ฆาตกรรมยาวนาน : บทที่ 1 กระเป๋าสตางค์ของนายตำรวจ (2/5)

กระทู้สนทนา
ตอนแรกค่ะ :  http://pantip.com/topic/30506118
------------------------------------------

2.
    
    "หัวหน้าครับ"  
    เสียงชายหนุ่มอายุน้อยเรียกไว้ นายหยุดฝีเท้า
    "ว่าไง ฉันมาช้าไป คงเหนื่อยสินะ"
    "ทางนี้ครับ ดูไม่ได้เลย"
    นายเร่งฝีเท้าขึ้น สายลมพัดกรรโชกแรงยิ่งขึ้น
    เสียงคนพูดกันดังแซ่ด ท่าทางจะเป็นกลุ่มใหญ่ ฉันได้ยินเสียงวิทยุไร้สายจากรถตำรวจดังขาดตอนไม่ปะติดปะต่อแว่วมาตามสายลม
    "ชนแล้วหนีเรอะ"
    นายย่อตัวลงนั่ง ตัวฉันในกระเป๋าเสื้อก็พลอยเอนมาข้างหน้า
    "....ดูไม่ได้เลยนะ"
    "ไม่ได้ชนแล้วกระเด็น แต่เหมือนจะชนแล้วลากไปต่อนะครับ"
    นายลุกขึ้นยืน  คงจะเหลียวมองไปรอบๆ
    "ยืนยันตัวได้หรือยัง"
    นายถามพลางดึงเอาสมุดบันทึกออกมา
    "โมริโมโตะ ยูอิชิ อายุ 33 ปี ที่อยู่..."
    นายขยับแขนจด
    "กระเป๋าสตางค์หล่นอยู่ข้างหลังห่างไปประมาณสิบเมตร มีใบขับขี่อยู่ด้วย เงินสดประมาณสองหมื่นเยนก็อยู่ครบครับ"
    "เปรียบเทียบรูปถ่ายดูแล้วไม่ผิดตัวแน่นะ"
    เงียบไปสักพัก เสียงหัวเราะของนายก็ดังขึ้น
    "เอ้า ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นน่า อาจจะเป็นกระเป๋าสตางค์ของคนที่ไม่เกี่ยวข้องทำหล่นไว้ก่อนเกิดเหตุฉิวเฉียดก็ได้"
    "จะบังเอิญขนาดนั้นเชียวหรือครับ"
    "จะฟันธงว่าไม่มีก็ไม่ได้นี่"
    เสียงคนหนุ่มขาดหายไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าอารมณ์ไม่ดี
    "ตรวจสอบเปรียบเทียบกับรูปถ่ายว่าใช่เจ้าตัว เรียบร้อยแล้วครับ"
    "โทษทีนะ ฉันมาช้าไปหน่อย บ้านฉันมันไกลไม่เหมือนหอของพวกนาย แค่ขามาถึงกลางเมืองก็ปาเข้าไปชั่วโมงครึ่งแล้ว"
    "แต่บางความเห็นว่าเปรียบเทียบหน้าคนตายกับรูปถ่ายตอนยังมีชีวิตไปก็เปล่าประโยชน์นะครับ เละตุ้มเป๊ะเลย"
    นายพูดอย่างรวดเร็ว  "อย่าพูดแบบนี้เชียวนะ"
    เสียงคนหนุ่มนิ่งเงียบไป
    "ครอบครัวล่ะ"
    "โทรไปตามที่อยู่ในใบขับขี่แล้วแต่ไม่มีคนรับสายครับ"
    "ไม่ใช่ระบบฝากข้อความนะ"
    "ไม่ใช่ครับ"
    "ไม่มีพวกสมุดบันทึกที่อยู่บ้างรึ"
    "ไม่มีครับ"
    "ในกระเป๋าสตางค์มีนามบัตรหรือเปล่า"
    "มีครับ"
    "เป็นของเจ้าตัวหรือเปล่า"
    "ครับ เป็นพนักงานที่โรงงานโทโยคิโคครับ"
    "งั้นโทรศัพท์ไปที่โน่น คงมียามหรือใครอยู่บ้างหรอก ไปขอเครือข่ายติดต่อฉุกเฉินมา ถ้าหาตัวเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าได้ก็รู้เรื่องครอบครัวเอง"
    จากนั้นนายก็เดินวนเวียนไปมา บางครั้งก็แลกเปลี่ยนคำพูดกับใครบางคน
    ระหว่างนั้นเสียงฝีเท้านายเริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง กลายเป็นเสียงสวบสาบ คงเดินย่ำไปบนพื้นหญ้าหรือพื้นที่ไม่ได้ลาดยาง
    เสียงแจ้งการแบ่งหน้าที่ในการสอบปากคำ เสียงฝีเท้ามากมายเดินสวนไปมา บางทีก็เฉียดเข้าใกล้ บางทีก็กรายออกห่าง ที่ได้ยินเสียงของเครื่องจักรดังมาจากด้านหลังคงเป็นเพราะฝ่ายช่างภาพกำลังทำงาน ฉันอยู่กับนายมานานจนชินกับเสียงเหล่านี้ไปแล้ว

