สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 10
คุณ จขกท. คงต้องถามตัวเองก่อนจ้า
ว่าความเชื่อที่เริ่มหมดไปมาจากสาเหตุไหน ระหว่าง...
๑.เชื่อน้อยลง เพราะคิดว่าพระเจ้าไม่มีจริง
พระเยซูไม่ได้สิ้นพระชมน์บนไม้กางเขนเพื่อเรา
และพระเยซูก็ไม่ได้เป็นขึ้นจากความตายในวันที่สาม
คิดว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น
หรือ
๒.เชื่อน้อยลง เพราะว่าเราอธิษฐานขอสิ่งใดๆ ก็ไม่เห็นผล
อาจพลั้งเผลอทำสิ่งที่ไม่ดีผิดจากคำที่พระเยซูสอน ไม่รักคนอื่น
เลยหันหนีจากพระเจ้า และชาชินกับความประพฤติที่ผิดกับคำสอน
ถ้าสาเหตุมาจากอย่างแรก คุณ จขกท. คงต้องถามตัวเองก่อนว่า
เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง... จริงๆ ไหม?
เชื่อว่าคนๆ เดียว สามารถช่วยไถ่บาปทั้งหมดให้คนทุกคนบนโลกได้... จริงๆ ไหม?
เชื่อว่าพระเจ้าชุบพระเยซูให้เป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม... จริงๆ ไหม?
ถ้าคำตอบออกมาคือ ไม่ ทำใจเชื่อไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
แบบนี้แก้ไขลำบาก และต่อให้ไปเข้ากลุ่มก็อาจเกิดอาการต่อต้านขึ้นในใจ
เพราะต่างคนต่างมีวิธีการพูดของตนเอง และอาจจะไม่ถูกใจเราก็ได้
ถ้าอยากจะให้ความเชื่อกลับคืนมา คงต้องอ่านพระคัมภีร์ให้มากเพื่อให้แน่ใจว่าพระเจ้ามีจริงๆ นะ
แต่ถ้าคำตอบเป็นแบบ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เดี๋ยวเชื่อเดี๋ยวไม่เชื่อ
บางเวลาก็คิดว่ามีจริง บางเวลาก็คิดว่าไม่มีจริง
ถ้าอยากจะให้ความเชื่อกลับคืนมาดังเดิม
คงต้องร่วมพบปะพูดคุยกับคนที่มีความเชื่ออย่างเดียวกันให้มาก
เข้าร่วมนมัสการ หรือกลุ่มต่างๆ ( เลือกกลุ่มให้ดีด้วยนะ ^_^ )
และอธิษฐานขอการทรงนำ
แบบนี้ก็พอจะช่วยกู้ความเชื่อกลับคืนมาได้จ้า...
แต่ถ้าสาเหตุความเชื่อถดถอยเพราะข้อ ๒
เราว่า อย่างแรกเลยที่ต้องทำคือ อธิษฐานขอโทษพระเจ้าก่อน
ถ้าทำอะไรก็ตามที่ผิดจากคำสอนก็สารภาพกับพระเจ้าว่า ทำผิดไปแล้ว
เวลาอธิษฐานขอโทษอาจจะรู้สึกเขินๆ อายๆ บางอารมณ์ก็ไม่อยากพูดว่าตัวเองทำผิด
แต่ถ้าเรายอมรับได้ และบอกพระเจ้าว่าจะระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น
ความสัมพันธ์กับพระเจ้าก็จะกลับคนสู่สภาพดีตามเดิมจ้า
หรือถ้ามีอารมณ์แบบไหน ก็พูดกับพระเจ้าไป คุยกับพระเจ้าไป
บอกพระองค์ไปตรงๆ เลยว่า ตอนนี้โกรธนะ น้อยใจนะ
เริ่มไม่เชื่อแล้วนะ อารมณ์อะไรก็ได้ พูดไปตามความรู้สึกจริงๆ
ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใจพระเจ้ารึเปล่า เพียงแค่พูดตามความจริงในใจเรา
