[Spoil] Shokugeki no Soma - 12

กระทู้สนทนา
ต่อจากตอนที่แล้ว ข่าวเรื่องการดวลระหว่างอิคุมิ(พวกนักเรียนเรียก นิคุมิ)กับด้งเคนเริ่มกระจายไปทั่วที่จะแข่งกันวันนี้ และยังรู้ว่าคนที่ดวลกับอิคุมิก็คือโซมะ ด้านคานิจิก็เตรียมวัตถุดิบกับเครื่องครัวที่จำเป็นในการดวลเรียบร้อยแล้วทุกอย่างตามที่โซมะบอก โซมะก็ขอบคุณ


คานิจิถามโซมะว่าได้นอนสักหน่อยรึยังเพราะเห็นทดลองทำซอสจนเช้าเลย โซมะบอกเขาไม่เป็นไร ผิดกับทางเมงุมิที่ตื่นกลัวเพราะเห็นคนมาอย่างเยอะแต่ก็ไปบอกโซมะอีกว่าอย่าตื่นเต้นให้ใจเย็นๆ แถมยังบอกอีกว่าเวลาแบบนี้ต้องเขียนคันจิคำว่าคนบนฝ่ามือ โซมะเลยบอกงั้นตอนนี้เมงุมิก็กลืนเองเลยดีกว่านะ เมงุมิถามโซมะว่าไม่กระวนกระวายมั้งเลยเหรอเพราะจะต้องไปทำอาหารต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ บอกเลยว่าถ้าเป็นเธอล่ะก็... โซมะบอกไม่เห็นจะมีอะไรเลยถ้าเทียบกับที่ต้องมายืนทำต่อหน้าลูกค้ามากมายในร้านชื่อของตัวเอง แค่นี้ไม่เห็นน่าตื่นกลัวเลยสักนิด


ตอนนั้นไฟก็ดับลง ที่เวทีก็มีพิธีกรนักเรียนหญิงคนหนึ่งเริ่มกล่าวเปิดการดวลโดยบอกเป็นการดวลที่ได้รับการยอมรับจากฝ่ายโชคุเงคิอย่างเป็นทางการแล้วและก็เริ่มเปิดการแข่ง พวกนักเรียนชาติก็เชียร์ให้พิธีกรกันใหญ่จนผู้หญิงหมั่นไส้ กรรมการมี 3 คน เมนูคือข้าวราดหน้า วัตถุดิบหลักคือเนื้อ และพิธีกรก็ประกาศให้ทั้งสองฝ่ายขึ้นมาบนเวทีได้เลย


เสียงเชียร์ก็ดังลั่นโดมทันที และผู้ที่เข้ามาก่อนคนแรกก็คือเจ้าแห่งเนื้อ...


มิโตะ อิคุมิ (เมื่อสองตอนก่อนคนแปล Eng อ่านชื่อผิดไปนิดหน่อย) ทันทีนั้นพวกนักเรียนชายก็ยิ่งเฮดังยิ่งกว่าตอนพิธีกรพูดจนสาวพิธีกรแอบมีหมั่นไส้ และก็เชิญให้โซมะเข้ามาต่อ


ทันทีที่พวกโซมะเข้ามาทุกคนก็โหด่ากันใหญ่ ถึงโซมะจะเฉยไม่รู้สึกอะไรแต่คานิจิกับเมงุมิกลัวจนเกาะโซมะไม่ปล่อยกันเลย พวกนักเรียนต่างยังเคืองที่โซมะพูดไว้ตอนพิธีเปิดไม่หายและยังพูดเลยว่าถ้าดวลกับอิคุมิแบบนี้ผลก็เห็นๆอยู่แล้วจนคิดว่าโซมะต้องถูกไล่ออกแน่ คานิจิเห็นจำนวนคนดูแล้วก็ทำให้นึกถึงตอนที่เขาดวลโชคุเงคิกับชุมนุมวิจัยทาจิงุอิโซบะขึ้นมาเลย ตอนนั้นอย่าว่าแต่พิธีกรเลยคนดูก็ไม่มีสักคน มีเพียงหมาจรจัดที่ตามกลิ่นอาหารมาเท่านั้น


