4 ขั้นตอนในการเลือกซื้อรถมือสอง
รถมือสองนั้นมีสารพัดรูปแบบ ดังนั้นขั้นตอนในการดูรถมือสอง การเลือกรถมือสอง การตรวจสอบรถมือสอง ก็มีหลากหลายทฤษฐีเช่นเดียวกัน การตัดสินใจที่จะครอบครอบรถมือสองสักคัน อันดับแรกผมขอแนะนำให้ใจเย็นๆ รถมือสองไม่เหมือนรถใหม่ป้ายแดง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรู้จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด ให้เราได้ครอบครองรถมือสองคุณภาพดี เหมาะสมกับราคาและเรานำไปใช้งานได้อย่างสบายใจ บทความนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลือกซื้อรถมือสองครับ
1. ขอดูคู่มือการรับบริการ และเอกสารติดรถจะเป็นโชคดีของเราอย่างมาก หากเจ้าของรถมือสอง เก็บเอกสารดังกล่าวไว้ เพราะว่าเอกสารพวกนี้ ช่างเครื่องยนต์ที่มีประสบการณ์ หรือคนที่มีความคุ้นเคยกับการซ่อมเครื่องยนต์ สามารถบอกรายละเอียดของรถได้อย่างมากมาย เจ้าของรถมือสองที่มีการเก็บเอกสารไว้ ส่วนมากจะเป็นคนที่มีการดูแลรักษารถและนำรถเข้าศูนย์บริการเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมดูที่เอกสารเหล่านั้นว่าเป็นของรถมือสองคันนั้นหรือไม่
2. เช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ แน่นอน นอกจากการเช็กสภาพของตัวรถมือสองแล้วคุณสามารถเช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าวควบคู่ไปกับการเช็คเลขไมล์ที่วิ่งในการตรวจสอบสภาพรถมือสองได้ โดยการเช็คว่าถ้าเลขไมล์ที่วิ่งน้อย แต่อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมสภาพไปมากแล้วอันนี้จะแสดงถึงความผิดปรกติของรถมือสอง แต่ในทางกลับกันถ้าเลขไมล์ที่วิ่งสูงแต่อุปกรณ์อื่นๆ ยังอยู่ในสภาพดี รถมือสองคันนั้นก็ดู น่าสนใจ
3. สอบถามเกี่ยวกับ สถานที่ ( ภูมิภาค ) และสภาวะแวดล้อมในการขับขี่ของเจ้าของเดิม
4. เช็คอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวรถมือสอง การตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นจากการเช็ค ไฟบอกสัญญาณต่างๆ , เช็คแตร , เช็คอุปกรณ์ทำความสะอาดกระจกรถ , เช็คสภาพยางรถยนต์ ฯลฯ
ขั้นตอนในการประเมินสภาพรถมือสองที่ต้องการจะซื้อ การจะประเมินสภาพรถ สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ด้านรถยนต์ ควรจะหาช่างผู้ชำนาญมาช่วยตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ของที่มีคุณภาพไม่โดนหลอก ส่วนเรื่องการประเมินนั้น เราควรจะประเมินว่า รถมือสองคันดังกล่าวเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง หรือภัยทางธรรมชาติหรือเปล่า
- มีการทำสีมาหรือเปล่า
- รถมีการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การครอบครองหรือเปล่า / เปลี่ยนมาแล้วกี่ครั้ง
- รถมีการปรับเลขไมล์หรือเปล่า และ เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาก่อนหรือไม่
การเช็คเลขไมล์
การเช็คว่าเลขไมล์ถูกปรับแต่งหรือไม่นั้น ขั้นแรกทำได้โดยการสอบถามถึงอัตราของการใช้รถโดยเฉลี่ยต่อปี
แต่ว่าถ้าไม่ใช่รถใหม่ที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่าย ข้อมูลที่ได้มาก็จะไม่สามารถใช้ในการพิจารณาได้ขั้นต่อไปให้มองหาความแตกต่างระหว่างตัวเลขในเอกสารกับเลขไมล์จริงที่รถ ส่วนมากในเอกสารที่ได้มาจากการเข้าศูนย์บริการต่างๆ จะมีเลขไมล์บอกกำกับอยู่ด้วย ดังนั้นวิธีการเช็คอย่างง่ายก็คือ การเปรียบเทียบระหว่างเลขไมล์ในเอกสาร และวันที่เข้ารับ การบริการกับเลขไมล์จริงที่รถมือสอง แค่นี้คุณก็สามารถบอกได้ว่าตัวเลขเหล่านี้มีการปรับแต่งหรือไม่
