"ธาริต"ดับเครื่องชน"ปชป." อัดสร้างแบบอย่างไม่ดี ปฏิเสธกติกาบ้านเมือง ..... มติชนออนไน์

หลังจากกลุ่ม ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีหักบัญชีเงินเดือนบริจาค
เข้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ก็มีเสียง
วิจารณ์จาก ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ถึงการทำงานของดีเอสไอว่ารับใช้การเมือง และเตรียมฟ้อง
กลับพนักงานสอบสวน ทาง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ จึงชี้แจงถึงกรณี
ดังกล่าว เมื่อวันที่ 24 เมษายน มีสาระสำคัญดังนี้

อยากบอกว่าดีเอสไอไม่ได้ทำเฉพาะคดีการเมือง การดำเนินคดีบริจาคเงินเข้าพรรคประชาธิปัตย์
ที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นการทำคดีอาญาตามปกติ แต่ดีเอสไอมักถูกเขียนว่า
ทำคดีการเมืองประจำ

อยากขอความเป็นธรรมว่าที่ผ่านมามีหลายคดีที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของประชาชน และ
เป็นอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับประเทศ โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่าเรื่องเหล่านี้สำคัญกว่าเรื่อง
การเมืองด้วยซ้ำ เป็นเรื่องงบประมาณของแผ่นดิน เรื่องของประชาชน

เมื่อวานนี้ (23 เมษายน) มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์บางคน แสดงออกโดยการใส่เสื้อสีแดง สกรีนคำว่า
"ธาริต พูดว่าดีเอสไอเป็นเครื่องมือรัฐบาลแน่นอน" ก็อยากบอกว่า เข้าใจถูกต้องแล้ว ใช่อยู่แล้วแน่นอน
ตราบใดที่บ้านเมืองนี้ยังยึดถือระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง ผู้ชนะได้เสียงข้างมาก
นำไปสู่การจัดตั้งรัฐบาล เมื่อรัฐบาลเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายข้าราชการประจำเป็นฝ่ายปฏิบัติ และดีเอสไอ
ก็เป็นฝ่ายปฏิบัติ ถ้าไม่เป็นเครื่องมือให้รัฐบาลแล้ว แล้วจะให้เป็นเครื่องมือใคร

แต่การเป็นเครื่องมือรัฐบาลไม่ได้หมายความว่าจะไปทำสิ่งชั่วร้าย ไปกลั่นแกล้งฝ่ายที่ไม่ใช่รัฐบาลหรือ
ทำในสิ่งที่ผิดกฎหมายเสียเอง

ดีเอสไอเป็นหน่วยรักษากฎหมาย เข้าใจบทบาทหน้าที่และระมัดระวัง คงไม่ทำผิดเสียเอง และไม่กลั่น
แกล้งใคร เรื่องใหญ่โตขนาดนี้คงแกล้งใครไม่ได้

ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเพียงแค่การเริ่มต้นแจ้งข้อหา ดีเอสไอก็ถูกกล่าวหาต่อว่า ผมขอใช้คำว่าข่มขู่พนักงาน
สอบสวนดีเอสไอว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดี ดีเอสไอเป็นเพียงหน่วยงานที่ทำหน้าที่รักษากฎหมาย เพื่อที่
จะให้ผู้ถูกล่าวหาทั้งหลายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถ้าปฏิเสธไม่ยอมรับการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แล้ว
จะเดินต่อเพื่อนำไปสู่การตัดสินของศาลว่าถูกหรือผิดได้อย่างไร แค่เริ่มต้นคุณก็จะปฏิเสธไม่เข้ากระบวนการ
คุณจะอยู่นอกเวทีตลอดแบบนี้หรือ แล้วบ้านเมืองจะอยู่อย่างไร ผมยกตัวอย่าง หากต่อไปนี้คนร้ายทุกคน
ฟ้องร้องตำรวจที่จับกุมดำเนินคดี บ้านเมืองคงวุ่นวายแน่นอน

หากถามว่าผมรู้สึกอย่างไรก็ขอตอบว่าไม่ได้รู้สึกหนักใจ แต่ไม่สบายใจ เพราะฝ่ายการเมืองเป็นต้นแบบ
ของประเทศชาติ และอ้างกันตลอดเวลาว่าเป็นผู้แทนจากประชาชน ดังนั้นต้องสร้างต้นแบบที่ถูกต้อง
ไม่ใช่ต้นแบบแบบนี้ เวลามาดำเนินคดีพวกตัวเองก็ซัดกลับเลย กล่าวหาให้ร้ายต่างๆ

ผมอยากเรียกร้องว่า ในเมื่อพวกท่านชอบกล่าวอ้าง เป็นผู้แทนปวงชนอันทรงเกียรติ พวกท่านควรจะ
รักษากติกาของบ้านเมืองด้วย ไม่ใช่สร้างรูปแบบและวิธีการใหม่ๆ อันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับสังคมและ
บ้านเมือง วันนี้ผมคงต้องพูดแบบไม่เกรงกันเพราะท่านก็ไม่เกรงเรา เราก็ไม่เกรงใจท่านเหมือนกัน

<
<
<

@ หากพบว่าพรรคเพื่อไทยปฏิบัติเช่นเดียวกับพรรคประชาธิปัตย์แล้วมีคนมาร้องดีเอสไอพร้อมดำเนินคดี
ใช่หรือไม่

แน่นอน ไม่อย่างนั้นดีเอสไอโดนละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่เท่าที่ผมทราบอย่างไม่เป็นทางการ จาก
พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล คือยังมี ส.ส.อีกหลายคนที่ปฏิบัติเช่นนี้ กำลังตรวจสอบ
อยู่ ว่ากันไปตามความเสมอภาค ดีเอสไอไม่ได้ชี้ถูกผิด เป็นหน้าที่ที่ต้องนำเรื่องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ทางอาญาตามที่นานาประเทศปฏิบัติ ถ้าไม่ยอมรับหรือไม่เข้ากระบวนการยุติธรรม อีกหน่อยก็ล้างแค้นกัน
เองนอกศาล บ้านเมืองอยู่ไม่ได้แน่นอน

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1366887422&grpid=&catid=03&subcatid=0305

คนดูสับสน กันไปหมด ปชช.ส.ส.ไม่ยอมรับศาลรธน. พรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่ยอมรับดีเอสไอ     ยิ้ม

สาวแว่น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่