รุกคืบไปทีละระบบ...
‘หมอประดิษฐ’ ตัวร้ายทำลายระบบสุขภาพไทย! ถีบหัวส่งบัตรทอง 48 ล้านคนเป็นอนาถาเต็มขั้น (ตอนที่ 1)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2556 08:00 น.
การเมืองเตรียมรื้อโครงสร้างระบบสุขภาพใหม่หมด ยึดอำนาจกลับสู่กระทรวงสาธารณสุข ตามแผนเดินหน้า Medical Hup ดึงผลประโยชน์ 2 แสนล้านเข้าบริหารเอื้อกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน-บรรษัทยาข้ามชาติตามแผน ที่เดินหน้าด้วยการส่งคนการเมืองเข้าเป็นบอร์ด สปสช. ตามด้วยกำจัดหมอวิฑิตออกจากองค์การเภสัชฯ เหตุทำ CL บรรษัทยาข้ามชาติเสียผลประโยชน์ แถมเตรียมเดินหน้า Co-pay คู่ P4P ที่ต่อไปคนไข้ 30 บาทในกลุ่มคนจนจะกลายมาเป็นคนไข้ในระบบอนาถาเต็มขั้น!
เรียกเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2555 เพราะเส้นสายเบื้องหลังการเข้ามารับตำแหน่ง ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกฯ สาวคนนี้อย่างยิ่ง แต่เพียงระยะเวลา 7 เดือนหลังจากเข้ารับตำแหน่ง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ เจ้ากระทรวงหมอคนนี้ได้ชื่อว่า เป็นรัฐมนตรีที่เข้ามาในกระทรวงสาธารณสุขแล้วทำให้เกิดการแตกแยกของคนประกอบวิชาชีพแพทย์มากที่สุด มากกว่ายุคการทุจริตยาที่มีความขัดแย้งระหว่างหมอรุ่นใหม่คือหมอชนบท และหมอรุ่นเก่าที่กุมอำนาจในท้องถิ่นอย่าง นพ.สสจ. (นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด) ในช่วงปี 2546
ศึกเสื้อกาวน์ที่กำลังปะทุอยู่ในขณะนี้ถือเป็นศึกใหญ่ ที่บรรดาแพทย์รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่ปฏิบัติงานดูแล รักษาคนไข้แตกแยกกันอย่างรุนแรง
ขณะที่ นพ.ประดิษฐเตรียมแผนผ่าตัดระบบสุขภาพไทยยกใหญ่ ที่มีเบื้องหลังแอบอิงกลุ่มทุน หวังเข้ามาหาประโยชน์จากกระทรวงหมอเบ็ดเสร็จตามแผนใหญ่ที่ “นาย” สั่งมา?
แผนปฏิบัติการของ นพ.ประดิษฐในวันนี้มีเป้าหมายชัดเจน สังเกตได้จากการประกาศหน้าเว็บไซต์
กระทรวงสาธารณสุข ด้วยภารกิจ 2 อย่างที่ต้องทำให้ประสบผลสำเร็จ!
เรื่องแรกคือเรื่องของการปฏิรูประบบสุขภาพ ดึงอำนาจการจัดการระบบสุขภาพของไทยคืนสู่กระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด (MOPH Reform)
เรื่องที่สองคือการผลักดันเรื่องของการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขตามผลการปฏิบัติงาน หรือ P4P (เฉลี่ยเงินตามงาน)
2 เรื่องนี้ มีการสื่อสารโดยใช้ภาษาเหมือนใบปลิวประท้วง แต่ปัญหาคือ เป็นใบปลิวที่อยู่บนเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นหน่วยงานราชการ
เท่ากับเป็นการตอบย้ำให้สังคมได้เห็นว่า นพ.ประดิษฐกำลังรุกคืบสู่เป้าหมายยึดกุมอำนาจระบบสุขภาพไทยจากที่หน่วยงาน และงบประมาณเหล่านี้ ได้ต่อสู้และหลุดพ้นการครอบงำของนักการเมืองไปแล้ว ต้องกลับเข้าสู่มือนักการเมืองที่กุมอำนาจกระทรวงสาธารณสุขเบ็ดเสร็จ!
