
.
ส.ส.ปชน. ถามทหารเกี่ยวอะไร ออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญ ลงทุนโดรนเกษตร
.
เมื่อวันที่ 12 กันยายน นายhttps://www.facebook.com/ChetawanPPLE/posts/790142770182100. เชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับโครงการออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลงทุนในโครงการโดรนเพื่อเกษตรกรรม 1 ล้านลำในประเทศไทย โดยระบุว่า
.
“ทหาร” เกี่ยวอะไรกับโดรนเพื่อการเกษตร – ออกพันธบัตรระดมทุน “ธุรกิจกองทัพ” มีมากพอแล้ว
.
ผมพูดจาปราศรัยเพื่อสวัสดิการที่ดีกว่านี้ของทหารชั้นผู้น้อย ทั้งทหารประจำการ ทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ทหารอาสา หรือแม้แต่อาสาสมัครทหารมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าพวกเขาเหล่านี้คือคนที่ “เสียสละ” ความสุขสบายส่วนตัว และบางคนอาจถึงขั้นเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ
.
ขณะเดียวกัน ผมก็ตั้งคำถามมาโดยตลอดเช่นกันกับบทบาทของทหารระดับ “นาย” ทั้งที่ยังรับราชการและที่เกษียณไปแล้ว ที่ไม่ทำตัวเป็น “ทหารอาชีพ” แต่ดันผันตัวเองไปยุ่งการเมือง เป็น “ทหารการเมือง” ผันตัวเองไปทำธุรกิจ ที่เรียกว่า “เสนาพาณิชย์” แสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง เข้ากระเป๋าพวกพ้อง โดยอาศัยตำแหน่งและยศถาบรรดาศักดิ์ที่สังคมไว้วางใจมอบให้
.
อย่างขณะนี้ในช่วงที่กระแสความนิยมกองทัพสูง ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นข่าว “โครงการออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลงทุนในโครงการโดรนเพื่อเกษตรกรรม 1 ล้านลำในประเทศไทย” หรือ “AgriTeach Drone Digital Bond” ซึ่งเผยแพร่โดยเพจของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่าเป็นความร่วมมือกับเอกชน มีจุดมุ่งหมายฝึกนักบินโดรนชั้นสูง 100,000 คนจากทหาร และยกระดับภาคเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พลิกโฉมเศรษฐกิจฐานรากของไทยสู่ความยั่งยืน
.
ผมยืนยันว่า ตามจุดมุ่งหมายที่อ้างมานี้ มันไม่ใช่ภารกิจหน้าที่ของทหาร กองทัพไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับการเกษตร? ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจฐานราก? นี่ยังไม่นับเรื่องของการออกพันธบัตร หรือแม้แต่คำถามที่ว่าเป็นการทำ “ธุรกิจ” หรือไม่? ซึ่งจากการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปอยู่ในสถานที่อื่นที่เหมาะสม นั้น เราพบว่ากองทัพมีธุรกิจมากเกินไปแล้ว อย่ามีเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้อีกเลย
.
เพราะการเอาสติปัญญาความรู้ความสามารถ เอากำลังพลไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ แทนที่จะเตรียมความพร้อมด้านการทหาร เตรียมพร้อมป้องกันประเทศ มันทำให้ประสิทธิภาพของกองทัพลดลง ขณะนี้ที่กระแสความนิยมของกองทัพกำลังพุ่งสูง อย่าฉวยโอกาสไปทำอะไรที่ทำให้สังคมย้อนกลับไปตั้งคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” อีกเลย
.
https://www.facebook.com/ChetawanPPLE/posts/790142770182100
.
.
เพจดังตั้งข้อสงสัย โครงการระดมทุนซื้อโดรนเกษตร 1 ล้านล้านบาท วอนทัพภาค 2 ตรวจสอบ
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9933670
.
เพจดังตั้งข้อสงสัย โครงการระดมทุนซื้อโดรนเกษตร 1 ล้านล้านบาท วอนทัพภาค 2 ตรวจสอบ ชี้มูลค่าสูงเกือบเท่างบรายจ่ายลงทุนของประเทศทั้งปี ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ติงเพียบ
.
วันที่ 11 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก
thaiarmedforce.com ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับทางทหารและยุทโธปกรณ์ ที่มีผู้ติดตาม 1.9 แสนคน ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงโครงการระดมทุนจัดหาโดรนเกษตรอัจฉริยะ 1 ล้านลำ รวมมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.51 แสนล้านบาท โดยผู้จัดทำโครงการได้เข้าพบ พล.ท.
บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นเอกสารโครงการด้วย
.
เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com ระบุว่า วันนี้เพจ
กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข่าวว่า บริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมทหารยศพลเอก และคณะที่ปรึกษา ได้เข้าพบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นเอกสารโครงการ “AgriTech Drone Digital Bond” วงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดหาโดรนเกษตรอัจฉริยะ 1 ล้านลำในประเทศไทย โดยเมื่อตามข้อมูลไปยังเว็บไซต์ที่อ้างอิง บอกว่าจะเป็นการจัดหาจากสหรัฐฯ 5 แสนลำ จัดหาจากจีน 5 แสนลำ
.
เมื่อดูรายละเอียดตัวเลขของโครงการที่นำมาเสนอแล้ว ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโครงการที่ไม่ปกติ เพราะการที่บอกว่าจะออก Digital Bond มูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือ 9.51 แสนล้านบาท เป็นไปได้ยากมากในทางปฏิบัติ เพราะเงินจำนวนนี้แทบจะเป็นงบลงทุนของประเทศไทยทั้งปี (ข้อมูลจากร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 เป็นรายจ่ายลงทุน มูลค่า 8.64 แสนล้านบาท)
.
นอกจากนั้นยังไม่รู้ว่า Digital Bond ที่บอกคืออะไร จะเป็นการ Tokenization หรือการทำ ICO หรืออะไร ไประดมทุนที่ไหน ซื้อขายได้ที่ไหนบ้าง ที่สำคัญยื่นไฟล์ลิ่งกับ กลต. หรือยัง
.
ส่วนโดรนเกษตร 1 ล้านลำ หารยาวก็คือลำละ 9.5 แสนบาท ถือว่าแพงกว่าโดรนเกษตรสเปคเทพที่บินกันอยู่ในตลาดมาก รวมถึงยังไม่แน่ใจว่าโครงการซื้อโดรนเกษตรแบบนี้จะเกี่ยวข้องอย่างไรกับกองทัพภาคที่ 2 เพราะแค่บอกว่าจะฝึกทหารประจำการและกองประจำการ 1 แสนคนให้บินโดรนได้ก็ไม่รู้หมายความว่าอย่างไร
.
บริษัทนี้เคยมีข่าวว่าจะออก Digital Bond ระดมทุนในลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้กับราชตฤณมัยสมาคมเพื่อทำ Entertainment Complex ซึ่งต่อมาราชตฤณมัยสมาคมยกเลิกความร่วมมือ ยังไม่นับว่าสุดท้าย ไม่รู้ว่าเรื่องราวแบบนี้เกี่ยวข้องหรือเป็นภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 หรือกองทัพบกได้อย่างไร
.
อันนี้พูดด้วยความหวังดีคือเรากลัวแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 2 จะเกิดปัญหา เพราะดูแล้วมีความเสี่ยงสูงมาก หลังความสำเร็จในการปะทะจากสถานการณ์ #ชายแดนไทยกัมพูชา ตอนนี้แม่ทัพภาคที่ 2 มีคนรู้จักมาก มีแต่คนอยากเข้าหา ซึ่งแน่นอนว่า มีทั้งคนดีที่ไม่หวังอะไร และคนที่หวังผลประโยชน์
.
ซึ่งการเข้ามาหาบุคคลที่มีตำแหน่งสูงจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบุคคลที่เข้ามาหา อย่างภาพแบบนี้อาจจะถูกนำไปผลิตซ้ำเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย ผลเสียหายจะเกิดขึ้นกับแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกเอง
.
ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกควรจะตรวจสอบให้รัดกุม เพราะแค่โพสไปก็มีหลายคนทักแล้วว่าโครงการแบบนี้ไม่ปกติ เพราะมันดูแล้วไม่ปกติจริง ๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงและเกียรติของกองทัพบกเอง
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 ราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว หลังแอบอ้างชื่อสมาคมไปใช้ในการระดมทุนที่ฮ่องกง มูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท เพื่อทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
.
