http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/010228.htm
พระเดชพระคุณ พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคัมภีร์ในระดับอรรถกถา
ดูจากข้อความข้างล่างนี้ .....
คัดลอกมาบางส่วนจากการตอบคำถามของหลวงตา หลังจากเทศนาเมื่อตอนเช้า วันที่ 23 ตุลาคม 2546
"...ถาม คนที่ ๒ ขอกราบนมัสการพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระเดชพระคุณหลวงตาที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
กระผมมีคำถามเกี่ยวกับคัมภีร์ ในชั้นอรรถกถา อยากฟังความเห็นของหลวงตาในเรื่องว่า
เดี๋ยวนี้ในวงการศาสนาพุทธ มีนักวิชาการส่วนหนึ่งบอกว่า คัมภีร์ในชั้นอรรถกถาไม่น่าเชื่อถือ
หลวงตามีความเห็นว่าอย่างไรขอรับ ขอกราบนมัสการด้วยความเคารพ จาก อภิรมย์
หลวงตา คนที่พูดว่าไม่น่าเชื่อถือ เขาเป็นคนประเภทคาถา หรือเป็นคนประเภทอรรถกถา
โยม เขาเป็นนักวิชาการครับ
หลวงตา นักวิชาการ
ถ้านักวิชาการก็นักวิชาการตาบอดเข้าใจไหม
หามาอวดทำไม ใครจะเกินพระพุทธเจ้า นักวิชาการแก้กิเลสได้ นักวิชาการนี้กอบโกยกิเลสเข้ามาทิฐิมานะ ถือตัวว่าตัวรู้ตัวฉลาด
นี้คือคลังกิเลสเข้าใจเหรอ พระพุทธเจ้าคือคลังของธรรม
อรรถกถา ท่านแยกขยายออกมา คาถา อรรถกถา เป็นต้นแล้วก็แยกออกมาเป็นกิ่งเป็นก้าน
มันก็กิ่งก้านของต้นไม้ต้นนั้นแหละ จะผิดหรือถูกจับกิ่งก้านเข้ามาก็มาหาลำต้นของมัน
ถ้าเราไม่เป็นบ้าไปโดดจากกิ่งก้านลงเหวไปเสีย พวกนักวิชาการ อย่าเป็นนักวิชาการลงเหว
เข้าใจไหม เอ้า ว่าไป ......
โยม ขอโอกาสเจ้าค่ะ ที่มีคนถามถึงอรรถกถานะค่ะ ก็คงหมายถึงว่า ตำราที่อรรถกถาจารย์อธิบายคัมภีร์พระไตรปิฎก
คงจะหมายถึงอย่างนั้นมากกว่า
หลวงตา เออ ก็อย่างนั้นแล้ว พระไตรปิฎกก็มาจากคาถามาจากพุทธพจน์ว่ายังไง
เราก็เลือกเฟ้นเอาซิ
กิ่งนั้นก้านนี้ก็มาหาต้นใหญ่ ถ้ามันไม่เลือกผิดโดดผิด โดดผิดตกเหวตายเสียไม่กุสลาให้
เข้าใจเหรอ ก็ยังบอกให้พินิจพิจารณานะ นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ว่าไง เอะอะจะไม่เชื่ออย่างเดียวไม่ได้
เราเก่งกว่าศาสดามาจากไหน เก่งกว่าอรรถกถาจารย์มาจากไหน จึงจะว่าไม่เชื่อทีเดียว
อันนี้ก็ยิ่งเห็นความเลวความชั่วของเจ้าของเข้าใจหรือเปล่าล่ะ แล้วมีอะไรอีกล่ะ
พุทธพจน์ คาถา อรรถกถา แปลมาเรื่อย ๆ ถ่ายทอดกันมาเรื่อย ๆ ใช่ไหมล่ะ
เราก็จับไปจากนี้เข้าไปหาต้นตอเอาซิ ถ้าเป็นผู้เฉลียวฉลาดจริง ๆ น่ะ ถ้าจะเอาหลักวิชาการมาอวดนี้
นักวิชาอันนี้ไม่มีใครเชื่อเหมือนกันนั่นแหละ
อย่าว่าแต่เราไม่เชื่ออย่างเดียวเขาก็ไม่เชื่อเราเหมือนกันทั้งโลกคนแบบนี้น่ะ เข้าใจเหรอ เอ้า ว่าไป ...."