และขอพระองค์ว่า ให้ช่วยนำทาง เพราะเราไม่อยากมีความรู้สึกแบบนี้
แล้วพระเจ้าจะมีวิธีสื่อสารและนำทางจ้า (แต่ละคนก็ด้วยวิธีต่างกัน )
หรือถ้าเริ่มไม่เชื่อ ไม่รักพระเจ้า เพราะรู้สึกเหมือนว่า เฮ้ย พระเจ้าไม่ตอบอะไรเล้ย
เริ่มตั้งคำถามว่า พระเจ้ารักเราจริงรึเปล่า ทำไมไม่เห็นผลในชีวิตเลย
แบบนี้ก็ควรอธิษฐานต่อพระเจ้าจ้า ว่าให้ช่วยสอนหน่อยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไป
เราอาจจะผิดพลาดในด้านของความรัก, ผิดพลาดในด้านความเชื่อ,
พลาดด้านความเข้าใจเกี่ยวกับพระองค์ ฯลฯ ... พระองค์ก็จะทรงตอบ
แล้วคุณ จขกท. จะเริ่มเห็นเส้นทางที่พระเจ้าวางไว้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นจ้า ^_^
จะเห็นได้ว่า การกอบกู้ความเชื่อให้กลับคืนมานั้นทำไม่ยาก (แต่วางใจยาก)
เพียงแค่รู้สึกว่าพระเจ้ารักเรามากๆ เลยนะ เหมือนพ่อเหมือนแม่ที่รักเรามากๆ
เพียงแค่หวนคืนสู่วิถีชีวิตแบบคริสต์ อธิษฐาน, นมัสการ, อ่านพระคัมภีร์
แค่นี้ความเชื่อก็จะกลับคืนมา และเมื่อควมเชื่อกลับคืนมา เราก็จะดำเนินชีวิตบนความรัก
แต่เรื่องที่ลำบากกว่าเห็นจะเป็นการรักษาความเชื่อเอาไว้
บางครั้งคนที่เชื่อพระเจ้าก็อาจจะถูกมองว่าโง่ งมงาย ไร้สาระ จากคนรอบข้าง
บางครั้งคนที่เชื่อพระเจ้าก็อาจจะรู้สึกสับสนเวลาเจอกับปัญหา
ว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า ถ้าพระเจ้ามีจริง ทำไมไม่ยอมช่วย
ซึ่งคนที่เชื่อพระเจ้าจำเป็นต้องรักษาหัวใจตัวเองให้ดีๆ
และถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา
ระหว่างพระเจ้า กับโลก (คนรอบข้าง, ปัญหาต่างๆ, ความไม่เข้าใจในพระเจ้า)
ถ้าเลือกให้พระเจ้าสำคัญที่สุด ความเชื่อก็จะไม่สั่นคลอน
แต่ถ้าเลือกให้โลกสำคัญที่สุด ความเชื่อก็จะสั่นคลอน จนกระทั่งอาจจะเลิกเชื่อได้ในที่สุด
เราไม่เองก็ไม่รู้หรอกว่าปัญหาจริงๆ ของคุณ จขกท. ที่เริ่มไม่เชื่อพระเจ้าเป็นเพราะอะไร
และคำตอบของเราจะช่วยได้รึเปล่า... แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณ จขกท. จะเลือกและตัดสินใจอย่างไร
(หันกลับมาเชื่อในพระเจ้าอีกครั้ง / เลิกเชื่อ เลิกรัก)
เราก็มั่นใจว่าคุณ จขกท. ได้เลือกหนทางที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับตัวเองแล้ว ^_^
"""""""""""""""""""""""""""""""
แต่ตอนนี้เราขออธิษฐานเผื่อ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ว่าความเชื่อที่เริ่มหมดไปมาจากสาเหตุไหน ระหว่าง...
