เรื่องเกิดขึ้นประมาณเกือบสิบวันที่แล้ว แต่ดิฉันเพิ่งมาแน่ใจว่าสามีโกหกก็วันนี้
ดิฉันกับสามีแต่งงานกันมาเกือบสามปี ยังไม่มีลูก แต่เนื่องจากด้วยหน้าที่การงาน เราสองคนมีความจำเป็นจะต้องอยู่กันคนละจังหวัด เดือนหนึ่งจะมีโอกาสได้เจอกันบ้างแล้วแต่งานที่ทางบริษัทมอบหมายให้ ชีวิตคู่ก็มีปัญหาทะเลาะกันบ้าง ไม่ถูกใจกันบ้าง ตั้งแต่เรื่องเล็กที่ดิฉันอาจคิดมากไปเอง ไปจนถึงเรื่องที่สามีทำให้น้อยใจ เสียใจอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งที่มีปัญหากัน ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ดิฉันต้องเป็นฝ่ายยอม ฝ่ายง้อและขอโทษเขาทุกครั้ง ไม่งั้นสามีจะไม่พูดด้วย ไม่รับโทรศัพท์ หรือคุยด้วยความโกรธและวางหูโทรศัทพ์ใส่ เขาเป็นคนขี้โมโหง่าย ใช้เวลาง้อนานเป็นวันๆหรือบางทีเป็นอาทิตย์กว่าจะหายโกรธมาพูดด้วย
ครั้งล่าสุด สามีไม่สบายดิฉันมีโอกาสอยู่กับเขาดูแลเขาแค่สองวันหลังจากนั้นสามีก็ต้องขับรถออกต่างจังหวัดเพื่อกลับที่ทำงานเนื่องจากเจ้านายโทรมาตาม ก่อนกลับไปเล่าให้ดิฉันฟังว่าต้องจัดการงานมากมายเมื่อไปถึง และจะมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิง มางานแต่งงานของเพื่อนที่ตัวเมือง เขาจะไปทานข้าวเลี้ยงข้าวเพื่อนคนนี้เพราะเคยอำนวยความสะดวกให้ดิฉันและแฟนเรื่องการหาที่อยู่ที่ต่างจังหวัดด้วย ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร เพราะเรารู้จักกันทั้งสามคน ก็เป็นเพียงแค่การบอกและดิฉันก็รับรู้ ไม่คิดว่าจะมีอะไรมากมาย โดนพื้นฐานแล้วสามีเป็นคนชอบ service สาวๆ ดิฉันก็มองว่า เพื่อนพ้อง น้องกัน แม้จะไม่พอใจบ้างแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จะมีระแวงก็เก็บความกังวลไว้ในใจ รอให้เรื่องผ่านไป เพราะเคยทะเลาะกันแล้ว เขาก็โกรธ ไม่พูดไม่จา จนท้ายที่สุดดิฉันก็ต้องเป็นฝ่ายไปขอโทษอีก
วันที่สามีกลับไปดิฉันโทรหาไม่รับสายทั้งวัน ส่งแชทไปหาก็ไม่อ่าน เป็นห่วงว่าจะเป็นอะไรไหมเพราะขับรถระยะทางไกลกลับทั้งวันตั้งแต่เช้ามืดทั้งๆที่ตัวเองไม่สบาย เมื่อตรวจสอบประวัติการเดินทางจากสัญญานมือถือ ดิฉันพบว่าสามียังไม่กลับบ้าน แต่แวะไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใจดิฉันทราบทันทีว่าเขาไปแวะรับเพื่อนคนนี้ไปเที่ยว ดิฉันรอจนช่วงเย็นสามีติดต่อกลับมาด้วยข้อความแชทคำสองคำ ดิฉันออกไปข้างนอกและลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่บ้าน ถึงเวลาค่ำเราได้คุยกันดิฉันบอกว่าดิฉันเป็นห่วงเขามาก ไปทำอะไร อยู่ที่ไหน ทำไมติดต่อไม่ได้ทั้งวัน สามีบอกว่าเข้าที่ทำงาน ไปทำธุระ แล้วต่อไปหาเพื่อนสนิท(ผู้ชาย) ที่บ้านอีกอำเภอหนึ่ง ไปนั่นนู่นนี่ แล้วกลับไปนอนงีบ จากนั้นถึงไปรับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไปทานข้าวเย็น เขาบอกว่าเจอกันแค่ช่วงเย็น ทานข้าวแล้วส่งกลับแค่นั้น ดิฉันยอมรับว่ามีลางสังหรณ์บางอย่างก็ให้นึกเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาตรวจสอบหาประวัติของสัญญานของสามีอีกครั้งพบว่า มีการเดินทางไปที่ท่องเที่ยวที่เขาเคยพาดิฉันไปในช่วงเช้าจนบ่าย ใจมันหวิวอย่างบอกไม่ถูก คิดแต่ว่า นี่สามีโกหกเราหรือ ไหนว่าเจอกันช่วงเย็นเท่านั้น
วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสเจอเพื่อนสาวคนนั้นก็ถามว่า สามีดิฉันพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เนื่องจากในใจค่อนข้างแน่ใจว่าเขาพากันไปเที่ยว เพื่อนก็บอกว่าก็ไม่มาก ไม่ได้ไปกันเต็มวัน แค่ครึ่งวัน สถานที่ชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้วไปหลายที่อยู่ ดิฉันฟังได้แค่นี้ก็มีอันนั้นต้องจบบทสนทนาเนื่องจากเธอต้องเข้าลิฟท์ไป
จะคิดว่าเขาไปมีอะไรกันดิฉันก็มองไม่ออก เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ข้อนี้ตัดไปได้ แต่จะพึงพอใจกันขั้นไหนลึกๆในใจดิฉันไม่ทราบได้เพราะดูแล้วเพื่อนคนนี้ก็ดีกับทั้งดิฉันและสามี วันนี้ดิฉันได้ถามสามีอีกครั้ง ว่าให้บอกได้ไหมว่าวันนั้นไปไหนบ้าง เขาก็เล่าเหมือนเดิม ดิฉันเลยบอกว่า ได้คุยกับเพื่อนแล้ว เขาบอกว่าคุณพาไปเที่ยวด้วย
นี่คือบทสนทนาคร่าวค่ะ
สามี : ทำไมทำอะไรให้ใครดีๆ ต้องซวยกลับมาทุกครั้ง ถ้าคิดว่ารู้อะไรทุกอย่างจะมาถามทำไม ชีวิตแต่งงานแบบนี้ผมไม่ชอบ ผมไม่ใช่เด็กเจ็ดแปดขวบต้องมารายงานตัวว่าไปไหนมาไหนกับใคร คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง อะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญก็ไม่จำเป็นต้องรู้ คุณรู้คุณก็บ่น คุณจะมาบ่นว่าทำไมผมไม่พักทั้งๆที่ไม่สบาย เขาเคยช่วยเราผมก็ตอบแทนเวลามาที่นี่ก็เท่านั้น ผมจะไม่อธิบายอะไรอีกแล้ว
เรา : ฉันเสียใจที่คุณไม่เล่าความจริงให้ฟัง จะไปเที่ยวกันไม่เคยว่า ฉันชอบเขาก็เท่าๆกับคุณ แต่ทำไมต้องโกหกกันด้วย มันมีอะไรถึงบอกความจริงไม่ได้ เล่าไม่ได้ว่าไปไหนมา มันเป็นเรื่องผิดเหรอที่ไปเที่ยวกัน ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมต้องโกหก ทำไมบอกว่าทานข้าวเย็นกันเท่านั้น ฉันรู้จากปากคนอื่นแล้วกลายเป็นว่าตรงกับสิ่งที่ฉันรู้ มันเกิดอะไรขึ้น
ดิฉันยอมรับว่าเสียใจมากที่รู้ความจริงจากเพื่อนคนนี้ ไม่คิดว่าสามีจะโกหกได้
บางคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับดิฉันมีคำถามคาใจ ทำไมไม่เล่าความจริง ดิฉันจะไม่ว่าอะไรเลยเพราะเรารู้จักกันทั้งสามคน กับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นที่เขาไปไหนมาไหนด้วยก็เล่าให้ดิฉันฟังทุกครั้ง ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร ออกจะลืมๆไม่คิดอะไรเสียด้วยซ้ำ แล้วครั้งนี้มันคืออะไร
