กระทุ้งรัฐบาลตั้งคณะกรรมการระดับชาติ สางปัญหารถไฟฟ้า

พล.อ.พฤณท์ สุวรรณทัต รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ผลการศึกษาเบื้องต้นการเปลี่ยนโครงการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือระยะทาง 42.9 กิโลเมตรมาเป็นโครงการสร้างรถไฟฟ้าขนาดเบา หลังจากการก่อสร้างทางด่วนเส้นเดิมมีข้อขัดแย้งกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า การสร้างรถไฟขนาดเบาไม่คุ้มค่าการลงทุน เนื่องจากติดปัญหาเรื่องการเวนคืนที่ดินบริเวณถนนแคราย ซึ่งต้องใช้งบประมาณสูงถึง 40,000 ล้านบาท ซึ่งนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้เสนอให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ศึกษาการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 จากเดิมที่ต้องการเชื่อมฝั่งตะวันออก และตะวันตกของกรุงเทพฯ ขยับแนวออกไปขนานกับคลองรังสิตประยูรศักดิ์แทน

นายอัยยณัฐ ถินอภัย ผู้ว่าการ กทพ.กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะล้มการก่อสร้างทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ หรือปรับมาเป็นรถไฟฟ้าขนาดเบาแทน เนื่องจากต้องรอนโยบายที่ชัดเจนของกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นทางการก่อน ส่วนการขยับแนวก่อสร้างทางด่วนไปบริเวณรังสิตแทน จะต้องหารือกับกรมทางหลวงและกรมชลประทานด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงคมนาคม ถึงนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงคมนาคมที่ประกาศให้ปี 2556 เป็นปีแห่งการเร่งรัดก่อสร้างรถไฟฟ้าว่า รัฐบาลควรจัดตั้งคณะกรรมการกำกับและเร่งรัดโครงการรถไฟความเร็วสูง และรถไฟฟ้าขึ้นมาดูแล โดยเฉพาะเพื่อให้การประสานและขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของรัฐ

ทั้งนี้ เพราะระยะเกือบ 2 ปีที่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศ และประกาศนโยบายพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้า 10 สายทางนั้น การปล่อยให้หน่วยงานต่างๆดำเนินโครงการไปตามลำพัง ได้ส่งผลให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างเชื่องช้า บางโครงการแม้ก่อสร้างแล้วเสร็จแต่ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ขณะที่บางสายอย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-มีนบุรี) สายสีม่วง ส่วนใต้ (เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ) ต้องเผชิญอุปสรรคในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่เวนคืนทั้งยังมีหน่วยงานเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก “เมื่อรัฐบาลตัดสินใจบรรจุโครงข่ายรถไฟฟ้า 10 สายทางนี้ไว้ใน พ.ร.บ.กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศก็สมควรที่นายกฯจะลงมากำกับดูแลโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าอย่างจริงจังและตั้งคณะกรรมการระดับชาติขึ้นมาดูแลโดยเฉพาะ”

ที่มา : http://www.thairath.co.th/content/eco/344629