-เปิดตอนมาในเช้าของการทดสอบวันที่สอง พวกโซมะมาเจอกับเชฟชิโนมิยะ โคจิโร่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฝรั่งเศส โดยเขาบอกว่าการทดสอบของเขาจะให้นักเรียนทำอาหารที่เขาเป็นคนคิดค้นขึ้นมา โดยเขาจะแจกลูเซ็ต(เรซิพีภาษาฝรั่งเศสหรือสูตรอาหารนั้นเอง)ให้แต่ละคน ซึ่งบรรดานักเรียนตัวประกอบต่างก็พากันกลัวเป็นการใหญ่ เพราะคนคนนี้คือ ชิโนมิยะ โคจิโร่ ที่พึ่งไล่นักเรียนกลับบ้านไปร่วมกว่า30คนเมื่อวาน
(หน้านี้มีการเขียนขอโทษสำหรับ รวมเล่ม1ของเรื่องนี้ที่พึ่งออกไปซึ่งพิมม์มาน้อยและขาดตลาดอย่างรวดเร็ว โดยให้อดใจรอสักนิด พิมม์รอบใหม่จะไปลงร้านค้าต่างๆอย่างรวดเร็วที่สุด)
-แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือต้องมาทำอาหารที่เชฟโคจิโร่คิดขึ้นมาซะอีก ซึ่งบรรดาตัวประกอบพอดูจากสูตรแล้วก็รู้ว่ามันคือ อาหารออเดิร์ฟของฝรั่งเศส "เทอรีนผัก9อย่าง" เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่มีสีสันสวยงามจากผักเก้าชนิด ซึ่งผักแต่ละชนิดนั้นล้วนแต่มีวิธีการให้ความร้อนที่แตกต่างกันจึงมีจุดที่ต้องระวังแตกต่างกันด้วย อีกทั้งผักแต่ละชนิดต้องมีรสชาติที่สมดุลกันไม่มีรสใดรสหนึ่งเด่นชัดออกมามากกว่าผักชนิดอื่นๆ ซึ่งพอตัวประกอบเห็นเมนูสุดยากแบบนี้แล้วก็ต้องพากันร้องโอดครวญกันเป็นการใหญ่ โคจิโร่เลยเดินเข้ามาบอกว่า สงสัยจานนี้จะง่ายไปล่ะมั้ง ถ้าอยากได้จานที่ยากกว่านี้เขาจะหามาให้ ทำเอาเหล่าตัวประกอบหน้าเสียกันหมด นี้คือจานที่ง่ายแล้วเหรอเนี่ย? ว่าแล้วโคจิโร่ยังได้เสริมไปอีกว่าการทดสอบคราวนี้ให้ทำเดี่ยวเท่านั้น และการถามหรือให้คำปรึกษาใดๆกับคนอื่นถือเป็นเรื่องต้องห้ามในการทดสอบครั้งนี้ แน่นอนว่าเมงุมิหน้าเสียเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น
(เทอรีนเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง โดยเป็นการนำเนื้อบดหรือผักบด รวมถึงผักหรือเนื้อเป็นชิ้นๆมาอัดใส่พิมม์สี่เหลี่ยม จากนั้นนำไปให้ความร้อนจนสุก แล้วตัดสไลด์เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ กินกับซอสต่างๆเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เป็นอาหารที่มีกรรมวิธีและขั้นตอนค่อนข้างที่จะยุ่งยาก)
-โคจิโร่บอกว่าวัตถุดิบต่างๆสามารถไปหาได้ที่หลังครัว และเขาจะให้คำแนะนำที่มีค่าหนึ่งอย่างแก่นักเรียนทุกคนนั้นคือ"จงคิดว่าทุกคนรอบตัวเป็นศัตรูให้หมดซะนั่นแหละคือวิธีที่ฉลาดที่สุด"ว่าแล้วก็ประกาศไทม์ลิมิตว่ามีเวลาสามชั่วโมงให้ทุกคนเริ่มลงมือทำกันได้ บรรดาตัวประกอบก็เลยพากันวิ่งไปแย่งวัตถุดิบกันเป็นการใหญ่
-แถมแย่งกันอย่างเดียวไม่พอยังมีการลงไม้ลงมือชิงวัตถุดิบของคนอื่นๆมาด้วย เมงุมิเองที่โดนลูกหลงไปก็โดนพลักจนล้ม พลางคิดว่าทุกคนเครียดกันเลือดขึ้นหน้ายิ่งกว่าเมื่อวานซะอีก แต่เธอจะยอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้ เธอต้องไม่กลัว ว่าแล้วเมงุมิก็ลุกขึ้นแล้วรีบเข้าไปหาวัตถุดิบทันที
-ว่าแล้วเมงุมิที่พยามจนสุดความสามารถก็หาวัตถุดิบมาได้เกือบครบ ซึ่งเธอก็เห็นว่ามีบางส่วนที่เริ่มลงมือทำกันแล้ว เธอจึงรีบไปเอาดอกกะหล่ำที่เป็นวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายทันทีแต่ทว่า...
