คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
เรื่องราวเกี่ยวกับ คำนำหน้าชื่อ
คือ..ผู้ที่มีสายเกี่ยวโยงกับเจ้าเมืองในอดีต(มลายู)
.
คำนำหน้าชื่อที่เรียกนำด้วย "กู" จะใช้กับบุคคลที่มีเชื่อสาย เจ้าเมืองในอดีต"หากจะเรียกเพื่อยกย่องให้สมเกียรติ มักจะเรียกเพิ่มเติม "ต่วน" ไว้ข้างหน้าเป็น "ต่วนกู"
.
ส่วนคนที่เป็น"กู"ที่เป็นผู้ชายหากแต่งงานกับหญิง สามัญชน ลูกไม่ว่า ชายหรือหญิง ยังใช้"กู" เหมือนบิดา แต่หากคนที่เป็น"กู"ที่เป็นผู้หญิงแต่งงานกับชายสามัญชน ลูก จะต้องถูกลดชั้นลงมาหนึ่งชั้นคือ ใช้คำนำหน้าว่า"นิ"
.
ส่วน"แว"หรือ"วัน","หวัน" คือ เป็นบุคคลที่เกิดจากมารดาที่เป็น"นิ"และบิดา เป็นสามัญชน จะไม่เรียกว่า"กู"หรือ"นิ"
.
ส่วนบุคคลที่มีคำนำหน้าชือเป็น"เจ๊ะ" นั้นแสดงว่าเขามาจากมารดาที่มาจาก"แว","วัน","หวัน"และมีบิดาเป็นสามัญชน
.
(อีกในนึ่ง)ส่วนคำนำหน้าชื่อที่ขึ้นต้นด้วย"เจ๊ะ"นี้มาจาก(แม่) พระสนม,หรือ พูดง่ายๆคือเมียคนที่2ของสุลต่านที่เป็นคนจีน(พระสนมท่านมาจากชนชั้นสูงที่มาจากเมืองจีน) ลูกจะมีคำนำหน้าว่า"เจ๊ะ"
คือ..ผู้ที่มีสายเกี่ยวโยงกับเจ้าเมืองในอดีต(มลายู)
.
คำนำหน้าชื่อที่เรียกนำด้วย "กู" จะใช้กับบุคคลที่มีเชื่อสาย เจ้าเมืองในอดีต"หากจะเรียกเพื่อยกย่องให้สมเกียรติ มักจะเรียกเพิ่มเติม "ต่วน" ไว้ข้างหน้าเป็น "ต่วนกู"
.
ส่วนคนที่เป็น"กู"ที่เป็นผู้ชายหากแต่งงานกับหญิง สามัญชน ลูกไม่ว่า ชายหรือหญิง ยังใช้"กู" เหมือนบิดา แต่หากคนที่เป็น"กู"ที่เป็นผู้หญิงแต่งงานกับชายสามัญชน ลูก จะต้องถูกลดชั้นลงมาหนึ่งชั้นคือ ใช้คำนำหน้าว่า"นิ"
.
ส่วน"แว"หรือ"วัน","หวัน" คือ เป็นบุคคลที่เกิดจากมารดาที่เป็น"นิ"และบิดา เป็นสามัญชน จะไม่เรียกว่า"กู"หรือ"นิ"
.
ส่วนบุคคลที่มีคำนำหน้าชือเป็น"เจ๊ะ" นั้นแสดงว่าเขามาจากมารดาที่มาจาก"แว","วัน","หวัน"และมีบิดาเป็นสามัญชน
.
(อีกในนึ่ง)ส่วนคำนำหน้าชื่อที่ขึ้นต้นด้วย"เจ๊ะ"นี้มาจาก(แม่) พระสนม,หรือ พูดง่ายๆคือเมียคนที่2ของสุลต่านที่เป็นคนจีน(พระสนมท่านมาจากชนชั้นสูงที่มาจากเมืองจีน) ลูกจะมีคำนำหน้าว่า"เจ๊ะ"
แสดงความคิดเห็น
เดี้ยวนี้ยังมีคนที่เป็น"ต่วนกู"ในประเทศไทยอยู่บ้างไหมครับ