โต้ง by rm

1

ไอโต้ง!

ผมรู้จักกับไอโต้ง ไอโต้งมันเป็นคนที่เรียกได้ว่า ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าที่สุดคนหนึ่งเลยก็ว่าได้ เช่นเวลาเลือกซื้อนมสด คนส่วนใหญ่จะเลือกเอานมสดที่มีเวลาหมดอายุยาวที่สุด เราจะได้มีเวลากินนานๆ แต่ทุกครั้งที่ไอโต้งมันเลือกซื้อนมสด ไม่ใช่มันไม่มองวันหมดอายุข้างขวด แต่มันจะเลือกเอาวันหมดอายุที่น้อยที่สุด ยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะมันจะได้มีส่วนช่วยโลกในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า โดยการบริโภคนมก่อนหมดอายุ(แปปเดียว) มันคิดว่าถ้ามันไม่ดื่ม โลกเราก็ต้องเปลืองนมไปอีกขวด

ผมเคยถามมันว่า "ถ้าอยากจะช่วยโลกขนาดนั้น ไม่กินนมบูดว่ะ?"

มันเงียบไปสักพัก แล้วตอบกลับมาเบาๆแต่หนักแน่นว่า "แล้วถ้ากูตายไป ใครจะกินนมก่อนบูดให้หมดล่ะ!"



2

โต้ง: พนักงานส่งพัสดุ  

โต้งมีอาชีพเป็นคนส่งพัสดุ มันเพิ่งจะถอยมอเตอร์ไซค์คันใหม่ด้วยเหตุผลทางด้านการพัฒนาในอาชีพของมัน มันจะได้ส่งของได้เร็วขึ้น แต่มันไม่ค่อยพอใจที่จะขี่มอเตอร์ไซค์คันใหม่ของมันเท่าไหร่ มันชอบขี่จักรยานคันเดิมของมันมากกว่าเพราะใช้ทรัพยากรของโลกน้อยกว่า มันบอกว่าถึงมันมีตังร้อยล้านพันล้าน มันก็จะไม่ซื้อรถยนต์ขับ ด้วยเหตุผลว่าเพราะมันมีแอร์!!!!


"แล้วถ้าเกิดวันหนึ่ง รถมอเตอร์ไซค์ทุกคันมีแอร์อ่ะ จะขับอะไร"

"กูก็กลับไปขับรถจักยานคันเก่าของกูดิ"

"ก็ส่งของช้าลงดิ ก็จะเสียหน้าที่การงานที่กำลังก้าวหน้าของนะ"

"โลกต้องการกูมากกว่าคนรับของต้องการของหวะ กูจะไปบอกเหตุผลกับเจ้านายกู ถ้าถึงเวลานั้น ถ้าเขาไม่เข้าใจกู กูก็ยอมออก"



3

ความลับหมายเลขหนึ่งของโต้ง: โต้งเปิดแอร์ไม่เป็น! (1)


พ่อของโต้งมีอาชีพเป็นช่างซ่อมแอร์ ตั้งแต่เล็กโต้งอยู่กับสิ่งให้ความเย็นที่เรียกว่าแอร์มาโดยตลอด ตอนเด็กๆโต้งชอบไปยืนหน้าแอร์แล้วเอามือกางเสื้อออกให้ลมแอร์พัดเข้าเสื้อให้พองออกเหมือนตุ๊กตาลมหน้าปั๊ม โต้งมีความสุขทุกครั้งที่ได้ทำอย่างนั้น พ่อของโต้งอยากให้ไอโต้งเรียนวิศวะหรือสายอาชีพช่างแอร์เพื่อที่จะได้มารับกิจการต่อ โต้งก็มีความฝันที่อยากจะเป็นช่างแอร์มือหนึ่งตั้งแต่วัยเด็ก


แต่โลกที่โต้ง(คนปัจจุบัน)บอกรักแล้วรักหนา ก็เล่นตลกร้ายกับโต้ง เมื่อวันหนึ่ง พ่อของโต้งบอกให้มันเดินไปเปิดแอร์

"โต้ง เดินไปกดเปิดแอร์ให้พ่อหน่อยซิ พ่อคงจะซ่อมแอร์ถึงดึก วันนี้อากาศมันร้อนพิลึก"

โต้งรีบวิ่งไปเปิด ในใจมีความสุข : ) คิดถึงเวลาที่แอร์ผ่านเสื้อแล้วเสื้อพอง



" พ่อ แอร์ไม่ติดอ่ะ พ่อ" โต้งบอกพ่อ

"ไหนๆ พ่อดูหน่อยซิ "

Kabooommm!!!! เสียงดังลั่นไปทั่วห้อง

เศษก้อนเนื้อ กระเด็นมาถูกเสื้อทีไม่พองลมของโต้ง





4

โต้งกำลังมีรัก!


