"ฆาตกรรมยาวนาน" 「長い長い殺人」
กระเป๋าสตางค์ของนายตำรวจ
1.
ฉันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นกลางดึก
เสียงฝีเท้าแว่วมาเป็นอย่างแรก เป็นเสียงฝีเท้าหนักๆ ของนายที่เดินย่ำเสื่อทาทามิมาทางนี้
เมื่อก่อนบางครั้งฉันยังสับสนกับฝีเท้าภรรยานายที่แอบย่องมาชะโงกดูในตัวฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ระยะนี้น้ำหนักตัวนายเพิ่มขึ้น ฉันจึงไม่มีทางฟังผิดแน่
นายปลดเสื้อนอกลงมาแล้วสอดแขนเข้าไป เสียงแสกสากดังขึ้น ตัวฉันสั่นคลอนนิดหน่อยก่อนจะนิ่งสนิทเข้าที่อยู่บนอกของนาย
ที่ประจำของฉัน สิ่งที่อยู่ใกล้หัวใจของนายยิ่งไปกว่าฉันก็มีเพียงตราตำรวจของนายเท่านั้น ฉันไม่เคยคุยเขาหรอก เขาอาวุโสกว่าฉันเยอะ มักจะทำเป็นว่างานยุ่งแล้วก็ชอบอยู่เงียบๆ ตามอาชีพของเขา
"แถวไหนรึคะ"
เสียงภรรยานายแว่วมา ฟังดูงัวเงีย
นายตอบเพียงว่า "ในเมืองน่ะ" สามีภรรยาคู่นี้มักจะแลกเปลี่ยนบทสนทนาเช่นนี้กันเสมอ คล้ายเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง
"เงินพอหรือเปล่าคะ"
"ตอนนี้ยังพอมี ถ้าต้องใช้จะไปกดเอา"
ภรรยานายเงียบไป นายไม่ได้ควักฉันออกมาดูเนื้อในตามที่ปากพูด
ฉันก็คือกระเป๋าสตางค์ของนาย
"โชคดีนะคะ"
นายกับฉันออกจากบ้านโดยมีเสียงภรรยาของนายไล่หลังมา ภายนอกลมหนาวของเดือนธันวาคมพัดผ่านเสื้อโค้ทของนายไป แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็พอเดาได้ว่าเสื้อโค้ทของนายคงเปื่อยไปมากแล้ว
นายเดินไปอย่างช้าเชื่อง มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ อาจจะไม่อยู่ในอารมณ์ หรือไม่ก็อาจจะเหนื่อยล้าเต็มที
นายทำงานไล่จับอาชญากรเพื่อทำให้ตัวฉันอวบอ้วน เวลามีคนอื่นถาม นายมักจะตอบแบบนี้เสมอ
ต่อให้ความเขินอายชั้นหนึ่งของนายบีบให้หลุดปากเช่นนั้น ฉันก็ยังนึกสงสารนาย
ฉันไม่มีทางอวบอ้วนขึ้นได้เลย
ฉันอยู่กับนายมานาน น่าจะประมาณเจ็ดปีได้แล้ว ถึงจะไม่เคยนับวันเวลาจริงๆ จังๆ ...ความจริงแล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ด้วย
แต่ที่ฉันรู้เพราะเมื่อครู่นายกับภรรยาคุยกับแบบนี้
"กระเป๋าสตางค์ชักจะโทรมแล้วนะคะคุณ"
"งั้นรึ"
ตอนนั้นดูเหมือนนายจะถือฉันไว้ในมือ คงตั้งใจจะตรวจดูในตัวฉันก่อนเก็บเข้าที่ประจำ ภรรยาของนายกระเถิบเข้ามาใกล้ ดึงฉันออกไปจากมือนาย
