เรื่องราวคร่าว ๆ ในชีวิตคู่ของเรานะคะ เรามีสามีเป็นทหารอยู่ จ.แห่งนึ่งที่ขึ้นชื่อว่ามีค่ายทหารเยอะ
เราแต่งงานเมื่อกันยายนปีที่แล้ว.....โดยที่งานแต่งของเราไม่มีความสุขเหมือนคนอื่น ๆ เค้าเลยค่ะ
คนที่จะแต่งงานต้องมีความสุขใช่มั้ยค่ะ แต่สำหรับเราป่าวเลย เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ.........
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จิตใจเราเป็นกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีเซนต์อะไรบ่างอย่าง
เกี่ยวกับแฟนของเรา..วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันเสาร์ เราโทรหาแฟนตั้งแต่เช้าไม่เคยรับโทรศัพท์เราแม้แต่สายเดียว
เราก็เกิดการเป็นห่วงเค้าเพราะว่าเค้าบอกตัวเค้าเองไม่สบาย.......เรากระวนกระวายใจมากเราก็เลยลางานครึ่งวัน
เพื่อที่จะไปดูแลเค้า เพราะความเป็นห่วง รีบไปหาโดยที่ตัวเค้าไม่รู้ว่าเราไปหาเลย
พอเราไปถึงบ้านพักที่ค่ายทหาร สิ่งที่เราเจอคือแฟนเอาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน ณ เวลาช็อคสุดๆ ทำอะไรไม่ถูก
ร้องไห้อย่างเดียว ส่วนผู้หญิงคนนั้นได้วิ่งหลบไปทางหลังบ้าน.......เราไม่ได้คิดจะวิ่งตาม เพราะนาทีนั้นมันช็อคจริง ๆ
เหมือนโดนปืนยิงเข้ามาในขั้วหัวใจ มันทั้งเจ็บและแค้น สับสน ทำอะไรไม่ได้............
พอเราได้สติเราก็กลับบ้านเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง และแม่เราก็ได้ไปหาพ่อกับแม่ของแฟน ว่าเป็นแบบนี้จะทำไงกันดี
เพราะว่าเรากับแฟนจะแต่งงานกันปีนี้อยู่แล้ว พ่อกับแม่เค้าก็เลยรีบจัดงานแต่งงานแบบกระทันหันมาก ๆ
ทุกคนคงงงใช่มั้ยคะ ว่าเราทำไมถึงยังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้อีก........ก็เพราะว่า แฟนเราเค้าพูดกับแม่เราว่า
ยังไงก็เลือกเรา และจะเลิกกับทางนั้น สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เรากับครอบครัวของเราก็ให้อภัยเค้า
ตัวเราเองก็รักเค้ามากด้วย ก็เลยคิดว่าแฟนเราคงจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้อย่างที่ปากพูด
งานแต่งผ่านไป แต่เรากับแฟนก็ต้องอยู่กันคนละจังหวัด.......โดยที่เราไว้ใจและเชื่อใจเค้า เค้าก็มาหาเราเดือนละครั้งสองครั้งบ้าง
เราก็ไปหาเค้าบ้าง แต่มันมีสิ่งผิดปกติที่อยู่ในบ้านพักของเค้า คือจะมีเส้นผมผู้หญิงหล่นอยู่ประปรายตามพื้นห้อง
ในใจเราก็คิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน คิดแต่ว่าปิดหูปิดตาไปซะบ้างก็ดี......ยังไงสามีก็ต้องอยู่กับเราอยู่แล้ว
ผู้หญิงคนอื่นคงจะเป็นแค่ของเล่นของเค้า
