ฝากนิยายเรื่องนี้ด้วยนะคะ
พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังจะโผล่พ้นซอกตึกสูงใจกลางเมืองหลวงเพื่อทำหน้าที่สาดส่องอำนวยแสงให้กับทุกสรรพสิ่ง ผ้าม่านสีฟ้า เรียบหรูพลิ้วไหวไปตามแรงลม กาแฟร้อนกลิ่นหอมฉุยยังคงคุณค่าของกาแฟชั้นดีไว้ได้อย่างครบถ้วนเพราะไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดเจือปนอยู่เลยถูกบรรจุอยู่ในแก้วกระเบื้องทรงสูงสีฟ้าที่ถูกมือเรียวยาวโอบไว้ทั้งสองมือเพราะต้องการไออุ่นเพื่อบรรเทาไอเย็นจากแรงลมบนตึกสูง
ธีรดาเหม่อมองท้องฟ้าในยามเช้าบนระเบียงคอนโดสูงเฉียดฟ้าอย่างสบายอารมณ์ นานมากแล้วที่เธอไม่มีเวลาได้อยู่กับตัวเองแบบนี้ เวลาที่สมองปลอดโปร่งโล่งเตียนจากเรื่องงาน ที่ผ่านมาเธอมีชีวิตกับการทำงานเต็มสัปดาห์ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ เหตุผลเพราะเธอรักในงานและมีความสุขเสมอที่ได้ทำมัน และงานยังทำให้เธอลืมทุกอย่างรวมถึงใครคนนั้น … ที่เธอเฝ้าฝัน … อยากลืม
หญิงสาวหันหลังให้กับทิวทัศน์มองเข้าไปในห้อง หลายสิ่งหลายอย่างในห้องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัวรวมถึงของตกแต่งภายใน หญิงสาวกระตุกยิ้มนึกเยาะตัวเอง ความจริงแล้วสีฟ้าไม่ใช่สีที่เธอชอบที่สุด แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้สักครั้งที่จะไม่เลือกซื้อสิ่งที่เธอต้องการเป็นสีนี้ ธีรดาทอดความคิดไปไกลถึงคนที่ชอบสีนี้ …
กริ้งๆๆๆ
หญิงสาวหันมองโทรศัพท์บ้านที่กำลังดังอยู่ แน่ใจว่าถ้าเดินไปดูมือถือที่วางทิ้งไว้ในห้องนอนต้องมีเบอร์ที่ไม่ได้รับเป็นสิบสายจากเบอร์เดียวกันแน่ๆ หญิงสาวส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายเพราะมีไม่กี่คนหรอกที่รู้เบอร์ที่คอนโดและก็เดาได้ง่ายๆว่าน่าจะเป็นสายจากใคร ธีรดาหมายมาดว่าต้องรีบออกไปจากห้องนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงสัญญาณพวกนี้อีก เพราะหลังจากนี้ยาวไปอีกหนึ่งอาทิตย์มันจะเป็นวันพักผ่อนของเธอ และคงไม่มีที่ใดที่เธออยากไปนอกจากบ้าน หากแต่เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่ยอมหยุดจนหญิงสาวอ่อนใจยอมแพ้เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาแนบหู แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรปลายสายก็รีบชิงพูดมาก่อนราวกับว่าถ้าช้ากว่านี้จะไม่มีโอกาสได้พูด
“พี่เองจ่ะดา อย่าเพิ่งอารมณ์เสียและห้ามวางสายก่อนพี่พูดจบด้วย” นั่นๆทำมาเผด็จการในเวลาส่วนตัวของเธอ หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ตั้งใจให้ปลายสายได้ยินทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำไปก็เท่านั้น เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่สลดหรอกกับเรื่องแบบนี้ จิตใจของพี่ท่านทนทานกล้าแข็งจะตาย
“ว่ามาค่ะ ดามีเวลาให้พี่ไม่เกินห้านาทีดาจะกลับบ้านแล้ว”
“ดา คือ! เอ่อ! พี่…” แต่พอได้รับโอกาส ชายหนุ่มกลับเกิดอาการอ้ำอึ้งไปต่อไม่ได้ เพราะลำบากใจกับเรื่องที่จะพูด
