เพราะความผิดพลาดคือส่วนหนึ่งของชีวิต "เกรียนฟิคชั่น" หนังดีที่อยากเชียร์

นี่เป็น "หนังดี" อีกเรื่องที่อาจจะถูกคอหนังมองข้ามไปได้ง่ายๆ เพราะหน้าหนังและโปสเตอร์ไม่ชวนให้อยากดู แถมนักแสดงหลักส่วนใหญ่ก็หน้าใหม่กันทั้งนั้น ทั้งที่โดยรวมแล้วถือว่า "เกรียนฟิคชั่น" มีอะไรมากกว่า "หนังวัยรุ่น" ทั่วไปอยู่หลายขุม เข้าข่ายวัยรุ่นดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี

เด็กมัธยมน่าโดนใจกับหนังเรื่ืองนี้เป็นพิเศษ หรือถ้าสมัยยังใส่ขาสั้นผูกคอซอง ใครเคยมีกลุ่มเพื่อนที่ชอบชวนกันทำอะไรแผลงๆ เฮไหนเฮนั่น และชอบทำกิจกรรมในชมรม น่าจะอินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก เพราะผู้กำกับจัดเต็มเรื่องราวชีวิตมันๆ ห่ามๆ ในรั้วโรงเรียนชั้นมัธยม

นอกจากความใสและสดใหม่ของนักแสดง รวมทั้งมุกฮาๆ เกรียนๆ ที่กระตุ้นต่อมหัวเราะแล้วเป็นพักๆ แล้ว หนังเรื่องนี้เด่นในเรื่องการชูประเด็นมิตรภาพฉันเพื่อน และความรักในครอบครัว แต่น่าเสียดายอยู่บ้างที่หนังไม่ขยี้ประเด็นนี้ให้สุด ออกแนวเล่าเรื่องเรื่อยๆ มาเรียงๆ ค่อยๆ หยอด ค่อยๆ ป้อนให้เราซึมซับเอาทีละน้อย ไม่มีฉากพีค แถมบางช่วงก็อืดเอื่อยชวนง่วง ซึ่งถ้าตัดออกไปบ้างก็ไม่น่าจะทำให้อรรถรสของหนังลดลง แต่กระนั้นก็มีหลายฉากที่เรียกน้ำตา บางฉากก็ทำให้จุก

ฉากที่ตี๋กลั้นใจถอดผ้าล่อนจ้อนต่อหน้าสาธารณะ เป็นฉากที่ชอบมากที่สุดในเรื่อง เพราะมันช่วยปลดปล่อยความรู้สึกผิดของตัวละคร ปลดปล่อยความอึดอัดของคนดู ทั้งยังกระตุ้นเตือนให้เรารู้จักมองในมุมของคนอื่น เข้าใจความรู้สึกของคนอื่น และช่วยย้ำคำกล่าวที่ว่า "ถ้าไม่เจอกับตัวเอง ก็ไม่มีวันเข้าใจหรอก" ให้มีน้ำหนักชัดเจนขึ้น ตอนท้ายหนังหักมุมค่อนข้างเหวอ แต่เข้าใจและรับได้กับคำเฉลย ระหว่างดูมีบางช่วงที่งงกับบางการกระทำของตัวละครบางตัว แต่พอหนังจบและย้อนคิดทบทวนเนื้อหาของหนังตั้งแต่ต้นจนจบ จะทำให้เข้าใจและรักตัวละครมากขึ้น

ชอบที่หนังเล่นประเด็นความสัมพันธ์ของคนในหลากหลายรูปแบบ คนบางคนอยู่ในชีวิตเราในสถานะหนึ่ง แต่เราต้องยอมรับและแสดงออกต่อหน้าคนอื่นในอีกสถานะหนึ่ง ใครบางคนเข้ามาในชีวิตเราแบบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็เป็นที่พึ่งทางใจให้เราได้ ใครบางคนก็จากเราไปโดยไร้คำร่ำลา ไม่มีแม้คำอธิบายว่าทำไมความสัมพันธ์จึงจบลง แถมยังฝากแผลเหวอะหวะไว้ในใจเราอีกต่างหาก

ชอบประโยคนี้ในหนังมากๆ

"เราไม่ควรเป็นบาดแผลในชีวิตของใคร"

แน่ละ ไม่มีใครอยากเป็นจุดดำในความทรงจำของใคร ยิ่งการเป็นบาดแผล โดยเฉพาะแผลเป็นในชีวิตคนอื่น อีกแง่หนึ่งก็เท่ากับเราสร้างแผลในชีวิตตัวเองด้วย

แต่ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ บางครั้งมันก็คือความผิดพลาด แต่ความผิดพลาดก็คือส่วนหนึ่งของชีวิต เพราะเราผิดพลาด เราจึงได้เรียนรู้เพื่อที่จะได้ไม่พลาดอีก เพราะเราได้เรียนรู้ เราจึงเติบโต

โลกนี้ไม่มีใครสมบูรณ์พร้อม ทุกชีวิตล้วนแหว่งวิ่นขาดหายในบางเสี้ยว อยู่ที่ว่าเราจะประคับประคองชีวิตไม่สมประกอบนี้ไปได้ไกลแค่ไหน และจะทำยังไงเพื่อจะได้ไม่ไปสร้างบาดแผลในชีวิตคนอื่นเพิ่มอีก

อีกแง่หนึ่ง ชีวิตเปรียบเหมือนการเดินทาง เราไม่รู้หรอกว่าระหว่างทางจะไปเจออะไรบ้าง บางครั้งเราก็หลงทาง หลายครั้งเราหวั่นไหวไม่กล้าเดินต่อ แต่เพราะมีเพื่อนร่วมทางที่ไม่ทอดทิ้งกัน จึงยังทำให้เรามีหวังและศรัทธากับการมีชีวิต

คนเหล่านี้จะเป็นใครได้อีกล่ะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนแท้และคนในครอบครัว ซึ่งเห็นทั้งด้านดีและร้าย และพร้อมให้อภัยเราเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่