แต่คานิจิไม่เข้าใจที่ทุกคนโหด่าโซมะกันใหญ่เพราะคานิจิรู้แค่ว่าโซมะเป็นนักเรียนที่ย้ายเข้ามาเรียนเมื่อไม่กี่วันก่อนเองแล้วทำไมถึงต่างพากันเกลียดขนาดนี้ โซมะก็บอกไม่รู้เหมือนกันบอกเขาก็ธรรมดาๆเอง ส่วนเมงุมิที่รู้อยู่แต่เพราะความตื่นกลัวก็เลยไม่ได้ตอบให้คานิจิเลย และเมื่อทั้งสองฝ่ายขึ้นเวทีแล้วพิธีกรก็ขอทวนเงื่อนไขของการดวลอีกครั้ง ถ้าอิคุมิชนะชุนนุมข้าวราดหน้าจะถูกยุบและโซมะจะถูกไล่ออก แต่ถ้าโซมะชนะชุมนุมก็จะได้งบประมาณเพิ่ม ห้องชุมนุมจะได้กว้างขึ้นรวมถึงอุปกรณ์เครื่องครัวที่จะมีมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นคือ อิคุมิต้องเข้าชุมนุมนี้ด้วย อิคุมิก็พูดกับโซมะเลยว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอได้พูดกับโซมะ บอกโซมะเลยว่าจะมีอะไรทิ้งทวนก็ว่ามาเลย โซมะบอกใช่เหรอ แต่เขาจะขอพูดกับอิคุมิทีหลังที่ห้องชุมนุมดีกว่า


อิคุมิก็เลยหมั่นไส้ ตอนนั้นทั้งสองคนก็เห็นเอรินะเข้ามายังที่นั่งพิเศษ ทุกคนก็ตกใจที่เห็นเอรินะมาดูโชคุเงคิที่ไม่ค่อยสำคัญอย่างคราวนี้ด้วยแต่ก็คิดว่านั้นเพราะอิคุมิเป็นคนของเอรินะรึเปล่า คานิจิยังแปลกใจด้วยเหมือนกันที่เอรินะสนใจมาดู ทางอิคุมิก็คิดว่าเอรินะมาดูเป็นการส่วนตัวแบบนี้....


อิคุมิก็รู้สึกปลื้มใจ พอพวกเมงุมิไปนั่งที่ข้างเวทีแล้วพิธีกรก็บอกให้ทั้งสองฝ่ายไปที่ครัวได้ และกล่าวเริ่มการแข่งขัน


เริ่มปุ๊บอิคุมิก็ใช้รถลากแขวนเนื้อเข้ามาบอกโซมะเลยว่าเธอจะแสดงให้ดูถึงเนื้อที่โซมะจะไม่มีทางได้เห็นอีกตลอดชีวิต บอกเลยว่าเป็นสุดยอดที่สุดของเนื้อ คานิจิเห็นก็คิดว่าอย่างที่คิดที่อิคุมิใช้เนื้อ A5 จริงๆ แล้วอิคุมิก็เริ่มหั่นเนื้อ พวกนักเรียนที่ดูเห็นก็รู้เลยว่าอิคุมิใช้มีดใหญ่แบบที่คนขายเนื้อใช้หั่นเอาเนื้อคุณภาพต่ำทิ้งไป


เหลือเพียงเนื้อลายหินอ่อนที่แม้แต่พวกนักเรียนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อก็ยังมันเงาสุดยอด อิคุมิลองตรวจสอบคุณภาพเนื้ออย่างปราณีตอีกครั้งและเห็นว่าดีเลยทีเดียว เนื้อผ่านกระบวนการถนอมอาหารดี ความอร่อยโดยรวมอย่างกรดกรูตามิคเพิ่มขึ้นจนเริ่มได้กลิ่นหอมหวานจนจมูกเธอได้กลิ่นหวานที่เจือจาง เป็นอย่างที่เธอต้องการ สมบูรณ์แบบ จากนี้เธอก็จะทำอาหารด้วยเนื้อที่ดีที่สุดนี้ด้วยความสามารถอย่างดีที่สุดของเธอ


อันดับแรกอิคุมิเอาไปย่างในกะทะทั้งชิ้นจนผิวรอบๆเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลโดยตักเนยที่ละลายในกะทะราดกระจายให้ทั่วชิ้นเนื้อด้วย ทำเอาพิธีกรที่ได้กลิ่นหอมๆของเนยจนชวนให้รู้สึกหิวขึ้นมาเลย ด้วยวิธีการนี้จะทำให้เกิดกำแพงห่อหุ้มน้ำในเนื้อได้ จากนั้นก็เอาเข้าเตาอบอบให้ความร้อนเข้าถึงภายในเนื้อแบบทั้งชิ้น ระหว่างนี้อิคุมิก็หันไปดูโซมะว่าเป็นยังไงบ้าง ทางพิธีกรก็ไปดูทางครัวโซมะเช่นกัน


