เทวทูตที่รัก บทต้น
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 17 ทัณฑ์ซาตาน
http://pantip.com/topic/30771083
บทที่ 18 กลับคืนสู่สรวงสวรรค์
การปรากฏตัวของกาเบรียลสร้างความแปลกใจต่อราฟาเอลเป็นอย่างมาก แต่เพราะเทวทูตองค์นี้มิได้มีหน้าที่ทำลายล้างดังเช่นมิคาเอล ดังนั้นจึงตัดความกังวลเรื่องคำพิพากษาไปได้ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้คืออะไร เทวดาหนุ่มพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นแต่บาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างทำให้ขยับแทบไม่ไหว อีกฝ่ายจึงย่อตัวลงช่วยประคอง เมื่อตั้งตัวได้ราฟาเอลจึงถาม
“ท่านมาที่นี่ทำไม”
กาเบรียลไม่ตอบ เขาหงายมือข้างหนึ่งเรียกเพลิงสีฟ้าอ่อนขึ้นมาและทาบลงไปบนอกของราฟาเอล เมื่อไฟดวงนั้นซึมหายเข้าไปในร่าง กายของเทวดาหนุ่มก็บังเกิดแสงสว่างเรืองรอง บาดแผลทั้งหมดประสานตัวทีละน้อยและค่อยๆเลือนหายไป
“ข้ามาเพื่อมอบของสิ่งนี้ให้กับท่าน” กาเบรียลตอบหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยและวางมือลงบนไหล่ทั้งสองข้างของราฟาเอล แสงสีเหลืองนวลปะทุวาบขึ้นก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในกาย มันไม่ใช่เปลวไฟแห่งการทำลายเหมือนตอนถูกมิคาเอลลงทัณฑ์เพราะเขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างในขณะที่พลังบางอย่างวิ่งไปรวมตัวกันบนแผ่นหลัง ละอองสีทองอร่ามก่อตัวขึ้นเป็นรูปทรงของอะไรบางอย่าง อำนาจพิสุทธิ์ที่วิ่งพล่านไปทั่วทั้งกายทำให้เทวดาหนุ่มรู้ในทันทีว่าสิ่งนั้นคืออะไร
“ปีก” เขาหลุดปากอย่างคาดไม่ถึงและมองหน้ากาเบรียลอย่างงุนงง “ทำไม”
“เป็นพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงอนุญาตให้ท่านกลับมาเป็นอัครเทวทูตได้ดังเดิม”
“ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดจึงทรงยกโทษให้เร็วนัก”
“ไม่ใช่เป็นการยกโทษ แต่ทรงมอบโอกาสให้ท่านได้แก้ตัว”
คำตอบของกาเบรียลทำให้ราฟาเอลงงมากขึ้น เขาโบกปีกที่เพิ่งได้รับมาสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างเคร่งขรึม
“พระองค์ต้องการให้ข้าทำลายเมืองนี้”
กาเรียลสั่นศีรษะ
