ที่กระทู้ด้านล่างมีคนถามว่า ชื่อ มนต์จันทรา มีความสัมพันธ์อย่างไรกับเนื้อเรื่อง มีความหมายว่าอย่างไร จึงคิดอ่านถอดใจความระหว่างบรรทัดในชื่อเรื่องอย่างย่นย่อมานำเสนอเพื่อพูดคุยกัน
ในชื่อเรื่องจะเห็นได้ว่ามันมีความสัมพันธ์กับท้องฟ้าและดวงดาวทั้งสิ้น มายาตวัน กล่าวถึง พระอาทิตย์ มนต์จันทรา กล่าวถึง พระจันทร์ และ ฟ้ากระจ่างดาว ก็กล่าวถึงดวงดาว ซึ่งเราคิดว่า พระอาทิตย์ พระจันทร์ และ ดวงดาวต่างเป็นตัวแทนของตัวละครนำในเรื่อง ซึ่งเล่าเรื่องในมุมมืดและมุมสว่างของตัวละครแต่ละตัว หากใครอ่านนิยายมันจะมีฉากที่เป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่สัมพันธ์กับชื่อเรื่องเสมออาจจะเป็นในตอนต้น อาจจะเป็นในตอนท้าย และ มักมีการใช้ฉากนั้น ๆ ซ้ำกันแต่ต่างวาระ ต่างเวลา ต่างสถานที่ ชีวิตของตัวละครแต่ละตัวค่อย ๆ เข้มข้นมืดครึ้มตามช่วงเวลาที่ผู้เขียนกำหนด เริ่มที่ช่วงเวลากลางวัน กลางคืน และ ยามมืดสนิทมีเพียงแสงดาวที่สว่าง
มายาตวัน กล่าวถึง นักแสดงหนุ่มที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกแล้วต่อมาก็เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร นักแสดงหนุ่มที่โด่งดังก็เหมือนกับพระอาทิตย์ร้อนแรงโดดเด่นแต่ก็อยู่ในวงการบันเทิงที่ฉากหน้าดูสวยงามแต่จริง ๆ แล้ววงการนั้นมันก็คือโลกมายา ที่เจ้าตัวเอือมระอาเต็มทีเมื่อต้องถูกขุดคุ้ยข่าวรวมถึงอดีตที่เจ็บปวด จำได้ว่าฉากที่ที่ทำให้หวนนึกถึงชื่อมายาตวัน น่าจะเป็นฉากยามเย็นที่แสงสีแดงของดวงตะวันย้อมใบหน้าคมแบบลูกครึ่งของเขตต์ตวันเอาไว้ ภายใต้ใบหน้าเฉยชามีความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ภายใน ความเจ็บปวดที่ดวงตะวันเพียรซ่อนไว้เมื่ออยู่ใต้ม่านมายาวงการบันเทิง ส่วนมัทนาก็เหมือนดวงตะวันในชีวิตของเขตต์ตวัน สดใส ร่าเริง จริงใจ และ พร้อมให้อภัยเสมอ ความรักครั้งนี้จึงหลุด เขตต์ตวันก็คือดวงอาทิตย์ในมุมมืด ส่วนมัทนาก็เหมือนดวงอาทิตย์ในมุมสว่าง
มนต์จันทรา กล่าวถึง นักข่าวสาวและเจ้าพ่อมาเฟีย ดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเรื่อง สาระวารีกับสาระสมาตอนเป็นเด็กที่บ้านลำบาก ฐานะยากจนไม่ได้ไปหย่อนใจกันที่ไหน บางทีแม่ก็พาออกมานอกชานบ้านร้องเพลงให้ฟังคลายเศร้าคลายเหงา "จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า " แล้วสองสาวก็มองพระจันทร์ไปด้วย บางครั้งเวลาลำบากก็จะหน้ามองพระจันทร์แล้วคิดถึงเพลงนี้ขึ้นมาทั้งเรื่องสุขและเศร้า