อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ อาจจะผิดยังไงก็ขออภัยด้วยค่ะ
เดี๋ยวนี้เราจะเห็นพวกโฆษณาเปิดฝาลุ้นล้าน ส่งรหัสไต้ฝาลุ้น iPhone ทุกวัน
อันนี้เพียงพูดถึงไม่กี่แบรนด์นะคะ จริงๆ มีเยอะมาก แต่ที่พูดถึงก็เป็นแบรนด์ที่แข่งขัน
กันสูงๆ งบการตลาดเยอะๆ
ยกตัวอย่างน้ำชาเขียว แจกเงินล้านทุกวัน เราว่ามันก็ไม่ต่างจากพวกหวยใต้ดินเท่าไหร่
แถบยังโฆษณาได้อย่างโจ่งแจ้ง และ แทบจะทุกสื่อด้วย เห็นบางคนถึงขั้นซื้อแล้วเปิดรหัส
อย่างเดียว ไม่เอาน้ำ เอาน้ำมาขายต่อขวดละ 10 บาท
อย่างพวกส่งรหัสทาง sms เพื่อลุ้น iPhone หรือรางวัลอื่นๆ คิดค่าส่ง 3 บาท/ครั้ง
ค่าบริการส่งพวกนี้จะถูกแบ่งอยู่แล้วระหว่าง ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ต่าง ๆ กับ เจ้าของสินค้า
สมมุติผู้ให้บริการได้ 2 บาท เจ้าของสินค้าได้ 1 บาท สมมุติวันนึงมีคนส่ง sms แค่ 100,000 คน
เค้าก็ได้แล้ว 1 แสนบาท iphone 2 เครื่องตีเป็นเลขกลมๆ 60,000 บาท นอกจากจะขายของได้มากขึ้น
ก็ยังได้กำไรจาก sms อีก
เลยรู้สึกว่า เรากำลังตกเป็นเหยื่อการตลาดโดยไม่รู้ตัวอยู่รึป่าว ยิ่งคนสนใจมากเท่าไหร่ แบรนด์ต่างๆ ก็หันมาทำ
โปรโมชั่นแคมเปญแบบนี้กันมากขึ้น แทนที่จะเอาเงินส่วนนี้ไปทำ CSR ช่วยเหลือสังคมมากขึ้น
กลับมามอมเมาประชาชนให้หวังพึ่งโชค พึ่งดวงแบบนี้
จริงๆ แล้วส่วนตัวก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไรนะคะ เพียงแต่รู้สึกว่า มันถูกต้องแล้วหรือ สำหรับการตลาด การแข่งขันในประเทศเรา
ในสังคมปัจจุบัน นับวันก็ยิ่งเห็นมากขึ้น
ขอย้ำนะคะ ว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว หากทำให้บางท่านขุ่นข้องหมองใจก็ขออภัยด้วยค่ะ
สังคมกำลังตกเป็นเหยื่อการตลาด!!!
เดี๋ยวนี้เราจะเห็นพวกโฆษณาเปิดฝาลุ้นล้าน ส่งรหัสไต้ฝาลุ้น iPhone ทุกวัน
อันนี้เพียงพูดถึงไม่กี่แบรนด์นะคะ จริงๆ มีเยอะมาก แต่ที่พูดถึงก็เป็นแบรนด์ที่แข่งขัน
กันสูงๆ งบการตลาดเยอะๆ
ยกตัวอย่างน้ำชาเขียว แจกเงินล้านทุกวัน เราว่ามันก็ไม่ต่างจากพวกหวยใต้ดินเท่าไหร่
แถบยังโฆษณาได้อย่างโจ่งแจ้ง และ แทบจะทุกสื่อด้วย เห็นบางคนถึงขั้นซื้อแล้วเปิดรหัส
อย่างเดียว ไม่เอาน้ำ เอาน้ำมาขายต่อขวดละ 10 บาท
อย่างพวกส่งรหัสทาง sms เพื่อลุ้น iPhone หรือรางวัลอื่นๆ คิดค่าส่ง 3 บาท/ครั้ง
ค่าบริการส่งพวกนี้จะถูกแบ่งอยู่แล้วระหว่าง ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ต่าง ๆ กับ เจ้าของสินค้า
สมมุติผู้ให้บริการได้ 2 บาท เจ้าของสินค้าได้ 1 บาท สมมุติวันนึงมีคนส่ง sms แค่ 100,000 คน
เค้าก็ได้แล้ว 1 แสนบาท iphone 2 เครื่องตีเป็นเลขกลมๆ 60,000 บาท นอกจากจะขายของได้มากขึ้น
ก็ยังได้กำไรจาก sms อีก
เลยรู้สึกว่า เรากำลังตกเป็นเหยื่อการตลาดโดยไม่รู้ตัวอยู่รึป่าว ยิ่งคนสนใจมากเท่าไหร่ แบรนด์ต่างๆ ก็หันมาทำ
โปรโมชั่นแคมเปญแบบนี้กันมากขึ้น แทนที่จะเอาเงินส่วนนี้ไปทำ CSR ช่วยเหลือสังคมมากขึ้น
กลับมามอมเมาประชาชนให้หวังพึ่งโชค พึ่งดวงแบบนี้
จริงๆ แล้วส่วนตัวก็ไม่ได้เดือนร้อนอะไรนะคะ เพียงแต่รู้สึกว่า มันถูกต้องแล้วหรือ สำหรับการตลาด การแข่งขันในประเทศเรา
ในสังคมปัจจุบัน นับวันก็ยิ่งเห็นมากขึ้น
ขอย้ำนะคะ ว่านี่เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว หากทำให้บางท่านขุ่นข้องหมองใจก็ขออภัยด้วยค่ะ