ดิฉันกับสามีคบหากันมา 5 ปี ก่อนหน้านี้เรามีปัญหากันบ้าง เพราะความขี้หึงของดิฉันอย่างหนัก เรียกว่าไม่ว่าเค้าจะคุยกับผู้หญิงคนไหน ก็มีปัญหาทะเลาะกันรุนแรงสะสมมานาน แต่ในความเป็นจริงสามีไม่เคยนอกใจเลย จนสุดท้ายสามีมาขอพิสูจน์ความจริงใจด้วยการจดทะเบียนสมรสกัน เมื่อต้นปี หลังจากนั้นเราก็ไม่มีปัญหากันสักพัก จนกระทั่งวังวนการหึงหวงเดิมๆ เริ่มเข้ามาอีก เพราะดิฉันจับสังเกตุได้ว่าสามีเปลี่ยนไป ฟังเพลงรัก ดูแลตัวเอง และห่างเหินกับดิฉันมากขึ้น จนสุดท้ายมีเหตุทะเลาะกันรุนแรง เค้าหายจากบ้านไป 1 เดือน
เค้าบอกว่าให้ดูแลตัวเองดี ๆ ห่างกันซักพักเค้าขออยู่อิสระตามใจตัวเองซักพัก ระหว่างที่ห่างกัน ดิฉันมีสภาพแย่มาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนต้องเข้า รพ. พอไปหาหมอดันตรวจพบกว่าตั้งครรภ์ แม่ดิฉันจึงโทรไปหาเค้าว่าดิฉันตั้งครรภ์ เค้าเลยกลับมาและสัญญาว่าจะกลับมาดูแลลูกเมีย และจะจัดงานแต่งงานกันต้นปีหน้าหลังจากคลอดลูก แต่พอกลับมาอยู่ด้วยกัน ดิฉันก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะมีเซ็นส์เรื่องผู้หญิงๆ วันนึงเค้าก็สารภาพว่าช่วงที่หายไป มีใครอีกคนเข้ามา และเค้ากำลัง ok กันมาก ๆ เข้าใจกัน รักกัน ผู้หญิงคนนั้นไม่หึงหวงจุกจิก ทำให้เค้ารู้สึกดีมากต่อกัน และเค้าบอกผู้หญิงคนนั้นว่าเลิกกับเมียแล้ว เลยสานต่อกันมา แต่เค้าก็สัญญาว่าจะเลือกดิฉันและลูก ถึงขนาดสัญญากับแม่ของดิฉันว่าจะเลิก
จากเดิมที่ขี้หึงอยู่แล้ว พอมารู้ว่ามีจริง ๆ ดิฉันก็ยิ่งบ้าหนัก หวาดระแวง ประกอบกับอาการฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเพราะตั้งครรภ์ ทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้นจนรุนแรง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเค้าก็ยืนยันจะเลือกดิฉันและแต่งงานกัน สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อทะเลาะกันรุนแรง เค้าออกไปหาผู้หญิงคนนั้นเพราะเบื่อดิฉัน จนกระทั่งมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าบอกว่าไม่เคยมี เพิ่งมามีตอนนี้