เวลาผ่านไปไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาคุยกับเราว่าขอโทษเรากับเรื่องที่ผ่านมาและจะเป็นฝ่ายไปเอง..เราก็บอกว่าไม่เป็นไร
เราไม่โกรธหรอก ถ้ายอมรับผิดก็จะให้อภัย แต่หลังจากนั้นเราก็โทรไปหาผู้หญิงคนนั้นบ้าง เค้นเอาความจริงว่าสามีของเรา
ยังไปหาเธออยู่มั้ย แกล้งตล้อมถามว่าเป็นคนที่ไหนอย่างไร ไปเจอกับสามีได้ยังไง........แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เล่าให้ฟังหมดทุกอย่าง
ว่าสามีเราเป็นคนไปรับเธอให้มานอนในบ้านพักเอง แล้วก็ห้องพักและที่ทำงานของเธออยู่ใกล้กันกับค่ายทหารที่สามีเราอยู่
ตอนนี้ก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า สามีเราหน่ะไม่ยอมปล่อยใครไปหรอกทั้งเราและก็ตัวเธอเอง เพราะสามีเราบอกว่ารักทั้งคู่ไม่อยากเสียใครไป หลังจากนั้นเราก็เลยไปเค้นถามกับสามีว่ายังไม่เลิกกันอีกหรอ รู้ไหมคำตอบคืออะไร......สามีบอกว่า ก็ต่างคนต่างอยู่ซิ
อย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหมไม่อยากทะเลาะกัน เพราะยังไงเค้าก็ต้องอยู่กับเราจนแก่จนเฒ่าอยู่แล้ว คนอื่นอย่าไปพูดถึงเลย
แล้วสามีเรานะก็ไม่เคลีย ไม่อะไรปล่อยไปเฉย ๆ เลยตามเลย พอเราเค้นหนักเข้า ๆ สิ่งที่เค้าพูดกับเรานะ เค้าบอกเราว่า อยู่กันสามคน
แบบนี้ไม่ได้หรอ ยังไงตัวสามีเราก็ทิ้งเราไม่ได้ แล้วเค้าก็ทิ้งผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เช่นกัน แต่จะยกให้เราเป็นที่ 1 และรักเรามากกว่า
โอ๊ย..อกแตกเลยค่ะเรา อยากจะฆ่าทิ้งทั้งคู่แต่ทำไม่ได้
เราเลยก็ได้แต่เก็บและแอบไปร้องไห้คนเดียวเป็นเดือน ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน นอนก็นอนไม่หลับ จิตตกหวาดระแวงคิดมาก
จนแทบจะเป็นบ้า.......แม่เราก็สังเกตุว่าทำไมเราถึงได้ผอมลงและหน้าตาดูไม่ได้ โทรมลงอย่างเห็นได้ชัด เราก็เลยร้องไห้ออกมา
เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง ว่าผู้หญิงคนนั้นโทรหาหนู มันเหมือนว่าต้องการให้หนูรับรู้ว่ามันยังไม่เลิกกับสามี แล้วมันก็พูดเชิงแบบว่า
ตัวมันหน่ะชินแล้วนะที่มันเป็นแบบนี้ มันยอมได้เพราะว่ามันรักสามีเรา มันก็ถามกลับว่าเรายอมได้ไหม (พูดเหมือนแบบว่าจะให้เรายอมรับ
มันอีกคนหนึ่งจะได้ไหม อะไรแบบนี้)
แม่เราก็เลยเข้าไปหาพ่อกับแม่ของสามีที่บ้าน พ่อกับแม่ของสามีก็ได้ด่าสามีไป และก็พูดกับเราว่า "ก็แต่งกันแล้ว เราไม่ไปอยู่กับสามีเอง
ผู้ชายก็แบบนี้แหละ" เราผิดหรอคะที่เราไม่ไปอยู่ เพราะเรามีงานต้องทำ ไหนจะเป็นห่วงแม่อีกล่ะ ใครจะดูแลแม่
และอีกอย่างเราคิดว่าอยู่ไกลกันก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าคนสองคนซื่อสัตย์ต่อกัน ปัญหาเรื่องมือที่สามมันก็จะไม่มีเลย