-ดอกกะหล่ำที่เหลืออยู่มีแต่ประเภทสีดำคลำไม่ก็ช้ำแทบจะทั้งนั้น เมงุมิรู้ได้ทันทีเลยว่า เธอใช้ดอกกะหล่ำพวกนี้ทำเทอรีนไม่ได้แน่ๆ เพราะเมื่อเธอนำเอาดอกกะหล่ำพวกนี้ไปต้มสีของมันจะจางลงและทำให้สีสันหลากหลายของผักที่เป็นหัวใจสำคัญของเทอรีนอันนี้จะพลอยหายไปด้วย ว่าแล้วเมงุมิที่ไม่รู้จะทำยังไงก็นึกถึงโซมะขึ้นมาทันทีพร้อมกับกำลังจะไปหาแต่ว่า
-เมงุมินึกขึ้นได้ว่าการสอบนี้ห้ามพูดคุยกัน อีกทั้งเธอจะไม่เอาแต่พึ่งโซมะคุงอีกแล้ว แต่เธอจะผ่านไปให้ได้ด้วยความสามารถของตัวเอง ซึ่งเมงุมิก็คิดทันทีว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเรื่องสีของดอกกะหล่ำได้ และแล้วเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
-ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไป โคจิโร่ปรับนักเรียนตกไปหลายคนส่วนโซมะก็ทำเทอรีนออกมาได้ผ่านมาตฐานของโคจิโร่จนผ่าน ว่าแล้วโซมะก็หันไปหาเมงุมิ แล้วก็พบว่าเธอกำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่ ซึ่งเธออยู่ในขั้นตอนที่กำลังตัดเทอรีนใส่จานเสิร์ฟแล้ว
-ว่าแล้วเมงุมิก็ทำจนเสร็จแล้วเอาไปส่งโคจิโร่ด้วยความมั่นใจทันที แต่พอโคจิโร่ทานแล้วก็ถอนหายใจออกมา
-"ทาโดโคโระ เมงุมิ เธอถูกปรับตก"โคจิโร่เอ่ยออกมาทำให้เมงุมิถึงกับตัวซีด ซึ่งเขาก็ทำท่าไม่ใส่ใจลุกขึ้นแล้วเอ่ยถามทั่วห้องว่าทำกันครบหมดแล้วสินะ คนที่ไม่ผ่านพอกลับโรงแรมแล้วให้ไปเก็บของแล้วลงไปรวมตัวรอกลับบ้านที่ล็อบบี้กันได้เลย ซึ่งเมงุมิที่ยังช็อกอยู่เลยรีบถามโคจิโร่ออกไปทันทีเลยว่า เทอรีนของเธอมันใช้ไม่ได้ตรงไหน ซึ่งโคจิโร่ก็อธิบายว่า เธอใช้น้ำส้มสายชูไวน์สินะ ปกติแล้วเมื่อดอกกะหล่ำเริ่มจะแย่(สีคล้ำเนื่องจากเก็บเอาไว้นาน)วิธีการดึงสีสันออกมาคือการใช้น้ำส้มสายชูไวน์ใส่ลงไปในขั้นตอนที่ลวกดอกกะหล่ำ อีกทั้งเมงุมิยังเพิ่มเติมเรื่องของรสชาติด้วยการใช้น้ำส้มสายชูดึงรสผักออกมาอีก ความหวานของผักกับความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งเมงุมิที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งติดใจเข้าไปอีกว่าทำไมเธอถึงไม่ผ่าน ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย โคจิโร่เลยพูดต่อไปว่า
-"แล้วใครใช้ให้เธอเปลี่ยนสูตรกัน?" ว่าแล้วโคจิโร่ก็เอ่ยออกมาว่า เทอรีนจานที่เขาคิดขึ้นจานนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เพลิดเพลินกับรสชาติความหวานของผักทั้ง9ชนิด มีส่วนไหนในสูตรบางที่เขียนเอาไว้ว่า "ทำให้มันอร่อยขึ้นด้วยรสเปรี้ยว?" การที่เมงุมิใช้น้ำส้มสายชูปรุงก็ทำให้อาหารจานนี้กลายเป็นอาหารจานอื่นแล้ว เพราะงั้นถ้าเธอทำอาหารจานอื่นมาส่งก็ถือว่าเธอถูกปรับตกโดยอัตโนมัติไม่ใช่รึไง? ว่าแล้วโคจิโร่ก็เดินจากไปแต่ก็โดนโซมะหยุดเอาไว้ก่อน เขาที่ได้ยินคำตอบของโคจิโร่ก็เอ่ยออกมาว่าเขารับไม่ได้หรอก ที่เมงุมิต้องทำแบบนั้นมันเป็นเรื่องจำเป็นเพราะว่ามีผักที่ไม่ได้คุณภาพปนมากับผักที่มีให้เลือกนิ
