ได้ดูข่าวคนทุ่มหินใส่รถที่กรุงเทพฯก็ทำให้นึกตกใจเหมือนกัน ว่ากลางเมืองหลวงกลางวันแสกๆก็มีเหตุการณ์อย่างนี้ด้วยหรือเนี่ย และยิ่งตกใจหนักไปกว่านั้นก็คือพอตำรวจจับได้ ก็สารภาพมาอย่างน่าตาเฉยว่าที่ทำไปนั้นเพราะ”หมั่นไส้”??
หมั่นไส้ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน
หมั่นไส้ทั้งๆที่ผู้รับเคราะห์เหล่านี้ไม่ได้ไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจซักนิดเดียว???
แล้วก็นึกย้อนไปถึงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ได้มีโอกาสกลับไปเที่ยวเมืองไทย ก็ยืมรถคันงามของญาติมาขับก็แปลกใจที่เค้าเตือนว่าหาที่จอดดีๆอย่าไปจอดสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวคนหมั่นไส้จะมากรีดรถเอา
ผมก็ไม่เชื่อยังคิดว่ามันหวงรถจนเว่อร์ไป แต่แล้วก็โดนจริงๆกลางวันแสกๆ กลางสยามสแควร์เป็นรอยลากยาวจากหน้าถึงหลัง
ที่ดูยังไงก็คงไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุแน่นอน แต่ก็ยังคิดในแง่ดี ว่าคนขี้หมั่นไส้อย่างนั้นคงมีไม่กี่คนหรอกในสังคม
ก็รถมันสวยน่าหมั่นไส้จริงๆนี่นา อยากแสดงความชื่นชมแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไงขอกรีดมันละกัน??
แต่หลังจากติดตามข่าวเมืองไทยมาเรื่อยๆนี่ผมชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าคนขี้หมั่นไส้ในเมืองไทยนั้นมีไม่กี่คน
เพราะหากมองดูดีๆอย่างปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนี่จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งของอุดมคติทางการเมืองอย่างที่เราเข้าใจและอยากให้คนอื่นเข้าใจ
มันอาจจะแค่สาเหตุจากความหมั่นไส้ส่วนตัวแค่นั้นเองไม่ได้มีเหตุผลลึกซึ้งอะไรเลย
ลองพิจารณาดีๆสิครับอย่างกรณีที่คนดังต่างๆพากันดาหน้าออกมาด่านายกฯเรื่องเนื้อหาที่ไปปาฐกฯที่มองโกเลียนี่ก็เหมือนกัน
ไม่ชอบเพราะต่อต้านพี่ชายของนายกฯก็พอเข้าใจ แต่ระดับของความเกรี้ยวกราด จนถึงขั้นหยาบคายเลยเถิดแบบลืมฐานะทางสังคมของตนเองนั้นผมไม่เข้าใจ
นายกฯไปทำอะไรให้เกลียดชังเป็นการส่วนตัวรึปล่าวก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ธุรกิจที่เคยทำก็ดูแล้วไม่น่าจะมาขัดผลประโยชน์รุนแรงกับคนเหล่านี้ได้เลย
จะว่าเนื้อหาที่นายกฯพูดไปนั้นไปกระทบกับคนเหล่านี้อย่างรุนแรงเป็นการส่วนตัวก็ไม่ใช่แน่ๆ เพราะอ่านกี่รอบๆก็ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
และไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ระดับนายกฯที่ไปพูดเรื่องประชาธิปไตยในต่างประเทศจะต้องมาพาดพิงถึงคนเหล่านี้
เป็นคนดังชี้นำสังคมได้น่ะใช่ แต่ไม่ได้สำคัญระดับที่ผู้นำประเทศต้องไปให้ความสำคัญขนาดนั้น
ยิ่งจะอ้างว่าทำไปเพราะความรักชาติยิ่งไร้สาระเข้าไปใหญ่เพราะมองยังไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชาติเลย
มันก็คงเป็นความเกลียดชังส่วนตัวล้วนๆ เกลียดชังทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอย่างไอ้คนปาหินนั่นแหละ
ที่ทำไปก็เพราะ”หมั่นไส้”นั่นเอง กับขบวนการต่อต้านทักษิณก็เหมือนกัน ที่ทีแรกก็ดูดีว่าหวงแหนประโยชน์ของชาติแสดงความเกลียดชังกันอย่างออกหน้าออกตา แต่หลังจากที่ฝ่ายนี้มีอำนาจก็ไม่ได้พิสูจน์ให้ข้อกล่าวหาที่มีนั้นชัดเจนขึ้นมา มีแต่จะทำในสิ่งที่เลวร้ายไม่ต่างไปจากที่ไปกล่าวหาเค้า
ให้เหตุผลว่าเกลียดทักษิณเพราะว่าทักษิณโกง แต่พอพวกเดียวกันโกงกันชัดเจนงกลับทำเฉยเหมือนมองไม่เห็นซะงั้นบางคนออกมาปกป้องอีกต่างหาก???