เราก็เลยบอกสามีไปว่าถ้าเป็นแบบนี้เราขอเลิกดีกว่า และขอเงินของเราที่เราช่วยเค้าส่งรถไปขอแค่นั้นแหละ
คนอื่นก็พูดกับเราว่าจะไปยอมมันทำไม มันเป็นราชการเราจะฟ้องเราก็ฟ้องได้เพราะเรามีทะเบียนสมรส มันผิดทั้งคู่นะ
เรียกร้องไปเลยเป็นแสน ๆ ก็ได้.......เราสับสนมาก ๆ ค่ะ ใจหนึ่งก็อยากจะหย่าให้มันจบ ๆ กันไป อีกใจก็แค้นที่มันทำแบบนี้กับเรา
เอาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้านพักแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยรึ เราคิดว่าเราใจดีสุด ๆ แล้วนะ ที่จะจบกันแบบง่าย ๆ เราไม่อยากมีปัญหาค่ะ
และไม่ได้มีเวลาที่จะไปจ้างทนาย เพราะเราก็ต้องทำมาหากิน ไม่อยากจะไปเสียเวลากับเรื่องพวกนี้เลย
ตอนนี้ก็รอเวลาสามีโทรมานัดวันหย่า และก็คืนเงินที่เราส่งรถให้......หลังจากเหตุการณ์วันนั้นวันที่เรากับแม่เข้าไปหาพ่อแม่ของเค้า
เค้าก็ไม่เคยโทรหาเราอีกเลยค่ะ ส่วนเราก็พอทำใจได้บ้างแล้ว เพราะเราคิดว่าถ้าหากสามีรักกันจริง ๆ ก็จะไม่ทำแบบนี้หรอก
แต่ก่อนเรางมงายและใจอ่อนมาก ๆ ค่ะ เพิ่งจะมาตาสว่างก็เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง และกลับไปคิดว่าวันนั้นไม่แต่งงานกัน
ก็คงไม่ต้องมานั่งเจ็บอยู่แบบนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แ้ล้ว เราก็ต้องอยู่กับปัจจุบันดีกว่า
ทุกวันนี้ก็ได้แต่ขอบคุณเค้าที่ผ่านมาเคยรักและดีกับเราทุกอย่าง และก็ต้องขอบคุณอีกเช่นกันที่ไม่โทรหาเรา ไม่เวิ่นเว้อ
ไม่ยืดเยื้อหรือง้อเรา ให้เรากลับไปคืนดีกับเค้าอีก เราจะได้ตัดเค้าได้เร็ว ทำใจยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
และให้มันเป็นบทเรียนในชีวิตของเรา เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า ไม่มีใครรักเรามากเท่ากับ "พ่อแม่" จริง ๆ ค่ะ
พ่อกับแม่ของเราให้กำลังใจเราทุกอย่าง อยู่เคีียงข้างเราเสมอ
ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันตาสว่าง ต่อจากนี้ไปฉันจะดูแลตัวฉันเองให้สวยปิ๊ง (จากที่ฉันเกือบเป็นบ้าจิตตกกังวลมาก ๆ)
ฉันจะเลิกโทรมเลิกร้องไห้ฟูมฟาย แล้วจะมาเสียดายไม่ได้นะจ๊ะ เพราะตอนที่ฉันอยู่คุณไม่ดูแลฉันเอง
ยังไงก็ขอให้คุณโชคดีกับคนใหม่ของคุณแล้วกัน // บ๊าย บาย สามีที่(เคย)รัก
ขอบคุณนะที่ไม่โทรหาและไม่ติดต่อ//กระทู้นี้แด่ อดีตสามีที่(เคย)รัก
เราแต่งงานเมื่อกันยายนปีที่แล้ว.....โดยที่งานแต่งของเราไม่มีความสุขเหมือนคนอื่น ๆ เค้าเลยค่ะ
คนที่จะแต่งงานต้องมีความสุขใช่มั้ยค่ะ แต่สำหรับเราป่าวเลย เพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะ.........