“ท่านไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกราฟาเอล จริงอยู่ที่โทษของการหลงรักมนุษย์นั้นร้ายแรงจนยากจะให้อภัย แต่หลังจากเฝ้าดูอยู่สักพัก พระองค์จึงทรงประจักษ์ถึงบางอย่างและเห็นว่าผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์เป็นคนดี นางยอมเสียสละความสุขของตนเองเพื่อคนอื่น ส่วนท่านแม้จะถูกลงทัณฑ์แต่ยังคงมีความยึดมั่นศรัทธา ถึงจะถูกปลดจากการเป็นเทวดาก็ยังยืนหยัดปกป้องมนุษย์ แสงแห่งความดีงามของพวกท่านได้สาดส่องขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงยกเลิกคำสั่งทำลายล้างและประทานปีกคืนให้ แต่ท่านยังกลับสวรรค์ไม่ได้จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะยุติลง”
ราฟาเอลยืนฟังอย่างสงบนิ่งกระทั่งกาเบรียลกล่าวประโยคสุดท้าย เขาจึงขมวดคิ้ว
“พระองค์ต้องการให้ข้าจัดการลูซิเฟอร์” เขานิ่งไปเล็กน้อยก่อนสั่นศีรษะ”เขาเคยเป็นหนึ่งในเทวทูต การกำจัดเขาเป็นเรื่องยาก”
“พระองค์ทรงทราบดี และทรงแน่ใจด้วยว่าท่านสามารถหาทางออกของเรื่องนี้ได้”
ราฟาเอลแหงนหน้าขึ้นจ้องท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทาทึบ ถึงอยากทำตามพระบัญชาแต่ในตอนนี้เขาเป็นห่วงน้ำทิพย์มากกว่า ดูเหมือนกาเบรียลจะอ่านความคิดของเขาออก
“ข้าเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงนาง แต่เวลานี้ท่านต้องเลือกทำสิ่งสำคัญที่สุด”
เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อราฟาเอลหันมามองด้วยแววตาที่ไม่เคยปรากฏในเทวดาองค์ใดมาก่อน
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปช่วยน้ำทิพย์”
“ท่านจะหันหลังให้พระองค์อย่างนั้นหรือ” กาเบรียลถาม ราฟาเอลสั่นศีรษะช้าๆ
“ข้าไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น เมื่อช่วยน้ำทิพย์แล้วข้าจะทำตามพระบัญชา หากจัดการลูซิเฟอร์ได้สำเร็จ ข้าจะกลับสวรรค์เพื่อรับการลงทัณฑ์”
กล่าวจบแสงสีทองก็สว่างเรืองรองไปทั้งร่าง เสื้อผ้าแบบมนุษย์ที่สวมใส่อยู่แปรเปลี่ยนเป็นชุดเกราะนักรบของอัครเทวทูต เมื่อปีกสีขาวโบกสะบัด ร่างของราฟาเอลก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ กาเบรียลรีบบินตาม
“ข้าจะไปกับท่าน”
เขาพูดเมื่อลอยตัวอยู่ในระดับเดียวกับราฟาเอล อีกฝ่ายมองเครื่องแต่งกายซึ่งเป็นเพียงชุดสีขาวสะอาดยาวกรอมเท้าเหมือนจะถามว่า ‘จะรบด้วยชุดนี้หรือ’ กาเบรียลจึงยิ้มก่อนเปลี่ยนเสื้อของเขาให้กลายเป็นชุดเกราะแบบเดียวกัน เมื่อพร้อมแล้วทั้งสองจึงมุ่งหน้าตรงไปยังประตูมิติ อันเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างโลกมนุษย์กับนรก
