ตอนแรกค่ะ :
http://pantip.com/topic/30506118
------------------------------------------
2.
"หัวหน้าครับ"
เสียงชายหนุ่มอายุน้อยเรียกไว้ นายหยุดฝีเท้า
"ว่าไง ฉันมาช้าไป คงเหนื่อยสินะ"
"ทางนี้ครับ ดูไม่ได้เลย"
นายเร่งฝีเท้าขึ้น สายลมพัดกรรโชกแรงยิ่งขึ้น
เสียงคนพูดกันดังแซ่ด ท่าทางจะเป็นกลุ่มใหญ่ ฉันได้ยินเสียงวิทยุไร้สายจากรถตำรวจดังขาดตอนไม่ปะติดปะต่อแว่วมาตามสายลม
"ชนแล้วหนีเรอะ"
นายย่อตัวลงนั่ง ตัวฉันในกระเป๋าเสื้อก็พลอยเอนมาข้างหน้า
"....ดูไม่ได้เลยนะ"
"ไม่ได้ชนแล้วกระเด็น แต่เหมือนจะชนแล้วลากไปต่อนะครับ"
นายลุกขึ้นยืน คงจะเหลียวมองไปรอบๆ
"ยืนยันตัวได้หรือยัง"
นายถามพลางดึงเอาสมุดบันทึกออกมา
"โมริโมโตะ ยูอิชิ อายุ 33 ปี ที่อยู่..."
นายขยับแขนจด
"กระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ข้างหลังห่างไปประมาณสิบเมตร มีใบขับขี่อยู่ด้วย เงินสดประมาณสองหมื่นเยนก็อยู่ครบครับ"
"เปรียบเทียบรูปถ่ายดูแล้วไม่ผิดตัวแน่นะ"
เงียบไปสักพัก เสียงหัวเราะของนายก็ดังขึ้น
"เอ้า ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นน่า อาจจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของคนที่ไม่เกี่ยวข้องทำหล่นไว้ก่อนเกิดเหตุฉิวเฉียดก็ได้"
"จะบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือครับ"
"จะฟันธงว่าไม่มีก็ไม่ได้นี่"
เสียงคนหนุ่มขาดหายไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดี
"ตรวจสอบเปรียบเทียบกับรูปถ่ายว่าใช่เจ้าตัว เรียบร้อยแล้วครับ"
"โทษทีนะ ฉันมาช้าไปหน่อย บ้านฉันมันไกลไม่เหมือนหอของพวกนาย แค่ขามาถึงกลางเมืองก็ปาเข้าไปชั่วโมงครึ่งแล้ว"
"แต่บางความเห็นว่าเปรียบเทียบหน้าคนตายกับรูปถ่ายตอนยังมีชีวิตไปก็เปล่าประโยชน์นะครับ เละตุ้มเป๊ะเลย"
นายพูดอย่างรวดเร็ว "อย่าพูดแบบนี้เชียวนะ"
เสียงคนหนุ่มนิ่งเงียบไป
"ครอบครัวล่ะ"
"โทรไปตามที่อยู่ในใบขับขี่แล้วแต่ไม่มีคนรับสายครับ"
"ไม่ใช่ระบบฝากข้อความนะ"
"ไม่ใช่ครับ"
"ไม่มีพวกสมุดบันทึกที่อยู่บ้างรึ"
"ไม่มีครับ"
"ในกระเป๋าสตางค์มีนามบัตรหรือเปล่า"
"มีครับ"
"เป็นของเจ้าตัวหรือเปล่า"
"ครับ เป็นพนักงานที่โรงงานโทโยคิโคครับ"
"งั้นโทรศัพท์ไปที่โน่น คงมียามหรือใครอยู่บ้างหรอก ไปขอเครือข่ายติดต่อฉุกเฉินมา ถ้าหาตัวเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าได้ก็รู้เรื่องครอบครัวเอง"
จากนั้นนายก็เดินวนเวียนไปมา บางครั้งก็แลกเปลี่ยนคำพูดกับใครบางคน
ระหว่างนั้นเสียงฝีเท้านายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นเสียงสวบสาบ คงเดินย่ำไปบนพื้นหญ้าหรือพื้นที่ไม่ได้ลาดยาง
เสียงแจ้งการแบ่งหน้าที่ในการสอบปากคำ เสียงฝีเท้ามากมายเดินสวนไปมา บางทีก็เฉียดเข้าใกล้ บางทีก็กรายออกห่าง ที่ได้ยินเสียงของเครื่องจักรดังมาจากด้านหลังคงเป็นเพราะฝ่ายช่างภาพกำลังทำงาน ฉันอยู่กับนายมานานจนชินกับเสียงเหล่านี้ไปแล้ว
"เอ้า ขนไปได้" เสียงหนักๆ ออกคำสั่ง นายออกปากคุยกับเจ้าของเสียงหนักนั้น
"คิดว่าไง" เสียงหนักๆ ถาม
"ยังพูดอะไรไม่ได้... ว่าแต่ได้สอบปากคำผู้พบศพหรือยังครับ"
"เปล่า ยังเลย เป็นผู้หญิงที่เดินผ่านมาน่ะ ท่าทางจะเมามาอยู่แล้ว พอโทรแจ้ง 110 แล้วก็..."