การทดลองขับและข้อควรสังเกตุ
การทดสอบขับรถมือสองบนถนนที่มีสภาพถนนต่างๆ หลายๆ แบบจะยิ่งช่วยให้การตรวจสอบนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น โครงสร้างภายในของรถมือสอง เหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ การควบคุมรถมือสองบนท้องถนน และรวมถึงเสียงต่างๆ ทดลองปรับพนักที่นั่งในตัวรถมือสองว่า เหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ ตรวจสอบประสิทธิภาพของเข็มขัดนิรภัยว่ายังใช้งานได้ เช็คสภาพการมองเห็นของกระจกหน้ารถมือสอง กระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ว่าสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนหรือไม่
จากนั้นให้ ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วฟังดูว่ามีเสียงเครื่องกระตุกหรือไม่ เช็คระบบการขับเคลื่อนและการเปลี่ยนเกียร์ ทดสอบระบบเบรก ทำได้โดยการหาช่วงถนนที่ไม่ค่อยมีรถขับไปมา แล้วทำการเบรกจากระดับความเร็วที่ 50 กม./ชม. และถ้าเบรกแล้วมีอาการ สั่นที่คันเบรก ให้เช็คดูว่ารถมือสองคันนั้นมีระบบ ABS หรือเปล่า เพราะว่าเป็นอาการปกติของรถที่มีระบบนี้
สุดท้ายก่อนที่จะสิ้นสุดการทดลองขับจริง ให้เช็คระบบควบคุมและ ระบบไฟฟ้าภายในรถว่ายังใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เช่น ทดสอบชุดเครื่องเสียงและลำโพง โดยการเพิ่มและลดระดับเสียง ทดสอบการใช้งานของปุ่มควบคุมต่างๆบนรถ โดยอาจจะสอบถามลักษณะการใช้งานจากเจ้าของรถมือสอง ทดสอบ การทำงานของระบบเซ็นทรัล ล็อก และการเปิด-ปิดของประตู เช็คดูว่าเอกสารอยู่ครบหรือไม่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดมากับตัวรถอยู่ในสภาพที่ยัง ใช้งานได้
เรียนรู้เกี่ยวกับรถมือสอง เพื่อจะได้ครอบครองรถมือสองได้อย่างมีคุณภาพ โชคดี ครับ.
ที่มาของความรู้ >>>
http://www.xn--99-3qi0dvck5cxab1h.com
<<===[ความรู้] 4 ขั้นตอน เลือกซื้อรถมือสอง ===>>
4 ขั้นตอนในการเลือกซื้อรถมือสอง
รถมือสองนั้นมีสารพัดรูปแบบ ดังนั้นขั้นตอนในการดูรถมือสอง การเลือกรถมือสอง การตรวจสอบรถมือสอง ก็มีหลากหลายทฤษฐีเช่นเดียวกัน การตัดสินใจที่จะครอบครอบรถมือสองสักคัน อันดับแรกผมขอแนะนำให้ใจเย็นๆ รถมือสองไม่เหมือนรถใหม่ป้ายแดง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความรู้จะเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุด ให้เราได้ครอบครองรถมือสองคุณภาพดี เหมาะสมกับราคาและเรานำไปใช้งานได้อย่างสบายใจ บทความนี้เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเลือกซื้อรถมือสองครับ
1. ขอดูคู่มือการรับบริการ และเอกสารติดรถจะเป็นโชคดีของเราอย่างมาก หากเจ้าของรถมือสอง เก็บเอกสารดังกล่าวไว้ เพราะว่าเอกสารพวกนี้ ช่างเครื่องยนต์ที่มีประสบการณ์ หรือคนที่มีความคุ้นเคยกับการซ่อมเครื่องยนต์ สามารถบอกรายละเอียดของรถได้อย่างมากมาย เจ้าของรถมือสองที่มีการเก็บเอกสารไว้ ส่วนมากจะเป็นคนที่มีการดูแลรักษารถและนำรถเข้าศูนย์บริการเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมดูที่เอกสารเหล่านั้นว่าเป็นของรถมือสองคันนั้นหรือไม่
2. เช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ แน่นอน นอกจากการเช็กสภาพของตัวรถมือสองแล้วคุณสามารถเช็คการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ดังกล่าวควบคู่ไปกับการเช็คเลขไมล์ที่วิ่งในการตรวจสอบสภาพรถมือสองได้ โดยการเช็คว่าถ้าเลขไมล์ที่วิ่งน้อย แต่อุปกรณ์ต่างๆ เสื่อมสภาพไปมากแล้วอันนี้จะแสดงถึงความผิดปรกติของรถมือสอง แต่ในทางกลับกันถ้าเลขไมล์ที่วิ่งสูงแต่อุปกรณ์อื่นๆ ยังอยู่ในสภาพดี รถมือสองคันนั้นก็ดู น่าสนใจ