ทั้งสองบินฝ่ากลุ่มหมอกสีเทาทึบอย่างเร่งรีบในขณะเดียวกันก็ต้องคอยต่อสู้กับปิศาจที่ดักซุ่มโจมตีไปตลอดทาง ยิ่งใกล้เส้นแบ่งเขตมากเท่าไหร่ จำนวนของพวกมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงรอยแยกซึ่งเป็นประตูเชื่อมเข้าสู่ดินแดนของลูซิเฟอร์แล้ว ราฟาเอลกับกาเบรียลต้องใช้พลังเป็นจำนวนมากเพื่อรับมือกับอสุรกายและปิศาจเป็นนับพันตัวที่กรูกันออกมาต้อนรับ โดยเฉพาะผู้นำทัพที่น่ากลัวนาม แมมม่อน
ด้วยร่างกายสูงใหญ่กว่าปิศาจทั่วไปทำให้แมมม่อนสามารถยืนหยัดรับมือกับเทวดาทั้งสองได้ยาวนานกว่าปิศาจตนอื่น แม้ทั้งคู่จะใช้พลังเพลิงโจมตีแต่ขนดกหนาทึบของมันกลับป้องกันเอาไว้ได้ ที่น่าตระหนกก็คือยิ่งเพิ่มอำนาจการทำลายล้างมากเท่าไหร่ แมมม่อนก็สามารถโจมตีกลับได้รุนแรงและหนักหน่วงมากเท่านั้น เมื่อใช้พลังจัดการไม่ได้ ราฟาเอลและกาเบรียลจึงตัดสินใจโรมรันด้วยอาวุธ
การปรับเปลี่ยนวิธีทำให้การรบพลิกผัน ถึงมีความทนทานในด้านการต้านรับพลัง แต่พอใช้วิธีการต่อสู้แบบซึ่งหน้าแล้วฝีมือแมมม่อนกลับอ่อนด้อยจนไม่อาจรับการบุกของเทวดาทั้งสองได้ ไม่ช้าแขนข้างหนึ่งของมันก็ถูกกาเบรียลตัดขาด ความเจ็บปวดและหวาดกลัวทำให้ปิศาจร้ายต้องล่าถอยหนีหัวซุกหัวซุนกลับนรก
ราฟาเอลและกาเบรียลติดตามแมมม่อนไปจนถึงรอยแยกอันป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนปิศาจ ทั้งสองจ้องช่องอากาศซึ่งมีสีแดงจัดเหมือนเหล็กถูกเผาซ้ำมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาเป็นระยะอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้ากัน ราฟาเอลกระชับดาบในมือแน่นก่อนจะพูดสั้นๆ
“ไป”
ทั้งคู่โบกปีกเพื่อเป่ากลุ่มเพลิงให้มอดดับลงก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในรอยแยกพร้อมกัน ทันทีที่พวกเขาผ่านพ้นประตูก็พบกับกองทัพปิศาจรออยู่ และผู้นำทัพในครั้งนี้คือเบลเซบับ จ้าวแห่งแมลงวันที่เคยพ่ายแพ้ต่อราฟาเอล
เมื่อเห็นผู้บุกรุกมีแค่เทวทูตเพียงสององค์ซ้ำอยู่ในเขตแดนนรก เบลเซบับจึงยิ้มอย่างลำพองเพราะคิดว่าครั้งนี้ตนเองต้องเป็นฝ่ายชนะ มันก้าวไปยืนข้างหน้าอย่างองอาจพร้อมกับส่งสัญญาณให้ปิศาจทุกตัวบุกโจมตีพร้อมกัน พวกมันจึงชูอาวุธขึ้นและส่งเสียงโห่ร้องก่อนกรูเข้าไปหาเทวดาทั้งสอง ชุดแรกที่ดาหน้าเข้าไปถูกคลื่นทำลายกระแทกจนร่างแหลกเหลว กลุ่มต่อไปจึงเตรียมบุกซ้ำแต่ยังไม่ทันได้ขยับพวกมันก็ถูกเพลิงสวรรค์เผาผลาญจนไหม้เป็นจุณ
การสูญเสียบริวารเป็นจำนวนมากทำให้เบลเซบับโกรธแทบคลั่ง มันกระชากดาบออกจากฝักและร้องตะโกนท้าเทวทูตทั้งสองด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนเงื้อขึ้นเพื่อบุกแต่ไปได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงทรงอำนาจร้องสั่ง
“เดี๋ยว !”