สุขตอนที่อยู่กับแม่ และ เศร้าในตอนที่แม่ตาย สาระวารีเคยบอกว่าถ้าขอพรพระจันทร์ได้จะไม่ขออะไรนอกจากให้แม่หาย แต่พระจันทร์ไม่ได้มีมนต์เช่นว่าอ้อนวอนขออย่างไรแม่เธอก็ตายอยู่ดี หากในคืนที่เธอขอพรพระจันทร์ให้แม่หายแม้โลกจะพรากแม่ของเธอไป เราก็คิดว่าเธอได้บางอย่างติดมาเช่นกันบอกไม่ได้ว่ามันคือผลจากมนต์จากพระจันทร์รึเปล่า ก็วันนั้นเป็นวันที่เธอเจอผู้ชายในชีวิตคือษมา สุดท้ายชีวิตที่ลำบากยากเข็ญ ผ่านอันตราย และ อุปสรรคร้อยแปด สาระวารีก็มีคนดูแลจนได้ และ แน่นอนว่าวันที่ษมาสวมแหวน ก็คือวันพระจันทร์เต็มดวงใต้แสงจันทร์บนเกาะยานกนั่นแหละ เรื่องเก่าก็ถูกนำมาเล่าใหม่สาระวารีบอกว่าเคยขอพระจันทร์ไม่ให้แม่ตายแต่แม่ก็จากไป ซึ่งษมาในคืนนั้นก็ให้ความมั่นใจว่าร้องขอพระจันทร์ก็ต้องได้ตามที่ขอแน่ ๆ สาระวารีเลยได้ "แหวนทอง" มาผูกนิ้ว สาระวารีคือพระจันทร์ในมุมมืดเพราะได้พบกับความผิดหวังในคืนจันทร์เพ็ญ ส่วนษมาคือพระจันทร์ในมุมสว่างที่เข้ามาเยียวยาใจสาระวารี
ฟ้ากระจ่างดาว กล่าวถึง ชีวิตของนักข่าวสาว และ นายตำรวจหนุ่ม ชีวิตของมีคณาน่าจะเป็นชีวิตที่ดาร์คที่สุดในหมู่สามสาวแล้ว จะเห็นได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้เริ่มจากตะวัน มาสู่พระจันทร์ และ นำไปสู่ดวงดาว ซึ่งแสงริบหรี่ลงทุกที ฟ้ากระจ่างดาว ชื่อไพเราะแต่ฉากเศร้า วันที่ฟ้าเมืองเหนือกระจ่างไปด้วยดาว คือ วันที่มีคณาหนีออกจากบ้านเพราะกำลังจะถูกขายไปให้นายหน้าเพื่อค้าบริการทางเพศ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่เห็นซึ่งความสวยของดวงดาวแม้แต่น้อย ต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกบ้านด้วยร่างกายที่บอบช้ำ ลงมาหาป้าที่กรุงเทพ วันใดที่มีคณามองท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดาวก็จะคิดถึงวันที่หนีจากบ้านมาทุกครั้งไป ฉากนี้เล่าซ้ำในวันที่มีคณาลงไปทำข่าวผู้หญิงถูกล่อลวงไปขายบริการที่ชายแดนใต้ แบบลุยเดี่ยว และ เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งที่ซ่อง สารวัตรขยันยิ้มทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงมีคณามาก หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว ทั้งสองตกลงใจกันว่าจะเดินกลับโรงแรม ท้องฟ้าเมืองใต้กระจ่างไปด้วยแสงดาวเหมือนเช่นวันที่เธอหนีออกจากบ้าน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ วันนี้มีคณามีสารวัตรหิรัณย์ที่ขอเธอแต่งงานโดยไม่มีข้อตะขิดตะขวงใด ๆ กับปัญหาทางบ้านของเธอ ทั้งหลาน ทั้งแม่ ทั้งน้อง ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาแต่หิรัณย์ไม่แคร์และพร้อมดูแล ฟ้ากระจ่างดาวของมีคณาจึงไม่ใช่สิ่งย้ำเตือนความเจ็บช้ำของการถูกหลอกไปขายตัวอีกต่อไป
