คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
สภาพทางการเงินน่าเป็นห่วงมาก ๆ ครับ พร้อมจะล้มละลายได้ทุกเมื่อ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
ผมว่าจริงๆ แล้ว 10 ล้านคุณควรเก็บไว้ต่อไป แล้วหาทางลงทุนในหุ้นที่ดี ๆ อย่าง HMPRO / INTUCH
น่าจะทำให้ 10 ล้านนี้ โตขึ้นอย่างน้อย 10-30% ต่อปี ซึ่งมากพอที่จะใช้จ่ายอย่างพอเพียงและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในเมื่อคุณได้เปิดเผยเรื่องเงินเก็บนี้แล้ว ประกอบกับพี่ทั้งสองเคยช่วยเหลือคุณมาตลอด ก็อาจไม่มีทางเลือกอื่น
ในส่วนของหนี้สิน ที่เยอะมาก ๆ ผมคิดว่าจากที่พี่ ๆ ต้องการให้คอนโดสร้าง passive income ในระยะยาว
แต่ตามตัวเลขที่คุณบอกมา ผมกลับเห็นว่า เฉพาะ 3 ห้องที่ผ่อนธนาคารอยู่ ต้องหาเงินจากแหล่งอื่นไปจ่าย
อีกประมาณ 21,000 ต่อเดือนด้วยซ้ำ (ผ่อน 25,000 แต่ ได้ค่าเช่า 18,000 ต่อเดือนห้อง)
นอกจากนี้ตัวคอนโด ยังมี hidden cost เช่นค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา และความเสี่ยงที่ไม่มีผู้เช่าในช่วงเวลาที่หมดสัญญา
ตามความเห็นผม ผมว่าน่าจะขายดาวน์คอนโดชุดที่กู้ไม่ผ่านทั้งหมด ซึ่งผมคาดว่าจะได้ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท (หากผ่อนดาวน์ครบแล้ว)
แล้วเอาเงินไปดาวน์บ้านใหม่ ในขนาดและราคาพอเหมาะ น่าจะดีกว่าการเช่าอยู่เดือนละ 40,000 ครับ และผมมองว่าการซื้อต่อในราคา 25 ล้าน มันสูงเกินไป และเกินความจำเป็น เพราะพี่ๆ คุณก็มีที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว
จากนั้นเอาเงิน 10 ล้านไปลงทุน กระจายตามกองทุนที่ปันผลสูง และอาจแบ่งมาลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อให้เงินต้นงอกเงยได้ทันเงินเฟ้อ
และเพียงพอต่อในการผ่อนบ้านใหม่ และค่าใช้จ่ายของครอบครัวคุณครับ
หากการลงทุนให้ผลตอบแทนได้สูงมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ก็แบ่งไปชำระคืน OD และคืนญาติๆ ด้วยครับ
ผมเคยเป็นหนี้หลายๆ ล้านมา แม้ในช่วงเวลาไม่นาน ผมบอกได้เลยว่า มันไม่ได้มีความสุขเลยครับ ดอกเบี้ยเดินตลอดทุกวันไม่มีวันหยุด
วันที่ผมโปะหนี้หมด กลับมานอนหลับสบาย
ดังนั้นผมว่าอย่ามีหนี้เพิ่มเลยครับ
ผมว่าจริงๆ แล้ว 10 ล้านคุณควรเก็บไว้ต่อไป แล้วหาทางลงทุนในหุ้นที่ดี ๆ อย่าง HMPRO / INTUCH
น่าจะทำให้ 10 ล้านนี้ โตขึ้นอย่างน้อย 10-30% ต่อปี ซึ่งมากพอที่จะใช้จ่ายอย่างพอเพียงและเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ
แต่ในเมื่อคุณได้เปิดเผยเรื่องเงินเก็บนี้แล้ว ประกอบกับพี่ทั้งสองเคยช่วยเหลือคุณมาตลอด ก็อาจไม่มีทางเลือกอื่น
