ขอใครสักคนมาค้านแบบบอกว่าไม่จริงสักคนด้วยเถอะครับ ขอแค่คนเดีียวก็พอ หล่ออยากเงิบ

กระทู้สนทนา
เรื่องพฤติกรรมของศาลรัฐธรรมนูญครับ

1. กรณีคุณสมัคร    ศาลบอกว่า
"ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 267  ที่ห้ามรัฐมนตรีหรือนายกรัฐมนตรีเป็นลูกจ้างบริษัทที่แสวงหากำไร
เพื่อให้ทำหน้าที่โดยชอบ ไม่ขัดต่อผลประโยชน์ และขาดจริยธรรมระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับสาธารณะ
ดังนั้น กรณีจึงไม่ใช่การแปลคำว่าลูกจ้าง ตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น

รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายที่กำหนดหลักเกณฑ์การปกครองประเทศ และพื้นฐานการดำเนินการของรัฐ
ดังนั้น คำว่าลูกจ้างตามความหมายของรัฐธรรมนูญ จึงมีความหมายกว้างกว่ากฎหมายอื่น
นอกจากนี้ ตามพจนานุกรมได้ให้ความหมายคำว่า "ลูกจ้าง" ว่าหมายถึง ผู้รับจ้างทำการงาน ผู้ซึ่งนายจ้างตกลงให้ทำงาน
โดยไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไรก็ตาม"
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=315066

แล้วก็ปลดคุณสมัครออกจากตำแหน่งนายกฯ
ค้านให้ฟังหน่อยครับ  ว่าคำพิพากษานี้มันเข้าท่า  มันปกติ  มันเหมือนมนุษมนาเขาคิดเขาทำกัน
คิดได้ไง  ไปเอาพจนานุกรมมาตีความอ้างถึงรัฐธรรมนูญ
แบบนี้ไม่ต้องมีกฎหมายลูกครับ  ไม่ต้องมีเลย  เพราะพจนานุกรมเล่มเดียวก็ตีความเข้ากับรัฐธรรมนูญได้ทุกเรื่อง

คนจะผิด  เมื่อกฎหมายบัญญัติไว้่ว่าผิด   เมื่อกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ย่อมไม่ผิด
ไม่ใช่กฎหมายแพ่งและพาณิชย์เล่นไม่ได้  ก็ใช้พจนานุกรมนี่แหละว่ะ


2. เรื่องแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชาของคุณนพดล
รัฐธรรมนูญมาตรา 190  บัญญัติไว้ว่า  
"หนังสือสัญญาใดมีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต
ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ
หรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ
หรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ
ต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา ในการนี้ รัฐสภาจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องดังกล่าว"

อ่านรัฐธรรมนูญจนปวดตับ  ก็ชัดเจนครับว่าอะไรเป็นอะไร   ไม่มีคำว่า "อาจ" ในบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ

ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าคุณพนดลผิด   อย่างนี้ครับ

http://www.praviharn.net/images/stories/SanRutTumNoo/SRTN_All.pdf

ศาลรัฐธรรมนูญเติมคำว่า "อาจ" เข้าไปได้อย่างไร
กฎหมายบัญญัติไว้ชัดเจน  ไม่มีคำว่า "อาจ"   แต่เพื่อเอาผิด  ศาลรัฐธรรมนูญจึงผลิตรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมายังงั้นเหรอ