เห็นว่าโซมะสับหัวหอมเสร็จพอดีและเห็นโซมะกำลังหยิบเนื้อออกมาจากถุงและสงสัยเลยว่าจะเป็นเนื้อแบบไหนที่โซมะจะเอามาต่อกรกับเนื้อวัวญี่ปุ่นระดับ A5 ของอิคุมิได้ แต่พอทุกคนเห็นถุงเขียนว่า "ซุปเปอร์มาเก็ตลดราคาสุดๆ ถูกแน่นอน เซนได" ทุกคนก็เริ่มทำหน้าอย่างงง ยิ่งพอเห็นเนื้อที่โซมะเอาออกมาเป็นเนื้อห่อแพ็ค "เนื้อสเต็กส่วนสะโพกติดป้ายลดครึ่งราคาจากราคา 700 เยน(350 เยน)" ทั้งอิคุมิกับพิธีกรถึงกับตกใจพูดไม่ออก โซมะก็ยังมีหน้าพูดอีกว่า...

โซมะ: ได้ของลดราคาเหรอเนี้ย
โซมะ: โชคดีแฮะ
(*จากตอนที่แล้วโซมะจ่ายค่าวัตถุดิบเอง)


พวกนักเรียนที่ดูก็เลยยิ่งโหด่ากันใหญ่จนพิธีกรขอร้องอย่าขวางของลงมาด้วยความโกรธแบบนี้ คานิจิยังคิดเลยว่าแบบนี้จะไม่เป็นไรเหรอ เมงุมิก็พูดไม่ออกเหมือนกัน อิคุมิก็พูดเลยว่าก็สมแล้วอย่างโซมะควรใช้เนื้อขายเหลือไปนั้นแหละดีแล้ว แล้วอิคุมิก็เอาเนื้อออกจากเตาและลองใช้เข็มจิ้มดูก็เห็นว่าน้ำในเนื้อทะลักออกมาจากรูที่จิ้มทันที


พอลองเอาเข็มนั้นแตะริมฝีปากอิคุมิก็รู้ได้ถึงอุณหภูมิที่แม่นยำได้ว่า 65 องศา เป็นอันเรียบร้อยโดยเธอก็จะใช้อลูมิเนียมฟอยล์ห่อไว้แล้วทิ้งไว้สักครู่แล้วจึงนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ด้านเอรินะลองถามเลขาว่ารู้มั้ยว่าอิคุมิทำอาหารโดยใช้อะไรช่วยวัด เลขาก็บอกคงเป็นแรงที่จับโดยตรงบนเนื้อ เอรินะบอกนั้นก็ถูกแต่ที่แท้จริงแล้วก็คือ ความรู้สึก


ริมฝีปากของมนุษย์จะไวต่อการรับรู้ความร้อน และยิ่งริมฝีปากของอิคุมินั้นสามารถวัดอุณหภูมิได้แม่นยำโดยเฉพาะยิ่งเป็นเนื้อก็ยิ่งเปร่งประกาย นิ้วของอิคุมิเองก็สัมผัสเนื้ออย่างนุ่มนวลด้วยความรักราวกับนักเปียโนที่กำลังเล่นโซโล่อย่างงดงาม อิคุมิคิดเลยว่าเธอจะต้องนำชัยชนะนี้มอบให้แก่เอรินะให้ได้ ตอนนั้นอิคุมิได้ยินโซมะกำลังตั้งกะทะก็เลยหันไปถามว่ายังอยู่อีกเหรอ


บอกโซมะเงียบซะจนสงสัยเลยว่าความดุดันเมื่อสามวันก่อนหายไปไหนหมดแต่โซมะเงียบไม่พูดอะไร อิคุมิเลยบอกอย่างน้อยก็ตอบหน่อย ขี้อายเหรอไง โซมะก็เลยพูดว่าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรเพราะข้าวราดหน้าของเขาสุดท้ายจะพูดออกมาเอง และบอกอีกว่านอกจากนี้ก็เป็นเรื่องที่รู้ๆกันถึงความสามารถของคนครัวว่ายิ่งพูดมากในครัวก็ยิ่งเชื่อถือไม่ได้ บอกเลยว่าไม่รู้เหรอไง อิคุมิโดนย้อนแบบนี้ก็มีเริ่มโกรธ


พูดเลยว่าล้อเธอเล่นเหรอไง แต่ตอนนั้นกลิ่นจากกะทะของโซมะก็ทำเอาอิคุมิเกิดอาการสะดุ้งจนคิดเลยว่าโซมะทำอะไรอยู่กันแน่


แล้วก็มีเสียงเตือนเวลากำลังหมดลงให้เริ่มจัดจานได้ ไม่นานระฆังบอกหมดเวลาก็ดังขึ้น ถึงเวลาเริ่มการตัดสินพิธีกรก็แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายนำอาหารของตัวเองมาตรงหน้าได้เลย


จบตอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่