ขอเกริ่นเล็กน้อยว่าเรากับแฟนรู้จักกันใน pantip เกือบปี ค่อยตกลงเป็นแฟนมาซักครึ่งปีค่ะ
คือ เมื่อต้นปีเราคิดลงทุนคอนโดขายใบจอง แต่ก็คิดหนัก ถ้าปล่อยไม่ได้ คงต้องผ่อนแบงค์ ซึ่งแฟนก็บอกว่าให้ซื้อเลยถ้าขายไม่ได้เดี๋วยช่วยผ่อนดาวน์ ก็รู้สึกดีนะคะ แต่เราก็ไม่ได้กะให้เค้าช่วยอยู่แล้วค่ะเพราะเราผ่อนไหวอยู่แล้ว
มาตอนนี้เค้าอยากมีบ้านเดี่ยวไว้อยู่ด้วยกันในอนาคต เค้าบอกว่าจะให้เป็นชื่อเราแต่เค้าจะผ่อนเอง เรากังวลว่าคอนโดกะบ้าน เราจะกู้ไม่ผ่านค่ะ (เค้าทำงานเป็น contract ต้องไปทำ ตจว แล้วก็มีช่วงรองาน คงกู้ร่วมลำบาก) เค้าก็ย้ำหลายรอบบอกให้เราหาทางขายคอนโดให้ได้นะ (คอนโดยังไม่เสร็จ) เราก็นิดนึงทีตอนแรกมายุให้ซื้อจะช่วยออกแต่ตอนนี้มาบอกงี้ คือคอนโดอย่างเดียวรายได้เราพอค่ะ
ส่วนบ้านเดี่ยวเค้าว่าช่วงที่เค้าไม่ได้ทำงานเราช่วยผ่อนได้ไหม เราก็ว่าได้ วันนี้ถามเราว่าช่วยออกเงินดาวน์ 5แสน ได้ไหม คือเราก็คิดไว้แล้วว่าถ้าบ้านเกิน5ล้าน(budget เค้า) เราจะช่วยออก แล้วกะจะช่วยออกเงินจองทำสัญญาครึ่งนึงอยู่แล้ว(แต่ไม่ได้บอกเค้านะคะ) แต่พอเค้าเป็นคนพูดเราเลยรู้สึกอีกละ ว่าแล้วตอนแรกมาทำเป็นพูดซะดูดีทำไมนะ ว่าจะซื้อบ้านเป็นชื่อเรา แล้วเค้าผ่อนเอง
อ้อเค้าอยากให้เราไปถามแม่ถ้ามีคนมาขอจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ แล้วก็บอกว่า แถวบ้านเค้า(ตจว)แค่แสนสองแสน บางคนก็ไม่เรียกนะ ส่วนงานเลี้ยงฝ่าย ญ ออก ก็ได้ค่าซองกะเงินสินสอดมาใช้จ่าย แต่มันต่างจากคนรอบข้างเรามาก สินสอดหลักล้านแต่จะคืนให้ งานเลี้ยงก็เอาเงินใส่ซองถ้าไม่พอ ช ออก เหลีอ ให้ฝ่าย ญ แต่ส่วนใหญ่ก็คืนให้ทั้งคู้ ตกลงสังคมเราต่างกันใช่ไหมคะ
เราจะซื้อสร้อยเค้าก็บอกว่าซื้อให้แต่เป็นช่วงเค้ารองานใหม่ตังค์หมดเลยให้เราออกไปก่อนช่วงนั้นก็ยืมเราไปใช้จ่ายกะจ่ายงวดรถ พอตอนมีงานจะคืนก็พูดเล่นๆว่าลดซัก2หมื่นได้ไหม เราเลยว่าก็ได้ แต่อย่าบอกว่าซื้อสร้อยให้เรานะเพราะเราซื้อเอง....แรงไปไหมคะ แต่ตอนนั้นก็รู้สึกไม่ดีจริงๆเพราะบอกแล้วว่าไม่เอาซื้อเองได้
นอกจากนี้เค้ายังย้ำให้เราเก็บตังค์อย่าเที่ยวเยอะ แต่ถึงเราเที่ยวก็มีเงินเก็บพอสมควรแต่อาจจะน้อยกว่าเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน จิงๆเราก็ไม่ได้อยากได้บ้านเดี่ยวนักเพราะเราก็อยู่ตึกแถวในเมืองอยู่แล้วรถก็มีใช้ปลอดภาระผ่อนหมดแล้ว ไม่ค่อยอยากเป็นหนี้
คือเราเคยถามเพื่อนเรื่องมีแฟน เพื่อนก็บอกว่าถ้ามีแล้วชีวิตเราแย่ลงมันก็จะไม่มี และถ้าเงินเดือนน้อยกว่ามันครึ่งนึงก็ไม่เอาเด่วมีปัญหาเรื่องเงินกัน เพื่อนๆก็มีบอกว่าแกแน่ใจกะคนนี้หรอเพราะดูไม่ค่อยมั่นคงและต่างกันเยอในหลายๆด้าน เลยเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันค่ะ
