โลกสวยก่อนนอน ,, ขอแชร์ความรู้สึก เรื่องการยุบโรงเรียนฯ

โลกสวยก่อนนอน ... (ทุกอย่างมีทั้งบวกและลบเสมอ)  

การเปลี่ยนแปลงย่อมนำพาผล ไม่ดีขึ้น ก็แย่ลง แต่การอยู่เฉยๆ ก็เปรียบเสมือนก้อนหินที่จมอยู่นิ่งๆในน้ำ ที่วันหนึ่งก็ถูกน้ำกัดเซาะจนเป็นรูพรุน อย่างช้าๆ และแตกสลายเป็นกรวด ทราย ในที่สุด ... เพราะฉะนั้น.. "การเสี่ยงคือการลงทุน"

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก็เคยคิด(ด้วยอารมณ์ล้วนๆและความโลกสวย(ไม่จริง)ของตัวเอง) รู้สึกตำหนิในใจนะกับที่รัฐประกาศยุบโรงเรียนขนาดเล็ก  คิดแต่เพียงว่าจะยุบทำไม รัฐบาลเอาอะไรคิด ไม่เห็นใจคนอื่น สงสารเด็กน้อยตาดำๆ พ่อแม่เด็กก็ลำบากกับการหาเช้ากินค่ำอยู่แล้ว,,, เป็นการตัดโอกาสต่างๆให้กับเด็กหรือเปล่า ยุบแล้วเด็กจะทำยังไง ยอมรับเลยว่าตอนนั้นเห็นด้วยกับคนวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการยุบโรงเรียนฯ  ,,, แต่พอศึกษาเข้าจริงๆ วิเคราะห์ให้เยอะขึ้น,,, เอิ้มม มันไม่ใช่อย่างงั้น,,

ลองคิดในมุมกลับ

เราเห็นแก่เด็กๆ จริงหรือไม่ ถึงต้องไปคัดค้านการยุบโรงเรียนขนาดเล็ก,,,ในเมื่อเค้าจะย้ายเด็กให้ไปเรียนในโรงเรียนข้างเคียงที่ได้มาตรฐานกว่าเพื่อง่ายต่อการบริหาร การจัดการเรียนการสอน ... (ตอบตัวเองได้หรือไม่ว่าเหตุผลอะไรเราจะต้องไปลงชื่อคัดค้าน//เกลียดรัฐบาลนี้หรือ??// เขาบอกต่อกันมา??// ได้รับลิงค์จาก forward mail??) จะเหตุผลอะไรก็ตามแต่ เราทราบหรือไม่ว่าองค์กรอะไรมาขอเสียงคัดค้านจากประชาชน,,,, //แล้วเงินจากไหนมาสนับสนุนองค์กรนั้น // ฯลฯ) .. จงอย่าลืมว่าทุกอย่างในโลกนี้มีเรื่องผลประโยชน์เสมอ....ฉะนั้น จงคิิดให้รอบครอบก่อนที่จะตัดสินใจอยู่ขั้วบวกหรือลบ เพราะเราเองที่อาจกลายเป็นเครื่องมือของผู้อื่นได้ทุกเมื่อ

ถ้าเป็นอย่างนั้น หมายความว่าเราจะให้เด็กๆเขาเรียนอยู่ในโรงเรียนเล็กๆ อย่างงั้นตลอดไปหรือ...ครูเพียงไม่กี่คน..อาคารเรียนไม่ได้มาตรฐาน..เขาจะอ่านหนังสือออกไหม,,,จบแล้วเขาจะเรียนต่อหรือเปล่า,, เขาได้เรียนรู้ในสิ่งที่เด็กวัยเดียวกันควรรู้หรือยัง...ไหนใครเคยบอกว่าจะพัฒนาประเทศชาติต้องเริ่มที่"การศึกษา"
V
V
...ขอคิดในมุมเด็กและผู้ปกครอง...
ทำไมไม่ลองปรับแนวคิดดูว่า ... ผู้ปกครองคนไหนที่ไม่อยากให้ตัวเองไปเรียนโรงเรียนที่ดีขึ้น.. มีมาตรฐานขึ้น,,, เด็กๆ เขาจะไม่อยากไปเรียนโรงเรียนใหม่ที่ใหญ่ขึ้น(ที่อยู่ใกล้ที่สุด) หรอ แถมรัฐยืนยันว่ามีบริการรถรับส่งฟรี และตอนนี้เริ่มมีโรงเรียนขนาดเล็กที่ภาคใต้นำร่องแล้วด้วย เด็กๆตื่นเต้นกับการได้ไปเรียนในโรงเรียนมาตรฐานที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด..ซึ่งผู้ปกครองส่วนใหญ่เห็นด้วย ,,,เพราะเด็กจะได้อาคารเรียนที่ดีกว่าเดิม,,มีคุณครูหลายท่านดูแลมากขึ้น,, โอกาสเรียนหลากหลายวิชาก็มากขึ้น,,, อุปกรณ์การเรียนก็พร้อมกว่าเดิม เพื่อนก็ใหม่ สนามเด็กเล่นก็มีมากขึ้น ,,,นี่คือประโยชน์เบื้องต้นที่ชัดเจนที่เด็กๆจะได้รับจากการย้ายโรงเรียน..สำหรับประโยชน์ในระยะยาวคงต้องดูอีกหลายปี มิใช่ตัดสินชั่วข้ามคืนว่าใครทำผิด ใครทำถูก