มายาตวัน มนต์จันทรา ฟ้ากระจ่างดาว ชื่อเรื่อง ความหมาย และ ความสัมพันธ์ ในความคิดของข้าพเจ้า (สปอยด์)
ในชื่อเรื่องจะเห็นได้ว่ามันมีความสัมพันธ์กับท้องฟ้าและดวงดาวทั้งสิ้น มายาตวัน กล่าวถึง พระอาทิตย์ มนต์จันทรา กล่าวถึง พระจันทร์ และ ฟ้ากระจ่างดาว ก็กล่าวถึงดวงดาว ซึ่งเราคิดว่า พระอาทิตย์ พระจันทร์ และ ดวงดาวต่างเป็นตัวแทนของตัวละครนำในเรื่อง ซึ่งเล่าเรื่องในมุมมืดและมุมสว่างของตัวละครแต่ละตัว หากใครอ่านนิยายมันจะมีฉากที่เป็นสัญลักษณ์อะไรบางอย่างที่สัมพันธ์กับชื่อเรื่องเสมออาจจะเป็นในตอนต้น อาจจะเป็นในตอนท้าย และ มักมีการใช้ฉากนั้น ๆ ซ้ำกันแต่ต่างวาระ ต่างเวลา ต่างสถานที่ ชีวิตของตัวละครแต่ละตัวค่อย ๆ เข้มข้นมืดครึ้มตามช่วงเวลาที่ผู้เขียนกำหนด เริ่มที่ช่วงเวลากลางวัน กลางคืน และ ยามมืดสนิทมีเพียงแสงดาวที่สว่าง
มายาตวัน กล่าวถึง นักแสดงหนุ่มที่เคยโด่งดังเป็นพลุแตกแล้วต่อมาก็เก็บตัวเงียบไม่สุงสิงกับใคร นักแสดงหนุ่มที่โด่งดังก็เหมือนกับพระอาทิตย์ร้อนแรงโดดเด่นแต่ก็อยู่ในวงการบันเทิงที่ฉากหน้าดูสวยงามแต่จริง ๆ แล้ววงการนั้นมันก็คือโลกมายา ที่เจ้าตัวเอือมระอาเต็มทีเมื่อต้องถูกขุดคุ้ยข่าวรวมถึงอดีตที่เจ็บปวด จำได้ว่าฉากที่ที่ทำให้หวนนึกถึงชื่อมายาตวัน น่าจะเป็นฉากยามเย็นที่แสงสีแดงของดวงตะวันย้อมใบหน้าคมแบบลูกครึ่งของเขตต์ตวันเอาไว้ ภายใต้ใบหน้าเฉยชามีความรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวอยู่ภายใน ความเจ็บปวดที่ดวงตะวันเพียรซ่อนไว้เมื่ออยู่ใต้ม่านมายาวงการบันเทิง ส่วนมัทนาก็เหมือนดวงตะวันในชีวิตของเขตต์ตวัน สดใส ร่าเริง จริงใจ และ พร้อมให้อภัยเสมอ ความรักครั้งนี้จึงหลุด เขตต์ตวันก็คือดวงอาทิตย์ในมุมมืด ส่วนมัทนาก็เหมือนดวงอาทิตย์ในมุมสว่าง
มนต์จันทรา กล่าวถึง นักข่าวสาวและเจ้าพ่อมาเฟีย ดวงจันทร์เป็นสัญลักษณ์ของเรื่อง สาระวารีกับสาระสมาตอนเป็นเด็กที่บ้านลำบาก ฐานะยากจนไม่ได้ไปหย่อนใจกันที่ไหน บางทีแม่ก็พาออกมานอกชานบ้านร้องเพลงให้ฟังคลายเศร้าคลายเหงา "จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า ขอข้าวขอแกง ขอแหวนทองแดงผูกมือน้องข้า " แล้วสองสาวก็มองพระจันทร์ไปด้วย