    "เอ้า ขนไปได้" เสียงหนักๆ ออกคำสั่ง นายออกปากคุยกับเจ้าของเสียงหนักนั้น
    "คิดว่าไง" เสียงหนักๆ ถาม
    "ยังพูดอะไรไม่ได้... ว่าแต่ได้สอบปากคำผู้พบศพหรือยังครับ"
    "เปล่า ยังเลย เป็นผู้หญิงที่เดินผ่านมาน่ะ ท่าทางจะเมามาอยู่แล้ว พอโทรแจ้ง 110 แล้วก็..."
    ดูเหมือนเจ้าของเสียงหนักๆ จะทำท่าบุ้ยใบ้อะไรบางอย่าง ดูจากที่นายอุทายว่า "อ้าว อ้าว"  ฉันก็เดาเอาว่าเขาคงทำท่าโก่งคออาเจียนเสียล่ะมั้ง
    "ตอนนี้ให้นั่งพักอยู่ แต่คงพอถามรายละเอียดได้แล้ว"
    "ผู้หญิงอายุน้อยหรือครับ"
    "ซัก 22-23 ได้ล่ะมั้ง"
    "เมาแล้วยังมาเดินทางเปลี่ยวแบบนี้ตอนกลางคืนอีก ?"
    "เห็นว่าทะเลาะกับผู้ชายที่มาด้วยกันน่ะ"
    "ใจกล้าจริงนะครับ"
    "สาวๆ สมัยนี้ก็แบบนี้แหละ"
    นายลูบเหนืออกที่ฉันอยู่ คล้ายจะทำไปโดยไม่รู้ตัว คงจะนึกถึงลูกสาว
    มือของนายหยุดลงบริเวณท้อง ทิ้งช่วงสักพักก่อนจะพูดออกมา
    "ผู้เคราะห์ร้ายไม่ได้ติดเข็มกลัดเนคไทนะครับ"
    เสียงหนักๆ ตอบว่า "เห งั้นหรือ"
    "ครับ หาไม่เจอเลย ของแบบนี้ต่อให้โดนรถทับก็ใช่ว่าจะกระเด็นไปได้เองง่ายๆ  หรือว่าอาจจะไม่ได้ติดมาแต่แรก..."
    "คาใจงั้นหรือ"
    "นิดหน่อยนะครับ" จากนั้นนายก็พูดด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ "แต่คงไม่มีความหมายลึกซึ้งอะไร"
    เจ้าของเสียงหนักๆ ส่งเสียงคำรามเป็นเชิงไม่ทั้งตอบรับและปฎิเสธ
    "แต่บริเวณนี้คงหวังว่าจะมีผู้เห็นเหตุการณ์ไม่ได้ล่ะนะ"
    ดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็นที่เปลี่ยวปราศจากผู้คน
    "ทำเลเหมาะกับการฆาตกรรมเลยนะครับ" นายพูดลอยๆ
    "คิดว่าวางแผนไว้แล้วหรือเปล่า"
    "ยังฟันธงลงไปไม่ได้ครับ"
    "ก็โดนรถลากมาด้วยนี่นะ"
    "ผมไม่คิดว่าเป็นอุบัติเหตุธรรมดา มีร่องรอยการฟาดที่ศีรษะเพื่อให้ตายสนิทด้วย"
    เสียงหนักๆ เงียบไปเป็นครู่ก่อนพูดขึ้น
    "มาแล้ว ผู้หญิงคนนี้แหละ"

    ฉันรับฟังเสียงเธออย่างเพลิดเพลิน ออกจะทุ้มไปบ้าง แต่ชัดเจนฟังง่าย สมเป็นสาวใจกล้า
    เธอแนะนำตัวว่าชื่อมิตสึดะ ซาชิเอะ ทำงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า
    "รู้สึกดีขึ้นหรือยังครับ" นายถาม
    "ยังฟื้นตัวไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกค่ะ เห็นของไม่ดีแบบนั้น แล้วก็หนาวจัง"
    นายว่า "งั้นลองสวมหมวกฮู้ดนั่นสิครับ น่าจะช่วยให้อุ่นขึ้นมาก"
    "ดิฉันไม่เคยนึกเลยว่าหมวกฮู้ดของเสื้อโค้ทมีไว้ให้สวม" คุณหนูซาชิเอะพูดอย่างแปลกใจ "เอาไว้ประดับไม่ใช่เหรอ แต่ก็ นั่นสินะ"
    ดูเหมือนเธอจะดึงหมวกฮู้ดขึ้นสวม  นายตั้งคำถาม
    "ไม่ทราบว่าพบศพได้อย่างไรครับ"
    "ฉันสลัดผู้ชายทิ้งมาน่ะค่ะ"
    ทั้งนายทั้งเสียงหนักๆ เงียบไป คุณหนูซาชิเอะหัวเราะขึ้นด้วยเสียงแห้งผาก
    "ขอโทษนะคะ  จะเล่าไปตามลำดับก็แล้วกัน"
    ที่คุณหนูซาชิเอะเรียกว่า 'ผู้ชาย' ก็คือพนักงานกินเงินเดือนที่เพิ่งรู้จักกันที่ร้านแสน็คที่ไปมาคืนนี้  เขาอยากไปส่งเธอที่บ้าน  แน่นอนว่าไม่ใช่ด้วยจิตใจอันสูงส่งเยี่ยงอัศวิน
    "ดิฉันไม่ใช่ผู้หญิงง่าย ก็เลยคิดจะหาวิธีปลีกตัวดีๆ อ้างว่าเมามากแล้วเลยขอลงรถกลางทางน่ะค่ะ ทางนี้เป็นทางลัดไปอพาร์ทเมนต์ของดิฉันเอง"
    "ช่วยชี้เส้นทางตั้งแต่ลงรถมาถึงนี่ได้ไหมครับ"
    พวกของนายเดินไปพร้อมกับคุณหนูซาชิเอะตามเส้นทางที่เธอเป็นคนนำ ฉันได้ยินเสียงสวบสาบอีกครั้ง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่