ดูเหมือนเจ้าของเสียงหนักๆ จะทำท่าบุ้ยใบ้อะไรบางอย่าง ดูจากที่นายอุทายว่า "อ้าว อ้าว" ฉันก็เดาเอาว่าเขาคงทำท่าโก่งคออาเจียนเสียล่ะมั้ง
"ตอนนี้ให้นั่งพักอยู่ แต่คงพอถามรายละเอียดได้แล้ว"
"ผู้หญิงอายุน้อยหรือครับ"
"ซัก 22-23 ได้ล่ะมั้ง"
"เมาแล้วยังมาเดินทางเปลี่ยวแบบนี้ตอนกลางคืนอีก ?"
"เห็นว่าทะเลาะกับผู้ชายที่มาด้วยกันน่ะ"
"ใจกล้าจริงนะครับ"
"สาวๆ สมัยนี้ก็แบบนี้แหละ"
นายลูบเหนืออกที่ฉันอยู่ คล้ายจะทำไปโดยไม่รู้ตัว คงจะนึกถึงลูกสาว
มือของนายหยุดลงบริเวณท้อง ทิ้งช่วงสักพักก่อนจะพูดออกมา
"ผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้ติดเข็มกลัดเนคไทนะครับ"
เสียงหนักๆ ตอบว่า "เห งั้นหรือ"
"ครับ หาไม่เจอเลย ของแบบนี้ต่อให้โดนรถทับก็ใช่ว่าจะกระเด็นไปได้เองง่ายๆ หรือว่าอาจจะไม่ได้ติดมาแต่แรก..."
"คาใจงั้นหรือ"
"นิดหน่อยนะครับ" จากนั้นนายก็พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ "แต่คงไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไร"
เจ้าของเสียงหนักๆ ส่งเสียงคำรามเป็นเชิงไม่ทั้งตอบรับและปฎิเสธ
"แต่บริเวณนี้คงหวังว่าจะมีผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ล่ะนะ"
ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่เปลี่ยวปราศจากผู้คน
"ทำเลเหมาะกับการฆาตกรรมเลยนะครับ" นายพูดลอยๆ
"คิดว่าวางแผนไว้แล้วหรือเปล่า"
"ยังฟันธงลงไปไม่ได้ครับ"
"ก็โดนรถลากมาด้วยนี่นะ"
"ผมไม่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดา มีร่องรอยการฟาดที่ศีรษะเพื่อให้ตายสนิทด้วย"
เสียงหนักๆ เงียบไปเป็นครู่ก่อนพูดขึ้น
"มาแล้ว ผู้หญิงคนนี้แหละ"
ฉันรับฟังเสียงเธออย่างเพลิดเพลิน ออกจะทุ้มไปบ้าง แต่ชัดเจนฟังง่าย สมเป็นสาวใจกล้า
เธอแนะนำตัวว่าชื่อมิตสึดะ ซาชิเอะ ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า
"รู้สึกดีขึ้นหรือยังครับ" นายถาม
