อิทธิพลหรั่งอังคารที่ 7...ตลาดหุ้นปี 37 สูงสุด ส่วนปี 56 สุดท้ายจะอีหรอบเดิม...

กระทู้สนทนา
....จะอีหรอบเดิมๆ  หรือไม่ ?
....ลองอ่านดูสนุกๆ
ดาวหรั่งอังคารที่ 7
มีค่า 4 ดาว แข็งแกร่ง

วันนี้เป็นตอนที่ 3 ที่พูดถึงความสูงของ Set ปี 37 เมื่อเทียบกับปี 56
เราลองมามองที่ความเหมือนและความแตกต่าง
โดยเน้นเรื่องเศรษฐกิจและการเมืองในภาพรวม...แบบพอหอมปากหอมคอ
เศรษฐกิจเป็นอะไรที่มองเห็นเหมือน “ของตาย” คือต้องเกิดขึ้น
...ผมหมายถึงในอนาคต
จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในบ้านเราและอาเซียน
ส่วนการเมืองเป็นอะไรที่บางครั้งคาดการณ์ยาก
จะเป็นตัวถ่วงความเจริญของชาติที่ร้ายกาจ
ในอดีตคนไทยเคยเปรยว่า
“โชคดีที่ประเทศไทยไม่เหมือนพม่า ลาว เขมร เวียตนาม
......พี่น้องฆ่ากันเองตายนับแสนนับล้านคน”
ยามนี้ความคิดดังกล่าวเริ่มบีบให้เราเปลี่ยนไป
คิดแล้วหนาว...แทบจะโกยหนีออกจากตลาดหุ้นในทันที
เพราะการเมืองมีผลกระทบต่อตลาดหุ้นมากที่สุด...
.....ถ้ารุนแรงเหมือนประเทศเพื่อนบ้านในอดีต...ตลาดหุ้นพังในพริบตา
แต่ตามที่บอกว่าการเมืองเป็นอะไรที่บางครั้งคาดการณ์ยาก
สิ่งที่กลัวอาจไม่เกิดขึ้นก็ได้ เพราะสยามประเทศมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
ทุกคืนวันเราจึงต้องช่วยกันสวดมนต์เช้าและก่อนนอน
“ขอผู้มีอำนาจเดินทางสู่ถนนสันติภาพ-ปรองดองกัน อภัยซึ่งกันและกัน
ยืนแนวทางประชาธิปไตยเป็นสำคัญ....ให้ยึดหลักกติกาสากลโลก”

สุดท้ายในตอนที่ 3 นี้...ไหนๆก็พูดถึง AEC
จะขอถอดเกล็ดย่อๆของ AEC เล่าให้ฟังแบบเพลินๆตามสมองสั่ง
ตามประสาคนที่ชอบเอามะพร้าวมาขายสวน
....ปลายปี 2558 ประตูอาเซียนจะเปิดต้อนรับชาวอาเซียนด้วยกัน
อันประกอบด้วย 10 ประเทศ(ตามที่ทราบๆกัน)รวมเป็น 1 ประเทศ
ด้วยประชากรเกือบ 700 ล้านคน เสมือนพี่น้องกัน
จะไม่มีพรมแดน ไม่มีด่านตรวจคนเข้าเมืองให้รกตา
จะนั่งรถหรือขับรถจากประเทศหนึ่งไปสู่อีกประเทศได้ทันที...ตามใจปรารถนา
ส่วนคนที่อยู่นอกกลุ่มอาเซียน แค่ทำวีซ่า 1 ใบ เที่ยวได้ถึง 10 ประเทศ
(อันนี้น่าจะเป็นไปตามวิธีปฎิบัติของกลุ่มยูโร)
--กรุงเทพจะเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวที่สำคัญ(อันนี้ชัวร์)
--ศูนย์กลางการขนส่งทุกชนิดที่สำคัญ(อันนี้ชัวร์)
(((นี่แหละคำตอบว่าทำไมเราต้องรีบกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
ทำไมไม่ใช่งบประมาณประจำปี
เหอะๆมุมมองของผมโครงการณ์มหาอภิโปรเจต
ควรเริ่มสร้างตั้งแต่หลายรัฐบาลที่ผ่านมาประมาณปี 2550-2553
ตอนนี้ช้าไปมากๆแล้วต๋อย
เมื่อคิดถึงประตูสู่อาเซียน AEC
ปัญหาคาใจเรื่องรีบเร่งกู้เงิน 2 ล้านล้านจะหายไปจากสมองทันที)
--ศูนย์กลางสังคมทุกรูปแบบทุกชนชั้น(อันนี้จะเกิดปัญหาตามมา)
--ศูนย์กลางการลงทุนในทุกๆด้าน
(ตลาดหุ้นด้วย...บริษัทหลักทรัพย์บิ๊กๆจะขยายสาขาไปทุกทิศ
โดยมีกรุงเทพเป็นศูนย์กลางเป็นบริษัทแม่...ผมคาด)
--ศูนย์กลางการเกษตร จากพื้นที่ที่ได้เปรียบ(แต่หลายประเทศก็มีดีด้านนี้)
--ศูนย์กลางที่อยู่อาศัย อสังหาริมทรัพย์
--ศูนย์กลางทางการแพทย์ โรงพยาบาล(อันนี้ชัวร์)
จริงๆยังมีอีกมากมาย...เดี๋ยวจะยาวไป...ขอจบเพียงแค่นี้ครับ

...ในอนาคตอันใกล้คุณคิดจะจับธุระกิจอะไร
ให้คิดถึง AEC ที่สามารถเชื่อมกับอีก10 ประเทศเพียงง่ายๆ
...ไม่มีพรมแดน ไม่มีด่านมาขวางกั้นให้รำคาญใจ
คุณจะเป็นเหมือนนกโผบิน ขึ้นอยู่กับกำลังว่าคุณจะบินไกลได้แค่ไหน
ส่วน “หุ้น” กลุ่มไหนจะได้รับอานิสงส์ และประโยชน์เต็มๆ
ข้างบนที่กล่าวเพียงย่อๆ น่าจะพอเป็นประโยชน์ได้บ้าง
สุดท้ายที่ไม่ควรลืมคือ...ตลาดหุ้นเป็นศูนย์รวมของนักแสวงโชคทั่วโลก
สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมด 3 ตอน
ราคาหุ้นบางตัวอาจตอบรับไปแล้วล่วงหน้าหลายปี
จึงควรใช้วิจารณญาณในการลงทุนอย่างถี่ถ้วน

ขอให้พระคุ้มครองประเทศไทย และโชคดีในการลงทุน
อ้างอิงกระทู้ตอนที่ 1 และตอนที่ 2
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่