-ว่าแล้วโซมะก็ถามต่อว่า จุดหมายในการทดสอบครั้งนี้คือการทดลองเป็นพนักงานในร้านของรุ่นพี่โคจิโร่สินะ? เพราะงั้นหน้าที่การดูแลแล้วก็ตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้กับอาหารหรือการสั่งซื้อวัตถุดิบทั้งหลาย คนที่รับผิดชอบตรงนี้มันเป็นหน้าที่ของเชฟหรือเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ไม่ใช่เหรอ? การที่มีดอกกะหล่ำไม่ได้คุณภาพแบบนี้ปนมาแสดงว่ารุ่นพี่เองก็ทำหน้าที่เชฟพลาดเหมือนกันนิ? ได้ยินโซมะตอกแบบนั้นโคจิโร่เลยทุบโต๊ะทันทีก่อนจะเอ่ยว่า แกคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร? งั้นฉันจะบอกความจริงให้ก็ได้ สาเหตุที่มีดอกกะหล่ำไม่ได้คุณภาพปะปนเข้ามาก็เพื่อจะได้ลดจำนวนนักเรียนที่สอบผ่านลงยังไงล่ะ!
-ได้ยินแบบนั้นเมงุมิกับคนอื่นๆก็ตะลึงกันทันที ก่อนที่โคจิโร่จะร่ายต่อว่า ดอกกะหล่ำนั้นมีข้อควรระวังอยู่สามอย่างใหญ่ๆ อย่างแรกคือสีคล้ำได้ง่าย,ช้ำได้ง่ายและยากต่อการนำมาใช้ปรุงอาหาร ซึ่งมันเป็นวัตถุดิบที่ต้องมีทักษะและมีความระมัดระวังในการเตรียมเป็นอย่างมาก ดอกกะหล่ำคุณภาพแย่ที่ปนมานั้นส่วนหนึ่งคือเอาไว้หลอกพวกนักเรียนโง่ๆที่ไม่มีสายตาแยกแยะวัตถุดิบดีหรือไม่ดีให้ออก อีกส่วนคือเอามาใช้เป็นกับดักสำหรับคนที่มัวแต่อืดอาดยืดยาดหรือไม่รู้จักแย่งชิงเอาของดีๆมาตั้งแต่แรก ซึ่งโซมะก็เถียงว่าที่เมงุมิทำลงไปก็เป็นการแก้ปัญหาเรื่องดอกกะหล่ำแทนความชักช้าของตัวเองไม่ใช่รึไง? ถึงจะช้าแต่ถ้าสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นเหมือนกับปกติและทำเสร็จส่งทันเวลาก็น่าจะผ่านไม่ใช่เหรอ? ได้ยินแบบนั้นโคจิโร่ก็เลยย้ำอีกรอบทันทีว่า
โคจิโร่ - ฉันเป็นเชฟของที่นี้!
โคจิโร่ - แล้วฉันก็ไม่ยอมให้พนักงานใต้คำสั่งของฉันไม่ว่าหน้าไหน...
โคจิโร่ - มาเปลี่ยนสูตรที่ฉันคิดขึ้นเป็นอันขาด!
-ได้ยินแบบนั้นโซมะเลยเริ่มโมโหทันทีก่อนที่โคจิโร่จะเดินเข้ามาหาโซมะแล้วบอกว่า ตอนนี้โซมะยังถือเป็นพนักงานของเขาอยู่ ถ้ากล้าท้าทายกับเขาล่ะก็เขาสามารถใช้อำนาจของเชฟในการปรับให้โซมะตกไปอีกคนก็ได้นะ
โซมะ - นี้แก!
ว่าแล้วเมงุมิก็รีบเข้าไปกอดแขนห้ามโซมะทันที
เมงุมิ - โซมะคุง ไม่เป็นไรจ๊ะ
เมงุมิ - ฉันไม่เป็นไรหรอกนะ โซมะคุงต่างหาก ถ้าเกิดมากกว่านี้เธอจะถูกปรับให้ตกนะ! หยุดเถอะ!