"ยังฟื้นตัวไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกค่ะ เห็นของไม่ดีแบบนั้น แล้วก็หนาวจัง"
นายว่า "งั้นลองสวมหมวกฮู้ดนั่นสิครับ น่าจะช่วยให้อุ่นขึ้นมาก"
"ดิฉันไม่เคยนึกเลยว่าหมวกฮู้ดของเสื้อโค้ทมีไว้ให้สวม" คุณหนูซาชิเอะพูดอย่างแปลกใจ "เอาไว้ประดับไม่ใช่เหรอ แต่ก็ นั่นสินะ"
ดูเหมือนเธอจะดึงหมวกฮู้ดขึ้นสวม นายตั้งคำถาม
"ไม่ทราบว่าพบศพได้อย่างไรครับ"
"ฉันสลัดผู้ชายทิ้งมาน่ะค่ะ"
ทั้งนายทั้งเสียงหนักๆ เงียบไป คุณหนูซาชิเอะหัวเราะขึ้นด้วยเสียงแห้งผาก
"ขอโทษนะคะ จะเล่าไปตามลำดับก็แล้วกัน"
ที่คุณหนูซาชิเอะเรียกว่า 'ผู้ชาย' ก็คือพนักงานกินเงินเดือนที่เพิ่งรู้จักกันที่ร้านแสน็คที่ไปมาคืนนี้ เขาอยากไปส่งเธอที่บ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยจิตใจอันสูงส่งเยี่ยงอัศวิน
"ดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่าย ก็เลยคิดจะหาวิธีปลีกตัวดีๆ อ้างว่าเมามากแล้วเลยขอลงรถกลางทางน่ะค่ะ ทางนี้เป็นทางลัดไปอพาร์ทเมนต์ของดิฉันเอง"
"ช่วยชี้เส้นทางตั้งแต่ลงรถมาถึงนี่ได้ไหมครับ"
พวกของนายเดินไปพร้อมกับคุณหนูซาชิเอะตามเส้นทางที่เธอเป็นคนนำ ฉันได้ยินเสียงสวบสาบอีกครั้ง
ฆาตกรรมยาวนาน : บทที่ 1 กระเป๋าสตางค์ของนายตำรวจ (2/5)
------------------------------------------
2.
"หัวหน้าครับ"
เสียงชายหนุ่มอายุน้อยเรียกไว้ นายหยุดฝีเท้า
"ว่าไง ฉันมาช้าไป คงเหนื่อยสินะ"
"ทางนี้ครับ ดูไม่ได้เลย"
นายเร่งฝีเท้าขึ้น สายลมพัดกรรโชกแรงยิ่งขึ้น
เสียงคนพูดกันดังแซ่ด ท่าทางจะเป็นกลุ่มใหญ่ ฉันได้ยินเสียงวิทยุไร้สายจากรถตำรวจดังขาดตอนไม่ปะติดปะต่อแว่วมาตามสายลม
"ชนแล้วหนีเรอะ"
นายย่อตัวลงนั่ง ตัวฉันในกระเป๋าเสื้อก็พลอยเอนมาข้างหน้า
"....ดูไม่ได้เลยนะ"
"ไม่ได้ชนแล้วกระเด็น แต่เหมือนจะชนแล้วลากไปต่อนะครับ"
นายลุกขึ้นยืน คงจะเหลียวมองไปรอบๆ
"ยืนยันตัวได้หรือยัง"
นายถามพลางดึงเอาสมุดบันทึกออกมา
"โมริโมโตะ ยูอิชิ อายุ 33 ปี ที่อยู่..."