สรุปวันนี้จบลงด้วยการทะเลาะกัน (แทบทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาจะชอบพูดเรื่องหย่า) โดนวางหูโทรศัพท์ใส่ โทรไปไม่รับสาย กลับเข้าสู่วังวนเดิม ดิฉันต้องง้อกันข้ามจังหวัดอีก สำหรับดิฉันประเด็นไม่ใช่ไปกับคนอื่น ประเด็นคือ ทำไมต้องโกหกเอาเพื่อนคนนู่นคนนี้มาอ้าง ทำไมไม่เล่าให้ดิฉันฟังเหมือนที่เขาไปกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ยอมอดหลับอดนอนเหนื่อยแสนเหนื่อย service กันแล้วเลือกที่จะมาโกหกดิฉัน
ทำอย่างไรเมื่อพบว่าสามีโกหก
ดิฉันกับสามีแต่งงานกันมาเกือบสามปี ยังไม่มีลูก แต่เนื่องจากด้วยหน้าที่การงาน เราสองคนมีความจำเป็นจะต้องอยู่กันคนละจังหวัด เดือนหนึ่งจะมีโอกาสได้เจอกันบ้างแล้วแต่งานที่ทางบริษัทมอบหมายให้ ชีวิตคู่ก็มีปัญหาทะเลาะกันบ้าง ไม่ถูกใจกันบ้าง ตั้งแต่เรื่องเล็กที่ดิฉันอาจคิดมากไปเอง ไปจนถึงเรื่องที่สามีทำให้น้อยใจ เสียใจอยู่บ่อยครั้ง ทุกครั้งที่มีปัญหากัน ไม่ว่าจะผิดหรือถูก ดิฉันต้องเป็นฝ่ายยอม ฝ่ายง้อและขอโทษเขาทุกครั้ง ไม่งั้นสามีจะไม่พูดด้วย ไม่รับโทรศัพท์ หรือคุยด้วยความโกรธและวางหูโทรศัทพ์ใส่ เขาเป็นคนขี้โมโหง่าย ใช้เวลาง้อนานเป็นวันๆหรือบางทีเป็นอาทิตย์กว่าจะหายโกรธมาพูดด้วย
ครั้งล่าสุด สามีไม่สบายดิฉันมีโอกาสอยู่กับเขาดูแลเขาแค่สองวันหลังจากนั้นสามีก็ต้องขับรถออกต่างจังหวัดเพื่อกลับที่ทำงานเนื่องจากเจ้านายโทรมาตาม ก่อนกลับไปเล่าให้ดิฉันฟังว่าต้องจัดการงานมากมายเมื่อไปถึง และจะมีเพื่อนที่เป็นผู้หญิง มางานแต่งงานของเพื่อนที่ตัวเมือง เขาจะไปทานข้าวเลี้ยงข้าวเพื่อนคนนี้เพราะเคยอำนวยความสะดวกให้ดิฉันและแฟนเรื่องการหาที่อยู่ที่ต่างจังหวัดด้วย ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร เพราะเรารู้จักกันทั้งสามคน ก็เป็นเพียงแค่การบอกและดิฉันก็รับรู้ ไม่คิดว่าจะมีอะไรมากมาย โดนพื้นฐานแล้วสามีเป็นคนชอบ service สาวๆ ดิฉันก็มองว่า เพื่อนพ้อง น้องกัน แม้จะไม่พอใจบ้างแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร จะมีระแวงก็เก็บความกังวลไว้ในใจ รอให้เรื่องผ่านไป เพราะเคยทะเลาะกันแล้ว เขาก็โกรธ ไม่พูดไม่จา จนท้ายที่สุดดิฉันก็ต้องเป็นฝ่ายไปขอโทษอีก
วันที่สามีกลับไปดิฉันโทรหาไม่รับสายทั้งวัน ส่งแชทไปหาก็ไม่อ่าน เป็นห่วงว่าจะเป็นอะไรไหมเพราะขับรถระยะทางไกลกลับทั้งวันตั้งแต่เช้ามืดทั้งๆที่ตัวเองไม่สบาย เมื่อตรวจสอบประวัติการเดินทางจากสัญญานมือถือ ดิฉันพบว่าสามียังไม่กลับบ้าน แต่แวะไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ใจดิฉันทราบทันทีว่าเขาไปแวะรับเพื่อนคนนี้ไปเที่ยว ดิฉันรอจนช่วงเย็นสามีติดต่อกลับมาด้วยข้อความแชทคำสองคำ ดิฉันออกไปข้างนอกและลืมโทรศัพท์ทิ้งไว้ที่บ้าน ถึงเวลาค่ำเราได้คุยกันดิฉันบอกว่าดิฉันเป็นห่วงเขามาก ไปทำอะไร อยู่ที่ไหน ทำไมติดต่อไม่ได้ทั้งวัน สามีบอกว่าเข้าที่ทำงาน ไปทำธุระ แล้วต่อไปหาเพื่อนสนิท(ผู้ชาย) ที่บ้านอีกอำเภอหนึ่ง ไปนั่นนู่นนี่ แล้วกลับไปนอนงีบ จากนั้นถึงไปรับเพื่อนผู้หญิงคนนั้นไปทานข้าวเย็น เขาบอกว่าเจอกันแค่ช่วงเย็น ทานข้าวแล้วส่งกลับแค่นั้น ดิฉันยอมรับว่ามีลางสังหรณ์บางอย่างก็ให้นึกเอาโทรศัพท์ของตัวเองมาตรวจสอบหาประวัติของสัญญานของสามีอีกครั้งพบว่า มีการเดินทางไปที่ท่องเที่ยวที่เขาเคยพาดิฉันไปในช่วงเช้าจนบ่าย ใจมันหวิวอย่างบอกไม่ถูก คิดแต่ว่า นี่สามีโกหกเราหรือ ไหนว่าเจอกันช่วงเย็นเท่านั้น