โซมะ - ตอนนี้!ไม่ใช่เวลามาพูดแบบนี้นะ
เมงุมิ - มะ...ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ...
เมงุมิ - ฉะ...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก...จริงๆนะ
เมงุมิเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ตัวนั้นสั่นเทิ้มไม่มีหยุด
ถึงเมงุมิจะยิ้มแต่ในใจของเธอนั้นกำลังร้องไห้อยู่ โซมะดูออกในทันที และน้ำตาของเมงุมินั้นก็เหมือนเป็นสวิตซ์จุดชนวน ความโกรธในตัวของโซมะให้พลุ่กพล่านขึ้นมาทันที
-โซมะเดินตรงรี่เข้าไปหาโคจิโร่อีกรอบ โคจิโร่ก็หันกลับมาถามทันทีว่า"มองซิเอ่อร์ยูกิฮิระ มีอะไรอยากจะบ่นอีกรึไง?" ซึ่งโซมะก็บอกว่าคราวนี้เขาไม่ได้มาเพื่อบ่นหรือต่อว่าอะไรแต่มีเรื่องหนึ่งอยากจะถามให้แน่ใจก่อน กฎของโรงเรียนโทสึกิน่ะ สามารถใช้กับนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้วด้วยก็ได้สินะ? ได้ยินแบบนั้นโคจิโร่ก็เลยถามขึ้นมาว่าโซมะอยากจะพูดอะไรกันแน่โซมะจึงเอ่ยออกไปว่า
โซมะ - รุ่นพี่ชิโนมิยะ...มาดวลโชคุเงคิกัน!
โซมะ - ถ้าฉันชนะนายต้องยกเลิกคำตัดสินที่ปรับตกทาโดโคโระซะ!!!
------------------------------
จบตอน เล่มนี้เป็นเล่มควบรอไปอีกสองอาทิตย์นะครับสำหรับตอนใหม่...
โดยส่วนตัวแล้ว อ่านตอนนี้เสร็จพีคมาก พีคยิ่งกว่าตอนที่แล้วซะอีก
-โซมะคุง...นายจะหล่อไปแล้ว จะเรียกว่ากล้าหรือบ้าดีล่ะ? แต่ที่แน่ๆชั่วโมงนี้ฉันยกให้นายเท่ที่สุดไปเลย!
-ในฐานะที่ผมเองก็เป็นคนทำงานในสายการทำอาหาร บอกตามตรงว่าผมยอมรับแนวคิดของโคจิโร่ไม่ได้เลย ตั้งแต่เสี้ยมให้นักเรียนแก่งแย่งชิงดีกันตั้งแต่ตอนต้นแล้ว ถึงนี้จะเป็นวิธีการของโทซึกิในการค้นหาคนเก่งที่สุดก็เถอะ แต่ดูๆแล้วสาเหตุของโคจิโร่เนี่ยมาจากอีโก้ของเจ้าตัวล้วนๆเลย เป็นลูกน้องห้ามมามีสิทธิ์เถียงหรืออะไรทั้งนั้น ใครไม่ทำตามที่ฉันสั่งไว้หรือมาอวดฉลาด(แบบที่เมงุมิหาวิธีแก้กับดักดอกกะหล่ำ)ก็ตกไปซะให้หมด ในโลกการทำงานร้านอาหารจริงๆมีเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่การปรับสูตรกระทันหันเพื่อตามใจลูกค้าเองก็มีอยู่บ่อยๆเช่นกัน เพราะยังไงก็ตามคนทำอาหารก็ต้องยึดถือความสุขของคนกินเป็นที่หนึ่ง ไม่ใช่ยึดถืออีโก้ของตัวเองที่กินไม่ได้แบบนี้
-เรามารอดูกันว่าตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้น โซมะจะได้ตบเชฟแว่นไหม? ใครจะมาเป็นกรรมการ? เชฟแว่นจะเก่งขนาดไหน? แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชนะหรือแพ้ น้องแมวกุมิก็โดนโซมะปักธงมิดด้ามไปเรียบร้อยแล้วแน่นอน!!
