วันที่...เดือน สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 21:00 น. ผมสั่งสินค้าบนแอพฯ เซเว่นเดลิเวอรี่ แบบไปรับเองที่สาขาเพราะสามารถเลือกสาขาได้ว่าจะไปรับที่ไหน ผมสั่งเป็นเซนวิชไข่กุ้งโออิชิ ราคา 27 บาท และได้ยืนยันคำสั่งซื้อในเวลาต่อมา จากนั้นต่อมามีสายจากพนักงานของสาขาโทรศัพท์มาแจ้งว่าสินค้าตัวดังกล่าวหมด ผมจึงไม่ได้สั่งอะไรเพิ่มและรับเท่าที่มี
ด้วยความติดใจถึงสาเหตุดังกล่าวที่บนแอพฯ ขึ้นว่ามีของ และตนได้สั่ง และยืนยันคำสั่งซื้อไปแล้ว แต่บ่อยครั้งมักจะมีสายจากพนักงานสาขาโทรศัพท์มาแจ้งว่าสินค้าที่สั่งหมด ( ต่างกรรมต่างวาระไป ) ผมจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวหลังไมค์ในพันทิป
ปรากฎเช้าของอีกวันหนึ่งมีสายโทรศัพท์จากผู้จัดการสาขาติดต่อกลับมาขี้แจงว่า สินค้าที่ผมสั่งไปก่อนหน้านี้หมดอายุในวันที่ผมได้ทำการสั่งสินค้าตัวดังกล่าว พนักงานที่สาขาจึงได้กำจัดทิ้งไปแล้ว โดยไม่ได้อัพเดตสถานะให้ขึ้นแจ้งว่าเป็นของหมดเพราะเนื่องจากคนที่สามารถอัพเดตว่าสินค้าชนิดนั้นหมดได้จะต้องเป็นผู้จัดการสาขาเพียงคนเดียวเท่านั้น หากสินค้าหมดอายุวันนี้ ในเวลาหนึ่งทุ่มหรือ 19:00 น. และพนักงาน สาขา จะกำจัดทิ้งทันที ซึ่งเวลาดังกล่าวก็เป็นเวลาสิ้นสุดการทำงานของผู้จัดการสาขาไปแล้ว และผู้จัดการสาขาจะเริ่มเข้ามาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งในเวลา 09:00 น. ของวัดถัดไป ทำให้การอัพเดตว่าเป็นสินค้าหมดจึงทำได้ในเวลา 09:00 น. หรือวันและเวลาทำงานปกติของผู้จัดการสาขา
สรุปโดยตัวผมจากการได้รับฟังข้อเท็จจริงจากผู้จัดการสาขาได้ตามเข้าใจดังนี้ว่า : สาเหตุที่ทำไมบนแอพฯ หลายคนที่เจอและบ่อยครั้ง เห็นว่าขึ้นแสดงมีสินค้าจำหน่าย แต่เมื่อสั่งไปแล้วพนักงานต้องโทรศัพท์มาแจ้งว่าสินค้าที่สั่งหมด โดยไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุให้ทราบ เพราะเป็น การปฏิบัติหน้าที่กันภายใน กลายเป็นขาดการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเข้าใจผิดคิดไปต่างๆ นาๆ
ผมเองและลูกค้าหลายคนไม่โทษสาขา ไม่โทษพนักงาน แต่คงโทษระบบที่ออกแบบการทำงานให้ผู้ที่ต้องเป็นแพะรับบาปในเรื่องนี้คือสาขา และพนักงาน โดยที่เขาเองไม่สามารถพูดหรือวิจารณ์ถึงระบบการทำงานได้ เพียงเพราะคำว่านายจ้าง ซึ่งกระทู้สนทนานี้ก็หวังว่าจะมีเจ้าสัว CP มาเห็นและนำไปปรับปรุงพัฒนาระบบการทำงานหลังบ้านให้พนักงานสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข และลูกค้าเองก็ได้รับการบริการที่ดีต่อไป ด้วยการปรับปรุงระบบการตัดสต็อกหลังบ้านแบบเรียลไทม์ โดยไม่ไปกระทบต่อเวลาการใช้ชีวิตของลูกจ้างของบริษัทฯ เอง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงป้ายราคาและโปรโมชั่นที่ไม่ตรงกับสินค้าที่วางขายบนหน้าชั้นจำหน่ายสินค้าก็ควรเป็นแบบดิจิทัล เพื่อลดภาระขั้นตอนการทำงานให้พนักงานสาขาของบริษัทเองได้มีเวลาได้ไปพัฒนาศักยภาพในด้านอื่นที่สำคัญคือการบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ทั้งยัง ช่วยลดการร้องเรียนจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่อหน่วยงานราชการเกี่ยวกับเรื่องป้ายราคาซึ่งมีโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งตนก็คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับธุรกิจที่มีกำไรหลายพันล้านต่อปี และมีลูกค้าเข้าใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
ได้คำตอบแล้วครับ ในกรณีเรื่องแอพฯ เซ่เว่นขึ้นว่ามีของ แต่พอสั่งสาขาโทรมาแจ้งว่าของหมดเพราะว่า...