“หมดเวลาแล้วค่ะพี่กริชลาก่อนนะคะ ลายาวๆเลยด้วยอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยเจอกันนะคะ” ธีรดากำลังจะวางสายแต่ก็ต้องชะงักซะก่อน
“ด่ะ ดะ เดี๋ยวๆดาฟังพี่ก่อน” ชายหนุ่มทำเสียงสูงในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความร้อนรนท่าทางผิดปกติมาก ตั้งแต่คบกันมาหนุ่มหล่อมั่นใจในตัวเองสูงมากจนเป็นหลงตัวเองอย่างเขาไม่เคยมีอาการแบบนี้
“พี่ก็ช่วยรีบพูดมาสิคะ อ้ำอึ้งอยู่ได้ดาไม่ได้ว่างมากนะ”
“มากไปละๆเป็นน้องเป็นนุ่งพูดแบบนี้กับพี่ได้ยังไง” ชายหนุ่มทำเป็นแข็งกลับมาบ้างเพื่อไม่ให้เสียการปกครอง...มากนัก
“คือ…พี่มีเรื่องสำคัญจะขอให้ดาช่วย” พอจะเข้าเรื่องเสียงของชายหนุ่มแผ่วๆลงไปอีก
“ถ้ามันไม่เกี่ยวกับลาพักร้อนหนึ่งอาทิตย์ของดา ดาก็ยินดีค่ะ”
ธีรดารีบปิดทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ แต่ลางสังหรณ์ของเธอมันบอกว่ายังไง้ ยังไงก็ต้องเกี่ยวแน่ๆล้านเปอร์เซ็นต์
“คือพี่มีข้อเสนอใหม่มาให้ดา”
‘เฮ่อ!’ ผิดจากที่คิดเสียที่ไหน ธีรดานึกเยาะ
“ไม่ค่ะ แบบเดิมดีอยู่แล้ว เท่านี้ก่อนนะคะดาผิดเวลามาเยอะแล้ว” หญิงสาวแข็งใจไม่อยากต่อความยาวให้เข้าเนื้อตัวเอง เธอไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้ว
“พักร้อนหนึ่งเดือน”
“หือ” หญิงสาวถึงกับหูผึ่งดึงโทรศัพท์กลับมาแนบที่หูอีกครั้ง และครั้งนี้โทรศัพท์มันกลับแนบแน่นอยู่ที่ใบหูยิ่งกว่าครั้งไหนๆเธออยากแน่ใจว่าที่ได้ยินเมื่อกี้เธอได้ยินไม่ผิด
“ขอซ้ำคำเดิมอีกทีคะ” กริชใจชื้นเมื่อน้องสาวมีน้ำเสียงสนใจข้อเสนอ
“ช้าๆชัดๆเลยนะน้องรัก พักร้อนหนึ่งเดือนเต็มแลกกับการที่ดาออกแบบและตกแต่งคอนโดให้กับคนสำคัญของพี่” ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าฟังไม่ผิดเกี่ยวกับการพักร้อนหนึ่งเดือน แต่เธอสะดุดกับคำว่า
‘คนสำคัญ’ ว่าแต่พี่ชายเธอแอบไปมีคนสำคัญตอนไหนเนี่ย ก็ทำงานอยู่ด้วยกันตลอดได้ห่างกันบ้างก็ตอนแยกกันไปประชุมหรือไม่ก็ตอนออกไปพบลูกค้า
“พี่กริขแอบไปมีคนสำคัญตอนไหนเนี่ย อย่าบอกนะว่าพี่ไปตกหลุมแม่นางงามร้อยสิบแปดหลอดนั่นเข้าแล้ว” เธอจำยังได้ดีเพราะหล่อนคือความทรงจำเลวร้าย
วันนั้น...
เป็นวันทำงานที่แสนจะปกติของทุกคนในออฟฟิศ แต่อยู่ดีๆนางงามหลงเวทีก็โผล่เข้ามาสร้างความผิดปกติโดยเฉพาะกับเธอ เพราะหล่อนตั้งใจจะมาตบเธอข้อหาแย่งสามี เอ้ย!! คนรักของหล่อนก็คือพี่ชายเธอนั่นเอง ทำเธอปวดหัวแทบแตก กลุ้มใจกับคนสวยไร้สมอง
“อุ่ย!! ไม่ใช่ซิ่ คนนั้นเลิกคบไปนานแล้วแต่คนนี้เพิ่งได้เจอกัน รักแรกพบเลยหละดา” ชายหนุ่มเคลิ้มไปเมื่อคิดถึงนางในฝัน
“แรกพบมากี่ร้อยครั้งแล้วคะคุณพี่” ธีรดาหยอกขัดอารมณ์
“มากไปๆอันนี้รักแรกพบจริงๆ” คนพี่ยืนยันเสียงหนักแน่น
“แล้วทำไมต้องให้ดาทำงานนี้ด้วยล่ะ คนมีฝีมือในบริษัทเรา
ไม่ใช่น้อยนะ” เป็นอีกประเด็นที่เธอไม่เข้าใจ
“เธอขอเป็นดาเท่านั้น”
“หือ…ทำไมคะ?”