๑.เชื่อน้อยลง เพราะคิดว่าพระเจ้าไม่มีจริง
พระเยซูไม่ได้สิ้นพระชมน์บนไม้กางเขนเพื่อเรา
และพระเยซูก็ไม่ได้เป็นขึ้นจากความตายในวันที่สาม
คิดว่าเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งสิ้น
หรือ
๒.เชื่อน้อยลง เพราะว่าเราอธิษฐานขอสิ่งใดๆ ก็ไม่เห็นผล
อาจพลั้งเผลอทำสิ่งที่ไม่ดีผิดจากคำที่พระเยซูสอน ไม่รักคนอื่น
เลยหันหนีจากพระเจ้า และชาชินกับความประพฤติที่ผิดกับคำสอน
ถ้าสาเหตุมาจากอย่างแรก คุณ จขกท. คงต้องถามตัวเองก่อนว่า
เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง... จริงๆ ไหม?
เชื่อว่าคนๆ เดียว สามารถช่วยไถ่บาปทั้งหมดให้คนทุกคนบนโลกได้... จริงๆ ไหม?
เชื่อว่าพระเจ้าชุบพระเยซูให้เป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม... จริงๆ ไหม?
ถ้าคำตอบออกมาคือ ไม่ ทำใจเชื่อไม่ได้ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดๆ ก็ตาม
แบบนี้แก้ไขลำบาก และต่อให้ไปเข้ากลุ่มก็อาจเกิดอาการต่อต้านขึ้นในใจ
เพราะต่างคนต่างมีวิธีการพูดของตนเอง และอาจจะไม่ถูกใจเราก็ได้
ถ้าอยากจะให้ความเชื่อกลับคืนมา คงต้องอ่านพระคัมภีร์ให้มากเพื่อให้แน่ใจว่าพระเจ้ามีจริงๆ นะ
แต่ถ้าคำตอบเป็นแบบ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เดี๋ยวเชื่อเดี๋ยวไม่เชื่อ
บางเวลาก็คิดว่ามีจริง บางเวลาก็คิดว่าไม่มีจริง
ถ้าอยากจะให้ความเชื่อกลับคืนมาดังเดิม
คงต้องร่วมพบปะพูดคุยกับคนที่มีความเชื่ออย่างเดียวกันให้มาก
เข้าร่วมนมัสการ หรือกลุ่มต่างๆ ( เลือกกลุ่มให้ดีด้วยนะ ^_^ )
และอธิษฐานขอการทรงนำ
แบบนี้ก็พอจะช่วยกู้ความเชื่อกลับคืนมาได้จ้า...
แต่ถ้าสาเหตุความเชื่อถดถอยเพราะข้อ ๒
เราว่า อย่างแรกเลยที่ต้องทำคือ อธิษฐานขอโทษพระเจ้าก่อน
ถ้าทำอะไรก็ตามที่ผิดจากคำสอนก็สารภาพกับพระเจ้าว่า ทำผิดไปแล้ว
เวลาอธิษฐานขอโทษอาจจะรู้สึกเขินๆ อายๆ บางอารมณ์ก็ไม่อยากพูดว่าตัวเองทำผิด
แต่ถ้าเรายอมรับได้ และบอกพระเจ้าว่าจะระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้น
ความสัมพันธ์กับพระเจ้าก็จะกลับคนสู่สภาพดีตามเดิมจ้า
หรือถ้ามีอารมณ์แบบไหน ก็พูดกับพระเจ้าไป คุยกับพระเจ้าไป
บอกพระองค์ไปตรงๆ เลยว่า ตอนนี้โกรธนะ น้อยใจนะ
เริ่มไม่เชื่อแล้วนะ อารมณ์อะไรก็ได้ พูดไปตามความรู้สึกจริงๆ
ไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใจพระเจ้ารึเปล่า เพียงแค่พูดตามความจริงในใจเรา