ตกลงเรา คิดจุกจิกกะเรื่องไม่เป็นเรื่องกับแฟนมากไปไหมคะ เราควรปรับตัวปล่อยวางยังไงบ้างคะ
เราคิดมาก คิดเล็กคิดน้อย กับแฟนเรามากไปไหมคะ
คือ เมื่อต้นปีเราคิดลงทุนคอนโดขายใบจอง แต่ก็คิดหนัก ถ้าปล่อยไม่ได้ คงต้องผ่อนแบงค์ ซึ่งแฟนก็บอกว่าให้ซื้อเลยถ้าขายไม่ได้เดี๋วยช่วยผ่อนดาวน์ ก็รู้สึกดีนะคะ แต่เราก็ไม่ได้กะให้เค้าช่วยอยู่แล้วค่ะเพราะเราผ่อนไหวอยู่แล้ว
มาตอนนี้เค้าอยากมีบ้านเดี่ยวไว้อยู่ด้วยกันในอนาคต เค้าบอกว่าจะให้เป็นชื่อเราแต่เค้าจะผ่อนเอง เรากังวลว่าคอนโดกะบ้าน เราจะกู้ไม่ผ่านค่ะ (เค้าทำงานเป็น contract ต้องไปทำ ตจว แล้วก็มีช่วงรองาน คงกู้ร่วมลำบาก) เค้าก็ย้ำหลายรอบบอกให้เราหาทางขายคอนโดให้ได้นะ (คอนโดยังไม่เสร็จ) เราก็นิดนึงทีตอนแรกมายุให้ซื้อจะช่วยออกแต่ตอนนี้มาบอกงี้ คือคอนโดอย่างเดียวรายได้เราพอค่ะ
ส่วนบ้านเดี่ยวเค้าว่าช่วงที่เค้าไม่ได้ทำงานเราช่วยผ่อนได้ไหม เราก็ว่าได้ วันนี้ถามเราว่าช่วยออกเงินดาวน์ 5แสน ได้ไหม คือเราก็คิดไว้แล้วว่าถ้าบ้านเกิน5ล้าน(budget เค้า) เราจะช่วยออก แล้วกะจะช่วยออกเงินจองทำสัญญาครึ่งนึงอยู่แล้ว(แต่ไม่ได้บอกเค้านะคะ) แต่พอเค้าเป็นคนพูดเราเลยรู้สึกอีกละ ว่าแล้วตอนแรกมาทำเป็นพูดซะดูดีทำไมนะ ว่าจะซื้อบ้านเป็นชื่อเรา แล้วเค้าผ่อนเอง
อ้อเค้าอยากให้เราไปถามแม่ถ้ามีคนมาขอจะเรียกสินสอดเท่าไหร่ แล้วก็บอกว่า แถวบ้านเค้า(ตจว)แค่แสนสองแสน บางคนก็ไม่เรียกนะ ส่วนงานเลี้ยงฝ่าย ญ ออก ก็ได้ค่าซองกะเงินสินสอดมาใช้จ่าย แต่มันต่างจากคนรอบข้างเรามาก สินสอดหลักล้านแต่จะคืนให้ งานเลี้ยงก็เอาเงินใส่ซองถ้าไม่พอ ช ออก เหลีอ ให้ฝ่าย ญ แต่ส่วนใหญ่ก็คืนให้ทั้งคู้ ตกลงสังคมเราต่างกันใช่ไหมคะ
เราจะซื้อสร้อยเค้าก็บอกว่าซื้อให้แต่เป็นช่วงเค้ารองานใหม่ตังค์หมดเลยให้เราออกไปก่อนช่วงนั้นก็ยืมเราไปใช้จ่ายกะจ่ายงวดรถ พอตอนมีงานจะคืนก็พูดเล่นๆว่าลดซัก2หมื่นได้ไหม เราเลยว่าก็ได้ แต่อย่าบอกว่าซื้อสร้อยให้เรานะเพราะเราซื้อเอง....แรงไปไหมคะ แต่ตอนนั้นก็รู้สึกไม่ดีจริงๆเพราะบอกแล้วว่าไม่เอาซื้อเองได้
นอกจากนี้เค้ายังย้ำให้เราเก็บตังค์อย่าเที่ยวเยอะ แต่ถึงเราเที่ยวก็มีเงินเก็บพอสมควรแต่อาจจะน้อยกว่าเพื่อนๆในรุ่นเดียวกัน จิงๆเราก็ไม่ได้อยากได้บ้านเดี่ยวนักเพราะเราก็อยู่ตึกแถวในเมืองอยู่แล้วรถก็มีใช้ปลอดภาระผ่อนหมดแล้ว ไม่ค่อยอยากเป็นหนี้
คือเราเคยถามเพื่อนเรื่องมีแฟน เพื่อนก็บอกว่าถ้ามีแล้วชีวิตเราแย่ลงมันก็จะไม่มี และถ้าเงินเดือนน้อยกว่ามันครึ่งนึงก็ไม่เอาเด่วมีปัญหาเรื่องเงินกัน เพื่อนๆก็มีบอกว่าแกแน่ใจกะคนนี้หรอเพราะดูไม่ค่อยมั่นคงและต่างกันเยอในหลายๆด้าน เลยเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเหมือนกันค่ะ
ตกลงเรา คิดจุกจิกกะเรื่องไม่เป็นเรื่องกับแฟนมากไปไหมคะ เราควรปรับตัวปล่อยวางยังไงบ้างคะ