กับคนที่ทักษิณทำให้สูญเสียผลประโยชน์ไปนี่ก็พอเข้าใจในความเกลียดชังแหละครับ แต่กับคนที่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว
ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆกับทักษิณเลย
มีแค่คำกล่าวหา กับจินตนาการก็จงเกลียดจงชัง อาฆาตมาตรร้ายเค้าไปได้ขนาดนี้ ก็คงอธิบายได้ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ
“หมั่นไส้” จะหมั่นไส้ที่รวยกว่า เก่งกว่า หรือเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ คงมีแต่ตัวเองเท่านั้นแหละที่จะนั่งตั้งสติทบทวนดีๆว่าเกลียดเค้าเพราะอะไร แต่อย่ามาอ้างเลยครับว่าทำไป”เพราะความรักชาติ” มันฟังไม่ขึ้น
รักชาติคงไม่รักกันแบบเลือกข้างมั้งครับ
ยิ่งพิจารณาย้อนกลับไปดูปัญหาความขัดแย้งที่เราถึงกับยกพวกเข้าห้ำหั่นจนล้มตายกันไปนี่ จริงๆแล้วมันก็คงมีรากมาจากความหมั่นไส้แค่นั้นเองเช่นกันเพราะหาเหตุผลอื่นใดมาอธิบายไม่ได้เลยว่าเราเกลียดกันเพราะอะไร
ใกล้ๆตัวนี่ก็มีนะครับอย่างตามบอร์ดการเมืองเช่นพันทิพนี่แหละ แบ่งฝ่ายเกลียดชังกัน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวแม้แต่น้อย
แต่ตัดสินได้อย่างปักอกปักใจว่าไอ้นี่ต้องเป็นแดง ยัยคนนั้นต้องเป็นสลิ่ม ตั้งหน้าตั้งตาเกลียดชังกันแบบเอาเป็นเอาตาย
มาตั้งกระทู้ด่าทอกันได้ทุกวัน กับไอ้เรื่องเดิมๆ
ชอบใครเชียร์ใครก็พอเข้าใจอยู่หรอกครับ แต่อย่าอ้างเลยครับว่าที่มานั่งเสียเวลาเฝ้าจอ เสียอารมณ์ขุ่นมัวเวลาที่โดนด่า
หรือเสียภาพลักษณ์ของตัวเอง ไปนี่เพราะทำด้วยจิตสำนึกรักชาติ
เพราะจริงๆแล้วมันก็คงเพราะเหตุผลจากความหมั่นไส้”ส่วนตัวของคุณเท่านั้นเองแหละ ทีทำให้แสดงความเกลียดชังกันออกมาได้ขนาดนี้
ด้วยว่าถ้าอยากทำเพื่อชาติหรือเพื่ออุดมกาณ์ที่ตนเองเชื่อก็น่าจะมีความพยายามที่จะอธิบายอุดมการณ์ความคิดของตนเพื่อโน้มน้าวให้คนที่เห็นต่างมาเห็นคล้อยตามให้ได้จริงมั๊ยครับ แต่นี่ผมไม่เคยเห็นนะ
มีสมาชิกคนไหนมั๊ยครับ? ที่ทำสำเร็จแบบว่านั่งคุยเสวนากับคนที่เห็นต่างแล้วทำให้เค้ายอมรับความคิดตัวเองได้
คือไม่ต้องให้ถึงกับเปลี่ยนสีเปลี่ยนข้างกันหรอกครับ แค่ปรับจูนให้มาตรฐาณเรื่องถูกผิดมาอยู่ระดับเดียวกันก็พอ
ความถูกต้องและความยุติธรรมมันน่าจะมีแค่มาตรฐาณเดียวไม่ใช่หรือ?
หากต่างไปจากนี้สัญนิษฐาณได้เลยล่ะครับว่าเหตุผลในการแสดงออกทางการเมืองของคุณนั้นก็คือเหตุผลเดียวกับไอ้คนปาหินโรคจิตนั่นแหละ คือทำไปเพราะ “หมั่นไส้”แค่นั้นเอง
หรือที่เราขัดแย้งกันอยู่นี้มีเหตุผลมาจากแค่ความหมั่นไส้กันแค่นั้นเอง??