ขณะเดียวกันในเพจของกองทัพภาคที่ 2 ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก เช่น “งบประมาณเวอร์วังไปไหมครับ จะมาหาแสงอะไรกับกองทัพภาคที่ 2 ไม่ทราบ แล้วแอดมินจะลงข่าวในเพจสร้างเครดิตให้เขาทำไมเกี่ยวอะไรกับหน้าที่การป้องกันประเทศครับแอดมิน แล้วการลงทุนใน Bond หุ้นกู้เนี่ยคือเขาไม่มีเงินอยู่แล้วรึเปล่าครับถึงจะมาออกพันธบัตรเนี่ย เขามาขอเงินลงทุนนะครับไม่ได้เอามาบริจาคให้ จะลงโฆษณาให้เขาเพื่ออะไรครับแอดมิน”
.
– “30000 ล้าน$ !! มาขายโครงการอะไรที่กองทัพภาค 2 ครับ ทำไมไม่ไปรัฐบาล”
– ควรพิจารณาใหม่ ไม่ใช่หน้าที่กองทัพ จะเสียชื่อเสียงนะคะ กองทัพภาค2 อุตส่าห์ทำดีได้ใจประชาชนแล้ว เป็นโครงการแปลกๆ จะเสียหายเอานะคะ
– 30000 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ หนึ่ง ล้านล้านบาท มันซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน พร้อมกองบิน F-35 ได้เลยครับ มูลค่าโอเวอร์มากกกก บริษัทที่จะผลิตโดรนได้มากขนาดนี้ มันต้องยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง DJI แต่คลิกเข้าไป เป็นบริษัทเงินทุนซะงั้น DJI ทั้งปี มีรายได้ 3.5 พันล้านดอลล่า ไม่ได้เสี้ยวของมูลค่าโครงการนี้ด้วยซ้ำ นี้ขนาดเบอร์หนึ่งของโลกแล้วนะ จะหาใครมาผลิตโดรนได้ 1 ล้านเครื่องครับ
– ผมว่าตัวเลข 3 หมื่นล้านเหรียญหรือโดรน 1 ล้านลำนี่ เป็นไปได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ แค่ตัวเลขนี่จริง ๆ ก็น่าสงสัยแล้ว กองทัพภาคที่ 2 ต้องพิจารณาให้ดีว่ามันคืออะไร น่าเชื่อถือไหม แม้คนที่พามาจะเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เช่นกันก็ตาม
.
https://www.facebook.com/thaiarmedforce/posts/pfbid0MRo66DQLh1zqqM2dvfaNs3zQN6E3FLQ6sy6Zf8QGKrxy9WkhrWtFRPo8PLW8qtYul
.
.
ชมรมร้านอาหารลุยต่อ ร้องปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น.ทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5365294
.
ชมรมร้านอาหารลุยต่อ ร้องปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น.ทั่วประเทศ วอนนายกฯอนุทินทบทวน
.
วันที่ 12 กันยายน นาย
สรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่ออกมา โดยมีข้อ 1 มาตรา 3 ให้ยกเลิก
.
(1) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่
.
16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515 ซึ่งเกี่ยวกับคำสั่งคณะปฏิวัติ ห้ามขายแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 นั้น ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารมีความเข้าใจผิด เพราะยังมีกฎหมายอีกฉบับ ออกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 โดยนายกฯ แพทองธารได้ระบุอนุญาตให้ขายได้ในบางสถานที่เท่านั้น
.
“
จากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนดังนั้น จึงออกมาขอโทษ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารโดยทั่วไป ในแง่กฎหมาย ดังนั้นชมรมร้านอาหาร จะผลักดันแก้กฎหมายเรื่องนี้ เตรียมขอเข้าพบเพื่อร้องขอต่อรัฐบาลนายกฯอนุทิน และคณะกรรมการ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ทบทวน ตามที่ผู้ประกอบการร้านอาหารเสนอ “
.
ทั้งนี้ โดยขอให้เข้าใจและเห็นใจ เหตุผลที่เสนอไปว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลังไม่เข้ากับยุคสมัยโดยเฉพาะเป็นคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 ซึ่งใช้มายาวนานกว่า 53 ปี และบริบททางสังคมเปลี่ยนไปอย่างมากในปัจจุบัน ที่สำคัญปรับเปลี่ยนให้สอดรับประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่คุ้นชินกับการกินดื่มช่วงบ่ายในระหว่างพักผ่อนในประเทศนั้นๆ และบริบทอันนี้ไม่สามารถนำไปใช้กับคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 เรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร 14.00 น.- 17.00 น.