แฟนของไอโต้ง ที่ผมถือเรียกเอาเองว่าแฟนของโต้ง ทั้งๆที่มันก็ไม่ค่อยจะยินดีให้ผมเรียกคนรักของมันว่าแฟนของโต้งสักเท่าไหร่ แต่ผมขอถือวิสาสะเรียกคนรักของมัน ว่าแฟนของโต้งแล้วกัน

โต้งเจอกับแฟนของมันตอนไปเดินตลาด ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนว่า ตลอดระยะเวลา ยี่สิบสามปีโต้งไม่เคยมีแฟนแม้แต่คนเดียว


" พ่อของผมเป็นช่างแอร์หนะ แต่ผมไม่ชอบแอร์เลยนะ ไม่ชอบเลยจริงๆ"

แม่ค้าขายพัดยิ้ม พร้อมตอบกลับมาว่า


"ซื้อสักอันสองอันเอาไปพัดเล่นแทนแอร์มั้ยค่ะ"

"อย่าว่าแต่อันสองอันเลยครับ เพื่อนผมชื่อโต้งครับ ชอบสะสมพัด" ผมตอบแทนมันไปอย่างนั้น พร้อมสะกิดไหล่มัน


สายตาโต้งยังคงมองแต่พัดพร้อมพูดว่า

"ไม่รู้ทำไมผมชอบในความกำกวมของมัน เวลาเราร้อน เราหยิบมันขึ้นมาพัด มันทำให้เราเย็นได้ พอเราเย็นเสร็จ เราก็วางมันลง แล้วก็ต้องหยิบมันขึ้นมาพัดใหม่ เราออกแรงขยับร่างกายของเราในการขยับพัดทำให้เราเย็น แต่ขณะเดียวกัน การขยับร่างกายของเราก็ทำให้เราร้อนเหงื่อออกเพราะขยับพัด ยิ่งเราอยากเย็นมากก็ยิ่งต้องขยับมาก เมื่อขยับมาก ตัวเราเองก็ร้อนมากขึ้นตามไปด้วย ผมว่ามันกำกวมดี"

แม่ค้าสาวขายพัด ตอบไอโต้งกลับมาว่า

"แต่พี่รู้มั้ย มันมีวิธีพัดให้เราออกแรงน้อยที่สุดแล้วไม่ร้อนด้วย"

"ยังไงอ่ะ"

"ก็ยังงี้ไงพี่" แม่ค้าสาวขายพัดพูด พร้อมกับหยิบพัดลายสก็อตสีเทาดำขึ้นมาพัดให้ไอโต้ง



...และแล้วไอโต้งก็มีความรัก ♥







5

โต้งในวันฝนพรำ

วันนี้ตั้งแต่เช้า คำพูดหลุดออกมาจากปากโต้งแค่สองคำเท่านั้น คือ โอ๊ยกับเชี่ย! หลังจากที่แมลงสาบไต่ขาโต้งตอนโต้งกำลังดูรายการตลกทางทีวีในวันฝนพรำ

โต้งเปิดเสียงทีวีดังขึ้นกว่าปกติเพื่อสู้กับเสียงฝน ฝนตกลงมาห่าใหญ่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด โต้งเลยไม่ได้ออกไปไหน โต้งเป็นคนพูดน้อย แต่คิดเยอะ

แม้ว่าตาโต้งจะดูทีวี และในทีวีจะมีตลกให้โต้งดู แต่โต้งก็ไม่ค่อยจะตลกกับมุกตลกในทีวีเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะสมองโต้งไม่ได้กำลังจดจ่อมุกตลกในทีวีอยู่ก็เป็นได้



"ถ้าเราไม่พูดกับใครเลย เราจะอยู่ได้มั้ย" โต้งถามตัวเอง

จริงๆแล้วโต้งไม่ได้กลัวการพูดคุยกับคนอื่นและโต้งไม่ได้ขี้อาย แต่โต้งแค่เกลียดการทำคิ้วขมวดของคนอื่นเวลาที่โต้งคุยด้วย โต้งเคยมีความคิดว่า อยากเป็นช่างเสริมสวย เพื่อวันหนึ่งเขาจะได้โกนคิ้วของทุกคนให้หมด เพื่อที่ขจัดปัญหาคิ้วขมวดบนโลก


โต้งชอบเวลาฝนตก เพราะเวลาฝนตกทำให้โต้งรู้สึกแย่น้อยลงเวลาพูดคุยกับคนอื่นแล้วคนอื่นทำคิ้วขมวด เพราะโต้งจะรู้สึกว่าคนอื่นคิ้วขมวดจากการไม่ได้ยินโต้ง ไม่ใช่ไม่เข้าใจโต้ง

"อยากคุยกับคนอื่นมากกว่านี้จังในตอนฝนตกแบบนี้" โต้งพึมพำกับตัวเองในหัว ไม่มีเสียงดังออกมาสู้กับฝนด้านนอก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่