พอดีไปเจอข่าวคุณ HED QUESTION เลยเอามาฝากนิดหน่อยครับ

พอดีไปเจอใน facebook จากคุณหมอท่านหนึ่ง https://www.facebook.com/ittaporn


https://www.facebook.com/photo.php?fbid=526679967392814&set=a.526679907392820.1073741981.100001524474522&type=1&ref=nf

มีเนื้อหาดังนี้ครับ

คำนิยมของผมใน : หนังสือ มะเร็งแง่บวก : Happy with Cancer : จากคำขอของ “ผู้ป่วยระยะสุดท้าย” ที่ยังมีชีวิตอยู่รอวันที่เตรียมพร้อมจะเดินทางไกล ในสภาพที่พูดคุยรู้ตัวดี แต่ถูกมะเร็งร้ายกดทับไขสันหลังระดับคอ จนเป็นอัมพาตตั้งแต่มือลงไป ปวดจนต้องให้ยา morphine เข้าเส้นตลอดเวลา ในวาระสุดท้าย..แต่ยังพยายามถ่ายทอดข้อมูลเพื่อช่วยเป็นกำลังใจคนไข้อื่นๆเป็นหนังสือเล่มนี้ครับ น้องเอกเป็นคนที่รู้จักกันดีทั้งใน pantip และบล็อก ..วันนี้น้องเอกยัง Admit ที่ รพ.ราชวิถี ..ตึกสิรินทรชั้น 7 ห้อง 14 ..หนังสือนี้น้องเอกเขียนขึ้นเพื่อสร้างบุญกุศลให้คนอื่นๆ หากท่านใดอยากได้ ต้องการให้ผู้ป่วยได้อ่านเป็นกำลังใจ ติดต่อได้ที่คุณแม่น้องเอก..เปิดดูรายละเอียดได้ที่ Facebook น้องเอก http://www.facebook.com/messages/eric.ekawit (ที่คุณแม่เข้ามาตอบแทนเพราะน้องเขาพิมพ์ไม่ได้แล้วครับ) มีจำหน่ายที่นั่นครับ รายได้คุณแม่น้องจะนำไปทำบุญครับ..

::คำนิยม::
ในช่วงชีวิตความเป็นอายุรแพทย์กว่า ๒๐ปีของผม แม้จะเคยดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งมามากมาย ต้องยอมรับว่า ไม่มีผู้ใดที่ทำให้ทั้งหมอ พยาบาล และคนรอบตัวได้เจริญ “สติ” เตือนตนเองเช่นเดียวกับ น้องเอก “เอกวิทย์ เศรษฐเสถียร” หนุ่มน้อยวัย 32ปี ผู้บริหารของบริษัทแนวหน้า ที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทจากต่างประเทศ และควรอยู่ในวัยที่เป็นช่วงเวลาของความสำเร็จในชีวิต เช่นเดียวกับคนจำนวนมากในสังคม ที่บังเอิญมาพบกับ “มรสุม”ความเป็นจริงของสุขภาพ ที่ไม่มีใครอยากเจอคือ “มะเร็ง” ระยะลุกลามตั้งแต่ตรวจพบครั้งแรก

สิ่งที่ “มะเร็ง”มักจะทำร้ายผู้ป่วยให้เกิดความ ทุกข์ ไม่ใช่แค่ความเป็น”โรค”ที่เจ็บป่วยทางกาย แต่ที่แย่กว่าคือการทำร้ายจิตใจที่รุนแรงเกินกว่าที่จะบรรยายได้..หรือ ”โรคกลัวมะเร็ง” คือกลัวความทุกข์ทรมาณ กลัวการจากไป ทั้งที่ความร้ายของตัวโรคมะเร็งเองในเวลานั้น อาจไม่น่ากลัวเท่า ความรู้สึกกลัว วิตกกังวลและวิถีชิวิตที่เปลี่ยนไปของตนเองและครอบครัว จนหลายชีวิตเสียศูนย์และเสียความสุขไปนับจากนั้น หลังจากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น”มะเร็ง”

