ดีเอสไอแจ้ง 'มาร์ค-เทพเทือก' เข้ารับข้อหาเพิ่มอีก 2 คดี
จนท.ดีเอสไอ เดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อ
แจ้งข้อกล่าวหาแก่ 'อภิสิทธิ์-เทพเทือก' เพิ่ม 2 คดี ด้าน 'อภิสิทธิ์' ลั่นไปตามนัดพร้อม 'สุเทพ' แน่ ไม่เปลี่ยนจุดยืน เตือน 'ธาริต' ต้องรับผิดชอบทำตามใบสั่งการเมือง...
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 พ.ค.2556 เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อยื่นหนังสือแจ้งให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอในวันที่ 14 พ.ค. 56 ใน
สองคดีคือ ข้อหา
ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และ
ฐานพยายามฆ่านายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในปี 2553 ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่ง
ถือเป็นคดีที่สองและสามหลังจากที่ดีเอสไอเคยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนจะเดินทางไปพร้อมกับนายสุเทพตามที่ดีเอสไอนัด เพื่อรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งก็อยู่บนฐานแนวคิดเดิมของดีเอสไอ ที่เคยมีการแจ้งข้อหามาก่อนหน้านี้แล้ว
ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนก่อน โดยคาดว่าคงใช้เวลาไม่นาน แตกต่างจากคราวที่แล้วที่พนักงานสอบสวนมีการบรรยายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยาว แต่คราวนี้คงไม่ต้องเท้าความอะไรอีก ทั้งนี้แรงบีบที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีผลต่อจุดยืนของตนและนายสุเทพ นอกจากทำให้ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น
หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการดำเนินคดีกับตนและนายสุเทพหลายคดี ก็จะส่งผลเพียงแค่ ทำให้ต้องใช้เวลาไปกับการต่อสู้คดีมากขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ทำให้เสียสมาธิในการต่อสู้ทางการเมืองที่กำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้นในหลายประเด็น ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยิ่งทำให้สังคมเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐในขณะนี้ เหมือนกับที่
พรรคได้เขียนไปในจดหมายเปิดผนึกว่า ทั้งตำรวจและดีเอสไอเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล
ส่วน กรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. ระบุว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอจะสะดุดพฤติกรรมของตัวเองไม่วันใดก็วันหนึ่งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำไปหลายครั้งว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามเนื้อของกฎหมาย ในที่สุดก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเหตุใดนายธาริตจึงยังเดินหน้าแบบนี้ เพราะหากมีอำนาจการเมืองเข้าไปสั่งการในที่สุดแล้วคนที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย ต้องเป็นคนรับผิดชอบ
“ผมเตือนไปแล้วว่าถ้าหวังว่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อต่อรองก็บอก ได้ว่าไม่มีผล และไม่อยากให้คนมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากระทำผิดกฎหมายผมก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิเท่านั้นเอง" หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.
ไทยรัฐออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2556, 16:54 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/343594
????????????????????????????????????
".......
สองคดีคือ ข้อหา
ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และ
ฐานพยายามฆ่านายสมร ไหมทอง ........
ถือเป็นคดีที่สองและสามหลังจากที่ดีเอสไอเคยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง...."
"......ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนก่อน.....
พรรคได้เขียนไปในจดหมายเปิดผนึกว่า ทั้งตำรวจและ
ดีเอสไอเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล....."
“.......
ผมเตือนไปแล้วว่าถ้าหวังว่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อต่อรองก็บอกได้ว่าไม่มีผล และ
ไม่อยากให้คนมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากระทำผิดกฎหมายผมก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิเท่านั้นเอง....."
เจอเข้าไปเป็นคดีที่สามแล้วนะเออ
และจะทยอยมาอีกกี่สิบกี่ร้อยกี่พันคดีก็ยังมะรู้.....เฮ้อ...น่าส่งศาล เอ๊ย น่าสงสาร.....
ส่วนการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ตัวเองตั้งมากับมือนั้นก็แสนน่าเอ็นดู
เท่...จุงเบย ที่เป็นฆาตกรสั่งฆ่าคนเป็นร้อย บาดเจ็บร่วม 2,000 คน
แต่มีหน้าขู่ฟ่อดๆตำหนวด - จนท.ดีเอสไออย่างกะว่าตัวเองเป็นคนคุมอำนาจรัฐอยู่เหมือนเดิม
เคยทำเลวๆมาจนเคยตัว เลยคิดว่าคนอื่นจะ "นิ่ม" ทำเหมือนตัวเองด้วยละซีท่า
เก็บคำเตือนของผู้ร้ายหน้าด้านของนายไปอ้อนทางบ้านเถอะไป๊
อย่ามาขู่เจ้าหน้าที่เขานักเลย
ถ้าเขากลัวนาย เขาจะลากไส้นายมาประจานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้หรือ....
โถ...เจ้าหุ่นกระบอกหลงโรงเอ๊ย.....
เขาเลิกเชิดนายแล้วยังไม่รู้เงาหัวอีก.....
ดีเอสไอแจ้ง 'มาร์ค-เทพเทือก' เข้ารับข้อหาเพิ่มอีก 2 คดี...ข้อหามาอีกแร้วคร้าบ และกำลังรอคิวอีกเป็นกุรุต โถ..คนดี(แตก)
จนท.ดีเอสไอ เดินทางไปพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาแก่ 'อภิสิทธิ์-เทพเทือก' เพิ่ม 2 คดี ด้าน 'อภิสิทธิ์' ลั่นไปตามนัดพร้อม 'สุเทพ' แน่ ไม่เปลี่ยนจุดยืน เตือน 'ธาริต' ต้องรับผิดชอบทำตามใบสั่งการเมือง...