หมั่นไส้ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกัน
หมั่นไส้ทั้งๆที่ผู้รับเคราะห์เหล่านี้ไม่ได้ไปทำอะไรให้เจ็บช้ำน้ำใจซักนิดเดียว???
แล้วก็นึกย้อนไปถึงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาที่ได้มีโอกาสกลับไปเที่ยวเมืองไทย ก็ยืมรถคันงามของญาติมาขับก็แปลกใจที่เค้าเตือนว่าหาที่จอดดีๆอย่าไปจอดสุ่มสี่สุ่มห้าเดี๋ยวคนหมั่นไส้จะมากรีดรถเอา
ผมก็ไม่เชื่อยังคิดว่ามันหวงรถจนเว่อร์ไป แต่แล้วก็โดนจริงๆกลางวันแสกๆ กลางสยามสแควร์เป็นรอยลากยาวจากหน้าถึงหลัง
ที่ดูยังไงก็คงไม่ใช่เกิดจากอุบัติเหตุแน่นอน แต่ก็ยังคิดในแง่ดี ว่าคนขี้หมั่นไส้อย่างนั้นคงมีไม่กี่คนหรอกในสังคม
ก็รถมันสวยน่าหมั่นไส้จริงๆนี่นา อยากแสดงความชื่นชมแต่ไม่รู้จะแสดงออกยังไงขอกรีดมันละกัน??
แต่หลังจากติดตามข่าวเมืองไทยมาเรื่อยๆนี่ผมชักไม่แน่ใจซะแล้วว่าคนขี้หมั่นไส้ในเมืองไทยนั้นมีไม่กี่คน
เพราะหากมองดูดีๆอย่างปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนี่จริงๆแล้วอาจจะไม่ใช่มีสาเหตุมาจากความขัดแย้งของอุดมคติทางการเมืองอย่างที่เราเข้าใจและอยากให้คนอื่นเข้าใจ
มันอาจจะแค่สาเหตุจากความหมั่นไส้ส่วนตัวแค่นั้นเองไม่ได้มีเหตุผลลึกซึ้งอะไรเลย
ลองพิจารณาดีๆสิครับอย่างกรณีที่คนดังต่างๆพากันดาหน้าออกมาด่านายกฯเรื่องเนื้อหาที่ไปปาฐกฯที่มองโกเลียนี่ก็เหมือนกัน
ไม่ชอบเพราะต่อต้านพี่ชายของนายกฯก็พอเข้าใจ แต่ระดับของความเกรี้ยวกราด จนถึงขั้นหยาบคายเลยเถิดแบบลืมฐานะทางสังคมของตนเองนั้นผมไม่เข้าใจ
นายกฯไปทำอะไรให้เกลียดชังเป็นการส่วนตัวรึปล่าวก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ธุรกิจที่เคยทำก็ดูแล้วไม่น่าจะมาขัดผลประโยชน์รุนแรงกับคนเหล่านี้ได้เลย
จะว่าเนื้อหาที่นายกฯพูดไปนั้นไปกระทบกับคนเหล่านี้อย่างรุนแรงเป็นการส่วนตัวก็ไม่ใช่แน่ๆ เพราะอ่านกี่รอบๆก็ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
และไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ระดับนายกฯที่ไปพูดเรื่องประชาธิปไตยในต่างประเทศจะต้องมาพาดพิงถึงคนเหล่านี้
เป็นคนดังชี้นำสังคมได้น่ะใช่ แต่ไม่ได้สำคัญระดับที่ผู้นำประเทศต้องไปให้ความสำคัญขนาดนั้น
ยิ่งจะอ้างว่าทำไปเพราะความรักชาติยิ่งไร้สาระเข้าไปใหญ่เพราะมองยังไงมันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับชาติเลย
มันก็คงเป็นความเกลียดชังส่วนตัวล้วนๆ เกลียดชังทั้งๆที่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวอย่างไอ้คนปาหินนั่นแหละ
ที่ทำไปก็เพราะ”หมั่นไส้”นั่นเอง กับขบวนการต่อต้านทักษิณก็เหมือนกัน ที่ทีแรกก็ดูดีว่าหวงแหนประโยชน์ของชาติแสดงความเกลียดชังกันอย่างออกหน้าออกตา แต่หลังจากที่ฝ่ายนี้มีอำนาจก็ไม่ได้พิสูจน์ให้ข้อกล่าวหาที่มีนั้นชัดเจนขึ้นมา มีแต่จะทำในสิ่งที่เลวร้ายไม่ต่างไปจากที่ไปกล่าวหาเค้า
ให้เหตุผลว่าเกลียดทักษิณเพราะว่าทักษิณโกง แต่พอพวกเดียวกันโกงกันชัดเจนงกลับทำเฉยเหมือนมองไม่เห็นซะงั้นบางคนออกมาปกป้องอีกต่างหาก???