.
“
การแก้กฎหมายดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านอาหารได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ติดข้อกฎหมายของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลา 11.00 – 14.00 และช่วงเวลา 17.00-24.00 น. เท่านั้น ซึ่งทำให้มีช่วงฟันหลอในช่วงหลังเวลา 14.01-16.59 น. ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะต่างชาติที่จะออกมากินข้าว ดื่มเบียร์ ในเวลานี้ ซึ่งในช่วงเวลา 14.00-17.00 เป็นช่วงที่ร้านอาหารค่อนข้างจะเงียบเหงาและไม่สามารถทำรายได้ได้ และยังสร้างความมึนงง และไม่เป็นมาตรฐานสากลในกับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลก หากมีการช่วยปลดล็อกกฎหมายฉบับนี้และทำให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็วจะส่งผลดีและยอดขายต่อผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการส่งเสริมคาเฟ่เบียร์คราฟต์ให้เติบโตขึ้นด้วย” นาย
สรเทพ กล่าว.
JJNY : ปชน.ถามทหารเกี่ยวอะไร│ระดมทุนซื้อโดรน วอนทัพภาค 2 ตรวจสอบ│ชมรมร้านอาหารลุยต่อ ร้องปลดล็อก│เนปาลเรียกร้องยุบสภา
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_5365308
.
ส.ส.ปชน. ถามทหารเกี่ยวอะไร ออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญ ลงทุนโดรนเกษตร
.
เมื่อวันที่ 12 กันยายน นายhttps://www.facebook.com/ChetawanPPLE/posts/790142770182100. เชตวัน เตือประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาชน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเกี่ยวกับโครงการออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลงทุนในโครงการโดรนเพื่อเกษตรกรรม 1 ล้านลำในประเทศไทย โดยระบุว่า
.
“ทหาร” เกี่ยวอะไรกับโดรนเพื่อการเกษตร – ออกพันธบัตรระดมทุน “ธุรกิจกองทัพ” มีมากพอแล้ว
.
ผมพูดจาปราศรัยเพื่อสวัสดิการที่ดีกว่านี้ของทหารชั้นผู้น้อย ทั้งทหารประจำการ ทหารกองประจำการ (ทหารเกณฑ์) ทหารอาสา หรือแม้แต่อาสาสมัครทหารมาโดยตลอด เพราะเห็นว่าพวกเขาเหล่านี้คือคนที่ “เสียสละ” ความสุขสบายส่วนตัว และบางคนอาจถึงขั้นเสียสละชีวิตเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศชาติ
.
ขณะเดียวกัน ผมก็ตั้งคำถามมาโดยตลอดเช่นกันกับบทบาทของทหารระดับ “นาย” ทั้งที่ยังรับราชการและที่เกษียณไปแล้ว ที่ไม่ทำตัวเป็น “ทหารอาชีพ” แต่ดันผันตัวเองไปยุ่งการเมือง เป็น “ทหารการเมือง” ผันตัวเองไปทำธุรกิจ ที่เรียกว่า “เสนาพาณิชย์” แสวงหาผลประโยชน์เข้ากระเป๋าตัวเอง เข้ากระเป๋าพวกพ้อง โดยอาศัยตำแหน่งและยศถาบรรดาศักดิ์ที่สังคมไว้วางใจมอบให้
.
อย่างขณะนี้ในช่วงที่กระแสความนิยมกองทัพสูง ผมก็ไม่คิดว่าจะได้เห็นข่าว “โครงการออกพันธบัตรดิจิทัล 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐลงทุนในโครงการโดรนเพื่อเกษตรกรรม 1 ล้านลำในประเทศไทย” หรือ “AgriTeach Drone Digital Bond” ซึ่งเผยแพร่โดยเพจของกองทัพภาคที่ 2 โดยระบุว่าเป็นความร่วมมือกับเอกชน มีจุดมุ่งหมายฝึกนักบินโดรนชั้นสูง 100,000 คนจากทหาร และยกระดับภาคเกษตรไทยด้วยเทคโนโลยีทันสมัย พลิกโฉมเศรษฐกิจฐานรากของไทยสู่ความยั่งยืน
.