จ้าวแห่งแมลงวันรีบทำตามคำสั่งก่อนจะหันกลับไปค้อมศีรษะให้กับเงาทะมึนที่กำลังปรากฏขึ้น ลูซิเฟอร์มองราฟาเอลและกาเบรียลสลับกันไปมาก่อนเหยียดยิ้ม
“ยินดีต้อนรับ” เขากล่าวเสียงนุ่มต่างจากดวงตาที่ทอแสงลุกโชนราวกับเปลวไฟ “ต้องขอโทษที่บริวารของข้าเสียมารยาทไปสักนิด พวกเขาไม่รู้จักวิธีต้อนรับเทวทูตผู้สูงส่ง”
กาเบรียลวาดดาบไว้ข้างตัวในท่าเตรียมระวังในขณะที่ราฟาเอลยกดาบขึ้นชี้หน้าจอมปิศาจ
“อย่ามาทำเป็นพูดดี คืนน้ำทิพย์มาเดี๋ยวนี้เจ้าปิศาจ”
กาเบรียลเหลือบมองสีหน้าโกรธเกรี้ยวของราฟาเอลด้วยความแปลกใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยแสดงอารมณ์เช่นนี้ออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง ส่วนลูซิเฟอร์แสร้งทำเป็นเลิกคิ้ว
“ไม่ยักรู้ว่าเทวดาก็โกรธเป็น” เขาแสยะยิ้มอย่างถูกใจก่อนพูดดวยเสียงต่ำกว่าเดิม “แต่ท่านควรใจเย็นกว่านี้อีกสักนิด ไม่อย่างนั้นแล้วข้าอาจตกใจจนพลั้งมือทำอะไรออกไปได้”
มือยื่นไปข้างหน้าและรวบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว หัวปิศาจตัวหนึ่งแตกโพละเหมือนถูกบีบจนบี้แบน
“โชคดีที่ครั้งนี้เป็นปิศาจ” เขาหงายมือข้างเดียวกันนั้นและวาดไปด้านข้างดึงน้ำทิพย์ออกมาจากกลุ่มควัน เมื่อเธอเห็นเทวดาหนุ่มก็ร้องเรียกด้วยความดีใจ
“ราฟาเอล !”
หญิงสาวทำท่าจะวิ่งเข้าไปหาแต่ถูกจอมปิศาจดึงตัวไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังจึงถูกลูซิเฟอร์บีบคออย่างแรง
“ถ้าไม่อยากตายก็อยู่นิ่งๆ”
เขาคำรามขู่ พร้อมกับกรีดกรงเล็บแหลมไปตามใบหน้า น้ำทิพย์ยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับน้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว
“ทิพย์!” ราฟาเอลร้องเรียกพร้อมกับขยับจะเข้าไปช่วยแต่ต้องหยุดเมื่อเสียงเย็นยะเยียบร้องห้าม
“หยุดอยู่แค่นั้นราฟาเอล”
เขายืนนิ่งตามคำสั่งแต่ยังคงมองมองน้ำทิพย์ด้วยความเป็นห่วง ลูซิเฟอร์จึงกำชับซ้ำอีกครั้ง
“ถ้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร ก็อย่าขยับและทำตามที่ข้าสั่งแต่โดยดี” เขาหยุดคำพูดไว้นั้นและยิ้มมุมปากเมื่อดาบในมือของราฟาเอลจางหายไป กาเบรียลเห็นดังนั้นจึงเอ่ยเตือน
“ถ้าหยุดตอนนี้ทั้งนางและมนุษย์ทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย”
“แต่ถ้าข้าสู้ เขาก็จะฆ่าทิพย์” ราฟาเอลพูดก่อนหันไปทางจอมปิศาจ “ปล่อยน้ำทิพย์ไปแล้วข้าจะทำทุกอย่างตามที่เจ้าสั่ง”