เมื่อปลายเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว จิตใจเราเป็นกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีเซนต์อะไรบ่างอย่าง
เกี่ยวกับแฟนของเรา..วันนั้นจำได้ว่าเป็นวันเสาร์ เราโทรหาแฟนตั้งแต่เช้าไม่เคยรับโทรศัพท์เราแม้แต่สายเดียว
เราก็เกิดการเป็นห่วงเค้าเพราะว่าเค้าบอกตัวเค้าเองไม่สบาย.......เรากระวนกระวายใจมากเราก็เลยลางานครึ่งวัน
เพื่อที่จะไปดูแลเค้า เพราะความเป็นห่วง รีบไปหาโดยที่ตัวเค้าไม่รู้ว่าเราไปหาเลย
พอเราไปถึงบ้านพักที่ค่ายทหาร สิ่งที่เราเจอคือแฟนเอาผู้หญิงคนใหม่เข้ามาอยู่ในบ้าน ณ เวลาช็อคสุดๆ ทำอะไรไม่ถูก
ร้องไห้อย่างเดียว ส่วนผู้หญิงคนนั้นได้วิ่งหลบไปทางหลังบ้าน.......เราไม่ได้คิดจะวิ่งตาม เพราะนาทีนั้นมันช็อคจริง ๆ
เหมือนโดนปืนยิงเข้ามาในขั้วหัวใจ มันทั้งเจ็บและแค้น สับสน ทำอะไรไม่ได้............
พอเราได้สติเราก็กลับบ้านเล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่ฟัง และแม่เราก็ได้ไปหาพ่อกับแม่ของแฟน ว่าเป็นแบบนี้จะทำไงกันดี
เพราะว่าเรากับแฟนจะแต่งงานกันปีนี้อยู่แล้ว พ่อกับแม่เค้าก็เลยรีบจัดงานแต่งงานแบบกระทันหันมาก ๆ
ทุกคนคงงงใช่มั้ยคะ ว่าเราทำไมถึงยังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนี้อีก........ก็เพราะว่า แฟนเราเค้าพูดกับแม่เราว่า
ยังไงก็เลือกเรา และจะเลิกกับทางนั้น สัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก เรากับครอบครัวของเราก็ให้อภัยเค้า
ตัวเราเองก็รักเค้ามากด้วย ก็เลยคิดว่าแฟนเราคงจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นได้อย่างที่ปากพูด
งานแต่งผ่านไป แต่เรากับแฟนก็ต้องอยู่กันคนละจังหวัด.......โดยที่เราไว้ใจและเชื่อใจเค้า เค้าก็มาหาเราเดือนละครั้งสองครั้งบ้าง
เราก็ไปหาเค้าบ้าง แต่มันมีสิ่งผิดปกติที่อยู่ในบ้านพักของเค้า คือจะมีเส้นผมผู้หญิงหล่นอยู่ประปรายตามพื้นห้อง
ในใจเราก็คิดแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา เพราะไม่อยากจะทะเลาะกัน คิดแต่ว่าปิดหูปิดตาไปซะบ้างก็ดี......ยังไงสามีก็ต้องอยู่กับเราอยู่แล้ว
ผู้หญิงคนอื่นคงจะเป็นแค่ของเล่นของเค้า
เวลาผ่านไปไม่นานผู้หญิงคนนั้นก็โทรมาคุยกับเราว่าขอโทษเรากับเรื่องที่ผ่านมาและจะเป็นฝ่ายไปเอง..เราก็บอกว่าไม่เป็นไร