“งั้นเดี๋ยวเรามาคุยรายละเอียดกันนะ พี่นัดเธอไว้ร้านเดิมตอนบ่ายครึ่งแล้วเจอกันนะ ตื๊ดๆๆๆ”
“ด่ะ ดะ เดี๋ยว พ่ะ พะ พี่” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบรับหรือปฏิเสธ ชายหนุ่มก็รีบวางสายไปก่อนเพราะรู้ทางกันดี ทิ้งให้ปลายสายมองโทรศัพท์ด้วยความขัดเคืองใจเล็กๆ ‘อะไรกัน’ มัดมือชกเธอเหรอเนี่ยร้ายกาจมากไอ้คุณพี่จอมเจ้าเล่ห์ หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆระอาใจกับความมึนซึนของพี่ชายตัวดีและเชื่อเถอะว่าถ้าโทรกลับไปพี่เจ้าก็จะไม่ยอมรับสายเธอแน่นอน แต่ลึกๆเธอตื่นเต้นอยากเห็นผู้หญิงคนนั้นนะ เธอรู้ดีสำหรับพี่กริชแค่สวยไม่พอหรอก เพราะไอ้ที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ทุกวันนี้ก็ระดับนางฟ้านางสวรรค์ทั้งนั้นลำบากเธอต้องคอยเป็นไม้กันหมา เอ้ย!! เป็นองครักษ์พิทักษ์คุณชายอยู่เสมอเพราะเธอมีหน้าตาเป็นอาวุธ เท่าที่จำความได้เธอต้องทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
ความจริงเธอกับพี่กริชไม่ใช่พี่น้องแท้ๆที่คลานตามกันออกมา
พี่กริชเป็นรุ่นพี่ที่คณะเราเจอกันครั้งแรกในวันรับน้อง พี่กริชเป็นผู้ชายที่ดูดีมากมากจนเกินมนุษย์เดินดิน หล่อเหลาประมาณพระเอกหนังพระเอกละครได้เลย เธอยังเคยนึกสงสัยเลยว่าทำไมเขาไม่ไปเอาดีด้านนี้นะ เพราะพี่ท่านทั้งตัวสูงขายาว ผิวขาว ตาคม จมูกโด่งเป็นสันสูง ริมฝีปากบางเฉียบและจะแดงระเรื่ออยู่ตลอด แค่เขาเดินผ่านสาวๆก็พากันเคลิ้มเป็นทิวแถวแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับเธอแน่นอนเพราะเธอมีภูมิต้านทานผู้ชายหล่อสูงมาก
เธอจำได้ดีในวันนั้นพี่กริชพยายามหาประเด็นเพื่อให้ได้เข้ามาใกล้ชิดเธอ ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าสิ่งที่พี่กริชทำตอนนั้นเขาเรียกว่าจีบ แต่เธอก็ตอบกลับไปได้แค่การเป็นรุ่นน้องที่ดีเท่านั้น และตอนจับคู่พี่-น้องรหัส ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือพี่กริชใช้มนต์ดำกันแน่ เพราะเธอได้พี่รหัสเป็นพี่กริช ในตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกพระเจ้าลงโทษเพราะมันจะไม่ใช่แค่เรื่องที่พี่กริชพยายามจีบเธอ แต่มันหมายถึงเธอจะกลายเป็นที่สนใจไปด้วยในฐานะน้องรหัสของรุ่นพี่สุดหล่อเห็นได้ชัดว่าสายตาของบรรดาสาวๆที่มองมายังเธอมันไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
แต่ก็ใช่ว่าอะไรๆมันจะเลวร้ายไปซะหมดเพราะการที่เราได้เป็นพี่รหัสน้องรหัสกัน มันทำให้เราได้พูดคุยกันมากขึ้นช่วยเหลือและดูแลกัน ภาพสวยงามที่เคยแสดงต่อกันก็ค่อยๆจางหายไปทีละนิดๆจนแทบจะไม่เหลือแม้สักนิดให้ได้เห็น นอกจากหล่อ รวยและมีสมองเป็นทรัพย์แล้ว นอกนั้นเธอก็แทบจะไม่เห็นความดีอะไรของเขาอีกเลย ทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมาล้วนสร้างภาพทั้งสิ้น บางเรื่องก็ทำเธออึ้งไปหลายนาทีไม่อยากจะเชื่อว่าหนุ่มที่ดูเจ้าสำอางหล่อปานเทพอย่างเขาจะทำได้ ยกตัวอย่างกันสักเรื่อง