ผมยืนยันว่า ตามจุดมุ่งหมายที่อ้างมานี้ มันไม่ใช่ภารกิจหน้าที่ของทหาร กองทัพไปยุ่งเกี่ยวอะไรกับการเกษตร? ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเศรษฐกิจฐานราก? นี่ยังไม่นับเรื่องของการออกพันธบัตร หรือแม้แต่คำถามที่ว่าเป็นการทำ “ธุรกิจ” หรือไม่? ซึ่งจากการศึกษาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปอยู่ในสถานที่อื่นที่เหมาะสม นั้น เราพบว่ากองทัพมีธุรกิจมากเกินไปแล้ว อย่ามีเพิ่มขึ้นมากไปกว่านี้อีกเลย
.
เพราะการเอาสติปัญญาความรู้ความสามารถ เอากำลังพลไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ แทนที่จะเตรียมความพร้อมด้านการทหาร เตรียมพร้อมป้องกันประเทศ มันทำให้ประสิทธิภาพของกองทัพลดลง ขณะนี้ที่กระแสความนิยมของกองทัพกำลังพุ่งสูง อย่าฉวยโอกาสไปทำอะไรที่ทำให้สังคมย้อนกลับไปตั้งคำถามว่า “ทหารมีไว้ทำไม?” อีกเลย
.
https://www.facebook.com/ChetawanPPLE/posts/790142770182100
.
.
เพจดังตั้งข้อสงสัย โครงการระดมทุนซื้อโดรนเกษตร 1 ล้านล้านบาท วอนทัพภาค 2 ตรวจสอบ
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_9933670
.
เพจดังตั้งข้อสงสัย โครงการระดมทุนซื้อโดรนเกษตร 1 ล้านล้านบาท วอนทัพภาค 2 ตรวจสอบ ชี้มูลค่าสูงเกือบเท่างบรายจ่ายลงทุนของประเทศทั้งปี ชาวเน็ตแห่คอมเมนต์ติงเพียบ
.
วันที่ 11 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com ซึ่งเป็นเพจที่ให้ความรู้เกี่ยวกับทางทหารและยุทโธปกรณ์ ที่มีผู้ติดตาม 1.9 แสนคน ได้ออกมาแสดงความกังวลถึงโครงการระดมทุนจัดหาโดรนเกษตรอัจฉริยะ 1 ล้านลำ รวมมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.51 แสนล้านบาท โดยผู้จัดทำโครงการได้เข้าพบ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นเอกสารโครงการด้วย
.
เพจเฟซบุ๊ก thaiarmedforce.com ระบุว่า วันนี้เพจ กองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข่าวว่า บริษัทแห่งหนึ่ง พร้อมทหารยศพลเอก และคณะที่ปรึกษา ได้เข้าพบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อยื่นเอกสารโครงการ “AgriTech Drone Digital Bond” วงเงิน 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดหาโดรนเกษตรอัจฉริยะ 1 ล้านลำในประเทศไทย โดยเมื่อตามข้อมูลไปยังเว็บไซต์ที่อ้างอิง บอกว่าจะเป็นการจัดหาจากสหรัฐฯ 5 แสนลำ จัดหาจากจีน 5 แสนลำ
.
เมื่อดูรายละเอียดตัวเลขของโครงการที่นำมาเสนอแล้ว ค่อนข้างน่าเป็นห่วงและมีความเสี่ยงที่จะเป็นโครงการที่ไม่ปกติ เพราะการที่บอกว่าจะออก Digital Bond มูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐหรือ 9.51 แสนล้านบาท เป็นไปได้ยากมากในทางปฏิบัติ เพราะเงินจำนวนนี้แทบจะเป็นงบลงทุนของประเทศไทยทั้งปี (ข้อมูลจากร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 69 เป็นรายจ่ายลงทุน มูลค่า 8.64 แสนล้านบาท)
.
นอกจากนั้นยังไม่รู้ว่า Digital Bond ที่บอกคืออะไร จะเป็นการ Tokenization หรือการทำ ICO หรืออะไร ไประดมทุนที่ไหน ซื้อขายได้ที่ไหนบ้าง ที่สำคัญยื่นไฟล์ลิ่งกับ กลต. หรือยัง
.
ส่วนโดรนเกษตร 1 ล้านลำ หารยาวก็คือลำละ 9.5 แสนบาท ถือว่าแพงกว่าโดรนเกษตรสเปคเทพที่บินกันอยู่ในตลาดมาก รวมถึงยังไม่แน่ใจว่าโครงการซื้อโดรนเกษตรแบบนี้จะเกี่ยวข้องอย่างไรกับกองทัพภาคที่ 2 เพราะแค่บอกว่าจะฝึกทหารประจำการและกองประจำการ 1 แสนคนให้บินโดรนได้ก็ไม่รู้หมายความว่าอย่างไร
.