"ตรงมุมเปื่อยหมดแล้ว ชักจะถลอกเยอะแล้วด้วยนะคะ"
"ยังใช้ได้นี่"
"จำได้ไหมคะว่าได้นี่เป็นของขวัญเมื่อไหร่ วันเกิดสี่สิบปีของพ่อไงคะ"
ภรรยานายแทนตัวนายว่า "พ่อ"
"งั้นรึ นึกว่าเป็นของขวัญวันพ่อเสียอีก"
ภรรยานายหัวเราะเสียงใส
"ปีนั้นฉันปรึกษากับเรียวโกะ ตกลงให้เป็นของขวัญวันเกิดควบวันพ่อน่ะค่ะ ก็กระเป๋าสตางค์นี่แพงออก"
เรียวโกะเป็นชื่อลูกสาวของนาย ฉันยังจำได้แม่นถึงใบหน้าของเด็กหญิงที่ชะโงกมองเข้ามาอย่างเอาจริงเอาจังในตู้โชว์ที่ฉันและเพื่อนๆ เรียงรายกันอยู่
ตอนนั้นแกยังเป็นเด็กหญิง แต่คุณหนูเรียวโกะคนนั้นก็กำลังจะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในฤดูใบไม้ผลิปีหน้านี้แล้ว
"เป็นปีที่ซื้อของใหญ่ด้วยนี่นะ"
นายพึมพำลอยๆ ภรรยานายตอบกลับว่า "นั่นสินะคะ"
หลังจากซื้อฉันมาไม่นาน ครอบครัวของนายก็ตกลงซื้อบ้าน สินเชื่อบ้านก็เริ่มขึ้นในตอนนั้นเอง
บัดนี้มันอยู่ในภาวะคับขัน ภาวะฝืดเคืองอย่างยิ่งเสียแล้ว ความจริงบ้านหลังนี้อาจจะเป็นของแพงเกินกำลังของนายที่จะแบกรับไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้
ฉันอิงอยู่ใกล้หัวใจนาย คอยเฝ้ามองเงินไหลเข้าออกมาตลอดจึงรู้สถานการณ์ดี และยังตระหนักดีด้วยเช่นกันว่าบทสนทนานี้หนักอึ้งสำหรับสามีภรรยาคู่นี้เพียงไร
ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนมาแล้ว นายกับภรรยาเริ่มปรึกษากันบ่อยครั้งว่าจะปล่อยบ้านหลังนี้ไป
นายว่าไม่จำเป็นต้องปล่อยให้บ้านหลุด ส่วนภรรยาเสนอให้ขาย "ก่อนจะสายเกินไป"
เรื่องนี้เป็นเส้นขนานเรื่อยมา และมักจะจบลงดื้อๆ ด้วยการที่นายออกไปทำงานข้างนอกแทบทุกครั้ง
ช่วงเจ็ดปีมานี้ฉันถลอกปอกเปิกไปบ้าง ส่วนตัวนาย และบัญชีบ้านนายก็บอบช้ำไปเช่นกัน
"วันเกิดปีนี้เอาเป็นกระเป๋าสตางค์นะคะ เอาเป็นหนังแท้แบบดีๆ ไปเลย ใบนี้ใช้มาเจ็ดปีก็พอแล้วล่ะค่ะ"
ภรรยานายส่งฉันคืนให้นาย
"ยังใช้ได้หรอก" นายว่า "หรือเธอรังเกียจว่าใช้กระเป๋าสตางค์เก่าๆ แล้วมันน่าเกลียด"
ภรรยาของนายไม่พูดอะไร
"พอซื้อบ้านแล้วก็กลายเป็นยาจกขนาดกระเป๋าสตางค์ยังไม่มีปัญญาซื้อใหม่ หัวเราะไม่ออกเลยนะ"
เงียบไปพักหนึ่ง ภรรยานายจึงพูดขึ้นเบาๆ
"ไม่เห็นต้องประชดกันแบบนี้เลยนี่คะ"