พี่กริชจะเป็นคนติดผ้าเช็ดหน้ามาก ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกอะไรเพราะน่าจะเป็นวิสัยปกติของหนุ่มหล่อเจ้าสำอางทั่วไป แต่!! เธอสังเกตเห็นหลายครั้งที่เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าลายเดิม สีเดิมติดกันอยู่หลายวันทั้งเอาไปซับหน้า เช็ดน้ำมูกหรือแม้แต่เช็ดมือ เธอจึงถามออกไปเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง และคำตอบที่ได้มาก็ไม่ผิดอย่างที่คิด คือมันเป็นผ้าผืนเดิมจริงๆ กริชมีท่าทีเขินอายที่เธอดูออกว่าไม่ได้รู้สึกจริงๆอย่างท่าทาง เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อกริชไปนอนคอนโดไม่ได้กลับบ้าน ดังนั้นเขาจะไม่มีคนดูแลและเขาก็จะทำอะไรแบบง่ายๆหรือที่เรียกกันว่ามักง่ายนั่นเอง คือพี่กริชจะมีกางเกงตัวเก่งที่ใส่บ่อยๆและผ้าเช็ดหน้าก็จะอยู่ในกระเป๋ากางเกงและเมื่อกางเกงไม่ได้ซักก็จะพาให้ผ้าเช็ดหน้าพลอยไม่ได้ซักไปด้วยและเขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรที่จะล้วงมันออกมาใช้ซับทุกอย่าง
หลังจากที่ผ่านวิกฤติเรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างกันมาได้ท่าทีที่แสดงต่อกันก็เปลี่ยนไปกลายเป็นพี่น้องต่างสายเลือดที่รักและห่วงใยกันอย่างจริงใจ และเรื่องที่พี่กริชขอความช่วยเหลือมาในวันนี้มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร อีกอย่างการได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่พี่ชายพอใจมันก็ทำให้เธอได้มีโอกาสดูนิสัยใจคอของอีกฝ่ายเพื่อช่วยพี่กริชพิจารณาอีกแรง
หลังจากวางหูจากธีรดา กริชก็นั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยฝันหวานถึงนางในฝัน เรื่องมันเริ่มต้นจากที่เค้าเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งกำลังยืนดูหนังสืออยู่ในร้านหนังสือ พอเดินไปใกล้ก็เห็นว่ามันเป็นหนังสือตกแต่งบ้านและคอนโดแค่เท่านั้นเลือดนักออกแบบมันก็พลุ่งพล่านเค้าจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปชวนหล่อนคุย แนะนำตัวเองว่ามีความรู้เรื่องออกแบบพอจะให้คำปรึกษาได้ แต่ตอนนั้นก็เหมือนจะหน้าแตกเพราะสาวเจ้าไม่แสดงท่าทีว่าจะสนใจอะไรเป็นพิเศษเลยเหมือนจะเลี่ยงๆไม่อยากคุยด้วยซ้ำ สุดท้ายเค้าก็ต้องยอมถอนสมอออกมาเพราะพ่ายแพ้ต่อความเฉยชา แต่ก็ไม่ทิ้งโอกาสซะทีเดียวเค้าได้ยื่นนามบัตรให้หล่อน ยังดีที่หล่อนยอมรับมันไปไม่งั้นเค้าคงจะเสียศูนย์ขาดความมั่นใจไปมากกว่านี้ ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับหนุ่มหล่ออย่างเค้าที่ไหน
ในตอนนั้นก็คิดว่าเรื่องคงจะจบและคงจะไม่ได้เจอกันอีก เพราะความน่าจะเป็นที่หล่อนจะสนใจมันเป็นศูนย์ชัดๆ ไม่คิดเลยว่านอกจากยัยดาแล้วยังจะมีผู้หญิงคนไหนมองเมินความหล่อของเค้า อย่างน้อยๆถึงจะไม่รู้ว่าบ้านรวยแต่หน้าหล่อๆของเค้าก็เป็นใบเบิกทางที่ดีมาเสมอ แต่วันนี้ความหล่อของเค้ากลับใช้ไม่ได้กับผู้หญิงคนนี้ แต่แปลก!! เค้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างคล้ายดา
แล้วอยู่มาวันหนึ่งเลขาหน้าห้องก็โทรเข้ามาบอกว่ามีสายนอกจากคนที่เค้าได้ให้นามบัตรไว้ที่ร้านหนังสือในห้างจะรับไหม เค้ารู้ทันทีว่าต้องเป็นเธอคนนั้น เท่านั้นแหละงานที่เคยล้นมือก่อนหน้านั้นหดหายไปสิ้นลนลานรีบให้เลขาโอนสายเข้ามา
