เทวทูตที่รัก บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 12 สำนึกของหัวใจ
http://pantip.com/topic/30511626
บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
เสียงหวีดหวิวเหมือนคนผิวปากดังแว่วมาตามลม แม้จะอยู่ในห้องราฟาเอลกลับได้ยินมันอย่างแจ่มชัดเหมือนดังอยู่ข้างตัว สำหรับคนธรรมดา สิ่งที่ด้ยินอาจเป็นเพียงเสียงค้างคาวหรือสัตว์หากินยามค่ำคืนแต่สัมผัสพิเศษเหนือมนุษย์ทำให้เทวดาหนุ่มรู้ว่าเสียงเหล่านั้นคือสำเนียงจากบริวารของจอมอเวจี
ความวิตกฉุดราฟาเอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ เนตรทิพย์มองทะลุผ่านผนังห้องออกไปด้านนอกและกวาดมองไปโดยรอบแต่กลับไม่พบสิ่งใด เพื่อความไม่ประมาทเทวดาหนุ่มจึงเพ่งสมาธิเพิ่มอำนาจการมองไกลออกไป ทั้งท้องฟ้า พื้นดินกระทั่งใต้พื้นพิภพ น่าแปลกที่เขาไม่เจอปิศาจร้ายสักตัว
แล้วเสียงเหล่านั้นมาจากไหน ราฟาเอลตั้งคำถามกับตัวเองและใจหายวาบเมื่อคำตอบผุดขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน
ลูซิเฟอร์
เทวดาหนุ่มถอยไปยืนข้างเตียงและมองน้ำทิพย์ด้วยความเป็นห่วง ถึงเขาจะสร้างพลังป้องกันไว้รอบบ้านแต่ก็กันได้แค่สมุนชั้นปลายแถวเท่านั้น มันจะมีสภาพไม่ต่างจากฟองสบู่ทันทีหากผู้บุกเข้ามาคือจอมมาร
สิ่งที่ราฟาเอลหวาดหวั่นไม่ใช่การปรากฏตัวของลูซิเฟอร์ หากแต่เป็นความปลอดภัยของน้ำทิพย์ จอมปิศาจจะต้องหาทางทำร้ายเธอแน่เพราะรู้ดีว่าสำหรับเขาแล้ว เธอคือจุดอ่อนสำคัญ
ปีกสีขาวสะบัดกางออกขณะที่เทวดาหนุ่มถอยไปยืนจนชิดกับเตียง เขาไม่ยอมปล่อยให้น้ำทิพย์ต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างเด็ดขาด ต่อให้ต้องต่อสู้กับกองทัพปิศาจทั้งนรก มือโสโครกของพวกมันจะไม่มีวันแตะต้องหญิงสาวได้แม้ปลายนิ้ว เพื่อปกป้องเธอต่อให้ต้องกวัดแกว่งดาบนับพันครั้งหรือต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยอม
เทวดาหนุ่มยืนตั้งท่ารับการโจมตีอยู่เช่นนั้นเกือบสองชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่าลูซิเฟอร์จะบุกเข้ามา ผ่านไปจนถึงครึ่งคืนทุกอย่างยังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นสาดซ่ากระทบฝั่ง สลับกับเสียงกระแสลมยามดึกและเสียงครวญคร่ำของเหล่าวิญญาณหลงทางในทะเลเท่านั้น ราฟาเอลจึงรู้ว่าเสียงที่ได้ยินตอนหัวค่ำเป็นเพียงคำเตือนจากจอมปิศาจที่ต้องการจะบอกว่า รู้ดีว่าเขาและ
น้ำทิพย์ซ่อนตัวอยู่ที่ใด ความเกร็งเครียดทั้งหมดจึงคลายลงแต่ถึงกระนั้นเทวดาหนุ่มก็ยังไม่ประมาท เขาเพิ่มพลังสร้างกำแพงป้องกันให้แข็งแกร่งมากขึ้นก่อนจะลากเก้าอี้มาไว้ข้างเตียงด้วยความตั้งใจว่าจะนั่งเฝ้าระวังอยู่เช่นนั้นจนถึงรุ่งเช้าแต่ความเป็นห่วงน้ำทิพย์ทำให้ราฟาเอลเปลี่ยนใจ เขาหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนข้างกายหญิงสาว มือไล้ใบหน้างามอย่างอ่อนโยนและก้มลงจุมพิตหน้าผาก จากนั้นจึงกางปีกออกคลุมร่างของเธอไว้เพื่อป้องกันมิให้อำนาจมืดมากล้ำกราย