นายขยับแขนจด
"กระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ข้างหลังห่างไปประมาณสิบเมตร มีใบขับขี่อยู่ด้วย เงินสดประมาณสองหมื่นเยนก็อยู่ครบครับ"
"เปรียบเทียบรูปถ่ายดูแล้วไม่ผิดตัวแน่นะ"
เงียบไปสักพัก เสียงหัวเราะของนายก็ดังขึ้น
"เอ้า ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นน่า อาจจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของคนที่ไม่เกี่ยวข้องทำหล่นไว้ก่อนเกิดเหตุฉิวเฉียดก็ได้"
"จะบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือครับ"
"จะฟันธงว่าไม่มีก็ไม่ได้นี่"
เสียงคนหนุ่มขาดหายไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดี
"ตรวจสอบเปรียบเทียบกับรูปถ่ายว่าใช่เจ้าตัว เรียบร้อยแล้วครับ"
"โทษทีนะ ฉันมาช้าไปหน่อย บ้านฉันมันไกลไม่เหมือนหอของพวกนาย แค่ขามาถึงกลางเมืองก็ปาเข้าไปชั่วโมงครึ่งแล้ว"
"แต่บางความเห็นว่าเปรียบเทียบหน้าคนตายกับรูปถ่ายตอนยังมีชีวิตไปก็เปล่าประโยชน์นะครับ เละตุ้มเป๊ะเลย"
นายพูดอย่างรวดเร็ว "อย่าพูดแบบนี้เชียวนะ"
เสียงคนหนุ่มนิ่งเงียบไป
"ครอบครัวล่ะ"
"โทรไปตามที่อยู่ในใบขับขี่แล้วแต่ไม่มีคนรับสายครับ"
"ไม่ใช่ระบบฝากข้อความนะ"
"ไม่ใช่ครับ"
"ไม่มีพวกสมุดบันทึกที่อยู่บ้างรึ"
"ไม่มีครับ"
"ในกระเป๋าสตางค์มีนามบัตรหรือเปล่า"
"มีครับ"
"เป็นของเจ้าตัวหรือเปล่า"
"ครับ เป็นพนักงานที่โรงงานโทโยคิโคครับ"
"งั้นโทรศัพท์ไปที่โน่น คงมียามหรือใครอยู่บ้างหรอก ไปขอเครือข่ายติดต่อฉุกเฉินมา ถ้าหาตัวเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าได้ก็รู้เรื่องครอบครัวเอง"
จากนั้นนายก็เดินวนเวียนไปมา บางครั้งก็แลกเปลี่ยนคำพูดกับใครบางคน
ระหว่างนั้นเสียงฝีเท้านายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นเสียงสวบสาบ คงเดินย่ำไปบนพื้นหญ้าหรือพื้นที่ไม่ได้ลาดยาง
เสียงแจ้งการแบ่งหน้าที่ในการสอบปากคำ เสียงฝีเท้ามากมายเดินสวนไปมา บางทีก็เฉียดเข้าใกล้ บางทีก็กรายออกห่าง ที่ได้ยินเสียงของเครื่องจักรดังมาจากด้านหลังคงเป็นเพราะฝ่ายช่างภาพกำลังทำงาน ฉันอยู่กับนายมานานจนชินกับเสียงเหล่านี้ไปแล้ว
"เอ้า ขนไปได้" เสียงหนักๆ ออกคำสั่ง นายออกปากคุยกับเจ้าของเสียงหนักนั้น
"คิดว่าไง" เสียงหนักๆ ถาม
"ยังพูดอะไรไม่ได้... ว่าแต่ได้สอบปากคำผู้พบศพหรือยังครับ"
"เปล่า ยังเลย เป็นผู้หญิงที่เดินผ่านมาน่ะ ท่าทางจะเมามาอยู่แล้ว พอโทรแจ้ง 110 แล้วก็..."
ดูเหมือนเจ้าของเสียงหนักๆ จะทำท่าบุ้ยใบ้อะไรบางอย่าง ดูจากที่นายอุทายว่า "อ้าว อ้าว" ฉันก็เดาเอาว่าเขาคงทำท่าโก่งคออาเจียนเสียล่ะมั้ง
"ตอนนี้ให้นั่งพักอยู่ แต่คงพอถามรายละเอียดได้แล้ว"
"ผู้หญิงอายุน้อยหรือครับ"
"ซัก 22-23 ได้ล่ะมั้ง"
"เมาแล้วยังมาเดินทางเปลี่ยวแบบนี้ตอนกลางคืนอีก ?"