เราไม่โกรธหรอก ถ้ายอมรับผิดก็จะให้อภัย แต่หลังจากนั้นเราก็โทรไปหาผู้หญิงคนนั้นบ้าง เค้นเอาความจริงว่าสามีของเรา
ยังไปหาเธออยู่มั้ย แกล้งตล้อมถามว่าเป็นคนที่ไหนอย่างไร ไปเจอกับสามีได้ยังไง........แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เล่าให้ฟังหมดทุกอย่าง
ว่าสามีเราเป็นคนไปรับเธอให้มานอนในบ้านพักเอง แล้วก็ห้องพักและที่ทำงานของเธออยู่ใกล้กันกับค่ายทหารที่สามีเราอยู่
ตอนนี้ก็ยังไปมาหาสู่กันตลอด ผู้หญิงคนนั้นบอกว่า สามีเราหน่ะไม่ยอมปล่อยใครไปหรอกทั้งเราและก็ตัวเธอเอง เพราะสามีเราบอกว่ารักทั้งคู่ไม่อยากเสียใครไป หลังจากนั้นเราก็เลยไปเค้นถามกับสามีว่ายังไม่เลิกกันอีกหรอ รู้ไหมคำตอบคืออะไร......สามีบอกว่า ก็ต่างคนต่างอยู่ซิ
อย่าพูดเรื่องนี้ได้ไหมไม่อยากทะเลาะกัน เพราะยังไงเค้าก็ต้องอยู่กับเราจนแก่จนเฒ่าอยู่แล้ว คนอื่นอย่าไปพูดถึงเลย
แล้วสามีเรานะก็ไม่เคลีย ไม่อะไรปล่อยไปเฉย ๆ เลยตามเลย พอเราเค้นหนักเข้า ๆ สิ่งที่เค้าพูดกับเรานะ เค้าบอกเราว่า อยู่กันสามคน
แบบนี้ไม่ได้หรอ ยังไงตัวสามีเราก็ทิ้งเราไม่ได้ แล้วเค้าก็ทิ้งผู้หญิงคนนั้นไม่ได้เช่นกัน แต่จะยกให้เราเป็นที่ 1 และรักเรามากกว่า
โอ๊ย..อกแตกเลยค่ะเรา อยากจะฆ่าทิ้งทั้งคู่แต่ทำไม่ได้
เราเลยก็ได้แต่เก็บและแอบไปร้องไห้คนเดียวเป็นเดือน ข้าวก็ไม่ค่อยได้กิน นอนก็นอนไม่หลับ จิตตกหวาดระแวงคิดมาก
จนแทบจะเป็นบ้า.......แม่เราก็สังเกตุว่าทำไมเราถึงได้ผอมลงและหน้าตาดูไม่ได้ โทรมลงอย่างเห็นได้ชัด เราก็เลยร้องไห้ออกมา
เล่าทุกอย่างให้แม่ฟัง ว่าผู้หญิงคนนั้นโทรหาหนู มันเหมือนว่าต้องการให้หนูรับรู้ว่ามันยังไม่เลิกกับสามี แล้วมันก็พูดเชิงแบบว่า
ตัวมันหน่ะชินแล้วนะที่มันเป็นแบบนี้ มันยอมได้เพราะว่ามันรักสามีเรา มันก็ถามกลับว่าเรายอมได้ไหม (พูดเหมือนแบบว่าจะให้เรายอมรับ
มันอีกคนหนึ่งจะได้ไหม อะไรแบบนี้)
แม่เราก็เลยเข้าไปหาพ่อกับแม่ของสามีที่บ้าน พ่อกับแม่ของสามีก็ได้ด่าสามีไป และก็พูดกับเราว่า "ก็แต่งกันแล้ว เราไม่ไปอยู่กับสามีเอง
ผู้ชายก็แบบนี้แหละ" เราผิดหรอคะที่เราไม่ไปอยู่ เพราะเรามีงานต้องทำ ไหนจะเป็นห่วงแม่อีกล่ะ ใครจะดูแลแม่