แต่เมื่อได้พบกันเค้าก็แอบผิดหวังเล็กๆ เพราะนางในฝันเข้าโหมดเรื่องงานทันทีไม่มีท่าทีสนใจเค้าบ้างเลย แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปว่าถ้ามีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวมันก็จะทำให้มีโอกาสเจอกันอีกแน่นอน แต่กำลังร่าเริงอยู่ดีๆเค้าก็ต้องปวดหัวจี๊ด เพราะคุณเธอต้องการตกแต่งคอนโดโดยมีเงื่อนไขว่านักออกแบบต้องเป็นธีรดา เจ้าของรางวัล Thermodynamic cooler เวที Incheon International Design Award 2008 จากประเทศเกาหลีเท่านั้น เค้าเสนอคนอื่นไปหล่อนก็ไม่สนใจ อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องเจาะจงเป็นดาเพราะนักออกแบบมีฝีมือในบริษัทมีมากมายส่วนใหญ่ก็ผ่านเวทีแข่งขันมีรางวัลการันตีกันมาแล้วทั้งนั้น หล่อนให้เหตุผลว่าได้เห็นผลงานของธีรดาที่ได้รางวัลที่เกาหลี เธอรู้สึกชื่นชอบรูปแบบผลงานมาก เธอจึงอยากได้คนออกแบบที่เธอชื่นชม ถ้าเหตุผลนี้เค้าก็พอเข้าใจ เพราะมีลูกค้าไม่น้อยที่วิ่งมาที่นี่เพราะชื่อเสียงของธีรดา แต่ก็ต้องมาหนักใจต่อว่าเจ้าน้องตัวดีจะยอมหรือเปล่า เพราะเค้าเพิ่งอนุมัติพักร้อนให้ไปเองและอีกเป็นอาทิตย์กว่าหล่อนจะกลับเข้ามาทำงาน
V
V
V
นิยาย Yuri เพียงเธอคือหัวใจของฉัน 1
พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังจะโผล่พ้นซอกตึกสูงใจกลางเมืองหลวงเพื่อทำหน้าที่สาดส่องอำนวยแสงให้กับทุกสรรพสิ่ง ผ้าม่านสีฟ้า เรียบหรูพลิ้วไหวไปตามแรงลม กาแฟร้อนกลิ่นหอมฉุยยังคงคุณค่าของกาแฟชั้นดีไว้ได้อย่างครบถ้วนเพราะไม่มีสิ่งแปลกปลอมใดเจือปนอยู่เลยถูกบรรจุอยู่ในแก้วกระเบื้องทรงสูงสีฟ้าที่ถูกมือเรียวยาวโอบไว้ทั้งสองมือเพราะต้องการไออุ่นเพื่อบรรเทาไอเย็นจากแรงลมบนตึกสูง
ธีรดาเหม่อมองท้องฟ้าในยามเช้าบนระเบียงคอนโดสูงเฉียดฟ้าอย่างสบายอารมณ์ นานมากแล้วที่เธอไม่มีเวลาได้อยู่กับตัวเองแบบนี้ เวลาที่สมองปลอดโปร่งโล่งเตียนจากเรื่องงาน ที่ผ่านมาเธอมีชีวิตกับการทำงานเต็มสัปดาห์ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เธอยังเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ เหตุผลเพราะเธอรักในงานและมีความสุขเสมอที่ได้ทำมัน และงานยังทำให้เธอลืมทุกอย่างรวมถึงใครคนนั้น … ที่เธอเฝ้าฝัน … อยากลืม
หญิงสาวหันหลังให้กับทิวทัศน์มองเข้าไปในห้อง หลายสิ่งหลายอย่างในห้องนี้ส่วนใหญ่จะเป็นสีฟ้า ไม่ว่าจะเป็นของใช้ส่วนตัวรวมถึงของตกแต่งภายใน หญิงสาวกระตุกยิ้มนึกเยาะตัวเอง ความจริงแล้วสีฟ้าไม่ใช่สีที่เธอชอบที่สุด แต่เธอก็ห้ามตัวเองไม่ได้สักครั้งที่จะไม่เลือกซื้อสิ่งที่เธอต้องการเป็นสีนี้ ธีรดาทอดความคิดไปไกลถึงคนที่ชอบสีนี้ …
กริ้งๆๆๆ
หญิงสาวหันมองโทรศัพท์บ้านที่กำลังดังอยู่ แน่ใจว่าถ้าเดินไปดูมือถือที่วางทิ้งไว้ในห้องนอนต้องมีเบอร์ที่ไม่ได้รับเป็นสิบสายจากเบอร์เดียวกันแน่ๆ หญิงสาวส่ายหน้าเหนื่อยหน่ายเพราะมีไม่กี่คนหรอกที่รู้เบอร์ที่คอนโดและก็เดาได้ง่ายๆว่าน่าจะเป็นสายจากใคร ธีรดาหมายมาดว่าต้องรีบออกไปจากห้องนี้โดยเร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงสัญญาณพวกนี้อีก เพราะหลังจากนี้ยาวไปอีกหนึ่งอาทิตย์มันจะเป็นวันพักผ่อนของเธอ และคงไม่มีที่ใดที่เธออยากไปนอกจากบ้าน หากแต่เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่ยอมหยุดจนหญิงสาวอ่อนใจยอมแพ้เดินเข้าไปหยิบมันขึ้นมาแนบหู แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรปลายสายก็รีบชิงพูดมาก่อนราวกับว่าถ้าช้ากว่านี้จะไม่มีโอกาสได้พูด
