คุณเคยสังเกตุไหมครับว่าในแต่ละเดือนคุณจะมีพฤติกรรมการใช้เงินไม่เหมือนกัน
ในทางธุรกิจหรือค้าขายก็เช่นเดียวกัน ตลอดทั้งปีจะมีบางเดือนที่ขายดี บางเดือนที่ขายไม่ค่อยดี
เป็นเพราะว่าคนส่วนมากมักจะมีพฤติกรรมการใช้เงินที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเดือนหรือฤดูกาล
ผมขอเสนอวิธีการเพิ่มยอดขายสินค้าตามช่วงเวลาโดยใช้หลักดังนี้ครับ
1 Product เลือกสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลา
ในแต่ละช่วงเวลา ปริมาณความต้องการของสินค้าจะแตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปิดร้านขายของชำ สินค้าที่จะขายดีแน่ๆในหน้าร้อนก็คือ พวกน้ำดื่มเย็นๆ ไอศครีม ไว้ดับความร้อน หรือในกรณีหน้าฝน ถ้าคุณเป็นร้านขายของชำ ซึ่งปกติคุณไม่ได้ขายร่มหรือเสื้อกันฝน แต่ในหน้าฝนคุณก็อาจที่จะซื้อร่ม , เสื้อกันฝนมาลองขายก็น่าที่จะขายได้ไม่ยาก การที่คุณเตรียมสต็อกสินค้าเหล่านี้ไว้ในปริมาณมากพอจะทำให้มีสินค้าขายไม่ขาดในช่วงฤดูกาลที่มีคนมาซื้อมาก และในบางเวลาคุณก็อาจจะปรับสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลาเช่น บางร้านอาหารในช่วงเทศกาลเจ ก็ทำอาหารเจมาขายแทนเมนูปกติ
2 Price ปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลา
มนุษย์เงินเดือนทั่วไปจะมีรายได้-ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะช่วงใกล้เปิดเทอม พ่อแม่จะต้องเตรียมเงินไว้เป็นค่าเทอมลูกๆ จึงมักที่จะประหยัดเงินกันมาก สินค้าที่ควรจะขายในช่วงเวลานี้ควรที่จะเป็นสินค้าที่ราคาประหยัด ในช่วงเวลานี้คุณอาจที่จะเอาสินค้าที่ค้างสต็อกมาขายในราคาถูกๆ เพื่อจะเป็นการระบายสินค้าที่ขายไม่ออกและกระตุ้นให้คนที่ประหยัดเงินได้ซื้อของในราคาถูกอีกด้วย
แต่ในทางกลับกันคนมักจะมีเงินเยอะช่วงธันวาคม -มกราคม ซึ่งเป็นช่วงได้โบนัส+เงินเดือนเพิ่ม และคนมักที่จะซื้อของให้กันเป็นของขวัญหรือนำเงินไปใช้โดยไม่คิดมาก การจัดโปรโมชั่นสินค้าให้โดนใจในช่วงนี้จะทำยอดขายได้ดี เพราะคนจะมีกำลังซื้อสูงในช่วงปลายปี-ต้นปี
3 Place เลือกสถานที่ขายให้เหมาะกับช่วงเวลา
แต่ละช่วงเวลาคนจะไปซื้อของในสถานที่แตกต่างกัน ขอยกตัวอย่าง หน้าร้อนคนมักจะไปเดินตามห้างสรรพสินค้าเพื่อหลบร้อน , หน้าฝนช่วงฝนตก คนจะไม่ค่อยไปเดินตลาดนัดเพราะกลัวเปียก ถ้าคุณเป็นพ่อค้าตลาดนัดก็ควรเลือกขายตลาดนัดที่มีหลังคาจะได้บังฝนได้,
, ช่วงสงกรานต์คนจะออกต่างจังหวัดกันมาก คุณควรที่จะวิเคราห์ให้ดีว่าแต่ละช่วงเวลาคนมักที่จะไปยังสถานที่ไหน เพื่อปรับตัว+ปรับโปรโมชั่นให้เหมาะสม เช่น ถ้าคุณขายอาหารในทำเลที่พ่อค้าแม่ค้ามักจะกลับบ้านช่วงสงกรานต์
แต่ลูกค้าของคุณหลายคนไม่ได้ไปไหน คุณก็อาจจะขายอาหารทำเงินในช่วงสงกรานต์ก็จะทำให้ขายได้เยอะกว่าปกติเพราะคู่แข่งหยุดแต่คุณไม่ได้หยุด ลูกค้าก็ต้องเลือกที่จะมาซื้อสินค้าจากร้านของคุณ
4 Promotion ปรับ Promotion ให้เหมาะสม
การจัดโปรโมชั่นควรที่จะเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ถ้าร้านคุณขายอาหารประเภทของฝากต้องการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในเดือนเมษายน ช่วงเวลาที่เหมาะจะทำโปรโมชั่นมากที่สุดคือช่วงก่อนวันหยุดสงกรานต์
เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้ามักจะซื้อของไปฝากญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด การจัดโปรโมชั่นถ้าเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าจะทำให้เพิ่มยอดขายได้ไม่ยากเลย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยคนทำธุรกิจส่วนตัว ,คนค้าขายได้ไอเดียในการเพิ่มยอดขายสินค้าตามช่วงเวลาได้ดียิ่งขึ้นครับ
ที่มา
www.thaismefriend.com
ถ้าชอบบทความนี้รบกวนช่วยโหวตด้วยนะครับ (กดปุ่ม + เพื่อบอกว่าเนื้อหานี้ดี)