วันนี้ดิฉันมีโอกาสได้ถามคนใกล้ชิดที่มีลูกเรียนระดับอนุบาลในโรงเรียนขนาดเล็กเกี่ยวกับความคิดเห็นเรื่องนี้,,,ผู้ปกครองบอกว่า "ดีมากเลย พราะลูกเขาจะได้ไปโรงเรียนที่ดีขึ้น เขาบอกว่าตนไม่มีปัญญาให้ลูกไปเรียนในเมืองหรอก ใครจะไปรับไปส่ง ลูกอยู่โรงเรียนเล็กๆ เรียนๆเล่นๆ อยู่บ้านนอกอ่านหนังสือก็ไม่ออก นับเลขไม่ได้ ไม่กล้าแสดงออกอีก,,  ถ้าได้ไปเรียนที่ดีขึ้น และไม่ไกลจากบ้านนัก คิดว่าลูกน่าจะมีโอกาสที่ดีขึ้น,,,และชอบตรงที่จะมีรถบริการด้วย จะได้ไม่ต้องเป็นห่วง"  ฟังแล้วก็เข้าใจหัวอกของผู้ปกครองที่ลำบาก แต่ก็ยังมีความต้องการให้ลูกได้รับในสิ่งที่ดี..ในฐานะแม่คนหนึ่ง
เชื่อว่าผู้ปกครองหลายๆคนคงคิดแบบนี้ เพราะลองจินตนาการว่าตัวเองเป็นแม่ ก็คงคิดแบบนี้เช่นกัน ในขณะที่ตนเองต้องทำงานลำบาก ก็คิดเพียงว่าอะไรที่เปลี่ยนแปลงแล้วน่าจะทำให้ชีวิตลูกดีขึ้นก็ยอม..และคงไม่เสียหายอะไร...


ที่ดิฉันเขียนลงวันนี้ไม่ได้จะมาบอกให้ใครเปลี่ยนใจ  หรือเปลี่ยนแนวคิดของใคร แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยตัวเองได้เปลี่ยนวิสัยทัศน์แล้ว
เขียนลงวันนี้แค่อยากให้วิเคราะห์ถึงด้านดี/ร้าย ต่างๆ ก่อนที่จะเผลอทำอะไรวู่วามไป เพราะอย่างที่รู้ๆอยู่แล้วว่ากระแส social network แรงและเร็วมาก อยากให้ไตร่ตรองให้ดี อย่าเอาอารมณ์เหนือเหตุผล และอย่าเอาอคติความรู้สึกส่วนตัวมาเป็นแรงผลักดันให้คุณต้องเป็นบวกหรือลบเลย,,,


เห็นด้วยในหลายประเด็นที่สงสัยปนตำหนิถึงอนาคตภายภาคหน้าว่าเด็กจะปลอดภัยไหมเรื่องการเดินทาง,, ห้องเรียนโรงเรียนใหม่จะเพียงพอไหม,,,ครูโรงเรียนเดิมจะให้ไปอยุ่ที่ไหน..หนังสือค่าอาหารจะแพงขึ้นหรือเปล่า...ฯลฯ นี่แหละคือสิ่งที่ทุกคนควรคิดและช่วยกันกระตุ้นให้รัฐบาลวิเคราะห์ให้ละเอียดถี่ถ้วน ใช้ได้ผลจริง และรัดกุมที่สุด

จงอย่าลืมว่าการคัดค้านที่ไม่มีเหตุผลมันคือบ่อนทำลายตัวเองและสังคม แต่จงคัดค้านอย่างมีสติ ระมัดระวัง เเละเหตุผลให้มากที่สุด,,,

ปล. ทุกอย่างมีผลประโยชน์เสมอ ความคิดเบื้องต้นเกี่ยวกับโครงการนี้คือ อยากให้เด็กๆ ได้เจอสิ่งดีๆ ได้พัฒนาโอกาสทางการศึกษา ,, ไม่ได้เขียนเพื่อวิพากษ์วิจารณ์ใคร หรือเห็นด้วยกับใครเป็นพิเศษ ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมืองไหน และยังคงเป็นเสื้อหลากสีเหมือนเดิม (อยากใส่สีไหนก็ใส่)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่