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 พ.ค.2556 เจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)เดินทางมาที่พรรคประชาธิปัตย์เพื่อยื่นหนังสือแจ้งให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ในฐานะอดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ในฐานะอดีตรองนายกรัฐมนตรี ไปรับทราบข้อกล่าวหาจากดีเอสไอในวันที่ 14 พ.ค. 56 ในสองคดีคือ ข้อหา ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และฐานพยายามฆ่านายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบในปี 2553 ภายใต้การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งถือเป็นคดีที่สองและสามหลังจากที่ดีเอสไอเคยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ตนจะเดินทางไปพร้อมกับนายสุเทพตามที่ดีเอสไอนัด เพื่อรับทราบการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งก็อยู่บนฐานแนวคิดเดิมของดีเอสไอ ที่เคยมีการแจ้งข้อหามาก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนก่อน โดยคาดว่าคงใช้เวลาไม่นาน แตกต่างจากคราวที่แล้วที่พนักงานสอบสวนมีการบรรยายข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ยาว แต่คราวนี้คงไม่ต้องเท้าความอะไรอีก ทั้งนี้แรงบีบที่เกิดขึ้นนี้ ไม่มีผลต่อจุดยืนของตนและนายสุเทพ นอกจากทำให้ในวันที่ 14 พ.ค.นี้ต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาเท่านั้น
หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวด้วยว่า ส่วนการดำเนินคดีกับตนและนายสุเทพหลายคดี ก็จะส่งผลเพียงแค่ ทำให้ต้องใช้เวลาไปกับการต่อสู้คดีมากขึ้น แต่ยืนยันว่าไม่ทำให้เสียสมาธิในการต่อสู้ทางการเมืองที่กำลังทวีความเข้มข้นมากขึ้นในหลายประเด็น ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ยิ่งทำให้สังคมเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐในขณะนี้ เหมือนกับที่พรรคได้เขียนไปในจดหมายเปิดผนึกว่า ทั้งตำรวจและดีเอสไอเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล
ส่วน กรณีที่นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาฯสมช. ระบุว่า นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอจะสะดุดพฤติกรรมของตัวเองไม่วันใดก็วันหนึ่งนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนย้ำไปหลายครั้งว่าใครก็ตามที่ไม่ทำตามเนื้อของกฎหมาย ในที่สุดก็ต้องรับผิดชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามระบบ ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเหตุใดนายธาริตจึงยังเดินหน้าแบบนี้ เพราะหากมีอำนาจการเมืองเข้าไปสั่งการในที่สุดแล้วคนที่ใช้อำนาจตามกฎหมาย ต้องเป็นคนรับผิดชอบ
“ผมเตือนไปแล้วว่าถ้าหวังว่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อต่อรองก็บอก ได้ว่าไม่มีผล และไม่อยากให้คนมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากระทำผิดกฎหมายผมก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิเท่านั้นเอง" หน.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าว.
ไทยรัฐออนไลน์ 8 พฤษภาคม 2556, 16:54 น.
http://www.thairath.co.th/content/pol/343594
????????????????????????????????????
".......สองคดีคือ ข้อหา ก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนาเล็งเห็นผล กรณีการเสียชีวิตของ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา และฐานพยายามฆ่านายสมร ไหมทอง ........ ถือเป็นคดีที่สองและสามหลังจากที่ดีเอสไอเคยแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วครั้งหนึ่ง...."
"......ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่นั้นจะต้องไปรับทราบข้อกล่าวหาให้ชัดเจนก่อน.....
พรรคได้เขียนไปในจดหมายเปิดผนึกว่า ทั้งตำรวจและดีเอสไอเป็นเครื่องมือทางการเมืองของรัฐบาล....."
“.......ผมเตือนไปแล้วว่าถ้าหวังว่าจะเป็นเครื่องมือทางการเมืองเพื่อต่อรองก็บอกได้ว่าไม่มีผล และไม่อยากให้คนมีหน้าที่ตามกฎหมายไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถ้ากระทำผิดกฎหมายผมก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิเท่านั้นเอง....."
เจอเข้าไปเป็นคดีที่สามแล้วนะเออ
และจะทยอยมาอีกกี่สิบกี่ร้อยกี่พันคดีก็ยังมะรู้.....เฮ้อ...น่าส่งศาล เอ๊ย น่าสงสาร.....
ส่วนการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ตัวเองตั้งมากับมือนั้นก็แสนน่าเอ็นดู
เท่...จุงเบย ที่เป็นฆาตกรสั่งฆ่าคนเป็นร้อย บาดเจ็บร่วม 2,000 คน
แต่มีหน้าขู่ฟ่อดๆตำหนวด - จนท.ดีเอสไออย่างกะว่าตัวเองเป็นคนคุมอำนาจรัฐอยู่เหมือนเดิม
เคยทำเลวๆมาจนเคยตัว เลยคิดว่าคนอื่นจะ "นิ่ม" ทำเหมือนตัวเองด้วยละซีท่า
เก็บคำเตือนของผู้ร้ายหน้าด้านของนายไปอ้อนทางบ้านเถอะไป๊
อย่ามาขู่เจ้าหน้าที่เขานักเลย
ถ้าเขากลัวนาย เขาจะลากไส้นายมาประจานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างนี้หรือ....
โถ...เจ้าหุ่นกระบอกหลงโรงเอ๊ย.....
เขาเลิกเชิดนายแล้วยังไม่รู้เงาหัวอีก.....