+++++ วิธีเพิ่มยอดขายตามฤดูกาล +++++
ในทางธุรกิจหรือค้าขายก็เช่นเดียวกัน ตลอดทั้งปีจะมีบางเดือนที่ขายดี บางเดือนที่ขายไม่ค่อยดี
เป็นเพราะว่าคนส่วนมากมักจะมีพฤติกรรมการใช้เงินที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละเดือนหรือฤดูกาล
ผมขอเสนอวิธีการเพิ่มยอดขายสินค้าตามช่วงเวลาโดยใช้หลักดังนี้ครับ
1 Product เลือกสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลา
ในแต่ละช่วงเวลา ปริมาณความต้องการของสินค้าจะแตกต่างกัน ขอยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณเปิดร้านขายของชำ สินค้าที่จะขายดีแน่ๆในหน้าร้อนก็คือ พวกน้ำดื่มเย็นๆ ไอศครีม ไว้ดับความร้อน หรือในกรณีหน้าฝน ถ้าคุณเป็นร้านขายของชำ ซึ่งปกติคุณไม่ได้ขายร่มหรือเสื้อกันฝน แต่ในหน้าฝนคุณก็อาจที่จะซื้อร่ม , เสื้อกันฝนมาลองขายก็น่าที่จะขายได้ไม่ยาก การที่คุณเตรียมสต็อกสินค้าเหล่านี้ไว้ในปริมาณมากพอจะทำให้มีสินค้าขายไม่ขาดในช่วงฤดูกาลที่มีคนมาซื้อมาก และในบางเวลาคุณก็อาจจะปรับสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลาเช่น บางร้านอาหารในช่วงเทศกาลเจ ก็ทำอาหารเจมาขายแทนเมนูปกติ
2 Price ปรับราคาสินค้าให้เหมาะกับช่วงเวลา
มนุษย์เงินเดือนทั่วไปจะมีรายได้-ค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนไม่เท่ากัน โดยเฉพาะช่วงใกล้เปิดเทอม พ่อแม่จะต้องเตรียมเงินไว้เป็นค่าเทอมลูกๆ จึงมักที่จะประหยัดเงินกันมาก สินค้าที่ควรจะขายในช่วงเวลานี้ควรที่จะเป็นสินค้าที่ราคาประหยัด ในช่วงเวลานี้คุณอาจที่จะเอาสินค้าที่ค้างสต็อกมาขายในราคาถูกๆ เพื่อจะเป็นการระบายสินค้าที่ขายไม่ออกและกระตุ้นให้คนที่ประหยัดเงินได้ซื้อของในราคาถูกอีกด้วย
แต่ในทางกลับกันคนมักจะมีเงินเยอะช่วงธันวาคม -มกราคม ซึ่งเป็นช่วงได้โบนัส+เงินเดือนเพิ่ม และคนมักที่จะซื้อของให้กันเป็นของขวัญหรือนำเงินไปใช้โดยไม่คิดมาก การจัดโปรโมชั่นสินค้าให้โดนใจในช่วงนี้จะทำยอดขายได้ดี เพราะคนจะมีกำลังซื้อสูงในช่วงปลายปี-ต้นปี
3 Place เลือกสถานที่ขายให้เหมาะกับช่วงเวลา
แต่ละช่วงเวลาคนจะไปซื้อของในสถานที่แตกต่างกัน ขอยกตัวอย่าง หน้าร้อนคนมักจะไปเดินตามห้างสรรพสินค้าเพื่อหลบร้อน , หน้าฝนช่วงฝนตก คนจะไม่ค่อยไปเดินตลาดนัดเพราะกลัวเปียก ถ้าคุณเป็นพ่อค้าตลาดนัดก็ควรเลือกขายตลาดนัดที่มีหลังคาจะได้บังฝนได้,
, ช่วงสงกรานต์คนจะออกต่างจังหวัดกันมาก คุณควรที่จะวิเคราห์ให้ดีว่าแต่ละช่วงเวลาคนมักที่จะไปยังสถานที่ไหน เพื่อปรับตัว+ปรับโปรโมชั่นให้เหมาะสม เช่น ถ้าคุณขายอาหารในทำเลที่พ่อค้าแม่ค้ามักจะกลับบ้านช่วงสงกรานต์
แต่ลูกค้าของคุณหลายคนไม่ได้ไปไหน คุณก็อาจจะขายอาหารทำเงินในช่วงสงกรานต์ก็จะทำให้ขายได้เยอะกว่าปกติเพราะคู่แข่งหยุดแต่คุณไม่ได้หยุด ลูกค้าก็ต้องเลือกที่จะมาซื้อสินค้าจากร้านของคุณ
4 Promotion ปรับ Promotion ให้เหมาะสม
การจัดโปรโมชั่นควรที่จะเข้าใจถึงพฤติกรรมของลูกค้า เช่น ถ้าร้านคุณขายอาหารประเภทของฝากต้องการจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขายในเดือนเมษายน ช่วงเวลาที่เหมาะจะทำโปรโมชั่นมากที่สุดคือช่วงก่อนวันหยุดสงกรานต์
เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่ลูกค้ามักจะซื้อของไปฝากญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัด การจัดโปรโมชั่นถ้าเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าจะทำให้เพิ่มยอดขายได้ไม่ยากเลย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยคนทำธุรกิจส่วนตัว ,คนค้าขายได้ไอเดียในการเพิ่มยอดขายสินค้าตามช่วงเวลาได้ดียิ่งขึ้นครับ
ที่มา
www.thaismefriend.com
ถ้าชอบบทความนี้รบกวนช่วยโหวตด้วยนะครับ (กดปุ่ม + เพื่อบอกว่าเนื้อหานี้ดี)