“แล้วเจ้านั่นล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามพลางเลื่อนสายตาไปยังกาเบรียลซึ่งยังคงยืนนิ่ง ราฟาเอลจึงหันกลับไปที่เขาอีกครั้ง
“ได้โปรด”
เทวทูตที่รัก บทที่ 18 กลับสู่สรวงสวรรค์
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=moonyforever&month=21-09-2012&group=24&gblog=1
บทที่ 17 ทัณฑ์ซาตาน
http://pantip.com/topic/30771083
บทที่ 18 กลับคืนสู่สรวงสวรรค์
การปรากฏตัวของกาเบรียลสร้างความแปลกใจต่อราฟาเอลเป็นอย่างมาก แต่เพราะเทวทูตองค์นี้มิได้มีหน้าที่ทำลายล้างดังเช่นมิคาเอล ดังนั้นจึงตัดความกังวลเรื่องคำพิพากษาไปได้ แต่เขาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจุดประสงค์ของการมาในครั้งนี้คืออะไร เทวดาหนุ่มพยายามดันตัวให้ลุกขึ้นแต่บาดแผลฉกรรจ์ทั่วร่างทำให้ขยับแทบไม่ไหว อีกฝ่ายจึงย่อตัวลงช่วยประคอง เมื่อตั้งตัวได้ราฟาเอลจึงถาม
“ท่านมาที่นี่ทำไม”
กาเบรียลไม่ตอบ เขาหงายมือข้างหนึ่งเรียกเพลิงสีฟ้าอ่อนขึ้นมาและทาบลงไปบนอกของราฟาเอล เมื่อไฟดวงนั้นซึมหายเข้าไปในร่าง กายของเทวดาหนุ่มก็บังเกิดแสงสว่างเรืองรอง บาดแผลทั้งหมดประสานตัวทีละน้อยและค่อยๆเลือนหายไป
“ข้ามาเพื่อมอบของสิ่งนี้ให้กับท่าน” กาเบรียลตอบหลังจากรักษาอาการบาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยและวางมือลงบนไหล่ทั้งสองข้างของราฟาเอล แสงสีเหลืองนวลปะทุวาบขึ้นก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในกาย มันไม่ใช่เปลวไฟแห่งการทำลายเหมือนตอนถูกมิคาเอลลงทัณฑ์เพราะเขารู้สึกถึงความอบอุ่นที่กำลังแผ่ซ่านไปทั่วร่างในขณะที่พลังบางอย่างวิ่งไปรวมตัวกันบนแผ่นหลัง ละอองสีทองอร่ามก่อตัวขึ้นเป็นรูปทรงของอะไรบางอย่าง อำนาจพิสุทธิ์ที่วิ่งพล่านไปทั่วทั้งกายทำให้เทวดาหนุ่มรู้ในทันทีว่าสิ่งนั้นคืออะไร
“ปีก” เขาหลุดปากอย่างคาดไม่ถึงและมองหน้ากาเบรียลอย่างงุนงง “ทำไม”
“เป็นพระบัญชาของพระผู้เป็นเจ้า พระองค์ทรงอนุญาตให้ท่านกลับมาเป็นอัครเทวทูตได้ดังเดิม”
“ข้าไม่เข้าใจ เหตุใดจึงทรงยกโทษให้เร็วนัก”
“ไม่ใช่เป็นการยกโทษ แต่ทรงมอบโอกาสให้ท่านได้แก้ตัว”
คำตอบของกาเบรียลทำให้ราฟาเอลงงมากขึ้น เขาโบกปีกที่เพิ่งได้รับมาสองสามครั้งก่อนจะพูดอย่างเคร่งขรึม
“พระองค์ต้องการให้ข้าทำลายเมืองนี้”
กาเรียลสั่นศีรษะ