“พี่เองจ่ะดา อย่าเพิ่งอารมณ์เสียและห้ามวางสายก่อนพี่พูดจบด้วย” นั่นๆทำมาเผด็จการในเวลาส่วนตัวของเธอ หญิงสาวถอนหายใจเฮือกใหญ่ตั้งใจให้ปลายสายได้ยินทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าทำไปก็เท่านั้น เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่สลดหรอกกับเรื่องแบบนี้ จิตใจของพี่ท่านทนทานกล้าแข็งจะตาย
“ว่ามาค่ะ ดามีเวลาให้พี่ไม่เกินห้านาทีดาจะกลับบ้านแล้ว”
“ดา คือ! เอ่อ! พี่…” แต่พอได้รับโอกาส ชายหนุ่มกลับเกิดอาการอ้ำอึ้งไปต่อไม่ได้ เพราะลำบากใจกับเรื่องที่จะพูด
“หมดเวลาแล้วค่ะพี่กริชลาก่อนนะคะ ลายาวๆเลยด้วยอีกหนึ่งอาทิตย์ค่อยเจอกันนะคะ” ธีรดากำลังจะวางสายแต่ก็ต้องชะงักซะก่อน
“ด่ะ ดะ เดี๋ยวๆดาฟังพี่ก่อน” ชายหนุ่มทำเสียงสูงในน้ำเสียงแฝงไปด้วยความร้อนรนท่าทางผิดปกติมาก ตั้งแต่คบกันมาหนุ่มหล่อมั่นใจในตัวเองสูงมากจนเป็นหลงตัวเองอย่างเขาไม่เคยมีอาการแบบนี้
“พี่ก็ช่วยรีบพูดมาสิคะ อ้ำอึ้งอยู่ได้ดาไม่ได้ว่างมากนะ”
“มากไปละๆเป็นน้องเป็นนุ่งพูดแบบนี้กับพี่ได้ยังไง” ชายหนุ่มทำเป็นแข็งกลับมาบ้างเพื่อไม่ให้เสียการปกครอง...มากนัก
“คือ…พี่มีเรื่องสำคัญจะขอให้ดาช่วย” พอจะเข้าเรื่องเสียงของชายหนุ่มแผ่วๆลงไปอีก
“ถ้ามันไม่เกี่ยวกับลาพักร้อนหนึ่งอาทิตย์ของดา ดาก็ยินดีค่ะ”
ธีรดารีบปิดทางเพื่อรักษาผลประโยชน์ แต่ลางสังหรณ์ของเธอมันบอกว่ายังไง้ ยังไงก็ต้องเกี่ยวแน่ๆล้านเปอร์เซ็นต์
“คือพี่มีข้อเสนอใหม่มาให้ดา”
‘เฮ่อ!’ ผิดจากที่คิดเสียที่ไหน ธีรดานึกเยาะ
“ไม่ค่ะ แบบเดิมดีอยู่แล้ว เท่านี้ก่อนนะคะดาผิดเวลามาเยอะแล้ว” หญิงสาวแข็งใจไม่อยากต่อความยาวให้เข้าเนื้อตัวเอง เธอไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรอีกแล้ว
“พักร้อนหนึ่งเดือน”
“หือ” หญิงสาวถึงกับหูผึ่งดึงโทรศัพท์กลับมาแนบที่หูอีกครั้ง และครั้งนี้โทรศัพท์มันกลับแนบแน่นอยู่ที่ใบหูยิ่งกว่าครั้งไหนๆเธออยากแน่ใจว่าที่ได้ยินเมื่อกี้เธอได้ยินไม่ผิด
“ขอซ้ำคำเดิมอีกทีคะ” กริชใจชื้นเมื่อน้องสาวมีน้ำเสียงสนใจข้อเสนอ
“ช้าๆชัดๆเลยนะน้องรัก พักร้อนหนึ่งเดือนเต็มแลกกับการที่ดาออกแบบและตกแต่งคอนโดให้กับคนสำคัญของพี่” ตอนนี้เธอแน่ใจแล้วว่าฟังไม่ผิดเกี่ยวกับการพักร้อนหนึ่งเดือน แต่เธอสะดุดกับคำว่า
‘คนสำคัญ’ ว่าแต่พี่ชายเธอแอบไปมีคนสำคัญตอนไหนเนี่ย ก็ทำงานอยู่ด้วยกันตลอดได้ห่างกันบ้างก็ตอนแยกกันไปประชุมหรือไม่ก็ตอนออกไปพบลูกค้า
“พี่กริขแอบไปมีคนสำคัญตอนไหนเนี่ย อย่าบอกนะว่าพี่ไปตกหลุมแม่นางงามร้อยสิบแปดหลอดนั่นเข้าแล้ว” เธอจำยังได้ดีเพราะหล่อนคือความทรงจำเลวร้าย
วันนั้น...
เป็นวันทำงานที่แสนจะปกติของทุกคนในออฟฟิศ แต่อยู่ดีๆนางงามหลงเวทีก็โผล่เข้ามาสร้างความผิดปกติโดยเฉพาะกับเธอ เพราะหล่อนตั้งใจจะมาตบเธอข้อหาแย่งสามี เอ้ย!! คนรักของหล่อนก็คือพี่ชายเธอนั่นเอง ทำเธอปวดหัวแทบแตก กลุ้มใจกับคนสวยไร้สมอง
“อุ่ย!! ไม่ใช่ซิ่ คนนั้นเลิกคบไปนานแล้วแต่คนนี้เพิ่งได้เจอกัน รักแรกพบเลยหละดา” ชายหนุ่มเคลิ้มไปเมื่อคิดถึงนางในฝัน
“แรกพบมากี่ร้อยครั้งแล้วคะคุณพี่” ธีรดาหยอกขัดอารมณ์
“มากไปๆอันนี้รักแรกพบจริงๆ” คนพี่ยืนยันเสียงหนักแน่น
“แล้วทำไมต้องให้ดาทำงานนี้ด้วยล่ะ คนมีฝีมือในบริษัทเรา
ไม่ใช่น้อยนะ” เป็นอีกประเด็นที่เธอไม่เข้าใจ
“เธอขอเป็นดาเท่านั้น”
“หือ…ทำไมคะ?”