ทันทีที่สัมผัสตัวของน้ำทิพย์ ราฟาเอลต้องประหลาดใจเมื่อมีพลังอันอบอุ่นไหลเข้ามาในกายของเขา เทวดาหนุ่มมองหญิงสาวอย่างพินิจและมุ่นคิ้วน้อยๆเมื่อพบว่าความเจ็บปวดจากบาดแผลบนปีกทุเลาลง พลังบางส่วนฟื้นคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์ ความสงสัยทำให้เขาลองผละจากเธอ พลังดังกล่าวก็ขาดหายไป เมื่อเทวดาหนุ่มแตะหญิงสาวอีกครั้ง พลังงานลึกลับก็ซึบซับเข้าสู่กายของเขาอย่างดังเช่นคราแรก ราฟาเอลจึงนั่งลงบนเตียงและมองดวงหน้างามซึ่งยังคงหลับสนิทอย่างใช้ความคิด ความเป็นเทวทูตผู้ได้รับการยกย่องว่า เทวดาแห่งการรักษา ทำให้เขาเดินทางไปมาระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์อยู่หลายครั้ง แม้จะพบคนที่มีพรสวรรค์พิเศษอยู่บ้างแต่ไม่เคยเจอใครที่มีพลังแบบนี้
เทวดาหนุ่มคลี่ปีกออกคลุมกายของน้ำทิพย์อีกครั้งพร้อมกับหลับตาลง แม้ไม่อยากจะเชื่อแต่กระแสที่กำลังซึบซับเข้ามาในร่างเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าหญิงสาวผู้นี้มีได้รับพรอันสูงค่าจากพระผู้เป็นเจ้า
ถึงจะเบาบางแต่ก็เป็นพลังแห่งการเยียวยาเช่นเดียวกับเขาอย่างแน่นอน
เทวดาหนุ่มหวนนึกถึงคำอธิษฐานขณะร่วงลงมาจากสวรรค์ บางทีการที่เขาตกลงไปในบ้านของน้ำทิพย์อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ราฟาเอลเงยหน้าขึ้นมองผ่านทะลุหลังคาบ้าน เลยท้องฟ้าไปยังเบื้องบน หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประสงค์ของพระองค์ ป่านนี้มิคาเอลคงรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ใด
เมื่อรู้แล้วยังรออะไรอยู่ ราฟาเอลตั้งคำถามและใจหายวาบเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจอมทัพแห่งสรวงสวรรค์กำลังรอสัญญาณ เมื่อใดที่แตรสวรรค์ดังขึ้น กองทัพของมิคาเอลจะยาตรามายังแผ่นดินมนุษย์ ถล่มเมืองคนบาปให้พินาศในพริบตา
ความกังวลทำให้เทวดาหนุ่มเผลอขยับปีกข้างที่คลุมน้ำทิพย์ หญิงสาวพลิกตัวพร้อมกับบ่นพึมพำสองสามคำ ความกลัวว่าเธอจะตกใจตื่นเขาจึงโบกมือผ่านใบหน้าของเธอหนึ่งครั้ง ละอองระยิบระยับปรากฏขึ้นในอากาศ มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะกระจายไปทั่วร่างซึมผ่านเข้าไปในผิวกาย ความความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบกายก่อให้เกิดความสุขดุจทารกน้อยในครรภ์มารดาน้ำทิพย์จึงกลับเข้าสู่ห้วงนิทราดังเดิม
พอแน่ใจว่าหญิงสาวหลับสนิทแล้วราฟาเอลก็วกกลับมายังเรื่องที่คิดเมื่อครู่ อำนาจมืดของลูซิเฟอร์อาจจะดูร้ายแรงแต่ยังน้อยนักหากเทียบกับพลังทำลายของกองทัพจากสวรรค์ ความกลัดกลุ้มที่เคยมีมาตลอดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะถ้าทั้งสองฝ่ายลงมือพร้อมกัน เขาคงสุดปัญญาที่จะรับมือ
น้ำทิพย์จะเป็นยังไง ถ้าเมืองนี้ถูกทำลาย
เขาตั้งคำถามกับตัวเองและขบกรามแน่น หากเกิดเหตุการณ์นั้นจริงสิ่งเดียวที่ทำได้คือพาเธอหนีไปให้พ้น แต่น้ำทิพย์คงไม่ยอม เธอจะต้องหาทางช่วยเพื่อนและทุกๆคนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง
ราฟาเอลมองหญิงสาวซึ่งกำลังเบียดเข้ามาซุกกับอก แม้บางครั้งเธอจะมีความคิดพิสดารออกแนวพิเรนไปบ้างแต่ความจริงแล้วน้ำทิพย์มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์สมกับชื่อ ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งหากคนดีเช่นนี้ต้องรับทัณฑ์จากสวรรค์ เขาคิดพลางไล้พวงแก้มปลั่งด้วยความห่วงใย หญิงสาวขยับพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ใบหน้างามปราศจากความกังวลเหมือนมั่นใจที่มีเขาอยู่เคียงข้างทำให้เทวดาหนุ่มตัดสินใจในวินาทีนั้นว่า จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ แม้ว่าจะต้องสู้กับจอมปิศาจ
ลูซิเฟอร์หรือกองทัพสวรรค์ของมิคาเอล
*/*/*/*/*/*
น้ำทิพย์ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า ตอนแรกเธอตั้งใจจะลุกแต่ความง่วงงุนผลักดันให้หญิงสาวหลับตาลงและซุกหน้ากับหมอนใบโตที่เคยทำเป็นประจำ พอซบลงไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะสัมผัสคราวนี้กลับแปลกไปจากเคย แทนที่จะพบกับความอ่อนนุ่มเหมือนทุกครั้งกลับกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ดูตึงแน่น ไม่เพียงเท่านั้น ขนาดที่เคยพอดีกับอ้อมแขนตอนนี้กลับกว้างจนแทบโอบไม่รอบ ความสงสัยทำให้น้ำทิพย์จำต้องลืมตาขึ้นดู ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าเมื่อพบว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังซุกอยู่ไม่ใช่หมอนแต่เป็นแผ่นอกแข็งแกร่งของเทวดา ที่น่าอายกว่านั้นก็คือ แขนของเธอไม่ได้กอดหมอนข้าง แต่เป็นลำตัวของราฟาเอล
ความตระหนกทำให้หญิงสาวตั้งใจจะขยับถอยออกห่างแต่ทำไม่ได้เพราะตัวเธอเองในตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของเทวดาหนุ่ม ความอายทำให้ดวงหน้าผุดผาดแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตอนแรกน้ำทิพย์ตั้งใจจะต่อว่าแต่พอเห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งไม่ขยับเธอจึงคิดว่าเขายังคงหลับสนิท ความอยากรู้ว่าหน้าตาเทวดาตอนหลับนั้นเป็นอย่างไร น้ำทิพย์จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง หัวใจเริ่มเต้นจนแทบจะไม่เป็นจังหวะเมื่อพบว่าหน้าของราฟาเอลยามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน ดวงตาปิดสนิททำให้เห็นขนตาสีน้ำตาลเข้มเด่นชัดขึ้น หญิงสาวไม่เคยสังเกตเลยว่ามันจะเรียงกันเป็นแผงสวยงามถึงขนาดนี้ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนหยักได้รูป ในความคิดของน้ำทิพย์มันช่างดูเย้ายวนชวนให้จุมพิต ความกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำเช่นนั้นหญิงสาวจึงเลื่อนสายตาต่ำลงมา หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากอกเมื่อเห็นแผ่นอกเปลือยเปล่าของราฟาเอล
น้ำทิพย์อยากจะกรีดร้องให้ดังลั่นไปถึงสามโลก ไม่ใช่เพราะความอับอาย หากแต่เป็นความตื่นเต้นที่เธอได้มีโอกาสซุกหน้าชนิดเนื้อแนบเนื้อกับเทวดา
ก่อนสติจะกระเจิดกระเจิงไปมากกว่านั้น เธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมราฟาเอลถึงอยู่ในสภาพนี้ ทั้งที่ก่อนนอนเธอเห็นชัดๆว่าเขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย จะบอกว่าเป็นเพราะความร้อนก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเธอเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำทั้งบ้านตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าพัก
หรือเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน จะเป็นไปได้ยังไงเพราะแม้จะเป็นผู้ชายแต่ราฟาเอลก็เป็นถึงอัครเทวดา เทวดาย่อมไม่มีความรู้สึกแบบมนุษย์ อีกอย่างเขาอยู่ตามลำพังกับเธอมาหลายวัน หากคิดจะทำเช่นนั้นจริงคงฉวยโอกาสลงมือไปนานแล้ว
แล้วเขาถอดเสื้อทำไม
น้ำทิพย์ตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขยับอยู่ทางด้านหลังของราฟาเอล เมื่อผงกหัวขึ้นดูหญิงสาวจึงรู้ว่ามันคือปีกและเข้าใจในทันทีว่าเทวดาหนุ่มถอดเสื้อเพื่อขยับมันได้สะดวก
ตอนต่อสู้กับลูซิเฟอร์กับตอนขับไล่นักศึกษาผีดิบ ราฟาเอลก็กางปีกออกเหมือนกัน ทำไมเขาจึงยังสวมเสื้อผ้าอยู่ล่ะ
เสียงแย้งดังขึ้นภายในใจ น้ำทิพย์ขมวดคิ้วพลางนึกหาเหตุผล ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนรักษาตัว เทวดาหนุ่มก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น การถอดเสื้อเมื่อคืนนี้น่าจะมาจากสาเหตุเดียวกัน
เดี๋ยว ตอนนั้นเขาเปลือยกายทั้งตัวนี่นา
น้ำทิพย์กลืนน้ำลายลงคอใบหน้าแดงก่ำ หัวใจที่เริ่มเข้าสู่ความสงบเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันแทบจะทะลุทะลวงออกมาจากอก
นอนอยู่ด้วยกันแบบนี้ ราฟาเอลคงไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า หญิงสาวบอกตัวเอง เพื่อพิสูจน์ความคิดเธอจึงตัดสินใจขยับร่างกายส่วนล่างหมายเสียดสีกับอีกฝ่ายให้หายสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ เสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยทักขึ้นมาเสียก่อน
“อรุณสวัสดิ์”
น้ำทิพย์หน้าแดงก่ำ เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตา แต่กระนั้นก็ยังพึมพำตอบ
“อ...อรุณสวัสดิ์” หญิงสาวมองแขนที่โอบรอบตัว ราฟาเอลจึงรีบคลายมันออกพร้อมกับอธิบาย
“ขอโทษที่ไม่สุภาพกับคุณ แต่เมื่อคืนนี้ลูซิเฟอร์ส่งเสียงเตือนมาให้ได้ยิน ผมจึงจำเป็นต้องเพิ่มพลังป้องกัน”
เขาก้าวลงจากเตียงและลุกยืนขึ้น น้ำทิพย์จึงถอนใจพรืดออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็แอบนึกเสียดายอยู่นิดๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงสวมกางเกง
“ทำไมต้องถอดเสื้อด้วย” หญิงสาวถามและรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้เมื่อคิดได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรพูด แต่เทวดาหนุ่มกลับก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงลุแก่โทษ
“ผมดึงพลังออกมามากไปหน่อย”
“ถึงขนาดเผาเสื้อของตัวเองเนี่ยนะ” น้ำทิพย์ร้องและก้มหน้าลงสำรวจที่นอน “โชคดีที่ฟูกไม่พลอยไหม้ไปด้วย”
ราฟาเอลหัวเราะเบาๆ
“พลังป้องกันไม่ร้อนแรงเหมือนเพลิงสวรรค์ มันทำได้แค่สลายอณูของสิ่งที่เข้ามาสัมผัสให้กลายเป็นฝุ่นผงเท่านั้น”
คำอธิบายของเขาทำให้น้ำทิพย์รีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาดูและไล่สายตาตรวจร่างกายของตัวเองทันที
“ทำแบบนั้นแล้วตัวฉันไม่พลอยแตกเป็นผงไปด้วยเหรอ”
เธอถาม ราฟาเอลสั่นศีรษะ
“มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกัน ไม่ใช่ทำลาย”
“แล้วทำไมเสื้อนายถึง...” หญิงสาวสวนคำถามทันควัน รอยยิ้มยังคงแต้มอยู่บนใบหน้าเทวดาหนุ่มขณะตอบ
“เพราะมันไม่ใช่เสื้อของเทวดา”
คำตอบแบบกำปั้นทุบดินเล่นเอาน้ำทิพย์ถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อตั้งสติได้เธอจึงคว้าหมอนปาใส่ราฟาเอลและหน้าง้ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายรับไว้ด้วยมือข้างเดียว
เทวทูตที่รัก บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 12 สำนึกของหัวใจ
http://pantip.com/topic/30511626
บทที่ 13 ปีกแห่งแสง
เสียงหวีดหวิวเหมือนคนผิวปากดังแว่วมาตามลม แม้จะอยู่ในห้องราฟาเอลกลับได้ยินมันอย่างแจ่มชัดเหมือนดังอยู่ข้างตัว สำหรับคนธรรมดา สิ่งที่ด้ยินอาจเป็นเพียงเสียงค้างคาวหรือสัตว์หากินยามค่ำคืนแต่สัมผัสพิเศษเหนือมนุษย์ทำให้เทวดาหนุ่มรู้ว่าเสียงเหล่านั้นคือสำเนียงจากบริวารของจอมอเวจี
ความวิตกฉุดราฟาเอลลุกขึ้นจากเก้าอี้ เนตรทิพย์มองทะลุผ่านผนังห้องออกไปด้านนอกและกวาดมองไปโดยรอบแต่กลับไม่พบสิ่งใด เพื่อความไม่ประมาทเทวดาหนุ่มจึงเพ่งสมาธิเพิ่มอำนาจการมองไกลออกไป ทั้งท้องฟ้า พื้นดินกระทั่งใต้พื้นพิภพ น่าแปลกที่เขาไม่เจอปิศาจร้ายสักตัว
แล้วเสียงเหล่านั้นมาจากไหน ราฟาเอลตั้งคำถามกับตัวเองและใจหายวาบเมื่อคำตอบผุดขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน
ลูซิเฟอร์
เทวดาหนุ่มถอยไปยืนข้างเตียงและมองน้ำทิพย์ด้วยความเป็นห่วง ถึงเขาจะสร้างพลังป้องกันไว้รอบบ้านแต่ก็กันได้แค่สมุนชั้นปลายแถวเท่านั้น มันจะมีสภาพไม่ต่างจากฟองสบู่ทันทีหากผู้บุกเข้ามาคือจอมมาร
สิ่งที่ราฟาเอลหวาดหวั่นไม่ใช่การปรากฏตัวของลูซิเฟอร์ หากแต่เป็นความปลอดภัยของน้ำทิพย์ จอมปิศาจจะต้องหาทางทำร้ายเธอแน่เพราะรู้ดีว่าสำหรับเขาแล้ว เธอคือจุดอ่อนสำคัญ
ปีกสีขาวสะบัดกางออกขณะที่เทวดาหนุ่มถอยไปยืนจนชิดกับเตียง เขาไม่ยอมปล่อยให้น้ำทิพย์ต้องตกอยู่ในอันตรายอย่างเด็ดขาด ต่อให้ต้องต่อสู้กับกองทัพปิศาจทั้งนรก มือโสโครกของพวกมันจะไม่มีวันแตะต้องหญิงสาวได้แม้ปลายนิ้ว เพื่อปกป้องเธอต่อให้ต้องกวัดแกว่งดาบนับพันครั้งหรือต้องเอาชีวิตเข้าแลกก็ยอม
เทวดาหนุ่มยืนตั้งท่ารับการโจมตีอยู่เช่นนั้นเกือบสองชั่วโมงก็ไม่มีวี่แววว่าลูซิเฟอร์จะบุกเข้ามา ผ่านไปจนถึงครึ่งคืนทุกอย่างยังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงคลื่นสาดซ่ากระทบฝั่ง สลับกับเสียงกระแสลมยามดึกและเสียงครวญคร่ำของเหล่าวิญญาณหลงทางในทะเลเท่านั้น ราฟาเอลจึงรู้ว่าเสียงที่ได้ยินตอนหัวค่ำเป็นเพียงคำเตือนจากจอมปิศาจที่ต้องการจะบอกว่า รู้ดีว่าเขาและ
น้ำทิพย์ซ่อนตัวอยู่ที่ใด ความเกร็งเครียดทั้งหมดจึงคลายลงแต่ถึงกระนั้นเทวดาหนุ่มก็ยังไม่ประมาท เขาเพิ่มพลังสร้างกำแพงป้องกันให้แข็งแกร่งมากขึ้นก่อนจะลากเก้าอี้มาไว้ข้างเตียงด้วยความตั้งใจว่าจะนั่งเฝ้าระวังอยู่เช่นนั้นจนถึงรุ่งเช้าแต่ความเป็นห่วงน้ำทิพย์ทำให้ราฟาเอลเปลี่ยนใจ เขาหย่อนตัวลงนั่งบนเตียงในลักษณะกึ่งนั่งกึ่งนอนข้างกายหญิงสาว มือไล้ใบหน้างามอย่างอ่อนโยนและก้มลงจุมพิตหน้าผาก จากนั้นจึงกางปีกออกคลุมร่างของเธอไว้เพื่อป้องกันมิให้อำนาจมืดมากล้ำกราย