“ท่านไม่ต้องทำแบบนั้นหรอกราฟาเอล จริงอยู่ที่โทษของการหลงรักมนุษย์นั้นร้ายแรงจนยากจะให้อภัย แต่หลังจากเฝ้าดูอยู่สักพัก พระองค์จึงทรงประจักษ์ถึงบางอย่างและเห็นว่าผู้หญิงที่ชื่อน้ำทิพย์เป็นคนดี นางยอมเสียสละความสุขของตนเองเพื่อคนอื่น ส่วนท่านแม้จะถูกลงทัณฑ์แต่ยังคงมีความยึดมั่นศรัทธา ถึงจะถูกปลดจากการเป็นเทวดาก็ยังยืนหยัดปกป้องมนุษย์ แสงแห่งความดีงามของพวกท่านได้สาดส่องขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ พระผู้เป็นเจ้าจึงทรงยกเลิกคำสั่งทำลายล้างและประทานปีกคืนให้ แต่ท่านยังกลับสวรรค์ไม่ได้จนกว่าเรื่องราวทั้งหมดจะยุติลง”
ราฟาเอลยืนฟังอย่างสงบนิ่งกระทั่งกาเบรียลกล่าวประโยคสุดท้าย เขาจึงขมวดคิ้ว
“พระองค์ต้องการให้ข้าจัดการลูซิเฟอร์” เขานิ่งไปเล็กน้อยก่อนสั่นศีรษะ”เขาเคยเป็นหนึ่งในเทวทูต การกำจัดเขาเป็นเรื่องยาก”
“พระองค์ทรงทราบดี และทรงแน่ใจด้วยว่าท่านสามารถหาทางออกของเรื่องนี้ได้”
ราฟาเอลแหงนหน้าขึ้นจ้องท้องฟ้าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆสีเทาทึบ ถึงอยากทำตามพระบัญชาแต่ในตอนนี้เขาเป็นห่วงน้ำทิพย์มากกว่า ดูเหมือนกาเบรียลจะอ่านความคิดของเขาออก
“ข้าเข้าใจว่าท่านเป็นห่วงนาง แต่เวลานี้ท่านต้องเลือกทำสิ่งสำคัญที่สุด”
เขาหยุดคำพูดไว้แค่นั้นเมื่อราฟาเอลหันมามองด้วยแววตาที่ไม่เคยปรากฏในเทวดาองค์ใดมาก่อน
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปช่วยน้ำทิพย์”
“ท่านจะหันหลังให้พระองค์อย่างนั้นหรือ” กาเบรียลถาม ราฟาเอลสั่นศีรษะช้าๆ
“ข้าไม่เคยมีความคิดเช่นนั้น เมื่อช่วยน้ำทิพย์แล้วข้าจะทำตามพระบัญชา หากจัดการลูซิเฟอร์ได้สำเร็จ ข้าจะกลับสวรรค์เพื่อรับการลงทัณฑ์”
กล่าวจบแสงสีทองก็สว่างเรืองรองไปทั้งร่าง เสื้อผ้าแบบมนุษย์ที่สวมใส่อยู่แปรเปลี่ยนเป็นชุดเกราะนักรบของอัครเทวทูต เมื่อปีกสีขาวโบกสะบัด ร่างของราฟาเอลก็ลอยขึ้นไปบนอากาศ กาเบรียลรีบบินตาม
“ข้าจะไปกับท่าน”
เขาพูดเมื่อลอยตัวอยู่ในระดับเดียวกับราฟาเอล อีกฝ่ายมองเครื่องแต่งกายซึ่งเป็นเพียงชุดสีขาวสะอาดยาวกรอมเท้าเหมือนจะถามว่า ‘จะรบด้วยชุดนี้หรือ’ กาเบรียลจึงยิ้มก่อนเปลี่ยนเสื้อของเขาให้กลายเป็นชุดเกราะแบบเดียวกัน เมื่อพร้อมแล้วทั้งสองจึงมุ่งหน้าตรงไปยังประตูมิติ อันเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างโลกมนุษย์กับนรก