ด้วยความติดใจถึงสาเหตุดังกล่าวที่บนแอพฯ ขึ้นว่ามีของ และตนได้สั่ง และยืนยันคำสั่งซื้อไปแล้ว แต่บ่อยครั้งมักจะมีสายจากพนักงานสาขาโทรศัพท์มาแจ้งว่าสินค้าที่สั่งหมด ( ต่างกรรมต่างวาระไป ) ผมจึงได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้าไปเพื่อแจ้งเรื่องดังกล่าวหลังไมค์ในพันทิป
ปรากฎเช้าของอีกวันหนึ่งมีสายโทรศัพท์จากผู้จัดการสาขาติดต่อกลับมาขี้แจงว่า สินค้าที่ผมสั่งไปก่อนหน้านี้หมดอายุในวันที่ผมได้ทำการสั่งสินค้าตัวดังกล่าว พนักงานที่สาขาจึงได้กำจัดทิ้งไปแล้ว โดยไม่ได้อัพเดตสถานะให้ขึ้นแจ้งว่าเป็นของหมดเพราะเนื่องจากคนที่สามารถอัพเดตว่าสินค้าชนิดนั้นหมดได้จะต้องเป็นผู้จัดการสาขาเพียงคนเดียวเท่านั้น หากสินค้าหมดอายุวันนี้ ในเวลาหนึ่งทุ่มหรือ 19:00 น. และพนักงาน สาขา จะกำจัดทิ้งทันที ซึ่งเวลาดังกล่าวก็เป็นเวลาสิ้นสุดการทำงานของผู้จัดการสาขาไปแล้ว และผู้จัดการสาขาจะเริ่มเข้ามาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งในเวลา 09:00 น. ของวัดถัดไป ทำให้การอัพเดตว่าเป็นสินค้าหมดจึงทำได้ในเวลา 09:00 น. หรือวันและเวลาทำงานปกติของผู้จัดการสาขา
สรุปโดยตัวผมจากการได้รับฟังข้อเท็จจริงจากผู้จัดการสาขาได้ตามเข้าใจดังนี้ว่า : สาเหตุที่ทำไมบนแอพฯ หลายคนที่เจอและบ่อยครั้ง เห็นว่าขึ้นแสดงมีสินค้าจำหน่าย แต่เมื่อสั่งไปแล้วพนักงานต้องโทรศัพท์มาแจ้งว่าสินค้าที่สั่งหมด โดยไม่ได้อธิบายถึงสาเหตุให้ทราบ เพราะเป็น การปฏิบัติหน้าที่กันภายใน กลายเป็นขาดการสื่อสารเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเข้าใจผิดคิดไปต่างๆ นาๆ
ผมเองและลูกค้าหลายคนไม่โทษสาขา ไม่โทษพนักงาน แต่คงโทษระบบที่ออกแบบการทำงานให้ผู้ที่ต้องเป็นแพะรับบาปในเรื่องนี้คือสาขา และพนักงาน โดยที่เขาเองไม่สามารถพูดหรือวิจารณ์ถึงระบบการทำงานได้ เพียงเพราะคำว่านายจ้าง ซึ่งกระทู้สนทนานี้ก็หวังว่าจะมีเจ้าสัว CP มาเห็นและนำไปปรับปรุงพัฒนาระบบการทำงานหลังบ้านให้พนักงานสามารถทำงานต่อไปได้อย่างมีความสุข และลูกค้าเองก็ได้รับการบริการที่ดีต่อไป ด้วยการปรับปรุงระบบการตัดสต็อกหลังบ้านแบบเรียลไทม์ โดยไม่ไปกระทบต่อเวลาการใช้ชีวิตของลูกจ้างของบริษัทฯ เอง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงป้ายราคาและโปรโมชั่นที่ไม่ตรงกับสินค้าที่วางขายบนหน้าชั้นจำหน่ายสินค้าก็ควรเป็นแบบดิจิทัล เพื่อลดภาระขั้นตอนการทำงานให้พนักงานสาขาของบริษัทเองได้มีเวลาได้ไปพัฒนาศักยภาพในด้านอื่นที่สำคัญคือการบริการลูกค้าด้วยความเต็มใจ ทั้งยัง ช่วยลดการร้องเรียนจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการต่อหน่วยงานราชการเกี่ยวกับเรื่องป้ายราคาซึ่งมีโทษทั้งทางแพ่งและทางอาญา ซึ่งตนก็คิดว่าคงไม่ยากเกินไปสำหรับธุรกิจที่มีกำไรหลายพันล้านต่อปี และมีลูกค้าเข้าใช้บริการตลอด 24 ชั่วโมง