และขอพระองค์ว่า ให้ช่วยนำทาง เพราะเราไม่อยากมีความรู้สึกแบบนี้
แล้วพระเจ้าจะมีวิธีสื่อสารและนำทางจ้า (แต่ละคนก็ด้วยวิธีต่างกัน )
หรือถ้าเริ่มไม่เชื่อ ไม่รักพระเจ้า เพราะรู้สึกเหมือนว่า เฮ้ย พระเจ้าไม่ตอบอะไรเล้ย
เริ่มตั้งคำถามว่า พระเจ้ารักเราจริงรึเปล่า ทำไมไม่เห็นผลในชีวิตเลย
แบบนี้ก็ควรอธิษฐานต่อพระเจ้าจ้า ว่าให้ช่วยสอนหน่อยว่าเราทำอะไรผิดพลาดไป
เราอาจจะผิดพลาดในด้านของความรัก, ผิดพลาดในด้านความเชื่อ,
พลาดด้านความเข้าใจเกี่ยวกับพระองค์ ฯลฯ ... พระองค์ก็จะทรงตอบ
แล้วคุณ จขกท. จะเริ่มเห็นเส้นทางที่พระเจ้าวางไว้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นจ้า ^_^
จะเห็นได้ว่า การกอบกู้ความเชื่อให้กลับคืนมานั้นทำไม่ยาก (แต่วางใจยาก)
เพียงแค่รู้สึกว่าพระเจ้ารักเรามากๆ เลยนะ เหมือนพ่อเหมือนแม่ที่รักเรามากๆ
เพียงแค่หวนคืนสู่วิถีชีวิตแบบคริสต์ อธิษฐาน, นมัสการ, อ่านพระคัมภีร์
แค่นี้ความเชื่อก็จะกลับคืนมา และเมื่อควมเชื่อกลับคืนมา เราก็จะดำเนินชีวิตบนความรัก
แต่เรื่องที่ลำบากกว่าเห็นจะเป็นการรักษาความเชื่อเอาไว้
บางครั้งคนที่เชื่อพระเจ้าก็อาจจะถูกมองว่าโง่ งมงาย ไร้สาระ จากคนรอบข้าง
บางครั้งคนที่เชื่อพระเจ้าก็อาจจะรู้สึกสับสนเวลาเจอกับปัญหา
ว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า ถ้าพระเจ้ามีจริง ทำไมไม่ยอมช่วย
ซึ่งคนที่เชื่อพระเจ้าจำเป็นต้องรักษาหัวใจตัวเองให้ดีๆ
และถามตัวเองอยู่เสมอว่า เราจะให้อะไรสำคัญที่สุดในชีวิตของเรา
ระหว่างพระเจ้า กับโลก (คนรอบข้าง, ปัญหาต่างๆ, ความไม่เข้าใจในพระเจ้า)
ถ้าเลือกให้พระเจ้าสำคัญที่สุด ความเชื่อก็จะไม่สั่นคลอน
แต่ถ้าเลือกให้โลกสำคัญที่สุด ความเชื่อก็จะสั่นคลอน จนกระทั่งอาจจะเลิกเชื่อได้ในที่สุด
เราไม่เองก็ไม่รู้หรอกว่าปัญหาจริงๆ ของคุณ จขกท. ที่เริ่มไม่เชื่อพระเจ้าเป็นเพราะอะไร
และคำตอบของเราจะช่วยได้รึเปล่า... แต่ไม่ว่าสุดท้ายแล้วคุณ จขกท. จะเลือกและตัดสินใจอย่างไร
(หันกลับมาเชื่อในพระเจ้าอีกครั้ง / เลิกเชื่อ เลิกรัก)
เราก็มั่นใจว่าคุณ จขกท. ได้เลือกหนทางที่ดีที่สุดและเหมาะสมกับตัวเองแล้ว ^_^
"""""""""""""""""""""""""""""""
แต่ตอนนี้เราขออธิษฐานเผื่อ...
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับพระเจ้า