ป.ล แถม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
<Spoil> Shokugeki no Souma 21 -ลูเซ็ต(สูตรอาหาร)ชั้นเลิศ-
-เปิดตอนมาในเช้าของการทดสอบวันที่สอง พวกโซมะมาเจอกับเชฟชิโนมิยะ โคจิโร่ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารฝรั่งเศส โดยเขาบอกว่าการทดสอบของเขาจะให้นักเรียนทำอาหารที่เขาเป็นคนคิดค้นขึ้นมา โดยเขาจะแจกลูเซ็ต(เรซิพีภาษาฝรั่งเศสหรือสูตรอาหารนั้นเอง)ให้แต่ละคน ซึ่งบรรดานักเรียนตัวประกอบต่างก็พากันกลัวเป็นการใหญ่ เพราะคนคนนี้คือ ชิโนมิยะ โคจิโร่ ที่พึ่งไล่นักเรียนกลับบ้านไปร่วมกว่า30คนเมื่อวาน
(หน้านี้มีการเขียนขอโทษสำหรับ รวมเล่ม1ของเรื่องนี้ที่พึ่งออกไปซึ่งพิมม์มาน้อยและขาดตลาดอย่างรวดเร็ว โดยให้อดใจรอสักนิด พิมม์รอบใหม่จะไปลงร้านค้าต่างๆอย่างรวดเร็วที่สุด)
-แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นคือต้องมาทำอาหารที่เชฟโคจิโร่คิดขึ้นมาซะอีก ซึ่งบรรดาตัวประกอบพอดูจากสูตรแล้วก็รู้ว่ามันคือ อาหารออเดิร์ฟของฝรั่งเศส "เทอรีนผัก9อย่าง" เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยที่มีสีสันสวยงามจากผักเก้าชนิด ซึ่งผักแต่ละชนิดนั้นล้วนแต่มีวิธีการให้ความร้อนที่แตกต่างกันจึงมีจุดที่ต้องระวังแตกต่างกันด้วย อีกทั้งผักแต่ละชนิดต้องมีรสชาติที่สมดุลกันไม่มีรสใดรสหนึ่งเด่นชัดออกมามากกว่าผักชนิดอื่นๆ ซึ่งพอตัวประกอบเห็นเมนูสุดยากแบบนี้แล้วก็ต้องพากันร้องโอดครวญกันเป็นการใหญ่ โคจิโร่เลยเดินเข้ามาบอกว่า สงสัยจานนี้จะง่ายไปล่ะมั้ง ถ้าอยากได้จานที่ยากกว่านี้เขาจะหามาให้ ทำเอาเหล่าตัวประกอบหน้าเสียกันหมด นี้คือจานที่ง่ายแล้วเหรอเนี่ย? ว่าแล้วโคจิโร่ยังได้เสริมไปอีกว่าการทดสอบคราวนี้ให้ทำเดี่ยวเท่านั้น และการถามหรือให้คำปรึกษาใดๆกับคนอื่นถือเป็นเรื่องต้องห้ามในการทดสอบครั้งนี้ แน่นอนว่าเมงุมิหน้าเสียเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น
(เทอรีนเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยฝรั่งเศสชนิดหนึ่ง โดยเป็นการนำเนื้อบดหรือผักบด รวมถึงผักหรือเนื้อเป็นชิ้นๆมาอัดใส่พิมม์สี่เหลี่ยม จากนั้นนำไปให้ความร้อนจนสุก แล้วตัดสไลด์เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ กินกับซอสต่างๆเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย เป็นอาหารที่มีกรรมวิธีและขั้นตอนค่อนข้างที่จะยุ่งยาก)
-โคจิโร่บอกว่าวัตถุดิบต่างๆสามารถไปหาได้ที่หลังครัว และเขาจะให้คำแนะนำที่มีค่าหนึ่งอย่างแก่นักเรียนทุกคนนั้นคือ"จงคิดว่าทุกคนรอบตัวเป็นศัตรูให้หมดซะนั่นแหละคือวิธีที่ฉลาดที่สุด"ว่าแล้วก็ประกาศไทม์ลิมิตว่ามีเวลาสามชั่วโมงให้ทุกคนเริ่มลงมือทำกันได้ บรรดาตัวประกอบก็เลยพากันวิ่งไปแย่งวัตถุดิบกันเป็นการใหญ่
-แถมแย่งกันอย่างเดียวไม่พอยังมีการลงไม้ลงมือชิงวัตถุดิบของคนอื่นๆมาด้วย เมงุมิเองที่โดนลูกหลงไปก็โดนพลักจนล้ม พลางคิดว่าทุกคนเครียดกันเลือดขึ้นหน้ายิ่งกว่าเมื่อวานซะอีก แต่เธอจะยอมแพ้ตอนนี้ไม่ได้ เธอต้องไม่กลัว ว่าแล้วเมงุมิก็ลุกขึ้นแล้วรีบเข้าไปหาวัตถุดิบทันที
-ว่าแล้วเมงุมิที่พยามจนสุดความสามารถก็หาวัตถุดิบมาได้เกือบครบ ซึ่งเธอก็เห็นว่ามีบางส่วนที่เริ่มลงมือทำกันแล้ว เธอจึงรีบไปเอาดอกกะหล่ำที่เป็นวัตถุดิบชิ้นสุดท้ายทันทีแต่ทว่า...