“งั้นเดี๋ยวเรามาคุยรายละเอียดกันนะ พี่นัดเธอไว้ร้านเดิมตอนบ่ายครึ่งแล้วเจอกันนะ ตื๊ดๆๆๆ”
“ด่ะ ดะ เดี๋ยว พ่ะ พะ พี่” ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะตอบรับหรือปฏิเสธ ชายหนุ่มก็รีบวางสายไปก่อนเพราะรู้ทางกันดี ทิ้งให้ปลายสายมองโทรศัพท์ด้วยความขัดเคืองใจเล็กๆ ‘อะไรกัน’ มัดมือชกเธอเหรอเนี่ยร้ายกาจมากไอ้คุณพี่จอมเจ้าเล่ห์ หญิงสาวส่ายหน้าน้อยๆระอาใจกับความมึนซึนของพี่ชายตัวดีและเชื่อเถอะว่าถ้าโทรกลับไปพี่เจ้าก็จะไม่ยอมรับสายเธอแน่นอน แต่ลึกๆเธอตื่นเต้นอยากเห็นผู้หญิงคนนั้นนะ เธอรู้ดีสำหรับพี่กริชแค่สวยไม่พอหรอก เพราะไอ้ที่วิ่งหนีหัวซุกหัวซุนอยู่ทุกวันนี้ก็ระดับนางฟ้านางสวรรค์ทั้งนั้นลำบากเธอต้องคอยเป็นไม้กันหมา เอ้ย!! เป็นองครักษ์พิทักษ์คุณชายอยู่เสมอเพราะเธอมีหน้าตาเป็นอาวุธ เท่าที่จำความได้เธอต้องทำหน้าที่นี้มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว
ความจริงเธอกับพี่กริชไม่ใช่พี่น้องแท้ๆที่คลานตามกันออกมา
พี่กริชเป็นรุ่นพี่ที่คณะเราเจอกันครั้งแรกในวันรับน้อง พี่กริชเป็นผู้ชายที่ดูดีมากมากจนเกินมนุษย์เดินดิน หล่อเหลาประมาณพระเอกหนังพระเอกละครได้เลย เธอยังเคยนึกสงสัยเลยว่าทำไมเขาไม่ไปเอาดีด้านนี้นะ เพราะพี่ท่านทั้งตัวสูงขายาว ผิวขาว ตาคม จมูกโด่งเป็นสันสูง ริมฝีปากบางเฉียบและจะแดงระเรื่ออยู่ตลอด แค่เขาเดินผ่านสาวๆก็พากันเคลิ้มเป็นทิวแถวแล้ว แต่เรื่องแบบนี้ไม่เกิดขึ้นกับเธอแน่นอนเพราะเธอมีภูมิต้านทานผู้ชายหล่อสูงมาก
เธอจำได้ดีในวันนั้นพี่กริชพยายามหาประเด็นเพื่อให้ได้เข้ามาใกล้ชิดเธอ ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าสิ่งที่พี่กริชทำตอนนั้นเขาเรียกว่าจีบ แต่เธอก็ตอบกลับไปได้แค่การเป็นรุ่นน้องที่ดีเท่านั้น และตอนจับคู่พี่-น้องรหัส ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆหรือพี่กริชใช้มนต์ดำกันแน่ เพราะเธอได้พี่รหัสเป็นพี่กริช ในตอนนั้นเธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกพระเจ้าลงโทษเพราะมันจะไม่ใช่แค่เรื่องที่พี่กริชพยายามจีบเธอ แต่มันหมายถึงเธอจะกลายเป็นที่สนใจไปด้วยในฐานะน้องรหัสของรุ่นพี่สุดหล่อเห็นได้ชัดว่าสายตาของบรรดาสาวๆที่มองมายังเธอมันไม่เป็นมิตรเอาซะเลย
แต่ก็ใช่ว่าอะไรๆมันจะเลวร้ายไปซะหมดเพราะการที่เราได้เป็นพี่รหัสน้องรหัสกัน มันทำให้เราได้พูดคุยกันมากขึ้นช่วยเหลือและดูแลกัน ภาพสวยงามที่เคยแสดงต่อกันก็ค่อยๆจางหายไปทีละนิดๆจนแทบจะไม่เหลือแม้สักนิดให้ได้เห็น นอกจากหล่อ รวยและมีสมองเป็นทรัพย์แล้ว นอกนั้นเธอก็แทบจะไม่เห็นความดีอะไรของเขาอีกเลย ทุกสิ่งที่เขาแสดงออกมาล้วนสร้างภาพทั้งสิ้น บางเรื่องก็ทำเธออึ้งไปหลายนาทีไม่อยากจะเชื่อว่าหนุ่มที่ดูเจ้าสำอางหล่อปานเทพอย่างเขาจะทำได้ ยกตัวอย่างกันสักเรื่อง
พี่กริชจะเป็นคนติดผ้าเช็ดหน้ามาก ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกอะไรเพราะน่าจะเป็นวิสัยปกติของหนุ่มหล่อเจ้าสำอางทั่วไป แต่!! เธอสังเกตเห็นหลายครั้งที่เขาใช้ผ้าเช็ดหน้าลายเดิม สีเดิมติดกันอยู่หลายวันทั้งเอาไปซับหน้า เช็ดน้ำมูกหรือแม้แต่เช็ดมือ เธอจึงถามออกไปเพื่อความแน่ใจว่าเธอไม่ได้คิดไปเอง และคำตอบที่ได้มาก็ไม่ผิดอย่างที่คิด คือมันเป็นผ้าผืนเดิมจริงๆ กริชมีท่าทีเขินอายที่เธอดูออกว่าไม่ได้รู้สึกจริงๆอย่างท่าทาง เหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นเมื่อกริชไปนอนคอนโดไม่ได้กลับบ้าน ดังนั้นเขาจะไม่มีคนดูแลและเขาก็จะทำอะไรแบบง่ายๆหรือที่เรียกกันว่ามักง่ายนั่นเอง คือพี่กริชจะมีกางเกงตัวเก่งที่ใส่บ่อยๆและผ้าเช็ดหน้าก็จะอยู่ในกระเป๋ากางเกงและเมื่อกางเกงไม่ได้ซักก็จะพาให้ผ้าเช็ดหน้าพลอยไม่ได้ซักไปด้วยและเขาก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรที่จะล้วงมันออกมาใช้ซับทุกอย่าง