แทรกแซงบอร์ด สปสช.ส่งคนการเมืองคุม
สำหรับภารกิจแรกของการเข้ามาสู่การเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของ นพ.ประดิษฐ คือการสั่นคลอนอำนาจของ สปสช. หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีรูปแบบการทำงานแบบคณะกรรมการ และส่วนใหญ่คนที่เข้ามามีบทบาทเป็นกลุ่มหมอชนบท ที่เป็นต้นความคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะซื้อไอเดียไปทำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จนพรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปี 2544 ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เพราะนโยบายประชานิยมอย่าง “30 บาทรักษาทุกโรค” เป็นเรื่องที่ “โดนใจ” คนไทยที่สุด
แต่การเกิดขึ้นของ สปสช.ที่มีการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการนั้น ทำให้ลดอำนาจที่เคยเป็นของข้าราชการและนักการเมืองกระทรวงสาธารณสุขไปอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “คนเบื้องหลัง” มีการสั่งการให้ “ส่งคน” ของตัวเองเข้าไปเป็นคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่วนคนที่เป็นคณะกรรมการในกลุ่มหมอชนบทก็ต้องมีการหว่านล้อมเอามาเป็นพวกให้ได้
แม้กระทั่งหัวใหญ่ของ สปสช.เวลานี้ แม้ยังเป็นคนที่ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มหมอชนบทมาตลอด บัดนี้ก็มีกระแสข่าวลือว่า “เปลี่ยนสี” ไปเรียบร้อยแล้ว แบบ “การเมืองสั่งได้” ......
อ่านต่อได้ที่ ..
http://astv.mobi/A2f7ckN
‘หมอประดิษฐ’ ตัวร้ายทำลายระบบสุขภาพไทย! ถีบหัวส่งบัตรทอง 48 ล้านคนเป็นอนาถาเต็มขั้น (ตอนที่ 1)
‘หมอประดิษฐ’ ตัวร้ายทำลายระบบสุขภาพไทย! ถีบหัวส่งบัตรทอง 48 ล้านคนเป็นอนาถาเต็มขั้น (ตอนที่ 1)
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2556 08:00 น.
การเมืองเตรียมรื้อโครงสร้างระบบสุขภาพใหม่หมด ยึดอำนาจกลับสู่กระทรวงสาธารณสุข ตามแผนเดินหน้า Medical Hup ดึงผลประโยชน์ 2 แสนล้านเข้าบริหารเอื้อกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน-บรรษัทยาข้ามชาติตามแผน ที่เดินหน้าด้วยการส่งคนการเมืองเข้าเป็นบอร์ด สปสช. ตามด้วยกำจัดหมอวิฑิตออกจากองค์การเภสัชฯ เหตุทำ CL บรรษัทยาข้ามชาติเสียผลประโยชน์ แถมเตรียมเดินหน้า Co-pay คู่ P4P ที่ต่อไปคนไข้ 30 บาทในกลุ่มคนจนจะกลายมาเป็นคนไข้ในระบบอนาถาเต็มขั้น!
เรียกเสียงฮือฮาได้ตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่ง “รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข” ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2555 เพราะเส้นสายเบื้องหลังการเข้ามารับตำแหน่ง ที่มีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับนายกฯ สาวคนนี้อย่างยิ่ง แต่เพียงระยะเวลา 7 เดือนหลังจากเข้ารับตำแหน่ง นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ เจ้ากระทรวงหมอคนนี้ได้ชื่อว่า เป็นรัฐมนตรีที่เข้ามาในกระทรวงสาธารณสุขแล้วทำให้เกิดการแตกแยกของคนประกอบวิชาชีพแพทย์มากที่สุด มากกว่ายุคการทุจริตยาที่มีความขัดแย้งระหว่างหมอรุ่นใหม่คือหมอชนบท และหมอรุ่นเก่าที่กุมอำนาจในท้องถิ่นอย่าง นพ.สสจ. (นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด) ในช่วงปี 2546
ศึกเสื้อกาวน์ที่กำลังปะทุอยู่ในขณะนี้ถือเป็นศึกใหญ่ ที่บรรดาแพทย์รุ่นพี่ รุ่นน้อง ที่ปฏิบัติงานดูแล รักษาคนไข้แตกแยกกันอย่างรุนแรง
ขณะที่ นพ.ประดิษฐเตรียมแผนผ่าตัดระบบสุขภาพไทยยกใหญ่ ที่มีเบื้องหลังแอบอิงกลุ่มทุน หวังเข้ามาหาประโยชน์จากกระทรวงหมอเบ็ดเสร็จตามแผนใหญ่ที่ “นาย” สั่งมา?