ค้านผมหน่อยเถอะครับ  ว่าแบบนี้ก็เป็นเรื่องปกติที่ศาลทำได้


3. เรื่องรับคำร้องมาตรา 68
ทั้ง ๆ ที่ศาลรัฐธรรมนูญก็ระบุไว้เองว่า  ต้องยื่นผ่านอัยการสูงสุด
(ตลกและน่าสมเพชครับ  ตามเดิมนั้น  เว็บไซท์ของศาลรัฐธรรมนูญ  หัวข้อการใช้สิทธิต่อศาลรัฐธรรมนูญ
ในเรื่องมาตรา 68   ระบุไว้ว่าผู้มีสิทธิยื่นคำร้องคืออัยการสูงสุด
แต่พอศาลตีความแบบมั่วซั่ว  ก็มีการเพิ่มเติมเข้าไปในหัวข้อ  ระบุว่าผู้มีสิทธิ์ยื่นคำร้องคือ อัยการสูงสุดและประชาชน
คลิกดูได้ที่เว็บไซท์ศาลเลยครับ   มันตลกและน่าสมเพชจริง ๆ )
และบันทึกการประชุมของ สสร.2550  ก็บันทึกไว้ชัดเจนว่ารัฐธรรมนูญมีเจตนารมย์ให้ยื่นคำร้องผ่านอัยการสูงสุด
แต่พอสภาฯ จะแก้รัฐธรรมนูญ   ก็มี "ขาประจำ" ไปยื่นคำร้องว่าเป็นการล้มล้างรัฐธรรมนูญต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง
ศาลก็รับ   รับแล้วก็อธิบายแบบกฎหมายกลายเป็นกฎหมาไปเลย
ถามมากเข้า  ก็ไล่ให้ไปอ่านรัฐธรรมนูญไทยฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษ

บอกผมหน่อยเถอะครับ  ค้านผมหน่อยเถอะครับ   ว่าไม่บ้าหลุดโลก


4. เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญของสภานิติบัญญัติ
เขาจะแก้มาตรา 291  เพื่อหา สสร. มาแก้รัฐธรรมนูญ
(เรื่องนี้  นายวสันต์  ประธานศาลรัฐธรรมนูยก็เคยให้ความเห็นไว้ว่า ตั้ง สสร. แก้ไขได้เลย  ง่ายจะตาย  ไม่ยุ่งยากอะไร)
ศาลรัฐธรรมนูญก็บอกว่า  ควรแก้ไขเป็นรายมาตรา
พอเขาจะแก้ไขเป็นรายมาตรา  ก็รับคำร้องอีกแล้ว   คนไปยื่นคำร้องก็ "ขาประจำ" นั่นแหละครับ

การสร้างรัฐธรรมนูญ  การแก้ไขรัฐธรรมนูญ  มันเป็นอำนาจหน้าที่ของสภานิติบัญญัติ
ศาลรัฐธรรมนูญเองก็ต้องปฏิบัติรัฐธรรมนูญที่สภานิติบัญญัติสร้างขึ้นมา
ไม่ใช่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นพ่อทุกสถาบัน  เป็นบิดารัฐธรรมนูญที่จะกำหนดว่าต้องยังงั้นยังงี้
มันเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ที่ผิดกฎหมาย  ขัดรัฐธรรมนูญ  ไร้ความรับผิดชอบ  หลงอำนาจ

บอกผมหน่อยเถอะ   ค้านผมหน่อยเถอะ   ว่าศาลรัฐธรรมนูญทำถูก  ทำควร  ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติไว้


แค่สี่เรื่องนี้ครับ   ไม่นับพฤติกรรมว่อก ๆ แว่ก ๆ  อื่น ๆ
อย่างเช่นเรื่องคลิปที่นายพสิษฐนำมาเผยแพร่  
(พิลึกนะครับ  เรื่องนี้แทนที่จะตรวจสอบว่าเป็นจริงตามคลิปไหม  กลับจะเล่นงานคนเอาความจริงมาเผยซะงั้น)

เอะอะ  ศาลรัฐธรรมนูยก็บอกว่า  มีคนจ้องทำลายความน่าเชื่อถือของตัวเอง
อยากบอกว่า  พวกท่านไม่มีความน่าเชื่อถือหรอกครับ   หาคนเชื่อถือพวกท่านยากเต็มที
จะมีก็พวกขาประจำเท่านั้นแหละ  ที่ความจริงแล้วผมก็ว่าเขาไม่ได้เชื่อถือท่านหรอก  
แต่เพราะเขาเห็นว่าท่านกำจัดคู่แข่งทางการเมืองให้เขาได้เท่านั้นเอง
เลยทำทีว่าพวกท่านน่าเชื่อถือ  
ฉะนั้น  เลิกพูดเรื่องความน่าเชื่อถือซะเหอะ
ส่องกระจกบ้าง

นายจรัญ  ภักดีธนากุล  บอกว่า  เหมือนนักมวยไล่ต่อยกรรมการ
ไม่อยากด่าครับ  สมเพช  ทุเรศทุรัง
อยากบอกเพียงว่า  นายจรัญนี่   "ไม่สำนึก"  ซะเลย


เมื่อย
จบ
แบบหล่อ ๆ
อมยิ้ม01
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่