-ดอกกะหล่ำที่เหลืออยู่มีแต่ประเภทสีดำคลำไม่ก็ช้ำแทบจะทั้งนั้น เมงุมิรู้ได้ทันทีเลยว่า เธอใช้ดอกกะหล่ำพวกนี้ทำเทอรีนไม่ได้แน่ๆ เพราะเมื่อเธอนำเอาดอกกะหล่ำพวกนี้ไปต้มสีของมันจะจางลงและทำให้สีสันหลากหลายของผักที่เป็นหัวใจสำคัญของเทอรีนอันนี้จะพลอยหายไปด้วย ว่าแล้วเมงุมิที่ไม่รู้จะทำยังไงก็นึกถึงโซมะขึ้นมาทันทีพร้อมกับกำลังจะไปหาแต่ว่า
-เมงุมินึกขึ้นได้ว่าการสอบนี้ห้ามพูดคุยกัน อีกทั้งเธอจะไม่เอาแต่พึ่งโซมะคุงอีกแล้ว แต่เธอจะผ่านไปให้ได้ด้วยความสามารถของตัวเอง ซึ่งเมงุมิก็คิดทันทีว่ามีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยเรื่องสีของดอกกะหล่ำได้ และแล้วเธอก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
-ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไป โคจิโร่ปรับนักเรียนตกไปหลายคนส่วนโซมะก็ทำเทอรีนออกมาได้ผ่านมาตฐานของโคจิโร่จนผ่าน ว่าแล้วโซมะก็หันไปหาเมงุมิ แล้วก็พบว่าเธอกำลังตั้งอกตั้งใจทำอาหารอยู่ ซึ่งเธออยู่ในขั้นตอนที่กำลังตัดเทอรีนใส่จานเสิร์ฟแล้ว
-ว่าแล้วเมงุมิก็ทำจนเสร็จแล้วเอาไปส่งโคจิโร่ด้วยความมั่นใจทันที แต่พอโคจิโร่ทานแล้วก็ถอนหายใจออกมา
-"ทาโดโคโระ เมงุมิ เธอถูกปรับตก"โคจิโร่เอ่ยออกมาทำให้เมงุมิถึงกับตัวซีด ซึ่งเขาก็ทำท่าไม่ใส่ใจลุกขึ้นแล้วเอ่ยถามทั่วห้องว่าทำกันครบหมดแล้วสินะ คนที่ไม่ผ่านพอกลับโรงแรมแล้วให้ไปเก็บของแล้วลงไปรวมตัวรอกลับบ้านที่ล็อบบี้กันได้เลย ซึ่งเมงุมิที่ยังช็อกอยู่เลยรีบถามโคจิโร่ออกไปทันทีเลยว่า เทอรีนของเธอมันใช้ไม่ได้ตรงไหน ซึ่งโคจิโร่ก็อธิบายว่า เธอใช้น้ำส้มสายชูไวน์สินะ ปกติแล้วเมื่อดอกกะหล่ำเริ่มจะแย่(สีคล้ำเนื่องจากเก็บเอาไว้นาน)วิธีการดึงสีสันออกมาคือการใช้น้ำส้มสายชูไวน์ใส่ลงไปในขั้นตอนที่ลวกดอกกะหล่ำ อีกทั้งเมงุมิยังเพิ่มเติมเรื่องของรสชาติด้วยการใช้น้ำส้มสายชูดึงรสผักออกมาอีก ความหวานของผักกับความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูนั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว ซึ่งเมงุมิที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งติดใจเข้าไปอีกว่าทำไมเธอถึงไม่ผ่าน ทั้งๆที่เธอไม่ได้ทำอะไรผิดพลาดเลย โคจิโร่เลยพูดต่อไปว่า
