แชร์ประสบการณ์...ถนนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ...กว่าจะถึงเจ็ดหลัก (หุ้น)

กระทู้สนทนา
ประสบการณ์ดีๆท่านๆคงฟังมาเยอะแล้ว มาฟังประสบการณ์ อันแสนเจ็บปวด กันบ้างดีกว่าครับ

ผมเชื่อว่าแต่ละคนที่เดินเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ ล้วนมีความหวังที่จะร่ำรวยจากการเล่นหุ้น.....และ ผมก็เป็นคนหนึ่งในนั้น
เมื่อ 11 ปีก่อนผมรู้จักหุ้นครั้งแรก และเข้าตลาดในปี 2545  ผมทำงานประจำ เป็นพนักงานตัวเล็กๆในบริษัทแห่งหนึ่ง ทำงาน 5 วัน เข้าเช้า เลิกเย็น บางทีก็อยู่จนดึก และถ้ามีเวลาว่างผมก็จะเล่นหุ้นไปด้วย ผมเริ่มต้นด้วยทุนจำนวน 30000 บาท  สำหรับการเล่นหุ้นครั้งแรกมันแสนวิเศษ    
.....
ผมซื้อหุ้นครั้งแรกและขายออกไปได้กำไร พันกว่าบาท !  บอกตรงๆว่าดีใจมาก มันง่ายขนาดนี้เชียวเหรอ ผมถึงกับเพ้อฝันไปว่า จะซื้อ และ ขาย ทุกวัน และให้ได้กำไรวันละ 1000 กว่าบาท เดือนนึงได้สัก 20000 - 30000  นั่นจะทำให้ผมมีเงินใช้ไม่ขาดมือ และคงไม่ต้องทำงานประจำซึ่งน่าเบื่อและจำเจต่อไป
....และผมก็ เล่นมันทุกวัน อ่านข่าว เสพข่าวสารที่ถูกปรุงแต่งมาแล้ว ผมไม่เคยศึกษา งบการเงิน PE คืออะไรยังไม่รู้เลย ผมดูกราฟแบบง่ายๆ บางทีก็ถามหุ้นเด็ดจากเพื่อนในสินธร .....เอาง่ายๆนะครับ เล่นไปเรื่อยเปื่อย เดาบ้าง ในบางครั้งซื้อแล้วติดดอย หุ้นมันก็ตกไปเรื่อยๆ ผมก็ยังถือหุ้นเน่าๆ นั้นอยู่ เพราะสะกดคำว่า "ขายตัดขาดทุน" ยังไม่เป็น ....(ทั้งๆที่เรียนภาษาไทยได้คะแนนดี) จนบางครั้ง  ขาดทุน 15-20 % ก็ถึงขายทิ้ง ขาดทุนหนักเพราะไม่มีความรู้.... ไม่น่าเชื่อว่าผ่านไป ไม่ถึง 6 เดือน จากเงิน 30000 ผมเหลือเงินแค่ ไม่กี่พัน ผมก็เติมเงินเข้าไปอีก เอาเงินเดือนใส่เพิ่มเข้าไป ไปยืมเงินญาติ และเพื่อนมาเล่น แถมกดเงินจากบัตรเครดิต มาเล่น เพียง 5 เดือน เงินก็หมดอีก คราวนี้ผมมีหนี้สินเกือบ 4 แสนบาท
......
และในที่สุด "ความเจ็บปวดก็บาดลึกลงไปในหัวใจ"  ความเครียดเกาะกุม กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ต้องซื้อยานอนหลับอ่อนๆมากิน... ชีวิตมันแย่ขนาดที่ พอเงินเดือนออก ยังใช้หนี้ไม่พอ ต้องกินมาม่า เป็นอาหารหลัก หันหน้าไปหาใครก็ไม่มีคนอยากคบค้าสมาคมด้วย ....ผมนั่งคิด นอนคิด จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเลิกเล่นหุ้น และเดินจากตลาดออกมาอย่างเงียบๆ....พร้อมกับรอยแผลที่ฝังลึกในใจ
......
สองปีผ่านไปกับการใช้หนี้ อยู่อย่างอดทนและโดดเดี่ยว ขยันทำงานและใช้การประหยัดแบบสุดขีด โรงหนังเบาะนั่งนุ่มขนาดไหนผมจำไม่ได้เลยตอนนั้น ...สุดท้าย 2 ปีผ่านไป ผมก็ใช้หนี้สินหมด แต่ด้วยหัวใจที่ยังคง เรียกกร้อง (อารมณ์เหมือน กอลัม อยากได้แหวนมาครอบครอง จากหนังเรื่อง The Lord of The Ring) และคราวนี้ผมเริ่มศึกษาการลงทุนในหุ้น อย่างเต็มที่ และหนักหน่วง ทั้งศึกษาแนว VI, เทคนิค อ่านมัน(แมร่ม)ทุกอย่าง ฟังมันทุกเรื่อง และ ผมก็กลับเข้าตลาดอีกครั้งด้วยเงินจำนวน 30000 เท่าเดิม !!! กับเมื่อ 3 ปีก่อน.... การกลับมาครั้งนี้มันต่างจากเดิมมาก  ผมเริ่มทำกำไรได้ในรอบสั้น รอบกลาง บ่อยขึ้น เสียน้อยลง และมีจุด "ตัดขาดทุน" อยู่ที่ 8 % (อันนี้แล้วแต่ใครจะใช้เท่าไหร่)  จน วันเวลาผ่านไปเกือบ 8 ปี .......... วันนี้ผมยืนด้วยตัวเองได้ มีเสียบ้าง ได้บ้างสลับกันไป แต่เฉลี่ยแล้วจะได้มากกว่า แม้จะยังใช้คำว่า "รวย" ไม่ได้ แต่ก็มีอยู่แบบเพียงพอ ไม่ลำบาก ได้เที่ยว ได้กิน ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และ ภายในปีนี้ ผมก็จะออกจากงานประจำเสียที (หลังจากเรียนจบย้ายที่ทำงานมาแล้ว 6 ที่ ประสบการณ์ทำงานประจำ 13 ปี) และวางแผนจะนำเงินกำไรที่ได้จากการเล่นหุ้นที่สะสมมาแปดปีมาลงทุนทำธุรกิจ โดยครึ่งหนึ่ง จะนำมาลงทุนทำร้านกาแฟขนาดกลางให้แฟนของผมอย่างที่ฝันไว้ (ดีนะที่เธอไม่ทิ้งผมไป ยอมกินมาม่า และอดทนนั่งร้องไห้ด้วยกันมา) ส่วนเงินอีกครึ่งหนึ่ง คงจะแบ่งเล่นสั้น แค่ 30 % อีก 70% คงเล่นรอบกลาง และรอบใหญ่  สุดท้ายแล้วก็คงต้องลงทุนทำธุรกิจส่วนตัวเพื่อความมั่นคง ยั่งยืนในระยะยาว
......
การเดินทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ "บางครั้งต้องเดินบนหนามกุหลาบเสียด้วยซ้ำ"  
แต่หากเราตั้งใจและอดทน ศึกษาให้เข้าใจ สุดท้าย เราจะผ่านมันไปได้ และเข้าใจตัวเราเอง  
.........
......
..............."อย่านำเวลาที่ผิดพลาดในอดีตมาเป็นอุปสรรค แต่ ให้นำมาเป็นบทเรียนและเป็นบันไดไปสู่ความสำเร็จ"
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่