แผนปฏิบัติการของ นพ.ประดิษฐในวันนี้มีเป้าหมายชัดเจน สังเกตได้จากการประกาศหน้าเว็บไซต์
กระทรวงสาธารณสุข ด้วยภารกิจ 2 อย่างที่ต้องทำให้ประสบผลสำเร็จ!
เรื่องแรกคือเรื่องของการปฏิรูประบบสุขภาพ ดึงอำนาจการจัดการระบบสุขภาพของไทยคืนสู่กระทรวงสาธารณสุขทั้งหมด (MOPH Reform)
เรื่องที่สองคือการผลักดันเรื่องของการจ่ายค่าตอบแทนกำลังคนด้านสาธารณสุขตามผลการปฏิบัติงาน หรือ P4P (เฉลี่ยเงินตามงาน)
2 เรื่องนี้ มีการสื่อสารโดยใช้ภาษาเหมือนใบปลิวประท้วง แต่ปัญหาคือ เป็นใบปลิวที่อยู่บนเว็บไซต์กระทรวงสาธารณสุข ที่เป็นหน่วยงานราชการ
เท่ากับเป็นการตอบย้ำให้สังคมได้เห็นว่า นพ.ประดิษฐกำลังรุกคืบสู่เป้าหมายยึดกุมอำนาจระบบสุขภาพไทยจากที่หน่วยงาน และงบประมาณเหล่านี้ ได้ต่อสู้และหลุดพ้นการครอบงำของนักการเมืองไปแล้ว ต้องกลับเข้าสู่มือนักการเมืองที่กุมอำนาจกระทรวงสาธารณสุขเบ็ดเสร็จ!
แทรกแซงบอร์ด สปสช.ส่งคนการเมืองคุม
สำหรับภารกิจแรกของการเข้ามาสู่การเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของ นพ.ประดิษฐ คือการสั่นคลอนอำนาจของ สปสช. หรือ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีรูปแบบการทำงานแบบคณะกรรมการ และส่วนใหญ่คนที่เข้ามามีบทบาทเป็นกลุ่มหมอชนบท ที่เป็นต้นความคิดเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะซื้อไอเดียไปทำนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค จนพรรคไทยรักไทยได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงปี 2544 ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เพราะนโยบายประชานิยมอย่าง “30 บาทรักษาทุกโรค” เป็นเรื่องที่ “โดนใจ” คนไทยที่สุด
แต่การเกิดขึ้นของ สปสช.ที่มีการทำงานในรูปแบบคณะกรรมการนั้น ทำให้ลดอำนาจที่เคยเป็นของข้าราชการและนักการเมืองกระทรวงสาธารณสุขไปอย่างมาก นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ “คนเบื้องหลัง” มีการสั่งการให้ “ส่งคน” ของตัวเองเข้าไปเป็นคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ส่วนคนที่เป็นคณะกรรมการในกลุ่มหมอชนบทก็ต้องมีการหว่านล้อมเอามาเป็นพวกให้ได้
แม้กระทั่งหัวใหญ่ของ สปสช.เวลานี้ แม้ยังเป็นคนที่ได้รับการสนับสนุนมาจากกลุ่มหมอชนบทมาตลอด บัดนี้ก็มีกระแสข่าวลือว่า “เปลี่ยนสี” ไปเรียบร้อยแล้ว แบบ “การเมืองสั่งได้” ......
อ่านต่อได้ที่ .. http://astv.mobi/A2f7ckN