ภรรยานายไม่ได้เป็นห่วงแต่เรื่องเงิน แต่เป็นห่วงนาย เป็นห่วงงานที่ต้องแบกรับภาระมากมายของนาย เป็นห่วงสุขภาพที่เริ่มทรุดโทรมของนาย ถึงไม่มีที่ว่ามา งานตำรวจก็เป็นงานที่กัดกร่อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว
อย่างน้อยก็อยากปล่อยบ้านไป ลดภาระให้นายเบาลงซักนิด
นายเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
แล้วฉันก็รู้สึกว่านายกำลังหวาดกลัว กลัวตัวเอง ในเวลาเช่นนั้นนายมักจะยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ฉันซุกอยู่ หรือก็คือบริเวณเหนือหัวใจ
จากนั้นก็ถอนหายใจ
ในคืนนี้นายก็ทำเช่นนั้นหลายต่อหลายครั้งขณะนั่งโยกคลอนมาในรถแท็กซี่ ขณะฉันกำลังครุ่นคิดถึงหัวใจที่ค่อยๆ กัดกร่อนไปของนาย นายก็ลงจากรถ
--------------------------------------
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลจากนิยายสืบสวนของญี่ปุ่นเรื่อง "ฆาตกรรมอันยาวนาน" 「長い長い殺人」 โดยมิยาเบะ มิยูกิ นักเขียนผู้มีผลงานแปลในภาษาไทยแล้วหลายเรื่อง เช่น "เหตุที่ฆ่า" "Level 7" "เครดิตมรณะ"
เรื่องนี้ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในภาษาไทย จึงอยากลองแปลมาให้ได้อ่านกันค่ะ หวังว่าจะได้รับความสนุกสนานอย่างที่ผู้แปลได้รับ และหากมีข้อแนะนำหรือความเห็นใดๆ ก็ยินดีต้อนรับอย่างยิ่งเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^/
ฆาตกรรมยาวนาน : บทที่ 1 กระเป๋าสตางค์ของนายตำรวจ (1/5)
กระเป๋าสตางค์ของนายตำรวจ
1.
ฉันถูกปลุกให้ตื่นขึ้นกลางดึก
เสียงฝีเท้าแว่วมาเป็นอย่างแรก เป็นเสียงฝีเท้าหนักๆ ของนายที่เดินย่ำเสื่อทาทามิมาทางนี้
เมื่อก่อนบางครั้งฉันยังสับสนกับฝีเท้าภรรยานายที่แอบย่องมาชะโงกดูในตัวฉันโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ระยะนี้น้ำหนักตัวนายเพิ่มขึ้น ฉันจึงไม่มีทางฟังผิดแน่
นายปลดเสื้อนอกลงมาแล้วสอดแขนเข้าไป เสียงแสกสากดังขึ้น ตัวฉันสั่นคลอนนิดหน่อยก่อนจะนิ่งสนิทเข้าที่อยู่บนอกของนาย
ที่ประจำของฉัน สิ่งที่อยู่ใกล้หัวใจของนายยิ่งไปกว่าฉันก็มีเพียงตราตำรวจของนายเท่านั้น ฉันไม่เคยคุยเขาหรอก เขาอาวุโสกว่าฉันเยอะ มักจะทำเป็นว่างานยุ่งแล้วก็ชอบอยู่เงียบๆ ตามอาชีพของเขา
"แถวไหนรึคะ"
เสียงภรรยานายแว่วมา ฟังดูงัวเงีย
นายตอบเพียงว่า "ในเมืองน่ะ" สามีภรรยาคู่นี้มักจะแลกเปลี่ยนบทสนทนาเช่นนี้กันเสมอ คล้ายเป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่ง