ทันทีที่สัมผัสตัวของน้ำทิพย์ ราฟาเอลต้องประหลาดใจเมื่อมีพลังอันอบอุ่นไหลเข้ามาในกายของเขา เทวดาหนุ่มมองหญิงสาวอย่างพินิจและมุ่นคิ้วน้อยๆเมื่อพบว่าความเจ็บปวดจากบาดแผลบนปีกทุเลาลง พลังบางส่วนฟื้นคืนมาอย่างน่าอัศจรรย์ ความสงสัยทำให้เขาลองผละจากเธอ พลังดังกล่าวก็ขาดหายไป เมื่อเทวดาหนุ่มแตะหญิงสาวอีกครั้ง พลังงานลึกลับก็ซึบซับเข้าสู่กายของเขาอย่างดังเช่นคราแรก ราฟาเอลจึงนั่งลงบนเตียงและมองดวงหน้างามซึ่งยังคงหลับสนิทอย่างใช้ความคิด ความเป็นเทวทูตผู้ได้รับการยกย่องว่า เทวดาแห่งการรักษา ทำให้เขาเดินทางไปมาระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์อยู่หลายครั้ง แม้จะพบคนที่มีพรสวรรค์พิเศษอยู่บ้างแต่ไม่เคยเจอใครที่มีพลังแบบนี้
เทวดาหนุ่มคลี่ปีกออกคลุมกายของน้ำทิพย์อีกครั้งพร้อมกับหลับตาลง แม้ไม่อยากจะเชื่อแต่กระแสที่กำลังซึบซับเข้ามาในร่างเป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าหญิงสาวผู้นี้มีได้รับพรอันสูงค่าจากพระผู้เป็นเจ้า
ถึงจะเบาบางแต่ก็เป็นพลังแห่งการเยียวยาเช่นเดียวกับเขาอย่างแน่นอน
เทวดาหนุ่มหวนนึกถึงคำอธิษฐานขณะร่วงลงมาจากสวรรค์ บางทีการที่เขาตกลงไปในบ้านของน้ำทิพย์อาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ราฟาเอลเงยหน้าขึ้นมองผ่านทะลุหลังคาบ้าน เลยท้องฟ้าไปยังเบื้องบน หากเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นประสงค์ของพระองค์ ป่านนี้มิคาเอลคงรู้แล้วว่าเขาอยู่ที่ใด
เมื่อรู้แล้วยังรออะไรอยู่ ราฟาเอลตั้งคำถามและใจหายวาบเมื่อนึกขึ้นได้ว่าจอมทัพแห่งสรวงสวรรค์กำลังรอสัญญาณ เมื่อใดที่แตรสวรรค์ดังขึ้น กองทัพของมิคาเอลจะยาตรามายังแผ่นดินมนุษย์ ถล่มเมืองคนบาปให้พินาศในพริบตา
ความกังวลทำให้เทวดาหนุ่มเผลอขยับปีกข้างที่คลุมน้ำทิพย์ หญิงสาวพลิกตัวพร้อมกับบ่นพึมพำสองสามคำ ความกลัวว่าเธอจะตกใจตื่นเขาจึงโบกมือผ่านใบหน้าของเธอหนึ่งครั้ง ละอองระยิบระยับปรากฏขึ้นในอากาศ มันลอยอ้อยอิ่งอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะกระจายไปทั่วร่างซึมผ่านเข้าไปในผิวกาย ความความอบอุ่นที่โอบล้อมรอบกายก่อให้เกิดความสุขดุจทารกน้อยในครรภ์มารดาน้ำทิพย์จึงกลับเข้าสู่ห้วงนิทราดังเดิม
พอแน่ใจว่าหญิงสาวหลับสนิทแล้วราฟาเอลก็วกกลับมายังเรื่องที่คิดเมื่อครู่ อำนาจมืดของลูซิเฟอร์อาจจะดูร้ายแรงแต่ยังน้อยนักหากเทียบกับพลังทำลายของกองทัพจากสวรรค์ ความกลัดกลุ้มที่เคยมีมาตลอดเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เพราะถ้าทั้งสองฝ่ายลงมือพร้อมกัน เขาคงสุดปัญญาที่จะรับมือ
น้ำทิพย์จะเป็นยังไง ถ้าเมืองนี้ถูกทำลาย
เขาตั้งคำถามกับตัวเองและขบกรามแน่น หากเกิดเหตุการณ์นั้นจริงสิ่งเดียวที่ทำได้คือพาเธอหนีไปให้พ้น แต่น้ำทิพย์คงไม่ยอม เธอจะต้องหาทางช่วยเพื่อนและทุกๆคนโดยไม่คำนึงถึงชีวิตของตัวเอง
