ผมเป็นคนพุทธศาสนิกชนคนนึง ที่ไม่สามารถปล่อยให้ผู้อื่นบอกว่า
คนที่งมงายกราบบูชาเทวดา รูปปั้น ร่างทรง หลักกิโล พระกินสุกี้ ฯลฯ เหล่านี้เป็นพุทธศาสนา
ผมต้องการบอกทุกคนว่า ในทุกศาสนามีทั้ง
ผู้นับถือแท้ ผู้นับถือเทียม
ผู้เข้าถึงแก่น ผู้เข้าถึงแค่กระพี้
ผู้ปฏิบัติตาม ผู้แอบอ้างผลประโยชน์
ความงมงายของคนไทยที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนพุทธ
ไม่ต่างจากศาสนาอื่นที่งมงายการเข่นฆ่าเพื่ออ้างศาสนา
ตั้งแต่อดีตโบราณจนถึงปัจจุบัน
โดยแท้จริงศาสนาไม่ได้สอนให้ทำสิ่งเหล่านั้น
ถ้าไม่เห็นแก่ต้องรักษาน้ำใจศรัทธาใคร
ถ้าไม่เห็นแก่เราจะต้องรักษากาย วาจา ใจ ให้อารมณ์เป็นผู้ปฏิบัติดีชอบ
ผมสามารถเหยียบเสากิโล กระทืบรูปปั้นเทวดา ตบกระโหลกร่างทรง กระทืบคนแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทุกที่
ติดแค่ว่าพุทธศาสนาชิกชนที่ดีทำอย่างนั้นไม่ได้
ซึ่งนั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขาดการควบคุมการปฏิบัติของชาวพุทธในองค์รวม
ใครใคร่จะไหว้อะไรไหว้ ใครใคร่จะปั้นรูปอะไรใหญ่ยักษ์เพื่อทำพุทธพาณิชย์ทำ
โดยไม่มีใครเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ทางศาสนาออกมาเตือน
และบอกกับสังคมว่า
สิ่งนี้ไม่ใช่พุทธ
สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง
สิ่งนี้ไม่ควรทำ
สิ่งนี้ไม่ควรนำมากล่าวอ้างว่าเป็นชาวพุทธ
แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป กลายเป็นชาวพุทธเป็นผู้งมงายในสังคม
แก่นพุทธศาสนากล่าวว่า สิ่งที่นำไปสู่ความเจริญคือการปฏิบัติของตัวเอง (มรรคมีองค์ 8)
แต่ไม่เคยบอกให้อ้อนวอนร้องขอจากสิ่งใด
ซึ่งการกระทำเพื่อนำไปสู่ความเจริญนั่นมันทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอเค้าทำไม่ได้
เพราะการร้องขอโดยไม่ต้องทำอะไรเองเป็นสิ่งที่ง่ายกว่า
มันจึงเต็มไปด้วยชาวบ้านที่งมงายโดยมีศาสนาในบัตรประชาชนว่าชาวพุทธ
คนชอบพูดว่าทำอะไรแล้วสบายใจก็พอ
แต่แท้จริงพุทธศาสนาได้สอนการแก้ปัญหาทุกสรรพสิ่ง (อริยสัจ4)
และการทำจิตไปสู่ความสบายใจ (พรหมวิหาร4) ไว้อยู่แล้ว
แต่คนเหล่านั้นไม่สนใจ เพราะขอทานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ง่ายกว่า
ผมขอเป็นตัวแทนพุทธศาสนานิกชน
ที่ขอบอกให้ทราบว่า คนที่ไหว้เทวดา ไหว้หมูหน้าหมา ไหว้ต้นไม้ ไหว้หลักกิโลฯ
ไม่ได้ทำในฐานะชาวพุทธศาสนิกชนครับ
ยิ่งเข้าถึงแก่นพุทธศาสนา ยิ่งกล้าลบหลู่
คนที่งมงายกราบบูชาเทวดา รูปปั้น ร่างทรง หลักกิโล พระกินสุกี้ ฯลฯ เหล่านี้เป็นพุทธศาสนา
ผมต้องการบอกทุกคนว่า ในทุกศาสนามีทั้ง
ผู้นับถือแท้ ผู้นับถือเทียม
ผู้เข้าถึงแก่น ผู้เข้าถึงแค่กระพี้
ผู้ปฏิบัติตาม ผู้แอบอ้างผลประโยชน์
ความงมงายของคนไทยที่เรียกตัวเองว่าเป็นคนพุทธ
ไม่ต่างจากศาสนาอื่นที่งมงายการเข่นฆ่าเพื่ออ้างศาสนา
ตั้งแต่อดีตโบราณจนถึงปัจจุบัน
โดยแท้จริงศาสนาไม่ได้สอนให้ทำสิ่งเหล่านั้น
ถ้าไม่เห็นแก่ต้องรักษาน้ำใจศรัทธาใคร
ถ้าไม่เห็นแก่เราจะต้องรักษากาย วาจา ใจ ให้อารมณ์เป็นผู้ปฏิบัติดีชอบ
ผมสามารถเหยียบเสากิโล กระทืบรูปปั้นเทวดา ตบกระโหลกร่างทรง กระทืบคนแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ได้ทุกที่
ติดแค่ว่าพุทธศาสนาชิกชนที่ดีทำอย่างนั้นไม่ได้
ซึ่งนั่นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขาดการควบคุมการปฏิบัติของชาวพุทธในองค์รวม
ใครใคร่จะไหว้อะไรไหว้ ใครใคร่จะปั้นรูปอะไรใหญ่ยักษ์เพื่อทำพุทธพาณิชย์ทำ
โดยไม่มีใครเป็นตัวแทนหรือสัญลักษณ์ทางศาสนาออกมาเตือน
และบอกกับสังคมว่า
สิ่งนี้ไม่ใช่พุทธ
สิ่งนี้ไม่ถูกต้อง
สิ่งนี้ไม่ควรทำ
สิ่งนี้ไม่ควรนำมากล่าวอ้างว่าเป็นชาวพุทธ
แล้วก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไป กลายเป็นชาวพุทธเป็นผู้งมงายในสังคม
แก่นพุทธศาสนากล่าวว่า สิ่งที่นำไปสู่ความเจริญคือการปฏิบัติของตัวเอง (มรรคมีองค์ 8)
แต่ไม่เคยบอกให้อ้อนวอนร้องขอจากสิ่งใด
ซึ่งการกระทำเพื่อนำไปสู่ความเจริญนั่นมันทำให้คนที่จิตใจอ่อนแอเค้าทำไม่ได้
เพราะการร้องขอโดยไม่ต้องทำอะไรเองเป็นสิ่งที่ง่ายกว่า
มันจึงเต็มไปด้วยชาวบ้านที่งมงายโดยมีศาสนาในบัตรประชาชนว่าชาวพุทธ
คนชอบพูดว่าทำอะไรแล้วสบายใจก็พอ
แต่แท้จริงพุทธศาสนาได้สอนการแก้ปัญหาทุกสรรพสิ่ง (อริยสัจ4)
และการทำจิตไปสู่ความสบายใจ (พรหมวิหาร4) ไว้อยู่แล้ว
แต่คนเหล่านั้นไม่สนใจ เพราะขอทานจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ง่ายกว่า
ผมขอเป็นตัวแทนพุทธศาสนานิกชน
ที่ขอบอกให้ทราบว่า คนที่ไหว้เทวดา ไหว้หมูหน้าหมา ไหว้ต้นไม้ ไหว้หลักกิโลฯ
ไม่ได้ทำในฐานะชาวพุทธศาสนิกชนครับ