"เงินพอหรือเปล่าคะ"
"ตอนนี้ยังพอมี ถ้าต้องใช้จะไปกดเอา"
ภรรยานายเงียบไป นายไม่ได้ควักฉันออกมาดูเนื้อในตามที่ปากพูด
ฉันก็คือกระเป๋าสตางค์ของนาย
"โชคดีนะคะ"
นายกับฉันออกจากบ้านโดยมีเสียงภรรยาของนายไล่หลังมา ภายนอกลมหนาวของเดือนธันวาคมพัดผ่านเสื้อโค้ทของนายไป แม้จะมองไม่เห็น แต่ก็พอเดาได้ว่าเสื้อโค้ทของนายคงเปื่อยไปมากแล้ว
นายเดินไปอย่างช้าเชื่อง มักจะเป็นเช่นนี้เสมอ อาจจะไม่อยู่ในอารมณ์ หรือไม่ก็อาจจะเหนื่อยล้าเต็มที
นายทำงานไล่จับอาชญากรเพื่อทำให้ตัวฉันอวบอ้วน เวลามีคนอื่นถาม นายมักจะตอบแบบนี้เสมอ
ต่อให้ความเขินอายชั้นหนึ่งของนายบีบให้หลุดปากเช่นนั้น ฉันก็ยังนึกสงสารนาย
ฉันไม่มีทางอวบอ้วนขึ้นได้เลย
ฉันอยู่กับนายมานาน น่าจะประมาณเจ็ดปีได้แล้ว ถึงจะไม่เคยนับวันเวลาจริงๆ จังๆ ...ความจริงแล้วนั่นก็เป็นสิ่งที่ฉันทำไม่ได้ด้วย
แต่ที่ฉันรู้เพราะเมื่อครู่นายกับภรรยาคุยกับแบบนี้
"กระเป๋าสตางค์ชักจะโทรมแล้วนะคะคุณ"
"งั้นรึ"
ตอนนั้นดูเหมือนนายจะถือฉันไว้ในมือ คงตั้งใจจะตรวจดูในตัวฉันก่อนเก็บเข้าที่ประจำ ภรรยาของนายกระเถิบเข้ามาใกล้ ดึงฉันออกไปจากมือนาย
"ตรงมุมเปื่อยหมดแล้ว ชักจะถลอกเยอะแล้วด้วยนะคะ"
"ยังใช้ได้นี่"
"จำได้ไหมคะว่าได้นี่เป็นของขวัญเมื่อไหร่ วันเกิดสี่สิบปีของพ่อไงคะ"
ภรรยานายแทนตัวนายว่า "พ่อ"
"งั้นรึ นึกว่าเป็นของขวัญวันพ่อเสียอีก"
ภรรยานายหัวเราะเสียงใส
"ปีนั้นฉันปรึกษากับเรียวโกะ ตกลงให้เป็นของขวัญวันเกิดควบวันพ่อน่ะค่ะ ก็กระเป๋าสตางค์นี่แพงออก"
เรียวโกะเป็นชื่อลูกสาวของนาย ฉันยังจำได้แม่นถึงใบหน้าของเด็กหญิงที่ชะโงกมองเข้ามาอย่างเอาจริงเอาจังในตู้โชว์ที่ฉันและเพื่อนๆ เรียงรายกันอยู่
ตอนนั้นแกยังเป็นเด็กหญิง แต่คุณหนูเรียวโกะคนนั้นก็กำลังจะเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยในฤดูใบไม้ผลิปีหน้านี้แล้ว
"เป็นปีที่ซื้อของใหญ่ด้วยนี่นะ"
นายพึมพำลอยๆ ภรรยานายตอบกลับว่า "นั่นสินะคะ"
หลังจากซื้อฉันมาไม่นาน ครอบครัวของนายก็ตกลงซื้อบ้าน สินเชื่อบ้านก็เริ่มขึ้นในตอนนั้นเอง
บัดนี้มันอยู่ในภาวะคับขัน ภาวะฝืดเคืองอย่างยิ่งเสียแล้ว ความจริงบ้านหลังนี้อาจจะเป็นของแพงเกินกำลังของนายที่จะแบกรับไว้ตั้งแต่แรกแล้วก็เป็นได้