ราฟาเอลมองหญิงสาวซึ่งกำลังเบียดเข้ามาซุกกับอก แม้บางครั้งเธอจะมีความคิดพิสดารออกแนวพิเรนไปบ้างแต่ความจริงแล้วน้ำทิพย์มีจิตใจสะอาดบริสุทธิ์สมกับชื่อ ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่งหากคนดีเช่นนี้ต้องรับทัณฑ์จากสวรรค์ เขาคิดพลางไล้พวงแก้มปลั่งด้วยความห่วงใย หญิงสาวขยับพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ ใบหน้างามปราศจากความกังวลเหมือนมั่นใจที่มีเขาอยู่เคียงข้างทำให้เทวดาหนุ่มตัดสินใจในวินาทีนั้นว่า จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องเธอ แม้ว่าจะต้องสู้กับจอมปิศาจ
ลูซิเฟอร์หรือกองทัพสวรรค์ของมิคาเอล
*/*/*/*/*/*
น้ำทิพย์ลืมตาตื่นขึ้นในตอนเช้า ตอนแรกเธอตั้งใจจะลุกแต่ความง่วงงุนผลักดันให้หญิงสาวหลับตาลงและซุกหน้ากับหมอนใบโตที่เคยทำเป็นประจำ พอซบลงไปแล้วก็ต้องขมวดคิ้วเพราะสัมผัสคราวนี้กลับแปลกไปจากเคย แทนที่จะพบกับความอ่อนนุ่มเหมือนทุกครั้งกลับกลายเป็นอะไรบางอย่างที่ดูตึงแน่น ไม่เพียงเท่านั้น ขนาดที่เคยพอดีกับอ้อมแขนตอนนี้กลับกว้างจนแทบโอบไม่รอบ ความสงสัยทำให้น้ำทิพย์จำต้องลืมตาขึ้นดู ความร้อนแผ่ซ่านไปทั่วใบหน้าเมื่อพบว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังซุกอยู่ไม่ใช่หมอนแต่เป็นแผ่นอกแข็งแกร่งของเทวดา ที่น่าอายกว่านั้นก็คือ แขนของเธอไม่ได้กอดหมอนข้าง แต่เป็นลำตัวของราฟาเอล
ความตระหนกทำให้หญิงสาวตั้งใจจะขยับถอยออกห่างแต่ทำไม่ได้เพราะตัวเธอเองในตอนนี้อยู่ในอ้อมกอดของเทวดาหนุ่ม ความอายทำให้ดวงหน้าผุดผาดแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ ตอนแรกน้ำทิพย์ตั้งใจจะต่อว่าแต่พอเห็นอีกฝ่ายนอนนิ่งไม่ขยับเธอจึงคิดว่าเขายังคงหลับสนิท ความอยากรู้ว่าหน้าตาเทวดาตอนหลับนั้นเป็นอย่างไร น้ำทิพย์จึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมอง หัวใจเริ่มเต้นจนแทบจะไม่เป็นจังหวะเมื่อพบว่าหน้าของราฟาเอลยามนี้ช่างงดงามเหลือเกิน ดวงตาปิดสนิททำให้เห็นขนตาสีน้ำตาลเข้มเด่นชัดขึ้น หญิงสาวไม่เคยสังเกตเลยว่ามันจะเรียงกันเป็นแผงสวยงามถึงขนาดนี้ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากสีชมพูอ่อนหยักได้รูป ในความคิดของน้ำทิพย์มันช่างดูเย้ายวนชวนให้จุมพิต ความกลัวว่าตัวเองจะเผลอทำเช่นนั้นหญิงสาวจึงเลื่อนสายตาต่ำลงมา หัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดจากอกเมื่อเห็นแผ่นอกเปลือยเปล่าของราฟาเอล
น้ำทิพย์อยากจะกรีดร้องให้ดังลั่นไปถึงสามโลก ไม่ใช่เพราะความอับอาย หากแต่เป็นความตื่นเต้นที่เธอได้มีโอกาสซุกหน้าชนิดเนื้อแนบเนื้อกับเทวดา
ก่อนสติจะกระเจิดกระเจิงไปมากกว่านั้น เธอก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าทำไมราฟาเอลถึงอยู่ในสภาพนี้ ทั้งที่ก่อนนอนเธอเห็นชัดๆว่าเขาสวมเสื้อผ้าเรียบร้อย จะบอกว่าเป็นเพราะความร้อนก็ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะเธอเปิดเครื่องปรับอากาศจนเย็นฉ่ำทั้งบ้านตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าพัก
หรือเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ คิ้วสวยขมวดเข้าหากัน จะเป็นไปได้ยังไงเพราะแม้จะเป็นผู้ชายแต่ราฟาเอลก็เป็นถึงอัครเทวดา เทวดาย่อมไม่มีความรู้สึกแบบมนุษย์ อีกอย่างเขาอยู่ตามลำพังกับเธอมาหลายวัน หากคิดจะทำเช่นนั้นจริงคงฉวยโอกาสลงมือไปนานแล้ว
แล้วเขาถอดเสื้อทำไม
น้ำทิพย์ตั้งคำถามกับตัวเองอีกครั้ง ตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างขยับอยู่ทางด้านหลังของราฟาเอล เมื่อผงกหัวขึ้นดูหญิงสาวจึงรู้ว่ามันคือปีกและเข้าใจในทันทีว่าเทวดาหนุ่มถอดเสื้อเพื่อขยับมันได้สะดวก
ตอนต่อสู้กับลูซิเฟอร์กับตอนขับไล่นักศึกษาผีดิบ ราฟาเอลก็กางปีกออกเหมือนกัน ทำไมเขาจึงยังสวมเสื้อผ้าอยู่ล่ะ
เสียงแย้งดังขึ้นภายในใจ น้ำทิพย์ขมวดคิ้วพลางนึกหาเหตุผล ดวงตาเป็นประกายวาววับเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนรักษาตัว เทวดาหนุ่มก็ไม่ได้สวมเสื้อผ้าเลยสักชิ้น การถอดเสื้อเมื่อคืนนี้น่าจะมาจากสาเหตุเดียวกัน
เดี๋ยว ตอนนั้นเขาเปลือยกายทั้งตัวนี่นา
น้ำทิพย์กลืนน้ำลายลงคอใบหน้าแดงก่ำ หัวใจที่เริ่มเข้าสู่ความสงบเต้นแรงขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันแทบจะทะลุทะลวงออกมาจากอก
นอนอยู่ด้วยกันแบบนี้ ราฟาเอลคงไม่ทำแบบนั้นหรอกน่า หญิงสาวบอกตัวเอง เพื่อพิสูจน์ความคิดเธอจึงตัดสินใจขยับร่างกายส่วนล่างหมายเสียดสีกับอีกฝ่ายให้หายสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ เสียงทุ้มนุ่มก็เอ่ยทักขึ้นมาเสียก่อน
“อรุณสวัสดิ์”
น้ำทิพย์หน้าแดงก่ำ เธอไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นสบตา แต่กระนั้นก็ยังพึมพำตอบ
“อ...อรุณสวัสดิ์” หญิงสาวมองแขนที่โอบรอบตัว ราฟาเอลจึงรีบคลายมันออกพร้อมกับอธิบาย
“ขอโทษที่ไม่สุภาพกับคุณ แต่เมื่อคืนนี้ลูซิเฟอร์ส่งเสียงเตือนมาให้ได้ยิน ผมจึงจำเป็นต้องเพิ่มพลังป้องกัน”
เขาก้าวลงจากเตียงและลุกยืนขึ้น น้ำทิพย์จึงถอนใจพรืดออกมาอย่างโล่งอกแต่ก็แอบนึกเสียดายอยู่นิดๆเมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงสวมกางเกง
“ทำไมต้องถอดเสื้อด้วย” หญิงสาวถามและรีบตะครุบปากตัวเองเอาไว้เมื่อคิดได้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่สมควรพูด แต่เทวดาหนุ่มกลับก้มศีรษะลงเล็กน้อยเป็นเชิงลุแก่โทษ
“ผมดึงพลังออกมามากไปหน่อย”
“ถึงขนาดเผาเสื้อของตัวเองเนี่ยนะ” น้ำทิพย์ร้องและก้มหน้าลงสำรวจที่นอน “โชคดีที่ฟูกไม่พลอยไหม้ไปด้วย”
ราฟาเอลหัวเราะเบาๆ
“พลังป้องกันไม่ร้อนแรงเหมือนเพลิงสวรรค์ มันทำได้แค่สลายอณูของสิ่งที่เข้ามาสัมผัสให้กลายเป็นฝุ่นผงเท่านั้น”
คำอธิบายของเขาทำให้น้ำทิพย์รีบยกแขนทั้งสองข้างขึ้นมาดูและไล่สายตาตรวจร่างกายของตัวเองทันที
“ทำแบบนั้นแล้วตัวฉันไม่พลอยแตกเป็นผงไปด้วยเหรอ”
เธอถาม ราฟาเอลสั่นศีรษะ
“มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกัน ไม่ใช่ทำลาย”
“แล้วทำไมเสื้อนายถึง...” หญิงสาวสวนคำถามทันควัน รอยยิ้มยังคงแต้มอยู่บนใบหน้าเทวดาหนุ่มขณะตอบ
“เพราะมันไม่ใช่เสื้อของเทวดา”
คำตอบแบบกำปั้นทุบดินเล่นเอาน้ำทิพย์ถึงกับอ้าปากค้าง เมื่อตั้งสติได้เธอจึงคว้าหมอนปาใส่ราฟาเอลและหน้าง้ำเมื่อเห็นอีกฝ่ายรับไว้ด้วยมือข้างเดียว