-"แล้วใครใช้ให้เธอเปลี่ยนสูตรกัน?" ว่าแล้วโคจิโร่ก็เอ่ยออกมาว่า เทอรีนจานที่เขาคิดขึ้นจานนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้เพลิดเพลินกับรสชาติความหวานของผักทั้ง9ชนิด มีส่วนไหนในสูตรบางที่เขียนเอาไว้ว่า "ทำให้มันอร่อยขึ้นด้วยรสเปรี้ยว?" การที่เมงุมิใช้น้ำส้มสายชูปรุงก็ทำให้อาหารจานนี้กลายเป็นอาหารจานอื่นแล้ว เพราะงั้นถ้าเธอทำอาหารจานอื่นมาส่งก็ถือว่าเธอถูกปรับตกโดยอัตโนมัติไม่ใช่รึไง? ว่าแล้วโคจิโร่ก็เดินจากไปแต่ก็โดนโซมะหยุดเอาไว้ก่อน เขาที่ได้ยินคำตอบของโคจิโร่ก็เอ่ยออกมาว่าเขารับไม่ได้หรอก ที่เมงุมิต้องทำแบบนั้นมันเป็นเรื่องจำเป็นเพราะว่ามีผักที่ไม่ได้คุณภาพปนมากับผักที่มีให้เลือกนิ
-ว่าแล้วโซมะก็ถามต่อว่า จุดหมายในการทดสอบครั้งนี้คือการทดลองเป็นพนักงานในร้านของรุ่นพี่โคจิโร่สินะ? เพราะงั้นหน้าที่การดูแลแล้วก็ตรวจสอบคุณภาพของวัตถุดิบที่นำมาใช้กับอาหารหรือการสั่งซื้อวัตถุดิบทั้งหลาย คนที่รับผิดชอบตรงนี้มันเป็นหน้าที่ของเชฟหรือเป็นหน้าที่ของรุ่นพี่ไม่ใช่เหรอ? การที่มีดอกกะหล่ำไม่ได้คุณภาพแบบนี้ปนมาแสดงว่ารุ่นพี่เองก็ทำหน้าที่เชฟพลาดเหมือนกันนิ? ได้ยินโซมะตอกแบบนั้นโคจิโร่เลยทุบโต๊ะทันทีก่อนจะเอ่ยว่า แกคิดว่ากำลังพูดอยู่กับใคร? งั้นฉันจะบอกความจริงให้ก็ได้ สาเหตุที่มีดอกกะหล่ำไม่ได้คุณภาพปะปนเข้ามาก็เพื่อจะได้ลดจำนวนนักเรียนที่สอบผ่านลงยังไงล่ะ!
-ได้ยินแบบนั้นเมงุมิกับคนอื่นๆก็ตะลึงกันทันที ก่อนที่โคจิโร่จะร่ายต่อว่า ดอกกะหล่ำนั้นมีข้อควรระวังอยู่สามอย่างใหญ่ๆ อย่างแรกคือสีคล้ำได้ง่าย,ช้ำได้ง่ายและยากต่อการนำมาใช้ปรุงอาหาร ซึ่งมันเป็นวัตถุดิบที่ต้องมีทักษะและมีความระมัดระวังในการเตรียมเป็นอย่างมาก ดอกกะหล่ำคุณภาพแย่ที่ปนมานั้นส่วนหนึ่งคือเอาไว้หลอกพวกนักเรียนโง่ๆที่ไม่มีสายตาแยกแยะวัตถุดิบดีหรือไม่ดีให้ออก อีกส่วนคือเอามาใช้เป็นกับดักสำหรับคนที่มัวแต่อืดอาดยืดยาดหรือไม่รู้จักแย่งชิงเอาของดีๆมาตั้งแต่แรก ซึ่งโซมะก็เถียงว่าที่เมงุมิทำลงไปก็เป็นการแก้ปัญหาเรื่องดอกกะหล่ำแทนความชักช้าของตัวเองไม่ใช่รึไง? ถึงจะช้าแต่ถ้าสามารถแก้ไขให้ดีขึ้นเหมือนกับปกติและทำเสร็จส่งทันเวลาก็น่าจะผ่านไม่ใช่เหรอ? ได้ยินแบบนั้นโคจิโร่ก็เลยย้ำอีกรอบทันทีว่า
โคจิโร่ - ฉันเป็นเชฟของที่นี้!
โคจิโร่ - แล้วฉันก็ไม่ยอมให้พนักงานใต้คำสั่งของฉันไม่ว่าหน้าไหน...
โคจิโร่ - มาเปลี่ยนสูตรที่ฉันคิดขึ้นเป็นอันขาด!
-ได้ยินแบบนั้นโซมะเลยเริ่มโมโหทันทีก่อนที่โคจิโร่จะเดินเข้ามาหาโซมะแล้วบอกว่า ตอนนี้โซมะยังถือเป็นพนักงานของเขาอยู่ ถ้ากล้าท้าทายกับเขาล่ะก็เขาสามารถใช้อำนาจของเชฟในการปรับให้โซมะตกไปอีกคนก็ได้นะ
โซมะ - นี้แก!
