สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู The Phantom of the Opera และจะไปดู

กระทู้สนทนา
สำหรับคนที่ยังไม่ได้ดู The Phantom of the Opera และจะไปดูที่เมืองไทยรัชดาลัยนะครับ
แนะนำว่า

1. ออกเดินทางแต่เนิ่นๆ เผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง
เผื่อรถติด เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน ทำให้เราไปถึงช้ากว่าที่คาดไว้
ผมไปดูรอบวันพุธที่ 8 พฤษภาคม 2556 กะไว้ว่าจะให้ถึงก่อน 1 ชั่วโมง แต่จริงๆ ถึงก่อนแค่ 15 นาที
เค้าประกาศ เหลือเวลา 15 นาทีจะเริ่มการแสดงแล้ว วิ่งกันหูตูบ รีบไปเข้าห้องน้ำก่อน แล้วรีบไปยังที่นั่ง
การแสดงเริ่มตรงเวลา ถ้าคุณไปช้า จะถูกกักอยู่ภายนอก ให้ดูจากโทรทัศน์วงจรปิดไปก่อน
จน 15 นาทีผ่านไปแล้วจึงจะเข้าไปข้างในได้
ซึ่งจะทำให้รู้สึกเสียดายนะครับ เพราะ show อย่างนี้นานๆ จะมาเมืองไทยสักครั้ง และค่าบัตรก็แพง
เราไม่ควรเสียโอกาสในช่วงต้น ทำให้ ไม่ได้ดูอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
หลังจากนั้นอาจถูกกักให้ดูโทรทัศน์วงจรปิดไปก่อนจน intermission จึงเข้าไปข้างในได้

แต่ก็มีเพื่อนๆ ท่านอื่นโพสต์ไว้ว่า มีปล่อยให้เข้าช่วงเพลง Think of Me เหมือนกัน
แต่ผมว่า มันก็ไม่ดีอยู่ดี ที่จะไปช้า เพราะจะรบกวนคนอื่นที่กำลังดูอยู่ ไปบังเค้าขณะคุณเดินผ่านเค้าไปยังที่นั่งของคุณ
และถูกเค้าตำหนิแน่ๆ อาจจะไม่ได้ออกเสียงให้คุณได้ยิน แต่ยังไงก็คงตำหนิในใจ หรือมาบ่น / ด่าใน pantip, ใน webboard ฯลฯ

2. ควรเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยเสียก่อนถึงเวลาเข้าชมการแสดง (คุณต้องเผื่อเวลาไว้ก่อนด้วย / คือ ต้องถึงก่อนเวลาเริ่มแสดง)
ช่วงก่อนถึงเวลาแสดง 2-3 ชั่วโมงไม่ควรดื่มน้ำมาก เพราะอาจจะไปปวดขณะดูการแสดงได้
และการออกมาเข้าห้องน้ำระหว่างมีการแสดง จะทำให้คุณเสียช่วงเวลาที่สำคัญบางช่วงไป
และยังเป็นการรบกวนผู้ชมท่านอื่นที่คุณเดินผ่านอีกด้วย เพราะคุณจะไปบังเค้า เหมือนดังที่กล่าวแล้วในข้อ 1

3. (ผมคิดว่า / และแนะนำว่า) ในกรณีที่คุณไม่เคยดูเรื่องนี้มาก่อนเลย และ / หรือ ไม่เคยทราบเนื้อเรื่องมาก่อนเลย
คุณควรศึกษาเนื้อเรื่อง คำพูด คำร้อง มาบ้าง
เพราะ เรื่องนี้แสดงเป็นภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ได้เก่งฟังภาษาอังกฤษมากจะเหนื่อยในการจับรายละเอียด

ผมคิดว่า ไม่เป็นการ spoil ให้เสียอรรถรส เพราะเรามาดูการแสดงสดของนักแสดง เทคนิคประกอบการแสดง ความไพเราะของดนตรีและเสียงร้อง
เหมือนไปดูคอนเสิร์ต เรารู้เนื้อร้อง ทำนองเพลง ร้องเพลงนั้นได้ ก็ไม่ได้ spoil ให้การดูคอนเสิร์ตนั้นสนุกน้อยลง

ถ้าคุณทราบเนื้อเรื่อง คำพูด คำร้อง มาบ้าง คุณก็จะไม่ต้องไป focus ตรงนั้นมาก และจะมีเวลาไปสังเกต, ไป appreciate กับรายละเอียดอื่นๆ
เช่น บทพูดที่เปลี่ยนไป, ท่าเต้น ท่าเดิน อิริยาบถของนักแสดง, เทคนิคประกอบการแสดง ฯลฯ

ถ้าคุณคิดว่า มีคำแปลภาษาไทย บนจอ LCD ให้อ่านอยู่แล้ว ค่อยไปอ่านเอาตอนนั้นก็ได้
ขอบอกว่า คิดผิดครับ เพราะ จอ LCD จะอยู่ 2 ข้างของเวที
ถ้าคุณมัวแต่ไปอ่านอยู่ ก็จะไม่ได้ดูการแสดงบนเวที เพราะมันคนละแนวสายตากันครับ
เลือกได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น
ผมลองเหลือบไปอ่านดูเป็นบางครั้ง เพราะอยากทราบว่า ท่อนนี้เค้าจะแปลเป็นภาษาไทยว่าอย่างไร?
ขนาดรู้เนื้อที่เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ก็พบว่า รบกวนการดูการแสดงบนเวทีจริงๆ ครับ
(ขนาด caption / subtitle ในหนัง เหลือบอ่านตัวอักษรใต้ภาพเลย ดูไปดูมา บางครั้งได้แต่อ่าน ไม่ได้ดูภาพ)
และสำหรับที่นั่งที่อยู่ไกลออกไปด้านหลัง ขนาดตัวอักษรอาจไม่เอื้ออำนวยให้คุณอ่านได้อย่างสบายๆ ครับ

สรุปว่า ควรจะรู้เรื่องไปก่อนว่าเขาพูด/ร้องอะไรบ้าง แล้วค่อยไปดู เก็บรายละเอียดการแสดงเอา
อีกอย่างภาษาไทยที่แปลออกมา พยายามจะใช้คำให้สวยงาม ไม่ใช่แปลให้สั้น เข้าใจง่าย กระชับ บางครั้งอ่านแล้วยิ่งงง
และเวลามีคนพูดหลายๆ คน เช่น เพลง Notes อ่านไปก็ไม่รู้ครับว่า ท่อนนี้ใครพูด
สรุปว่า ควรทำการบ้านมาก่อน อย่าหวังไปพึ่งจอ LCD ครับ

เพื่อนๆ ท่านอื่นที่ไปดูมาแล้ว และหลงเข้ามาอ่าน มีข้อแนะนำเพิ่มเติมอย่างไร เชิญแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่