ในส่วนของหนี้สิน ที่เยอะมาก ๆ ผมคิดว่าจากที่พี่ ๆ ต้องการให้คอนโดสร้าง passive income ในระยะยาว
แต่ตามตัวเลขที่คุณบอกมา ผมกลับเห็นว่า เฉพาะ 3 ห้องที่ผ่อนธนาคารอยู่ ต้องหาเงินจากแหล่งอื่นไปจ่าย
อีกประมาณ 21,000 ต่อเดือนด้วยซ้ำ (ผ่อน 25,000 แต่ ได้ค่าเช่า 18,000 ต่อเดือนห้อง)
นอกจากนี้ตัวคอนโด ยังมี hidden cost เช่นค่าส่วนกลาง ค่าบำรุงรักษา และความเสี่ยงที่ไม่มีผู้เช่าในช่วงเวลาที่หมดสัญญา
ตามความเห็นผม ผมว่าน่าจะขายดาวน์คอนโดชุดที่กู้ไม่ผ่านทั้งหมด ซึ่งผมคาดว่าจะได้ประมาณเกือบ 2 ล้านบาท (หากผ่อนดาวน์ครบแล้ว)
แล้วเอาเงินไปดาวน์บ้านใหม่ ในขนาดและราคาพอเหมาะ น่าจะดีกว่าการเช่าอยู่เดือนละ 40,000 ครับ และผมมองว่าการซื้อต่อในราคา 25 ล้าน มันสูงเกินไป และเกินความจำเป็น เพราะพี่ๆ คุณก็มีที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว
จากนั้นเอาเงิน 10 ล้านไปลงทุน กระจายตามกองทุนที่ปันผลสูง และอาจแบ่งมาลงทุนในตลาดหุ้น เพื่อให้เงินต้นงอกเงยได้ทันเงินเฟ้อ
และเพียงพอต่อในการผ่อนบ้านใหม่ และค่าใช้จ่ายของครอบครัวคุณครับ
หากการลงทุนให้ผลตอบแทนได้สูงมากกว่าค่าใช้จ่ายที่จำเป็น ก็แบ่งไปชำระคืน OD และคืนญาติๆ ด้วยครับ
ผมเคยเป็นหนี้หลายๆ ล้านมา แม้ในช่วงเวลาไม่นาน ผมบอกได้เลยว่า มันไม่ได้มีความสุขเลยครับ ดอกเบี้ยเดินตลอดทุกวันไม่มีวันหยุด
วันที่ผมโปะหนี้หมด กลับมานอนหลับสบาย
ดังนั้นผมว่าอย่ามีหนี้เพิ่มเลยครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
เรื่องธุรกิจ เราไม่ทราบรายได้ของคุณ แต่ฟังจาก จขกท เล่ามาดูแล้วตึงอยู่ เรื่องเงิน 10 ล้านน่าจะเก็บไว้เผื่อฉุกเฉินนะคะ ด้วยอายุพี่สาวก็มิใช่น้อย คุณเองมีบุตร 4 คนด้วย
เรามีลูก 2 คนนะ อายุ 27 มีรายได้หักค่าใช้จ่าย 6 หลักต่อวัน ไม่ได้พิมผิด ต่อวันจริงจริง ไม่มีหนี้ แต่กลัวความไม่แน่นอนว่าจะมีเงินส่งเสียตลอดจนจบมหาลัยรึเปล่า. จึงกันเงินสด เงินเย็น 20 ล้านออกมาซื้อหุ้นกู้ 10 ปี แล้วเอาดอกมาจ่ายค่าเทอม ดอกตรงนี้ไม่มีความจําเป็นต้องใช้จ่ายเรื่องอื่น เชื่อมั้ยคะ เอาแค่จบ ม.6 ดอกเบี้ยจ่ายค่าเทอม เอาอยู่โดยไม่รบกวนเงินต้นเลย แถมมีทอน ค่าเทอมจบ grade 12 10,800,000 แต่ดอกเบี้ยออกมาแบบไม่ทบต้น 12 ล้าน. สรุป ต้นครบ ดอกเหลือ เรียนฟรี
แต่ถ้าเราคิดว่า เอาเงินมาหมุนก่อน แล้วค่อยทยอยจ่ายมันก็ได้นะคะ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณรับความเสี่ยงกับมันได้ไหม เจ้าก้อน 10 ล้านของ จขกท นั่นล่ะ เรื่องอนาคตลูกเราไม่เสี่ยงนะคะ ลองทบทวนดีดีค่ะ อยากให้มีความสุข ถ้าพี่สาวยอมขายดาวน์คอนโดที่กู้ไม่อนุมัติ จะดีมากเลย