ทั้งสองบินฝ่ากลุ่มหมอกสีเทาทึบอย่างเร่งรีบในขณะเดียวกันก็ต้องคอยต่อสู้กับปิศาจที่ดักซุ่มโจมตีไปตลอดทาง ยิ่งใกล้เส้นแบ่งเขตมากเท่าไหร่ จำนวนของพวกมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เมื่อถึงรอยแยกซึ่งเป็นประตูเชื่อมเข้าสู่ดินแดนของลูซิเฟอร์แล้ว ราฟาเอลกับกาเบรียลต้องใช้พลังเป็นจำนวนมากเพื่อรับมือกับอสุรกายและปิศาจเป็นนับพันตัวที่กรูกันออกมาต้อนรับ โดยเฉพาะผู้นำทัพที่น่ากลัวนาม แมมม่อน
ด้วยร่างกายสูงใหญ่กว่าปิศาจทั่วไปทำให้แมมม่อนสามารถยืนหยัดรับมือกับเทวดาทั้งสองได้ยาวนานกว่าปิศาจตนอื่น แม้ทั้งคู่จะใช้พลังเพลิงโจมตีแต่ขนดกหนาทึบของมันกลับป้องกันเอาไว้ได้ ที่น่าตระหนกก็คือยิ่งเพิ่มอำนาจการทำลายล้างมากเท่าไหร่ แมมม่อนก็สามารถโจมตีกลับได้รุนแรงและหนักหน่วงมากเท่านั้น เมื่อใช้พลังจัดการไม่ได้ ราฟาเอลและกาเบรียลจึงตัดสินใจโรมรันด้วยอาวุธ
การปรับเปลี่ยนวิธีทำให้การรบพลิกผัน ถึงมีความทนทานในด้านการต้านรับพลัง แต่พอใช้วิธีการต่อสู้แบบซึ่งหน้าแล้วฝีมือแมมม่อนกลับอ่อนด้อยจนไม่อาจรับการบุกของเทวดาทั้งสองได้ ไม่ช้าแขนข้างหนึ่งของมันก็ถูกกาเบรียลตัดขาด ความเจ็บปวดและหวาดกลัวทำให้ปิศาจร้ายต้องล่าถอยหนีหัวซุกหัวซุนกลับนรก
ราฟาเอลและกาเบรียลติดตามแมมม่อนไปจนถึงรอยแยกอันป็นทางเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับดินแดนปิศาจ ทั้งสองจ้องช่องอากาศซึ่งมีสีแดงจัดเหมือนเหล็กถูกเผาซ้ำมีเปลวไฟพวยพุ่งออกมาเป็นระยะอยู่ครู่หนึ่งจึงหันมามองหน้ากัน ราฟาเอลกระชับดาบในมือแน่นก่อนจะพูดสั้นๆ
“ไป”
ทั้งคู่โบกปีกเพื่อเป่ากลุ่มเพลิงให้มอดดับลงก่อนจะพุ่งตัวเข้าไปในรอยแยกพร้อมกัน ทันทีที่พวกเขาผ่านพ้นประตูก็พบกับกองทัพปิศาจรออยู่ และผู้นำทัพในครั้งนี้คือเบลเซบับ จ้าวแห่งแมลงวันที่เคยพ่ายแพ้ต่อราฟาเอล
เมื่อเห็นผู้บุกรุกมีแค่เทวทูตเพียงสององค์ซ้ำอยู่ในเขตแดนนรก เบลเซบับจึงยิ้มอย่างลำพองเพราะคิดว่าครั้งนี้ตนเองต้องเป็นฝ่ายชนะ มันก้าวไปยืนข้างหน้าอย่างองอาจพร้อมกับส่งสัญญาณให้ปิศาจทุกตัวบุกโจมตีพร้อมกัน พวกมันจึงชูอาวุธขึ้นและส่งเสียงโห่ร้องก่อนกรูเข้าไปหาเทวดาทั้งสอง ชุดแรกที่ดาหน้าเข้าไปถูกคลื่นทำลายกระแทกจนร่างแหลกเหลว กลุ่มต่อไปจึงเตรียมบุกซ้ำแต่ยังไม่ทันได้ขยับพวกมันก็ถูกเพลิงสวรรค์เผาผลาญจนไหม้เป็นจุณ
การสูญเสียบริวารเป็นจำนวนมากทำให้เบลเซบับโกรธแทบคลั่ง มันกระชากดาบออกจากฝักและร้องตะโกนท้าเทวทูตทั้งสองด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อนเงื้อขึ้นเพื่อบุกแต่ไปได้ครึ่งทางก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงทรงอำนาจร้องสั่ง
“เดี๋ยว !”