บริษัทนี้เคยมีข่าวว่าจะออก Digital Bond ระดมทุนในลักษณะคล้าย ๆ แบบนี้กับราชตฤณมัยสมาคมเพื่อทำ Entertainment Complex ซึ่งต่อมาราชตฤณมัยสมาคมยกเลิกความร่วมมือ ยังไม่นับว่าสุดท้าย ไม่รู้ว่าเรื่องราวแบบนี้เกี่ยวข้องหรือเป็นภารกิจของกองทัพภาคที่ 2 หรือกองทัพบกได้อย่างไร
.
อันนี้พูดด้วยความหวังดีคือเรากลัวแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพภาคที่ 2 จะเกิดปัญหา เพราะดูแล้วมีความเสี่ยงสูงมาก หลังความสำเร็จในการปะทะจากสถานการณ์ #ชายแดนไทยกัมพูชา ตอนนี้แม่ทัพภาคที่ 2 มีคนรู้จักมาก มีแต่คนอยากเข้าหา ซึ่งแน่นอนว่า มีทั้งคนดีที่ไม่หวังอะไร และคนที่หวังผลประโยชน์
.
ซึ่งการเข้ามาหาบุคคลที่มีตำแหน่งสูงจะสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบุคคลที่เข้ามาหา อย่างภาพแบบนี้อาจจะถูกนำไปผลิตซ้ำเรื่อย ๆ ซึ่งถ้าเป็นเรื่องดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นเรื่องร้าย ผลเสียหายจะเกิดขึ้นกับแม่ทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกเอง
.
ดังนั้น กองทัพภาคที่ 2 และกองทัพบกควรจะตรวจสอบให้รัดกุม เพราะแค่โพสไปก็มีหลายคนทักแล้วว่าโครงการแบบนี้ไม่ปกติ เพราะมันดูแล้วไม่ปกติจริง ๆ เพื่อรักษาชื่อเสียงและเกียรติของกองทัพบกเอง
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 2568 ราชตฤณมัยสมาคมฯ ได้ออกมาปฏิเสธว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว หลังแอบอ้างชื่อสมาคมไปใช้ในการระดมทุนที่ฮ่องกง มูลค่า 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.9 แสนล้านบาท เพื่อทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์
.
ขณะเดียวกันในเพจของกองทัพภาคที่ 2 ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์และตั้งข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก เช่น “งบประมาณเวอร์วังไปไหมครับ จะมาหาแสงอะไรกับกองทัพภาคที่ 2 ไม่ทราบ แล้วแอดมินจะลงข่าวในเพจสร้างเครดิตให้เขาทำไมเกี่ยวอะไรกับหน้าที่การป้องกันประเทศครับแอดมิน แล้วการลงทุนใน Bond หุ้นกู้เนี่ยคือเขาไม่มีเงินอยู่แล้วรึเปล่าครับถึงจะมาออกพันธบัตรเนี่ย เขามาขอเงินลงทุนนะครับไม่ได้เอามาบริจาคให้ จะลงโฆษณาให้เขาเพื่ออะไรครับแอดมิน”
.
– “30000 ล้าน$ !! มาขายโครงการอะไรที่กองทัพภาค 2 ครับ ทำไมไม่ไปรัฐบาล”
– ควรพิจารณาใหม่ ไม่ใช่หน้าที่กองทัพ จะเสียชื่อเสียงนะคะ กองทัพภาค2 อุตส่าห์ทำดีได้ใจประชาชนแล้ว เป็นโครงการแปลกๆ จะเสียหายเอานะคะ
– 30000 ล้านเหรียญ หรือ ประมาณ หนึ่ง ล้านล้านบาท มันซื้อเรือบรรทุกเครื่องบิน พร้อมกองบิน F-35 ได้เลยครับ มูลค่าโอเวอร์มากกกก บริษัทที่จะผลิตโดรนได้มากขนาดนี้ มันต้องยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง DJI แต่คลิกเข้าไป เป็นบริษัทเงินทุนซะงั้น DJI ทั้งปี มีรายได้ 3.5 พันล้านดอลล่า ไม่ได้เสี้ยวของมูลค่าโครงการนี้ด้วยซ้ำ นี้ขนาดเบอร์หนึ่งของโลกแล้วนะ จะหาใครมาผลิตโดรนได้ 1 ล้านเครื่องครับ
– ผมว่าตัวเลข 3 หมื่นล้านเหรียญหรือโดรน 1 ล้านลำนี่ เป็นไปได้ยากหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในทางปฏิบัติ แค่ตัวเลขนี่จริง ๆ ก็น่าสงสัยแล้ว กองทัพภาคที่ 2 ต้องพิจารณาให้ดีว่ามันคืออะไร น่าเชื่อถือไหม แม้คนที่พามาจะเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เช่นกันก็ตาม
.