ว่าแล้วเมงุมิก็รีบเข้าไปกอดแขนห้ามโซมะทันที
เมงุมิ - โซมะคุง ไม่เป็นไรจ๊ะ
เมงุมิ - ฉันไม่เป็นไรหรอกนะ โซมะคุงต่างหาก ถ้าเกิดมากกว่านี้เธอจะถูกปรับให้ตกนะ! หยุดเถอะ!
โซมะ - ตอนนี้!ไม่ใช่เวลามาพูดแบบนี้นะ
เมงุมิ - มะ...ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ...
เมงุมิ - ฉะ...ฉันไม่เป็นอะไรหรอก...จริงๆนะ
เมงุมิเอ่ยออกมาพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ตัวนั้นสั่นเทิ้มไม่มีหยุด
ถึงเมงุมิจะยิ้มแต่ในใจของเธอนั้นกำลังร้องไห้อยู่ โซมะดูออกในทันที และน้ำตาของเมงุมินั้นก็เหมือนเป็นสวิตซ์จุดชนวน ความโกรธในตัวของโซมะให้พลุ่กพล่านขึ้นมาทันที
-โซมะเดินตรงรี่เข้าไปหาโคจิโร่อีกรอบ โคจิโร่ก็หันกลับมาถามทันทีว่า"มองซิเอ่อร์ยูกิฮิระ มีอะไรอยากจะบ่นอีกรึไง?" ซึ่งโซมะก็บอกว่าคราวนี้เขาไม่ได้มาเพื่อบ่นหรือต่อว่าอะไรแต่มีเรื่องหนึ่งอยากจะถามให้แน่ใจก่อน กฎของโรงเรียนโทสึกิน่ะ สามารถใช้กับนักเรียนที่จบการศึกษาไปแล้วด้วยก็ได้สินะ? ได้ยินแบบนั้นโคจิโร่ก็เลยถามขึ้นมาว่าโซมะอยากจะพูดอะไรกันแน่โซมะจึงเอ่ยออกไปว่า
โซมะ - รุ่นพี่ชิโนมิยะ...มาดวลโชคุเงคิกัน!
โซมะ - ถ้าฉันชนะนายต้องยกเลิกคำตัดสินที่ปรับตกทาโดโคโระซะ!!!
------------------------------
จบตอน เล่มนี้เป็นเล่มควบรอไปอีกสองอาทิตย์นะครับสำหรับตอนใหม่...
โดยส่วนตัวแล้ว อ่านตอนนี้เสร็จพีคมาก พีคยิ่งกว่าตอนที่แล้วซะอีก
-โซมะคุง...นายจะหล่อไปแล้ว จะเรียกว่ากล้าหรือบ้าดีล่ะ? แต่ที่แน่ๆชั่วโมงนี้ฉันยกให้นายเท่ที่สุดไปเลย!
-ในฐานะที่ผมเองก็เป็นคนทำงานในสายการทำอาหาร บอกตามตรงว่าผมยอมรับแนวคิดของโคจิโร่ไม่ได้เลย ตั้งแต่เสี้ยมให้นักเรียนแก่งแย่งชิงดีกันตั้งแต่ตอนต้นแล้ว ถึงนี้จะเป็นวิธีการของโทซึกิในการค้นหาคนเก่งที่สุดก็เถอะ แต่ดูๆแล้วสาเหตุของโคจิโร่เนี่ยมาจากอีโก้ของเจ้าตัวล้วนๆเลย เป็นลูกน้องห้ามมามีสิทธิ์เถียงหรืออะไรทั้งนั้น ใครไม่ทำตามที่ฉันสั่งไว้หรือมาอวดฉลาด(แบบที่เมงุมิหาวิธีแก้กับดักดอกกะหล่ำ)ก็ตกไปซะให้หมด ในโลกการทำงานร้านอาหารจริงๆมีเรื่องที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้แต่การปรับสูตรกระทันหันเพื่อตามใจลูกค้าเองก็มีอยู่บ่อยๆเช่นกัน เพราะยังไงก็ตามคนทำอาหารก็ต้องยึดถือความสุขของคนกินเป็นที่หนึ่ง ไม่ใช่ยึดถืออีโก้ของตัวเองที่กินไม่ได้แบบนี้
-เรามารอดูกันว่าตอนหน้าจะเกิดอะไรขึ้น โซมะจะได้ตบเชฟแว่นไหม? ใครจะมาเป็นกรรมการ? เชฟแว่นจะเก่งขนาดไหน? แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชนะหรือแพ้ น้องแมวกุมิก็โดนโซมะปักธงมิดด้ามไปเรียบร้อยแล้วแน่นอน!!
ป.ล แถม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้