อยากทราบว่า "การที่ CP ถือหุ้นใหญ่ MAKRO จะมีผลกระทบต่อร้านค้าปลีกรายย่อย(โชว์ห่วย)หรือไม่?"

ได้ข่าวมาเมื่อสองสามวันที่แล้วว่า CP ได้ซื้อหุ้น makro และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เรียบร้อย
จึงอยากรู้ว่า จะมีผลกระทบทั้งด้านดีและด้านไม่ดีกับร้านค้าโชว์ห่วยอย่างไรบ้าง
เพราะที่บ้านเราก็มีอาชีพขายของ เป็นขายปลีกที่ส่วนใหญ่รับสินค้าจาก makro

ได้ข่าวมา(อีกแล้ว)ว่า ไม่แน่ในอนาคต makro จะเปิดห้างค้าปลีกด้วย
ณ จุดนี้ แค่เซเว่นมาดักเปิดใกล้ๆร้านค้าเรา เราก็แย่จะตายอยู่แล้ว

เฮ้อ อยากให้บ้านเรามีกฏหมายเหมือนต่างประเทศ ที่เขามีการจัดโซนให้ห้างอย่างพวกโลตัส บิ๊กซี ให้อยู่ในโซนตัวเมือง
เพื่อช่วยประชาชนที่มีอาชีพค้าปลีกรายย่อยให้พวกเขาอยู่ได้ เศร้า
แต่ประเทศไทยน่ะหรอ....อยากเปิดตรงไหนก็เปิด จนคนทำโชว์ห่วยเจ๊งกันไปตามๆกัน T_T

เมื่อก่อน makro จะสนับสนุนร้านค้าโชว์ห่วย...แต่ต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร?
โชว์ห่วยจะโดนการแข่งขันทางการตลาดมากขึ้นหรือไม่?
โชว์ห่วยควรรับมือกับปัญหานี้อย่างไร...แล้วถ้าสู้ไม่ไหว ฉันจะทำอะไรกิน T________T
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 21
เมื่อซื้อ MAKRO ได้ :
-  อำนาจต่อรองต่อผู้ผลิตจะสูงขึ้นมาก  ซื้อของได้ในราคาเดียวกับที่แมคโครซื้อ  แต่ขายแพงกว่าแมคโครขายแค่สัก 1 %ซึ่งยังถูกกว่าห้างและโชห่วย,  กำไร/ปีไม่รู้เท่าไหร่แล้ว  เพราะขายส่งนี่สินค้า 1 ชิ้นขายไม่รู้กี่ครั้ง/ปี  ใครที่คิดว่าต่อไปจะซื้อสินค้าแมคโครได้ถูกลงเลิกคิดได้   ดูราคาไข่ไก่ก็รู้แล้ว  ไข่ไทยแพงกว่าอเมริกา
-  ของสดและสินค้าทางการเกษตรทั้งหมดที่ ซีพี ผลิตได้  จะมีช่องทางจำหน่ายมากขึ้นทั้งในและต่างประเทศ  และจะแพงกว่าเดิม  เพราะเดิม  แมคโครซื้อจากเกษตรกรโดยตรง  ราคาจะถูกกว่า

เกษตรกรรายย่อยจะแย่  ตลาดที่จะระบายสินค้าลดลงเพราะถูกซีพีแย่งหมด

ทั้งหมดนี้คือการผูกขาด  ผู้รับเคราะห์คือเกษตรกรรายย่อยและผู้บริโภค

กฎหมายจำกัดโซนก็ดี    แต่ที่ดีกว่านั้นคือกฎหมายป้องกันการผูกขาด  ทุกวันนี้เรามีกฎหมายนี้  แต่ไม่มีบทลงโทษ
ก็คือผูกขาดน่ะผิดแต่ทำอะไรไม่ได้

ยังมีสินค้าอีกมากที่เราซื้อของแพงกว่าชาวโลกแต่ทำอะไรไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่