กับคนที่ทักษิณทำให้สูญเสียผลประโยชน์ไปนี่ก็พอเข้าใจในความเกลียดชังแหละครับ แต่กับคนที่ไม่เคยรู้จักเป็นการส่วนตัว
ไม่เคยมีความเกี่ยวข้องใดๆกับทักษิณเลย
มีแค่คำกล่าวหา กับจินตนาการก็จงเกลียดจงชัง อาฆาตมาตรร้ายเค้าไปได้ขนาดนี้ ก็คงอธิบายได้ด้วยเหตุผลเดียวกันคือ
“หมั่นไส้” จะหมั่นไส้ที่รวยกว่า เก่งกว่า หรือเหตุผลอื่นใดก็แล้วแต่ คงมีแต่ตัวเองเท่านั้นแหละที่จะนั่งตั้งสติทบทวนดีๆว่าเกลียดเค้าเพราะอะไร แต่อย่ามาอ้างเลยครับว่าทำไป”เพราะความรักชาติ” มันฟังไม่ขึ้น
รักชาติคงไม่รักกันแบบเลือกข้างมั้งครับ
ยิ่งพิจารณาย้อนกลับไปดูปัญหาความขัดแย้งที่เราถึงกับยกพวกเข้าห้ำหั่นจนล้มตายกันไปนี่ จริงๆแล้วมันก็คงมีรากมาจากความหมั่นไส้แค่นั้นเองเช่นกันเพราะหาเหตุผลอื่นใดมาอธิบายไม่ได้เลยว่าเราเกลียดกันเพราะอะไร
ใกล้ๆตัวนี่ก็มีนะครับอย่างตามบอร์ดการเมืองเช่นพันทิพนี่แหละ แบ่งฝ่ายเกลียดชังกัน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันเป็นการส่วนตัวแม้แต่น้อย
แต่ตัดสินได้อย่างปักอกปักใจว่าไอ้นี่ต้องเป็นแดง ยัยคนนั้นต้องเป็นสลิ่ม ตั้งหน้าตั้งตาเกลียดชังกันแบบเอาเป็นเอาตาย
มาตั้งกระทู้ด่าทอกันได้ทุกวัน กับไอ้เรื่องเดิมๆ
ชอบใครเชียร์ใครก็พอเข้าใจอยู่หรอกครับ แต่อย่าอ้างเลยครับว่าที่มานั่งเสียเวลาเฝ้าจอ เสียอารมณ์ขุ่นมัวเวลาที่โดนด่า
หรือเสียภาพลักษณ์ของตัวเอง ไปนี่เพราะทำด้วยจิตสำนึกรักชาติ
เพราะจริงๆแล้วมันก็คงเพราะเหตุผลจากความหมั่นไส้”ส่วนตัวของคุณเท่านั้นเองแหละ ทีทำให้แสดงความเกลียดชังกันออกมาได้ขนาดนี้
ด้วยว่าถ้าอยากทำเพื่อชาติหรือเพื่ออุดมกาณ์ที่ตนเองเชื่อก็น่าจะมีความพยายามที่จะอธิบายอุดมการณ์ความคิดของตนเพื่อโน้มน้าวให้คนที่เห็นต่างมาเห็นคล้อยตามให้ได้จริงมั๊ยครับ แต่นี่ผมไม่เคยเห็นนะ
มีสมาชิกคนไหนมั๊ยครับ? ที่ทำสำเร็จแบบว่านั่งคุยเสวนากับคนที่เห็นต่างแล้วทำให้เค้ายอมรับความคิดตัวเองได้
คือไม่ต้องให้ถึงกับเปลี่ยนสีเปลี่ยนข้างกันหรอกครับ แค่ปรับจูนให้มาตรฐาณเรื่องถูกผิดมาอยู่ระดับเดียวกันก็พอ
ความถูกต้องและความยุติธรรมมันน่าจะมีแค่มาตรฐาณเดียวไม่ใช่หรือ?
หากต่างไปจากนี้สัญนิษฐาณได้เลยล่ะครับว่าเหตุผลในการแสดงออกทางการเมืองของคุณนั้นก็คือเหตุผลเดียวกับไอ้คนปาหินโรคจิตนั่นแหละ คือทำไปเพราะ “หมั่นไส้”แค่นั้นเอง