เป็นกําลังใจให้นะคะ
เรามีลูก 2 คนนะ อายุ 27 มีรายได้หักค่าใช้จ่าย 6 หลักต่อวัน ไม่ได้พิมผิด ต่อวันจริงจริง ไม่มีหนี้ แต่กลัวความไม่แน่นอนว่าจะมีเงินส่งเสียตลอดจนจบมหาลัยรึเปล่า. จึงกันเงินสด เงินเย็น 20 ล้านออกมาซื้อหุ้นกู้ 10 ปี แล้วเอาดอกมาจ่ายค่าเทอม ดอกตรงนี้ไม่มีความจําเป็นต้องใช้จ่ายเรื่องอื่น เชื่อมั้ยคะ เอาแค่จบ ม.6 ดอกเบี้ยจ่ายค่าเทอม เอาอยู่โดยไม่รบกวนเงินต้นเลย แถมมีทอน ค่าเทอมจบ grade 12 10,800,000 แต่ดอกเบี้ยออกมาแบบไม่ทบต้น 12 ล้าน. สรุป ต้นครบ ดอกเหลือ เรียนฟรี
แต่ถ้าเราคิดว่า เอาเงินมาหมุนก่อน แล้วค่อยทยอยจ่ายมันก็ได้นะคะ แต่มันขึ้นอยู่กับว่าคุณรับความเสี่ยงกับมันได้ไหม เจ้าก้อน 10 ล้านของ จขกท นั่นล่ะ เรื่องอนาคตลูกเราไม่เสี่ยงนะคะ ลองทบทวนดีดีค่ะ อยากให้มีความสุข ถ้าพี่สาวยอมขายดาวน์คอนโดที่กู้ไม่อนุมัติ จะดีมากเลย
เป็นกําลังใจให้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
มีเงินสด 10 ล้านกู้เพิ่ม 15 ล้านเพื่อซื้ออสังหาฯ รวมหนี้กู้อื่น ๆ ประมาณ 55 ล้าน...ขอคำแนะนำด้วยค่ะ
เรื่องยาวและวกวนหน่อยแต่ขอเล่าให้ละเอียดเพื่อให้เห็นภาพในการให้คำแนะนำที่ถูกต้องตามจริงให้มากที่สุด
เขียนเสร็จจะเดินทางไปต่างจังหวัดและอาจจะได้เข้ามาอ่านอีกครั้งสุดสัปดาห์นะคะ
จึงขอขอบพระคุณสำหรับทุก ๆ คำแนะนำล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ค่ะ
จขกท มีพี่สาว 2 คนที่มีวัยย่าง 50 ทั้งคู่โดยร่วมกันทำธุรกิจหุ้นส่วน 3 คนพี่น้องมา 10 กว่าปี
พี่สาวทั้งคู่ไม่มีครอบครัวแต่ จขกท มีบุตรชายหญิง 4 คนกำลังศึกษา
เราอาศัยอยู่ในอาคารสำนักงานในย่านใจกลางธุรกิจด้วยกันตั้งแต่สามี จขกท ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตกว่า 10 ปีแล้ว
ธุรกิจที่ทำพอเลี้ยงครอบครัวและบุตรของ จขกท ได้อย่างดีแบบพอเพียงมาโดยตลอด
จนกระทั่งเมื่อ 4-5 ปีก่อนหน้านั้นพี่สาวทั้ง 2 ได้นำเงินสดที่เก็บสะสมจากกำไรในการดำเนินธุรกิจ
ไปซื้อผ่อนคอนโดในเมือง 3 ห้อง ๆ ละประมาณ 4 ล้านบาทเพื่อพี่น้องทั้ง 3 แบ่งกันคนละห้อง
ปัจจุบันทั้ง 3 ห้องโอนเรียบร้อยแล้วและอยู่ในระหว่างการผ่อนธนาคารประมาณเดือนละ 25,000 บาทต่อห้อง
(จำไม่ได้ว่าต้องผ่อนนานแค่ไหน)
ขณะนี้ปล่อยคอนโดให้ต่างชาติเช่าห้องละ 18,000 บาททั้ง 3 ห้อง
ต่อมาเมื่อ 3 ปีที่แล้วพี่ทั้ง 2 ได้ไปซื้อคอนโดเพิ่มอีกแห่งหนึ่งจำนวน 3 ห้อง
ราคาห้องละประมาณ 5 ล้าน 2 ห้องและ 10 ล้าน 1 ห้อง
2 ห้องเล็กสำหรับ จขกท และพี่สาวคนหนึ่ง ส่วนห้องใหญ่ 10 ล้านสำหรับพี่สาวอีกคนหนึ่ง
ตอนนี้ครบกำหนดผ่อนดาวน์และอยู่ในขั้นตอนของการโอน
