร้องเพลงลงไปด้วย ไม่รู้ตัวฉุดไหม
พาร์ทสุดท้าย การเขียน มีเวลา 20 นาที ควรเขียน 150- 200 คำ ขึ้นไป เผื่อเขียนผิด รอบแรกได้โจทย์ Do you agree " technology makes life easier "? ประมาณนี้ รอบที่ 2 โจทย์ what's favorite type of movie? Do you describe ประมาณนี้
ส่วนตัวคิดว่าข้อสอบไม่ยากเท่า cu tep, tu get, toeic แต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดี 😓😓😓 ราคาสอบ 2140 บาท เดือนเมษา ขึ้นราคาเป็น 2675 บาท ฮือๆๆๆ ไม่รู้รอบหน้าจะได้  B2 ไหม เป็นกำลังใจให้ด้วยเน้อออ ตอนนี้จิตตกมาก เสียเงินฟรี