วันนี้ดิฉันได้มีโอกาสเจอเพื่อนสาวคนนั้นก็ถามว่า สามีดิฉันพาไปเที่ยวที่ไหนบ้าง เนื่องจากในใจค่อนข้างแน่ใจว่าเขาพากันไปเที่ยว เพื่อนก็บอกว่าก็ไม่มาก ไม่ได้ไปกันเต็มวัน แค่ครึ่งวัน สถานที่ชื่ออะไรก็จำไม่ได้แล้วไปหลายที่อยู่ ดิฉันฟังได้แค่นี้ก็มีอันนั้นต้องจบบทสนทนาเนื่องจากเธอต้องเข้าลิฟท์ไป
จะคิดว่าเขาไปมีอะไรกันดิฉันก็มองไม่ออก เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ ข้อนี้ตัดไปได้ แต่จะพึงพอใจกันขั้นไหนลึกๆในใจดิฉันไม่ทราบได้เพราะดูแล้วเพื่อนคนนี้ก็ดีกับทั้งดิฉันและสามี วันนี้ดิฉันได้ถามสามีอีกครั้ง ว่าให้บอกได้ไหมว่าวันนั้นไปไหนบ้าง เขาก็เล่าเหมือนเดิม ดิฉันเลยบอกว่า ได้คุยกับเพื่อนแล้ว เขาบอกว่าคุณพาไปเที่ยวด้วย
นี่คือบทสนทนาคร่าวค่ะ
สามี : ทำไมทำอะไรให้ใครดีๆ ต้องซวยกลับมาทุกครั้ง ถ้าคิดว่ารู้อะไรทุกอย่างจะมาถามทำไม ชีวิตแต่งงานแบบนี้ผมไม่ชอบ ผมไม่ใช่เด็กเจ็ดแปดขวบต้องมารายงานตัวว่าไปไหนมาไหนกับใคร คุณไม่จำเป็นต้องรู้ทุกอย่าง อะไรไม่ใช่เรื่องสำคัญก็ไม่จำเป็นต้องรู้ คุณรู้คุณก็บ่น คุณจะมาบ่นว่าทำไมผมไม่พักทั้งๆที่ไม่สบาย เขาเคยช่วยเราผมก็ตอบแทนเวลามาที่นี่ก็เท่านั้น ผมจะไม่อธิบายอะไรอีกแล้ว
เรา : ฉันเสียใจที่คุณไม่เล่าความจริงให้ฟัง จะไปเที่ยวกันไม่เคยว่า ฉันชอบเขาก็เท่าๆกับคุณ แต่ทำไมต้องโกหกกันด้วย มันมีอะไรถึงบอกความจริงไม่ได้ เล่าไม่ได้ว่าไปไหนมา มันเป็นเรื่องผิดเหรอที่ไปเที่ยวกัน ถ้าไม่ผิดแล้วทำไมต้องโกหก ทำไมบอกว่าทานข้าวเย็นกันเท่านั้น ฉันรู้จากปากคนอื่นแล้วกลายเป็นว่าตรงกับสิ่งที่ฉันรู้ มันเกิดอะไรขึ้น
ดิฉันยอมรับว่าเสียใจมากที่รู้ความจริงจากเพื่อนคนนี้ ไม่คิดว่าสามีจะโกหกได้
บางคนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับดิฉันมีคำถามคาใจ ทำไมไม่เล่าความจริง ดิฉันจะไม่ว่าอะไรเลยเพราะเรารู้จักกันทั้งสามคน กับเพื่อนผู้หญิงคนอื่นที่เขาไปไหนมาไหนด้วยก็เล่าให้ดิฉันฟังทุกครั้ง ดิฉันก็ไม่ว่าอะไร ออกจะลืมๆไม่คิดอะไรเสียด้วยซ้ำ แล้วครั้งนี้มันคืออะไร
สรุปวันนี้จบลงด้วยการทะเลาะกัน (แทบทุกครั้งที่ทะเลาะกันเขาจะชอบพูดเรื่องหย่า) โดนวางหูโทรศัพท์ใส่ โทรไปไม่รับสาย กลับเข้าสู่วังวนเดิม ดิฉันต้องง้อกันข้ามจังหวัดอีก สำหรับดิฉันประเด็นไม่ใช่ไปกับคนอื่น ประเด็นคือ ทำไมต้องโกหกเอาเพื่อนคนนู่นคนนี้มาอ้าง ทำไมไม่เล่าให้ดิฉันฟังเหมือนที่เขาไปกับเพื่อนผู้หญิงคนอื่น ยอมอดหลับอดนอนเหนื่อยแสนเหนื่อย service กันแล้วเลือกที่จะมาโกหกดิฉัน