ฉันอิงอยู่ใกล้หัวใจนาย คอยเฝ้ามองเงินไหลเข้าออกมาตลอดจึงรู้สถานการณ์ดี และยังตระหนักดีด้วยเช่นกันว่าบทสนทนานี้หนักอึ้งสำหรับสามีภรรยาคู่นี้เพียงไร
ตั้งแต่เมื่อเดือนก่อนมาแล้ว นายกับภรรยาเริ่มปรึกษากันบ่อยครั้งว่าจะปล่อยบ้านหลังนี้ไป
นายว่าไม่จำเป็นต้องปล่อยให้บ้านหลุด ส่วนภรรยาเสนอให้ขาย "ก่อนจะสายเกินไป"
เรื่องนี้เป็นเส้นขนานเรื่อยมา และมักจะจบลงดื้อๆ ด้วยการที่นายออกไปทำงานข้างนอกแทบทุกครั้ง
ช่วงเจ็ดปีมานี้ฉันถลอกปอกเปิกไปบ้าง ส่วนตัวนาย และบัญชีบ้านนายก็บอบช้ำไปเช่นกัน
"วันเกิดปีนี้เอาเป็นกระเป๋าสตางค์นะคะ เอาเป็นหนังแท้แบบดีๆ ไปเลย ใบนี้ใช้มาเจ็ดปีก็พอแล้วล่ะค่ะ"
ภรรยานายส่งฉันคืนให้นาย
"ยังใช้ได้หรอก" นายว่า "หรือเธอรังเกียจว่าใช้กระเป๋าสตางค์เก่าๆ แล้วมันน่าเกลียด"
ภรรยาของนายไม่พูดอะไร
"พอซื้อบ้านแล้วก็กลายเป็นยาจกขนาดกระเป๋าสตางค์ยังไม่มีปัญญาซื้อใหม่ หัวเราะไม่ออกเลยนะ"
เงียบไปพักหนึ่ง ภรรยานายจึงพูดขึ้นเบาๆ
"ไม่เห็นต้องประชดกันแบบนี้เลยนี่คะ"
ภรรยานายไม่ได้เป็นห่วงแต่เรื่องเงิน แต่เป็นห่วงนาย เป็นห่วงงานที่ต้องแบกรับภาระมากมายของนาย เป็นห่วงสุขภาพที่เริ่มทรุดโทรมของนาย ถึงไม่มีที่ว่ามา งานตำรวจก็เป็นงานที่กัดกร่อนด้วยตัวเองอยู่แล้ว
อย่างน้อยก็อยากปล่อยบ้านไป ลดภาระให้นายเบาลงซักนิด
นายเองก็น่าจะรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว
แล้วฉันก็รู้สึกว่านายกำลังหวาดกลัว กลัวตัวเอง ในเวลาเช่นนั้นนายมักจะยกมือขึ้นลูบบริเวณที่ฉันซุกอยู่ หรือก็คือบริเวณเหนือหัวใจ
จากนั้นก็ถอนหายใจ
ในคืนนี้นายก็ทำเช่นนั้นหลายต่อหลายครั้งขณะนั่งโยกคลอนมาในรถแท็กซี่ ขณะฉันกำลังครุ่นคิดถึงหัวใจที่ค่อยๆ กัดกร่อนไปของนาย นายก็ลงจากรถ
--------------------------------------
สวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านค่ะ
เรื่องนี้เป็นเรื่องแปลจากนิยายสืบสวนของญี่ปุ่นเรื่อง "ฆาตกรรมอันยาวนาน" 「長い長い殺人」 โดยมิยาเบะ มิยูกิ นักเขียนผู้มีผลงานแปลในภาษาไทยแล้วหลายเรื่อง เช่น "เหตุที่ฆ่า" "Level 7" "เครดิตมรณะ"
เรื่องนี้ยังไม่มีลิขสิทธิ์ในภาษาไทย จึงอยากลองแปลมาให้ได้อ่านกันค่ะ หวังว่าจะได้รับความสนุกสนานอย่างที่ผู้แปลได้รับ และหากมีข้อแนะนำหรือความเห็นใดๆ ก็ยินดีต้อนรับอย่างยิ่งเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ^^/