จ้าวแห่งแมลงวันรีบทำตามคำสั่งก่อนจะหันกลับไปค้อมศีรษะให้กับเงาทะมึนที่กำลังปรากฏขึ้น ลูซิเฟอร์มองราฟาเอลและกาเบรียลสลับกันไปมาก่อนเหยียดยิ้ม
“ยินดีต้อนรับ” เขากล่าวเสียงนุ่มต่างจากดวงตาที่ทอแสงลุกโชนราวกับเปลวไฟ “ต้องขอโทษที่บริวารของข้าเสียมารยาทไปสักนิด พวกเขาไม่รู้จักวิธีต้อนรับเทวทูตผู้สูงส่ง”
กาเบรียลวาดดาบไว้ข้างตัวในท่าเตรียมระวังในขณะที่ราฟาเอลยกดาบขึ้นชี้หน้าจอมปิศาจ
“อย่ามาทำเป็นพูดดี คืนน้ำทิพย์มาเดี๋ยวนี้เจ้าปิศาจ”
กาเบรียลเหลือบมองสีหน้าโกรธเกรี้ยวของราฟาเอลด้วยความแปลกใจ เพราะแต่ไหนแต่ไรมาเขาไม่เคยแสดงอารมณ์เช่นนี้ออกมาให้เห็นเลยสักครั้ง ส่วนลูซิเฟอร์แสร้งทำเป็นเลิกคิ้ว
“ไม่ยักรู้ว่าเทวดาก็โกรธเป็น” เขาแสยะยิ้มอย่างถูกใจก่อนพูดดวยเสียงต่ำกว่าเดิม “แต่ท่านควรใจเย็นกว่านี้อีกสักนิด ไม่อย่างนั้นแล้วข้าอาจตกใจจนพลั้งมือทำอะไรออกไปได้”
มือยื่นไปข้างหน้าและรวบเข้าหากันอย่างรวดเร็ว หัวปิศาจตัวหนึ่งแตกโพละเหมือนถูกบีบจนบี้แบน
“โชคดีที่ครั้งนี้เป็นปิศาจ” เขาหงายมือข้างเดียวกันนั้นและวาดไปด้านข้างดึงน้ำทิพย์ออกมาจากกลุ่มควัน เมื่อเธอเห็นเทวดาหนุ่มก็ร้องเรียกด้วยความดีใจ
“ราฟาเอล !”
หญิงสาวทำท่าจะวิ่งเข้าไปหาแต่ถูกจอมปิศาจดึงตัวไว้ เธอพยายามดิ้นรนขัดขืนสุดกำลังจึงถูกลูซิเฟอร์บีบคออย่างแรง
“ถ้าไม่อยากตายก็อยู่นิ่งๆ”
เขาคำรามขู่ พร้อมกับกรีดกรงเล็บแหลมไปตามใบหน้า น้ำทิพย์ยืนตัวแข็งไม่กล้าขยับน้ำตาไหลพรากด้วยความหวาดกลัว
“ทิพย์!” ราฟาเอลร้องเรียกพร้อมกับขยับจะเข้าไปช่วยแต่ต้องหยุดเมื่อเสียงเย็นยะเยียบร้องห้าม
“หยุดอยู่แค่นั้นราฟาเอล”
เขายืนนิ่งตามคำสั่งแต่ยังคงมองมองน้ำทิพย์ด้วยความเป็นห่วง ลูซิเฟอร์จึงกำชับซ้ำอีกครั้ง
“ถ้าไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้เป็นอะไร ก็อย่าขยับและทำตามที่ข้าสั่งแต่โดยดี” เขาหยุดคำพูดไว้นั้นและยิ้มมุมปากเมื่อดาบในมือของราฟาเอลจางหายไป กาเบรียลเห็นดังนั้นจึงเอ่ยเตือน
“ถ้าหยุดตอนนี้ทั้งนางและมนุษย์ทุกคนจะตกอยู่ในอันตราย”
“แต่ถ้าข้าสู้ เขาก็จะฆ่าทิพย์” ราฟาเอลพูดก่อนหันไปทางจอมปิศาจ “ปล่อยน้ำทิพย์ไปแล้วข้าจะทำทุกอย่างตามที่เจ้าสั่ง”
“แล้วเจ้านั่นล่ะ” ลูซิเฟอร์ถามพลางเลื่อนสายตาไปยังกาเบรียลซึ่งยังคงยืนนิ่ง ราฟาเอลจึงหันกลับไปที่เขาอีกครั้ง
“ได้โปรด”