ส่วนทางด้านครอบครัวดิฉันก็เตรียมงานแต่งงานต่อไป จนมาไม่นานนี้ ทางผู้หญิงคนนั้นไม่ทราบว่ารู้เรื่องแต่งงานของเรา2คนได้อย่างไร จึงมีปํญหากับสามีดิฉัน ที่ไปหลอกลวงเค้าว่าเลิกกับเมียแล้ว สามีก็มีอาการเหมือนคนอกหัก บอกว่าโกรธดิฉันที่ทำลายความสุขของเค้า เค้าตั้งใจจะเลิกก่อนแต่งงาน (ปีหน้า) อยู่แล้ว แต่ไม่อยากเลิกแบบนี้ เค้าทรมานใจ เค้าลบรูปของดิฉันในเฟสบุคออก เอา status ที่คบกันออก และที่สำคัญห้ามดิฉันโพสต์รูป pre-wedding ลงใน facebook ของเราทั้ง 2 คน ดิฉันโกรธมาก จึงทะเลาะกันใหญ่โต จนเค้าเอ่ยว่าจะยกเลิกงานแต่งงาน เค้าเหนื่อย เค้าหมดใจกับดิฉันไปนานแล้ว เบื่อที่ไม่เคยไว้ใจจนเค้าทำจริง ๆ ให้ดิฉันรู้สึก ดิฉันเลยถามเค้ากลับไปว่าแล้วที่บอกรักกันมาตลอดหล่ะ เค้าจึงบอกว่าบอกไปตามหน้าที่ไม่อยากให้เครียด
ในส่วนตัวนิสัยเค้าเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เวลาโมโหก็จะร้ายรุนแรง แต่ปกติเป็นคนน่ารัก ที่ผ่านมาดิฉันผิดเองที่ไม่ไว้ใจกดดัน และเชื่ออยู่ลึกๆว่าเค้ายังรักเราอยู่ กับผู้หญิงคนนั้นคงเป็นความหลง ตอนนี้ได้แต่นอนกอดทะเบียนไว้ และไม่คิดจะหย่า เพราะคิดว่าลูกจะเป็นโซ่คล้องใจให้เค้ากลับมาดูแลครอบครัวได้อีกครั้ง ดิฉันเองพยายามที่จะนิ่ง สงบ ไม่ถาม ไม่ตาม ให้เค้าได้สบาย ๆ เพราะคนรอบข้างต่างพูดว่าให้เวลาเค้าหน่อย เค้ากำลังเครียด ส่วนตัวดิฉันตอนนี้เกิดอาการแท้งคุกคามเพราะความเครียด ทำให้ทานไม่ได้ นอนไม่ได้ และแพ้ท้องอย่างรุนแรง สามีก็ไม่ค่อยมาดูแล เนื่องจากทำงานที่ต้องเดินทางมาก
ใจหนึ่งก็อยากจะเด็ดเดี่ยวเข็มแข็งตัดใจเลิกกับผู้ชายคนนี้ไปซะ แต่ในใจลึกๆ ก็ห่วงหาอาทรและรักเค้ามาก ที่สำคัญไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ และพ่อแม่ดิฉันเองก็คาดหวังกับการแต่งงานครั้งนี้ และอยากให้ลูกสาวมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ทุกคนจึงบอกให้ดิฉันนิ่ง ๆ เพราะมีทะเบียนอยู่ ผู้หญิงอีกฝ่ายนึงก็กำลังโวยวายมีปัญหากับเค้าเรื่องโดนหลอก ทุกคนจึงคิดว่าเดี๋ยวเมียน้อยคงล่าถอยไปเอง และสามีคงกลับมาหาลูกเมียเหมือนเดิม ที่ผ่านมาเค้าก็ไม่เคยเจ้าชู้อาจจะมีคุยกิ๊กกั๊กบ้าง แต่ไม่เคยไปนอนกับใคร ไม่เคยมีใครเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ ดิฉันเองที่ตามราวี เช็ค ตามเค้าจนเค้าอึดอัด ตอนนี้ได้แต่หวังว่า ถ้าเราปรับปรุงตัวได้ เค้าจะกลับมาเป็นครอบครัวให้อีกครั้ง อีก 5 เดือนลูกก็จะคลอดแล้ว และเราจะแต่งงานกัน ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมด เวลาเค้ามีปัญหากับผู้หญิงคนนั้นหนัก ๆ เค้าก็จะมาขอหย่า และด่าทอว่าไม่น่าจดทะเบียนกับเราเลย แต่เวลาปกติถ้าเราไม่จุกจิกเซ้าซี้เค้าก็บอกรักและเลือกดิฉันแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่แต่งงานด้วย
