ขอเล่าบ้าง ประสบการณ์สอบทุนรัฐบาลเพื่อศึกษาต่อ ป.โท ต่างประเทศ ระหว่างรอลุ้นผล...

สวัสดีค่ะ วันนี้เป็นอีกวัน(ทำงาน) หนึ่งที่ร้อนรนมากๆ มีแต่คำว่ารอๆ ลุ้นๆ ผลจะออกเมื่อไหร่ เราจะได้ทุนไหม (หวังใจไว้ถึง 80% เลยนะคะ)

เราเชื่อว่า ประสบการณ์การสอบสัมภาษณ์ หรือการสอบทุน เป็นสิ่งที่เพื่อนๆอยากทราบ เพราะส่วนตัวเองก่อนไปสอบก็ได้ข้อมูลจากคลังกระทู้เก่าๆ ในพันทิป ซึ่งช่วยให้สามารถดำเนินการวางแผนเตรียมตัวสอบได้อย่างมีเป้าหมายมากขึ้น

ตอนที่ 1 ตัดสินใจให้ดี ชีวิตนี้จะทำอะไร สุดท้ายบั้นปลายจะเป็นอะไร

หลายคนมีเหตุผลที่เลือกรับทุนที่ต่างกัน ส่วนตัวมองว่า การรับทุนคือ การสมัครเข้ารับราชการ ถือเป็นการตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อจะเปลี่ยนชีวิตของตัวเองให้มีคุณค่ามากขึ้น (และเสียสละบางอย่าง เพื่อให้ได้บางอย่าง อันจะวัดค่าไม่ได้ที่ตัวเงิน) โดยการไขว่คว้าโอกาสที่เอื้อมถึง เราอยากไปเรียนต่างประเทศมานานแล้ว แต่ที่บ้านเป็นครอบครัวชนชั้นกลางธรรมดาๆ พ่อแม่ไม่ได้มีเงินส่งเสียขนาดนั้น และท่านก็ไม่ได้กระตุ้นให้เห็นถึงความจำเป็นต้องไปเรียนถึงต่างประเทศ (แม้ว่าคุณแม่จะอยากให้ไปเรียน แต่ก็มีได้ออกแนวเชิงบังคับหรือเป็นนโยบายของบ้านแต่ประการใด) เอาเป็นว่าหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัยใน กทม. ก็ตัดสินใจทำงาน บ.เอกชน ไปอยู่จังหวัดชลบุรี ซึ่งมีสวัสดิการดี รักษาฟรีทุกอย่าง (ยกเว้นรักษาสิว) มีบ้านให้อยู่อีกตะหาก คิดว่า ชีวิตข้านี่ล่ะ เจ๋งแล้ว! รอดแล้ว ไม่อดตายแน่ๆ พ่อแม่สบายแน่ๆ! มีตังเลี้ยงแน่ๆ!

อย่างไรก็ตาม ช่วงที่ทำงานอยู่นั้นมีช่วงหนึ่งที่ไปเรียน ป.โท เสาร์อาทิตย์ ที่กรุงเทพฯแต่ทำได้แค่ 1 เทอมก็ล้มเลิกเสีย เพราะรู้แล้วว่าคณะที่เรียนนั้นเราไม่ได้ชอบจริงๆ และอยากใช้เวลาว่างเสาร์อาทิตย์ไปทำเรื่องที่มันผ่อนคลายจากที่ทำงานมากกว่า เช่น ตีกอล์ฟ วิ่งมาราธอน หรือ ขี่จักรยาน =='  ไฮเปอร์จริง!

สรุป เรียน ป.โท ไปด้วยทำงานไปด้วย ไม่รอด (ถ้าให้เลือกสักอย่างคงรอด แต่ต้องแบ่งสติไปสองเรื่อง ทำไม่ได้ดีเลยสักเรื่อง ไม่เอาดีกว่า) ขนขึ้นค่ะท่านผู้ชม  ขี้เกียจตัวเป็นขนเลยค่ะ เลิกเรียน กลับมาทำงานตามเดิม เสาร์อาทิตย์ออกกำลังกาย ตีกอล์ฟ ขี่จักรยาน ขี่ไปจนถึงยอดดอยอินทนนท์ให้มันสูงสุดของประเทศไทยไปเบ้ยยยยย สูงสุดแดนสยาม แล้วไงต่อละทีนี้... =='  

เมื่อกลางปีที่แล้วนี่เอง มันฉุกคิดได้ว่า ในปีหน้าอิชั้นจะมีอายุ 25 แล้วนี่ เฮ้ยยยย! ชีวิตเราต้องการอะไรกันแน่ อะไรที่เราถ้าไม่รีบทำก่อน 30 เราจะเฉาตายแน่ๆ จะใช้ชีวิตเป็น Routine แบบนี้เลยหรือ?  ถ้าแต่งงานไปท้องโตมีลูก อดทำตามความฝันแน่ๆ เอาวะ! เราต้องไปเห็นโลกกว้างบ้างไรบ้าง ด้วยตัวเราเอง หยิ่งด้วย! ไม่ใช้เงินพ่อแม่ด้วย อยากให้ท่านเก็บเงินที่ท่านสะสมมาทั้งชีวิต ไว้ใช้จ่ายเพื่อความสุขของท่านมากกว่า ให้แม่ไว้ตัดเสื้อสวยๆไปเรียนเต้นรำ ให้พ่อไว้ไปตีกอล์ฟทุกวันหลังเกษียณดีกว่านะ... ไม่ ไม่ เราจะไม่เอาเงินท่านมาใช้แน่ๆ

โอเค ตัดสินใจ ข้าพเจ้าจะสอบชิงทุนรัฐบาล!!
(จริงๆก็เล็งไว้หลายทุน แต่โอกาสไหนมาก่อน ก็สมัคร วางแผนเลยว่า ปี พ.ศ. 2556 จะเป็นปีที่ข้าพเจ้าสมัครทุกทุนที่มีโอกาส ถ้าสิ้นปี 2556 ยังหาที่เรียนไม่ได้ จะเอาเงินเก็บไปเรียนแล้วค่อยหาทุนเอาดาบหน้า สาธุ! )
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่