หลวงตาบัว กล่าวถึง เรื่องมีบางพวกบอกว่า อรรถกถาไม่น่าเชื่อถือ
พระเดชพระคุณ พระธรรมวิสุทธิมงคล(หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน) มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับคัมภีร์ในระดับอรรถกถา
ดูจากข้อความข้างล่างนี้ .....
คัดลอกมาบางส่วนจากการตอบคำถามของหลวงตา หลังจากเทศนาเมื่อตอนเช้า วันที่ 23 ตุลาคม 2546
"...ถาม คนที่ ๒ ขอกราบนมัสการพ่อแม่ครูบาอาจารย์ พระเดชพระคุณหลวงตาที่เคารพอย่างสูงยิ่ง
กระผมมีคำถามเกี่ยวกับคัมภีร์ ในชั้นอรรถกถา อยากฟังความเห็นของหลวงตาในเรื่องว่า
เดี๋ยวนี้ในวงการศาสนาพุทธ มีนักวิชาการส่วนหนึ่งบอกว่า คัมภีร์ในชั้นอรรถกถาไม่น่าเชื่อถือ
หลวงตามีความเห็นว่าอย่างไรขอรับ ขอกราบนมัสการด้วยความเคารพ จาก อภิรมย์
หลวงตา คนที่พูดว่าไม่น่าเชื่อถือ เขาเป็นคนประเภทคาถา หรือเป็นคนประเภทอรรถกถา
โยม เขาเป็นนักวิชาการครับ
หลวงตา นักวิชาการ ถ้านักวิชาการก็นักวิชาการตาบอดเข้าใจไหม
หามาอวดทำไม ใครจะเกินพระพุทธเจ้า นักวิชาการแก้กิเลสได้ นักวิชาการนี้กอบโกยกิเลสเข้ามาทิฐิมานะ ถือตัวว่าตัวรู้ตัวฉลาด
นี้คือคลังกิเลสเข้าใจเหรอ พระพุทธเจ้าคือคลังของธรรม
อรรถกถา ท่านแยกขยายออกมา คาถา อรรถกถา เป็นต้นแล้วก็แยกออกมาเป็นกิ่งเป็นก้าน
มันก็กิ่งก้านของต้นไม้ต้นนั้นแหละ จะผิดหรือถูกจับกิ่งก้านเข้ามาก็มาหาลำต้นของมัน
ถ้าเราไม่เป็นบ้าไปโดดจากกิ่งก้านลงเหวไปเสีย พวกนักวิชาการ อย่าเป็นนักวิชาการลงเหว
เข้าใจไหม เอ้า ว่าไป ......
โยม ขอโอกาสเจ้าค่ะ ที่มีคนถามถึงอรรถกถานะค่ะ ก็คงหมายถึงว่า ตำราที่อรรถกถาจารย์อธิบายคัมภีร์พระไตรปิฎก
คงจะหมายถึงอย่างนั้นมากกว่า
หลวงตา เออ ก็อย่างนั้นแล้ว พระไตรปิฎกก็มาจากคาถามาจากพุทธพจน์ว่ายังไง เราก็เลือกเฟ้นเอาซิ
กิ่งนั้นก้านนี้ก็มาหาต้นใหญ่ ถ้ามันไม่เลือกผิดโดดผิด โดดผิดตกเหวตายเสียไม่กุสลาให้
เข้าใจเหรอ ก็ยังบอกให้พินิจพิจารณานะ นิสมฺม กรณํ เสยฺโย ว่าไง เอะอะจะไม่เชื่ออย่างเดียวไม่ได้
เราเก่งกว่าศาสดามาจากไหน เก่งกว่าอรรถกถาจารย์มาจากไหน จึงจะว่าไม่เชื่อทีเดียว
อันนี้ก็ยิ่งเห็นความเลวความชั่วของเจ้าของเข้าใจหรือเปล่าล่ะ แล้วมีอะไรอีกล่ะ
พุทธพจน์ คาถา อรรถกถา แปลมาเรื่อย ๆ ถ่ายทอดกันมาเรื่อย ๆ ใช่ไหมล่ะ
เราก็จับไปจากนี้เข้าไปหาต้นตอเอาซิ ถ้าเป็นผู้เฉลียวฉลาดจริง ๆ น่ะ ถ้าจะเอาหลักวิชาการมาอวดนี้
นักวิชาอันนี้ไม่มีใครเชื่อเหมือนกันนั่นแหละ
อย่าว่าแต่เราไม่เชื่ออย่างเดียวเขาก็ไม่เชื่อเราเหมือนกันทั้งโลกคนแบบนี้น่ะ เข้าใจเหรอ เอ้า ว่าไป ...."