ตอนนี้จึงกำลังสับสน ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ว่าควรพอหรือไปต่อดี ... บางครั้งเค้าก็บอกรัก บางครั้งเค้าก็บอกหมดรักมานานแล้ว ฉันควรเชื่อคำไหน ในเมื่อเค้าก็จะยืนยันจะแต่งงานกับดิฉันและเลือกดิฉันเป็นคู่ชีวิตของเค้า
ฉันควรพอหรือไปต่อดี
เค้าบอกว่าให้ดูแลตัวเองดี ๆ ห่างกันซักพักเค้าขออยู่อิสระตามใจตัวเองซักพัก ระหว่างที่ห่างกัน ดิฉันมีสภาพแย่มาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ จนต้องเข้า รพ. พอไปหาหมอดันตรวจพบกว่าตั้งครรภ์ แม่ดิฉันจึงโทรไปหาเค้าว่าดิฉันตั้งครรภ์ เค้าเลยกลับมาและสัญญาว่าจะกลับมาดูแลลูกเมีย และจะจัดงานแต่งงานกันต้นปีหน้าหลังจากคลอดลูก แต่พอกลับมาอยู่ด้วยกัน ดิฉันก็รู้สึกแปลก ๆ เพราะมีเซ็นส์เรื่องผู้หญิงๆ วันนึงเค้าก็สารภาพว่าช่วงที่หายไป มีใครอีกคนเข้ามา และเค้ากำลัง ok กันมาก ๆ เข้าใจกัน รักกัน ผู้หญิงคนนั้นไม่หึงหวงจุกจิก ทำให้เค้ารู้สึกดีมากต่อกัน และเค้าบอกผู้หญิงคนนั้นว่าเลิกกับเมียแล้ว เลยสานต่อกันมา แต่เค้าก็สัญญาว่าจะเลือกดิฉันและลูก ถึงขนาดสัญญากับแม่ของดิฉันว่าจะเลิก
จากเดิมที่ขี้หึงอยู่แล้ว พอมารู้ว่ามีจริง ๆ ดิฉันก็ยิ่งบ้าหนัก หวาดระแวง ประกอบกับอาการฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเพราะตั้งครรภ์ ทำให้เราทะเลาะกันมากขึ้นจนรุนแรง แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งเค้าก็ยืนยันจะเลือกดิฉันและแต่งงานกัน สถานการณ์เลวร้ายขึ้นเมื่อทะเลาะกันรุนแรง เค้าออกไปหาผู้หญิงคนนั้นเพราะเบื่อดิฉัน จนกระทั่งมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันจริง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เค้าบอกว่าไม่เคยมี เพิ่งมามีตอนนี้
ส่วนทางด้านครอบครัวดิฉันก็เตรียมงานแต่งงานต่อไป จนมาไม่นานนี้ ทางผู้หญิงคนนั้นไม่ทราบว่ารู้เรื่องแต่งงานของเรา2คนได้อย่างไร จึงมีปํญหากับสามีดิฉัน ที่ไปหลอกลวงเค้าว่าเลิกกับเมียแล้ว สามีก็มีอาการเหมือนคนอกหัก บอกว่าโกรธดิฉันที่ทำลายความสุขของเค้า เค้าตั้งใจจะเลิกก่อนแต่งงาน (ปีหน้า) อยู่แล้ว แต่ไม่อยากเลิกแบบนี้ เค้าทรมานใจ เค้าลบรูปของดิฉันในเฟสบุคออก เอา status ที่คบกันออก และที่สำคัญห้ามดิฉันโพสต์รูป