และอีกอย่างเราคิดว่าอยู่ไกลกันก็ไม่เห็นเป็นไร ถ้าคนสองคนซื่อสัตย์ต่อกัน ปัญหาเรื่องมือที่สามมันก็จะไม่มีเลย
เราก็เลยบอกสามีไปว่าถ้าเป็นแบบนี้เราขอเลิกดีกว่า และขอเงินของเราที่เราช่วยเค้าส่งรถไปขอแค่นั้นแหละ
คนอื่นก็พูดกับเราว่าจะไปยอมมันทำไม มันเป็นราชการเราจะฟ้องเราก็ฟ้องได้เพราะเรามีทะเบียนสมรส มันผิดทั้งคู่นะ
เรียกร้องไปเลยเป็นแสน ๆ ก็ได้.......เราสับสนมาก ๆ ค่ะ ใจหนึ่งก็อยากจะหย่าให้มันจบ ๆ กันไป อีกใจก็แค้นที่มันทำแบบนี้กับเรา
เอาผู้หญิงอื่นเข้ามาในบ้านพักแบบนี้ มันไม่เกินไปหน่อยรึ เราคิดว่าเราใจดีสุด ๆ แล้วนะ ที่จะจบกันแบบง่าย ๆ เราไม่อยากมีปัญหาค่ะ
และไม่ได้มีเวลาที่จะไปจ้างทนาย เพราะเราก็ต้องทำมาหากิน ไม่อยากจะไปเสียเวลากับเรื่องพวกนี้เลย
ตอนนี้ก็รอเวลาสามีโทรมานัดวันหย่า และก็คืนเงินที่เราส่งรถให้......หลังจากเหตุการณ์วันนั้นวันที่เรากับแม่เข้าไปหาพ่อแม่ของเค้า
เค้าก็ไม่เคยโทรหาเราอีกเลยค่ะ ส่วนเราก็พอทำใจได้บ้างแล้ว เพราะเราคิดว่าถ้าหากสามีรักกันจริง ๆ ก็จะไม่ทำแบบนี้หรอก
แต่ก่อนเรางมงายและใจอ่อนมาก ๆ ค่ะ เพิ่งจะมาตาสว่างก็เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง และกลับไปคิดว่าวันนั้นไม่แต่งงานกัน
ก็คงไม่ต้องมานั่งเจ็บอยู่แบบนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างมันกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้แ้ล้ว เราก็ต้องอยู่กับปัจจุบันดีกว่า
ทุกวันนี้ก็ได้แต่ขอบคุณเค้าที่ผ่านมาเคยรักและดีกับเราทุกอย่าง และก็ต้องขอบคุณอีกเช่นกันที่ไม่โทรหาเรา ไม่เวิ่นเว้อ
ไม่ยืดเยื้อหรือง้อเรา ให้เรากลับไปคืนดีกับเค้าอีก เราจะได้ตัดเค้าได้เร็ว ทำใจยอมรับกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
และให้มันเป็นบทเรียนในชีวิตของเรา เรื่องนี้ทำให้เรารู้ว่า ไม่มีใครรักเรามากเท่ากับ "พ่อแม่" จริง ๆ ค่ะ
พ่อกับแม่ของเราให้กำลังใจเราทุกอย่าง อยู่เคีียงข้างเราเสมอ
ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันตาสว่าง ต่อจากนี้ไปฉันจะดูแลตัวฉันเองให้สวยปิ๊ง (จากที่ฉันเกือบเป็นบ้าจิตตกกังวลมาก ๆ)
ฉันจะเลิกโทรมเลิกร้องไห้ฟูมฟาย แล้วจะมาเสียดายไม่ได้นะจ๊ะ เพราะตอนที่ฉันอยู่คุณไม่ดูแลฉันเอง
ยังไงก็ขอให้คุณโชคดีกับคนใหม่ของคุณแล้วกัน // บ๊าย บาย สามีที่(เคย)รัก