การมีชีวิตอยู่หลังจากทราบว่าเป็น “มะเร็ง” ในแต่ละคนจะแตกต่างกัน หลายท่านหมดอาลัยตายยาก ยกชีวิตที่เหลือให้กับความ “กลัว” อยู่แบบไม่มีความสุข แต่น้องเอกจะชี้ให้ท่านเห็นว่า โรคมะเร็งไม่สามารถทำลาย “จิตใจ” อันแข็งแกร่ง ดีงาม และกำลังใจของเขาได้ น้องเอกได้พยายามเรียบเรียงหลายๆอย่างมาถ่ายทอดให้ทุกๆคนเห็นชีวิตและความเป็นไป ของการอยู่ร่วมกับมะเร็งแบบมี “สติ”และคิด”บวก”ให้มีความสุข ขณะที่สะท้อนภาพของสิ่งที่ ทุกคนนึกไม่ออก คือความรู้สึกในฐานะ”ผู้ป่วย” ในแต่ละขั้นตอน การรักษา การใช้ชีวิตประจำวันที่กระทบจากมีเพื่อนใหม่เป็น”โรคร้าย” และถูกคุกคามจนเขาเป็นอัมพาตตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงขาทั้ง 2ข้าง พร้อมความเจ็บปวดจากมะเร็งได้กดประสาทต้นคอชนิดที่ไม่สามารถรักษาได้ โดยในช่วงปิดเล่มหนังสือฉบับนี้ น้องเอกนอนในโรงพยาบาลราชวิถีมากกว่า 2เดือนแล้ว น่าแปลกที่เขายังคงมีสติและมีความคิด ความจำที่ดี อย่างน่าทึ่ง มาถ่ายทอดสิ่งต่างๆได้ ให้รวบรวมสิ่งที่เกิดในชีวิตตน ออกมาเป็นวรรณกรรมที่ผมถือว่า “ล้ำค่า”มากเล่มนี้ในมือท่าน

น้องเอกเป็นตัวอย่างที่ดีของผู้ที่เผชิญเหตุการณ์ต่างๆแบบ มีสติ รอบคอบ เตรียมพร้อมกับชีวิตที่เหลือและเขียนหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาด้วยความห่วงใยคนอื่น ที่ป่วยเหมือนตน แนะนำให้มีแนวคิดและทางเดินที่ตนได้ปฏิบัติแล้วมีความสุขอย่างสมบูรณ์ในช่วงเจ็บป่วยแบบมีคุณภาพ ท่ามกลางความรักความเข้าใจและความอบอุ่นของครอบครัว

การเจริญมรณสติ ของผู้ที่ไม่เคยผ่านวิกฤติในชีวิต เป็นเรื่องที่ทำได้ “ยาก” การถ่ายทอดให้คนอื่นเข้าใจ “ยิ่งยากกว่า” เว้นแต่บุคคลผู้นั้นได้เข้าถึงธรรมะและอยู่ในเส้นทางสัมผัสจริงที่เกิดต่อชีวิตตน ที่ผ่านมาแทบไม่มีผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายรายใด มีสติและเวลามากพอจะเรียบเรียงข้อมูลประสบการณ์ที่ผ่านมาได้แจ่มชัดเช่นนี้มาก่อน “น้องเอก”ได้เขียนถึงเรื่องราวต่างๆได้อย่างน่าสนใจ อ่านแล้วชวนติดตามและ เชื่อว่าจะสร้างสติให้ผู้อ่านย้อนดูตนตลอดเวลา

หวังอย่างยิ่งว่า เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบแล้ว จะทำให้ผู้อ่านทุกคนเข้าใจชีวิตของผู้ที่เผชิญกับ”มะเร็ง”มากขึ้น และหากต้องเผชิญสถานการณ์ “มะเร็ง” จะรู้วิธีการปรับตัวให้อยู่กับเขาได้อย่าง”มีความสุข” ในขณะเดียวกันจะทำให้รู้สึกถึง ”มรณสติ” ที่น้องเอกพยายามถ่ายทอดให้ทุกท่านเห็นภาพผ่านตัวหนังสือ ให้เข้าใจความจริงแท้ของชีวิตที่ทุกคนต้องเผชิญ

ดังที่ท่าน ไพศาลวิสาโล ได้กล่าวว่า “ ..ความตายจึงมิใช่ศัตรู หากคือครูที่เคี่ยวเข็ญให้เราดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง คอยกระตุ้นเตือนให้เราอยู่อย่างไม่ประมาท และไม่หลงเพลิดเพลินกับสิ่งที่มิใช่สาระของชีวิต ...”

ดังนั้นแม้ท่านจะไม่ใช่ผู้ป่วย “มะเร็ง” ผมเชื่อว่าสิ่งที่ท่านได้จากหนังสือเล่มนี้จะทำให้ชีวิตของท่าน ได้อะไรมากขึ้นอย่างแน่นอนครับ

ขอบคุณน้องเอกและ “เพื่อน”มะเร็งของเขาครับ

นาวาอากาศเอก(พิเศษ)นายแพทย์อิทธพร คณะเจริญ
รองเลขาธิการแพทยสภา
กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
8 พฤษภาคม 2556




พอดีหลายท่านที่อยู่ในนี้จะรู้จักกับคุณเห็ดกันดีเลยเอามาแบ่งปันและเผื่อใครอยากช่วยเหลือก็เชิญได้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่