3. สอบถามเกี่ยวกับ สถานที่ ( ภูมิภาค ) และสภาวะแวดล้อมในการขับขี่ของเจ้าของเดิม
4. เช็คอุปกรณ์ต่างๆ รอบตัวรถมือสอง การตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เริ่มต้นจากการเช็ค ไฟบอกสัญญาณต่างๆ , เช็คแตร , เช็คอุปกรณ์ทำความสะอาดกระจกรถ , เช็คสภาพยางรถยนต์ ฯลฯ
ขั้นตอนในการประเมินสภาพรถมือสองที่ต้องการจะซื้อ การจะประเมินสภาพรถ สำหรับคนที่ไม่มีความรู้ด้านรถยนต์ ควรจะหาช่างผู้ชำนาญมาช่วยตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ของที่มีคุณภาพไม่โดนหลอก ส่วนเรื่องการประเมินนั้น เราควรจะประเมินว่า รถมือสองคันดังกล่าวเคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรง หรือภัยทางธรรมชาติหรือเปล่า
- มีการทำสีมาหรือเปล่า
- รถมีการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์การครอบครองหรือเปล่า / เปลี่ยนมาแล้วกี่ครั้ง
- รถมีการปรับเลขไมล์หรือเปล่า และ เคยเกิดอุบัติเหตุรุนแรงมาก่อนหรือไม่
การเช็คเลขไมล์
การเช็คว่าเลขไมล์ถูกปรับแต่งหรือไม่นั้น ขั้นแรกทำได้โดยการสอบถามถึงอัตราของการใช้รถโดยเฉลี่ยต่อปี
แต่ว่าถ้าไม่ใช่รถใหม่ที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่าย ข้อมูลที่ได้มาก็จะไม่สามารถใช้ในการพิจารณาได้ขั้นต่อไปให้มองหาความแตกต่างระหว่างตัวเลขในเอกสารกับเลขไมล์จริงที่รถ ส่วนมากในเอกสารที่ได้มาจากการเข้าศูนย์บริการต่างๆ จะมีเลขไมล์บอกกำกับอยู่ด้วย ดังนั้นวิธีการเช็คอย่างง่ายก็คือ การเปรียบเทียบระหว่างเลขไมล์ในเอกสาร และวันที่เข้ารับ การบริการกับเลขไมล์จริงที่รถมือสอง แค่นี้คุณก็สามารถบอกได้ว่าตัวเลขเหล่านี้มีการปรับแต่งหรือไม่
การทดลองขับและข้อควรสังเกตุ
การทดสอบขับรถมือสองบนถนนที่มีสภาพถนนต่างๆ หลายๆ แบบจะยิ่งช่วยให้การตรวจสอบนั้นชัดเจนยิ่งขึ้น เช่น โครงสร้างภายในของรถมือสอง เหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ การควบคุมรถมือสองบนท้องถนน และรวมถึงเสียงต่างๆ ทดลองปรับพนักที่นั่งในตัวรถมือสองว่า เหมาะสมกับตัวคุณหรือไม่ ตรวจสอบประสิทธิภาพของเข็มขัดนิรภัยว่ายังใช้งานได้ เช็คสภาพการมองเห็นของกระจกหน้ารถมือสอง กระจกมองข้าง และกระจกมองหลัง ว่าสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนหรือไม่
จากนั้นให้ ลองสตาร์ทเครื่อง แล้วฟังดูว่ามีเสียงเครื่องกระตุกหรือไม่ เช็คระบบการขับเคลื่อนและการเปลี่ยนเกียร์ ทดสอบระบบเบรก ทำได้โดยการหาช่วงถนนที่ไม่ค่อยมีรถขับไปมา แล้วทำการเบรกจากระดับความเร็วที่ 50 กม./ชม. และถ้าเบรกแล้วมีอาการ สั่นที่คันเบรก ให้เช็คดูว่ารถมือสองคันนั้นมีระบบ ABS หรือเปล่า เพราะว่าเป็นอาการปกติของรถที่มีระบบนี้
สุดท้ายก่อนที่จะสิ้นสุดการทดลองขับจริง ให้เช็คระบบควบคุมและ ระบบไฟฟ้าภายในรถว่ายังใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ เช่น ทดสอบชุดเครื่องเสียงและลำโพง โดยการเพิ่มและลดระดับเสียง ทดสอบการใช้งานของปุ่มควบคุมต่างๆบนรถ โดยอาจจะสอบถามลักษณะการใช้งานจากเจ้าของรถมือสอง ทดสอบ การทำงานของระบบเซ็นทรัล ล็อก และการเปิด-ปิดของประตู เช็คดูว่าเอกสารอยู่ครบหรือไม่ และอุปกรณ์ต่างๆ ที่ติดมากับตัวรถอยู่ในสภาพที่ยัง ใช้งานได้
เรียนรู้เกี่ยวกับรถมือสอง เพื่อจะได้ครอบครองรถมือสองได้อย่างมีคุณภาพ โชคดี ครับ.
ที่มาของความรู้ >>> http://www.xn--99-3qi0dvck5cxab1h.com