https://www.facebook.com/thaiarmedforce/posts/pfbid0MRo66DQLh1zqqM2dvfaNs3zQN6E3FLQ6sy6Zf8QGKrxy9WkhrWtFRPo8PLW8qtYul
.
.
ชมรมร้านอาหารลุยต่อ ร้องปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น.ทั่วประเทศ
https://www.matichon.co.th/economy/news_5365294
.
ชมรมร้านอาหารลุยต่อ ร้องปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ 14.00-17.00 น.ทั่วประเทศ วอนนายกฯอนุทินทบทวน
.
วันที่ 12 กันยายน นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารและที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมโฮสเทลประเทศไทย กล่าวว่า จากการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ที่ออกมา โดยมีข้อ 1 มาตรา 3 ให้ยกเลิก
.
(1) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ลงวันที่
.
16 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2515 ซึ่งเกี่ยวกับคำสั่งคณะปฏิวัติ ห้ามขายแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 นั้น ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารมีความเข้าใจผิด เพราะยังมีกฎหมายอีกฉบับ ออกเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2568 โดยนายกฯ แพทองธารได้ระบุอนุญาตให้ขายได้ในบางสถานที่เท่านั้น
.
“ จากความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนดังนั้น จึงออกมาขอโทษ เพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารโดยทั่วไป ในแง่กฎหมาย ดังนั้นชมรมร้านอาหาร จะผลักดันแก้กฎหมายเรื่องนี้ เตรียมขอเข้าพบเพื่อร้องขอต่อรัฐบาลนายกฯอนุทิน และคณะกรรมการ ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ให้ทบทวน ตามที่ผู้ประกอบการร้านอาหารเสนอ “
.
ทั้งนี้ โดยขอให้เข้าใจและเห็นใจ เหตุผลที่เสนอไปว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลังไม่เข้ากับยุคสมัยโดยเฉพาะเป็นคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 ซึ่งใช้มายาวนานกว่า 53 ปี และบริบททางสังคมเปลี่ยนไปอย่างมากในปัจจุบัน ที่สำคัญปรับเปลี่ยนให้สอดรับประเทศไทยเปิดรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ที่คุ้นชินกับการกินดื่มช่วงบ่ายในระหว่างพักผ่อนในประเทศนั้นๆ และบริบทอันนี้ไม่สามารถนำไปใช้กับคำสั่งคณะปฏิวัติ 2515 เรื่องห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร 14.00 น.- 17.00 น.
.
“การแก้กฎหมายดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นยอดขายของร้านอาหารได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ติดข้อกฎหมายของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 253 ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในช่วงเวลา 11.00 – 14.00 และช่วงเวลา 17.00-24.00 น. เท่านั้น ซึ่งทำให้มีช่วงฟันหลอในช่วงหลังเวลา 14.01-16.59 น. ซึ่งในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะต่างชาติที่จะออกมากินข้าว ดื่มเบียร์ ในเวลานี้ ซึ่งในช่วงเวลา 14.00-17.00 เป็นช่วงที่ร้านอาหารค่อนข้างจะเงียบเหงาและไม่สามารถทำรายได้ได้ และยังสร้างความมึนงง และไม่เป็นมาตรฐานสากลในกับนักท่องเที่ยวที่มาจากทั่วโลก หากมีการช่วยปลดล็อกกฎหมายฉบับนี้และทำให้มีผลบังคับใช้ได้โดยเร็วจะส่งผลดีและยอดขายต่อผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารได้เป็นอย่างดี และยังเป็นการส่งเสริมคาเฟ่เบียร์คราฟต์ให้เติบโตขึ้นด้วย” นายสรเทพ กล่าว.