บางครั้งเวลาลำบากก็จะหน้ามองพระจันทร์แล้วคิดถึงเพลงนี้ขึ้นมาทั้งเรื่องสุขและเศร้า สุขตอนที่อยู่กับแม่ และ เศร้าในตอนที่แม่ตาย สาระวารีเคยบอกว่าถ้าขอพรพระจันทร์ได้จะไม่ขออะไรนอกจากให้แม่หาย แต่พระจันทร์ไม่ได้มีมนต์เช่นว่าอ้อนวอนขออย่างไรแม่เธอก็ตายอยู่ดี หากในคืนที่เธอขอพรพระจันทร์ให้แม่หายแม้โลกจะพรากแม่ของเธอไป เราก็คิดว่าเธอได้บางอย่างติดมาเช่นกันบอกไม่ได้ว่ามันคือผลจากมนต์จากพระจันทร์รึเปล่า ก็วันนั้นเป็นวันที่เธอเจอผู้ชายในชีวิตคือษมา สุดท้ายชีวิตที่ลำบากยากเข็ญ ผ่านอันตราย และ อุปสรรคร้อยแปด สาระวารีก็มีคนดูแลจนได้ และ แน่นอนว่าวันที่ษมาสวมแหวน ก็คือวันพระจันทร์เต็มดวงใต้แสงจันทร์บนเกาะยานกนั่นแหละ เรื่องเก่าก็ถูกนำมาเล่าใหม่สาระวารีบอกว่าเคยขอพระจันทร์ไม่ให้แม่ตายแต่แม่ก็จากไป ซึ่งษมาในคืนนั้นก็ให้ความมั่นใจว่าร้องขอพระจันทร์ก็ต้องได้ตามที่ขอแน่ ๆ สาระวารีเลยได้ "แหวนทอง" มาผูกนิ้ว สาระวารีคือพระจันทร์ในมุมมืดเพราะได้พบกับความผิดหวังในคืนจันทร์เพ็ญ ส่วนษมาคือพระจันทร์ในมุมสว่างที่เข้ามาเยียวยาใจสาระวารี
ฟ้ากระจ่างดาว กล่าวถึง ชีวิตของนักข่าวสาว และ นายตำรวจหนุ่ม ชีวิตของมีคณาน่าจะเป็นชีวิตที่ดาร์คที่สุดในหมู่สามสาวแล้ว จะเห็นได้ว่าซีรีย์เรื่องนี้เริ่มจากตะวัน มาสู่พระจันทร์ และ นำไปสู่ดวงดาว ซึ่งแสงริบหรี่ลงทุกที ฟ้ากระจ่างดาว ชื่อไพเราะแต่ฉากเศร้า วันที่ฟ้าเมืองเหนือกระจ่างไปด้วยดาว คือ วันที่มีคณาหนีออกจากบ้านเพราะกำลังจะถูกขายไปให้นายหน้าเพื่อค้าบริการทางเพศ เด็กผู้หญิงคนหนึ่งไม่เห็นซึ่งความสวยของดวงดาวแม้แต่น้อย ต้องหนีหัวซุกหัวซุนออกบ้านด้วยร่างกายที่บอบช้ำ ลงมาหาป้าที่กรุงเทพ วันใดที่มีคณามองท้องฟ้าที่ดารดาษไปด้วยดาวก็จะคิดถึงวันที่หนีจากบ้านมาทุกครั้งไป ฉากนี้เล่าซ้ำในวันที่มีคณาลงไปทำข่าวผู้หญิงถูกล่อลวงไปขายบริการที่ชายแดนใต้ แบบลุยเดี่ยว และ เกือบจะเอาชีวิตไปทิ้งที่ซ่อง สารวัตรขยันยิ้มทั้งโกรธทั้งเป็นห่วงมีคณามาก หลังจากที่ปรับความเข้าใจกันแล้ว ทั้งสองตกลงใจกันว่าจะเดินกลับโรงแรม ท้องฟ้าเมืองใต้กระจ่างไปด้วยแสงดาวเหมือนเช่นวันที่เธอหนีออกจากบ้าน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันคือ วันนี้มีคณามีสารวัตรหิรัณย์ที่ขอเธอแต่งงานโดยไม่มีข้อตะขิดตะขวงใด ๆ กับปัญหาทางบ้านของเธอ ทั้งหลาน ทั้งแม่ ทั้งน้อง ล้วนแล้วแต่เป็นปัญหาแต่หิรัณย์ไม่แคร์และพร้อมดูแล ฟ้ากระจ่างดาวของมีคณาจึงไม่ใช่สิ่งย้ำเตือนความเจ็บช้ำของการถูกหลอกไปขายตัวอีกต่อไป