หลังจากที่ผ่านวิกฤติเรื่องรักๆใคร่ๆระหว่างกันมาได้ท่าทีที่แสดงต่อกันก็เปลี่ยนไปกลายเป็นพี่น้องต่างสายเลือดที่รักและห่วงใยกันอย่างจริงใจ และเรื่องที่พี่กริชขอความช่วยเหลือมาในวันนี้มันก็ไม่ได้หนักหนาอะไร อีกอย่างการได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงที่พี่ชายพอใจมันก็ทำให้เธอได้มีโอกาสดูนิสัยใจคอของอีกฝ่ายเพื่อช่วยพี่กริชพิจารณาอีกแรง
หลังจากวางหูจากธีรดา กริชก็นั่งยิ้มเล็กยิ้มน้อยฝันหวานถึงนางในฝัน เรื่องมันเริ่มต้นจากที่เค้าเห็นผู้หญิงสวยคนหนึ่งกำลังยืนดูหนังสืออยู่ในร้านหนังสือ พอเดินไปใกล้ก็เห็นว่ามันเป็นหนังสือตกแต่งบ้านและคอนโดแค่เท่านั้นเลือดนักออกแบบมันก็พลุ่งพล่านเค้าจึงรวบรวมความกล้าเข้าไปชวนหล่อนคุย แนะนำตัวเองว่ามีความรู้เรื่องออกแบบพอจะให้คำปรึกษาได้ แต่ตอนนั้นก็เหมือนจะหน้าแตกเพราะสาวเจ้าไม่แสดงท่าทีว่าจะสนใจอะไรเป็นพิเศษเลยเหมือนจะเลี่ยงๆไม่อยากคุยด้วยซ้ำ สุดท้ายเค้าก็ต้องยอมถอนสมอออกมาเพราะพ่ายแพ้ต่อความเฉยชา แต่ก็ไม่ทิ้งโอกาสซะทีเดียวเค้าได้ยื่นนามบัตรให้หล่อน ยังดีที่หล่อนยอมรับมันไปไม่งั้นเค้าคงจะเสียศูนย์ขาดความมั่นใจไปมากกว่านี้ ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้กับหนุ่มหล่ออย่างเค้าที่ไหน
ในตอนนั้นก็คิดว่าเรื่องคงจะจบและคงจะไม่ได้เจอกันอีก เพราะความน่าจะเป็นที่หล่อนจะสนใจมันเป็นศูนย์ชัดๆ ไม่คิดเลยว่านอกจากยัยดาแล้วยังจะมีผู้หญิงคนไหนมองเมินความหล่อของเค้า อย่างน้อยๆถึงจะไม่รู้ว่าบ้านรวยแต่หน้าหล่อๆของเค้าก็เป็นใบเบิกทางที่ดีมาเสมอ แต่วันนี้ความหล่อของเค้ากลับใช้ไม่ได้กับผู้หญิงคนนี้ แต่แปลก!! เค้ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีบางอย่างคล้ายดา
แล้วอยู่มาวันหนึ่งเลขาหน้าห้องก็โทรเข้ามาบอกว่ามีสายนอกจากคนที่เค้าได้ให้นามบัตรไว้ที่ร้านหนังสือในห้างจะรับไหม เค้ารู้ทันทีว่าต้องเป็นเธอคนนั้น เท่านั้นแหละงานที่เคยล้นมือก่อนหน้านั้นหดหายไปสิ้นลนลานรีบให้เลขาโอนสายเข้ามา
แต่เมื่อได้พบกันเค้าก็แอบผิดหวังเล็กๆ เพราะนางในฝันเข้าโหมดเรื่องงานทันทีไม่มีท่าทีสนใจเค้าบ้างเลย แต่ก็คิดเข้าข้างตัวเองไปว่าถ้ามีเรื่องงานเข้ามาเกี่ยวมันก็จะทำให้มีโอกาสเจอกันอีกแน่นอน แต่กำลังร่าเริงอยู่ดีๆเค้าก็ต้องปวดหัวจี๊ด เพราะคุณเธอต้องการตกแต่งคอนโดโดยมีเงื่อนไขว่านักออกแบบต้องเป็นธีรดา เจ้าของรางวัล Thermodynamic cooler เวที Incheon International Design Award 2008 จากประเทศเกาหลีเท่านั้น เค้าเสนอคนอื่นไปหล่อนก็ไม่สนใจ อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมต้องเจาะจงเป็นดาเพราะนักออกแบบมีฝีมือในบริษัทมีมากมายส่วนใหญ่ก็ผ่านเวทีแข่งขันมีรางวัลการันตีกันมาแล้วทั้งนั้น หล่อนให้เหตุผลว่าได้เห็นผลงานของธีรดาที่ได้รางวัลที่เกาหลี เธอรู้สึกชื่นชอบรูปแบบผลงานมาก เธอจึงอยากได้คนออกแบบที่เธอชื่นชม ถ้าเหตุผลนี้เค้าก็พอเข้าใจ เพราะมีลูกค้าไม่น้อยที่วิ่งมาที่นี่เพราะชื่อเสียงของธีรดา แต่ก็ต้องมาหนักใจต่อว่าเจ้าน้องตัวดีจะยอมหรือเปล่า เพราะเค้าเพิ่งอนุมัติพักร้อนให้ไปเองและอีกเป็นอาทิตย์กว่าหล่อนจะกลับเข้ามาทำงาน
V
V
V