"เห็นว่าทะเลาะกับผู้ชายที่มาด้วยกันน่ะ"
"ใจกล้าจริงนะครับ"
"สาวๆ สมัยนี้ก็แบบนี้แหละ"
นายลูบเหนืออกที่ฉันอยู่ คล้ายจะทำไปโดยไม่รู้ตัว คงจะนึกถึงลูกสาว
มือของนายหยุดลงบริเวณท้อง ทิ้งช่วงสักพักก่อนจะพูดออกมา
"ผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้ติดเข็มกลัดเนคไทนะครับ"
เสียงหนักๆ ตอบว่า "เห งั้นหรือ"
"ครับ หาไม่เจอเลย ของแบบนี้ต่อให้โดนรถทับก็ใช่ว่าจะกระเด็นไปได้เองง่ายๆ หรือว่าอาจจะไม่ได้ติดมาแต่แรก..."
"คาใจงั้นหรือ"
"นิดหน่อยนะครับ" จากนั้นนายก็พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ "แต่คงไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไร"
เจ้าของเสียงหนักๆ ส่งเสียงคำรามเป็นเชิงไม่ทั้งตอบรับและปฎิเสธ
"แต่บริเวณนี้คงหวังว่าจะมีผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ล่ะนะ"
ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่เปลี่ยวปราศจากผู้คน
"ทำเลเหมาะกับการฆาตกรรมเลยนะครับ" นายพูดลอยๆ
"คิดว่าวางแผนไว้แล้วหรือเปล่า"
"ยังฟันธงลงไปไม่ได้ครับ"
"ก็โดนรถลากมาด้วยนี่นะ"
"ผมไม่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดา มีร่องรอยการฟาดที่ศีรษะเพื่อให้ตายสนิทด้วย"
เสียงหนักๆ เงียบไปเป็นครู่ก่อนพูดขึ้น
"มาแล้ว ผู้หญิงคนนี้แหละ"
ฉันรับฟังเสียงเธออย่างเพลิดเพลิน ออกจะทุ้มไปบ้าง แต่ชัดเจนฟังง่าย สมเป็นสาวใจกล้า
เธอแนะนำตัวว่าชื่อมิตสึดะ ซาชิเอะ ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า
"รู้สึกดีขึ้นหรือยังครับ" นายถาม
"ยังฟื้นตัวไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกค่ะ เห็นของไม่ดีแบบนั้น แล้วก็หนาวจัง"
นายว่า "งั้นลองสวมหมวกฮู้ดนั่นสิครับ น่าจะช่วยให้อุ่นขึ้นมาก"
"ดิฉันไม่เคยนึกเลยว่าหมวกฮู้ดของเสื้อโค้ทมีไว้ให้สวม" คุณหนูซาชิเอะพูดอย่างแปลกใจ "เอาไว้ประดับไม่ใช่เหรอ แต่ก็ นั่นสินะ"
ดูเหมือนเธอจะดึงหมวกฮู้ดขึ้นสวม นายตั้งคำถาม
"ไม่ทราบว่าพบศพได้อย่างไรครับ"
"ฉันสลัดผู้ชายทิ้งมาน่ะค่ะ"
ทั้งนายทั้งเสียงหนักๆ เงียบไป คุณหนูซาชิเอะหัวเราะขึ้นด้วยเสียงแห้งผาก
"ขอโทษนะคะ จะเล่าไปตามลำดับก็แล้วกัน"
ที่คุณหนูซาชิเอะเรียกว่า 'ผู้ชาย' ก็คือพนักงานกินเงินเดือนที่เพิ่งรู้จักกันที่ร้านแสน็คที่ไปมาคืนนี้ เขาอยากไปส่งเธอที่บ้าน แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยจิตใจอันสูงส่งเยี่ยงอัศวิน
"ดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่าย ก็เลยคิดจะหาวิธีปลีกตัวดีๆ อ้างว่าเมามากแล้วเลยขอลงรถกลางทางน่ะค่ะ ทางนี้เป็นทางลัดไปอพาร์ทเมนต์ของดิฉันเอง"
"ช่วยชี้เส้นทางตั้งแต่ลงรถมาถึงนี่ได้ไหมครับ"
พวกของนายเดินไปพร้อมกับคุณหนูซาชิเอะตามเส้นทางที่เธอเป็นคนนำ ฉันได้ยินเสียงสวบสาบอีกครั้ง