pre-wedding ลงใน facebook ของเราทั้ง 2 คน ดิฉันโกรธมาก จึงทะเลาะกันใหญ่โต จนเค้าเอ่ยว่าจะยกเลิกงานแต่งงาน เค้าเหนื่อย เค้าหมดใจกับดิฉันไปนานแล้ว เบื่อที่ไม่เคยไว้ใจจนเค้าทำจริง ๆ ให้ดิฉันรู้สึก ดิฉันเลยถามเค้ากลับไปว่าแล้วที่บอกรักกันมาตลอดหล่ะ เค้าจึงบอกว่าบอกไปตามหน้าที่ไม่อยากให้เครียด
ในส่วนตัวนิสัยเค้าเป็นคนปากไม่ตรงกับใจ เวลาโมโหก็จะร้ายรุนแรง แต่ปกติเป็นคนน่ารัก ที่ผ่านมาดิฉันผิดเองที่ไม่ไว้ใจกดดัน และเชื่ออยู่ลึกๆว่าเค้ายังรักเราอยู่ กับผู้หญิงคนนั้นคงเป็นความหลง ตอนนี้ได้แต่นอนกอดทะเบียนไว้ และไม่คิดจะหย่า เพราะคิดว่าลูกจะเป็นโซ่คล้องใจให้เค้ากลับมาดูแลครอบครัวได้อีกครั้ง ดิฉันเองพยายามที่จะนิ่ง สงบ ไม่ถาม ไม่ตาม ให้เค้าได้สบาย ๆ เพราะคนรอบข้างต่างพูดว่าให้เวลาเค้าหน่อย เค้ากำลังเครียด ส่วนตัวดิฉันตอนนี้เกิดอาการแท้งคุกคามเพราะความเครียด ทำให้ทานไม่ได้ นอนไม่ได้ และแพ้ท้องอย่างรุนแรง สามีก็ไม่ค่อยมาดูแล เนื่องจากทำงานที่ต้องเดินทางมาก
ใจหนึ่งก็อยากจะเด็ดเดี่ยวเข็มแข็งตัดใจเลิกกับผู้ชายคนนี้ไปซะ แต่ในใจลึกๆ ก็ห่วงหาอาทรและรักเค้ามาก ที่สำคัญไม่อยากให้ลูกขาดพ่อ และพ่อแม่ดิฉันเองก็คาดหวังกับการแต่งงานครั้งนี้ และอยากให้ลูกสาวมีครอบครัวที่สมบูรณ์ ทุกคนจึงบอกให้ดิฉันนิ่ง ๆ เพราะมีทะเบียนอยู่ ผู้หญิงอีกฝ่ายนึงก็กำลังโวยวายมีปัญหากับเค้าเรื่องโดนหลอก ทุกคนจึงคิดว่าเดี๋ยวเมียน้อยคงล่าถอยไปเอง และสามีคงกลับมาหาลูกเมียเหมือนเดิม ที่ผ่านมาเค้าก็ไม่เคยเจ้าชู้อาจจะมีคุยกิ๊กกั๊กบ้าง แต่ไม่เคยไปนอนกับใคร ไม่เคยมีใครเป็นตัวเป็นตนแบบนี้ ดิฉันเองที่ตามราวี เช็ค ตามเค้าจนเค้าอึดอัด ตอนนี้ได้แต่หวังว่า ถ้าเราปรับปรุงตัวได้ เค้าจะกลับมาเป็นครอบครัวให้อีกครั้ง อีก 5 เดือนลูกก็จะคลอดแล้ว และเราจะแต่งงานกัน ทุกอย่างถูกเตรียมไว้หมด เวลาเค้ามีปัญหากับผู้หญิงคนนั้นหนัก ๆ เค้าก็จะมาขอหย่า และด่าทอว่าไม่น่าจดทะเบียนกับเราเลย แต่เวลาปกติถ้าเราไม่จุกจิกเซ้าซี้เค้าก็บอกรักและเลือกดิฉันแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่แต่งงานด้วย
ตอนนี้จึงกำลังสับสน ช่วยแนะนำหน่อยนะคะ ว่าควรพอหรือไปต่อดี ... บางครั้งเค้าก็บอกรัก บางครั้งเค้าก็บอกหมดรักมานานแล้ว ฉันควรเชื่อคำไหน ในเมื่อเค้าก็จะยืนยันจะแต่งงานกับดิฉันและเลือกดิฉันเป็นคู่ชีวิตของเค้า