แต่ไม่ผ่านการอนุมัติกู้จากธนาคารในรอบแรกและกำลังรอการพิจารณาอนุมัติใหม่อีกครั้งในเร็ว ๆ นี้
คอนโดทั้งหมด 6 ห้องใช้เงินจากการดำเนินธุรกิจโดยพี่สาวทั้ง 2 เป็นคนตัดสินใจกันเอง 2 คน
ล่าสุดเจ้าของอาคารสำนักงานซึ่งเราเช่าทำธุรกิจในราคาค่าเช่า 4 หมื่นบาทต่อเดือนจะยกเลิกสัญญา
เนื่องจากจะขายต่อให้ผู้อื่นโดยให้เราย้ายออกก่อนสิ้นปีนี้
ถึงแม้จะเป็นหุ้นส่วนธุรกิจแต่ จขกท ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในธุรกิจตามความต้องการของพี่ ๆ
ผลตอบแทนที่ได้รับคือการกินอยู่ เลี้ยงดูการศึกษาบุตรของ จขกท และค่าใช้จ่ายทุกอย่างเหมือนกงสี
พี่ทั้ง 2 ต้องการให้ จขกท มีหน้าที่เพียงอยู่เฉย ๆ ดูแลตัวเองให้มีความสุข
ห้ามยุ่งในกิจกรรมใด ๆ ทั้งในกิจการบ้านและธุรกิจ
แม้คอนโดเป็นชื่อ จขกท แห่งละ 1 ห้องรวม 2 ห้องแต่เหมือนมีแต่ชื่อเพราะไม่มีสิทธิ์ไม่มีเสียงใด ๆ
เนื่องจากพี่สาวทั้ง 2 เป็นคนจัดการและตัดสินใจทุกอย่างรวมทั้งค่าเช่าค่าผ่อน ฯลฯ
ข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ เป็นตัวเลขที่เคยผ่านหูผ่านตาจากการบอกเล่าของพี่ที่ จขกท ไม่ได้ใส่ใจมาก่อน
เนื่องจากพี่สาว 2 คนต้องการซื้ออาคารสำนักงานที่เช่าอยู่นั้นเอาไว้เองเพิ่มอีกแม้จะมีที่ทำธุรกิจสำรองอยู่แล้ว
ปัญหาคือทั้ง 2 คนไม่มีเงินสดมีแต่หนี้สินและอสังหาฯ ปลอดหนี้อีก 2 แห่งมูลค่าประมาณ 10 ล้าน
นอกจากหนี้สินคอนโดทั้ง 6 ห้องข้างต้น
ยังเป็นหนี้ญาติอีก 5 ล้านซึ่งญาติไม่คิดดอกเบี้ยและยังไม่มีกำหนดชำระ ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เหมือน OD ผ่าน Bank ที่สามารถทยอยจ่ายคืนและยืมใหม่มานาน 4-5 ปีแล้ว
หนี้อีกก้อนเป็น OD Bank เป็นเงินประมาณ 5 ล้านเช่นกันโดยใช้บ้านที่เป็นชื่อ จขกท ค้ำประกัน
ซึ่ง OD Bank นี้จะโปะทยอยคืนทุกครั้งที่มีเงินก้อนเข้ามาเพื่อลดภาระดอกเบี้ย (เกือบเต็มยอด OD)
โดยหนี้ 10 ล้านนี้น่าจะเกิดจากการดำเนินธุรกิจและค่าใช้จ่ายเงินดาวน์และผ่อนชำระคอนโดเป็นหลัก
เท่าที่ทราบและจำได้จากการพูดคุยบอกกล่าวเป็นครั้งคราวจากพี่ ๆ น่าจะมีหนี้สินตามรายการข้างต้น
ซึ่งทั้งหมด จขกท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจและไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะแสดงความคิดเห็นใด ๆ
เนื่องจาก จขกท ไม่มีความรู้เรื่องการเงิน การกู้หรือผลกระทบของดอกเบี้ยเงินกู้ต่าง ๆ ข้างต้น
และเข้าใจว่าพี่สาวทั้ง 2 ก็คงจะมีความรู้ไม่มากนักจึงเกิดรายการหนี้สินข้างต้นขึ้น
ตอนแรก จขกท คิดว่าอยากจะช่วยลดความกังวลในเรื่องที่ทำกินให้กับพี่ทั้ง 2
เพราะที่ผ่านมาทั้งสองทำงานหนักเพื่อ จขกท และลูก ๆ เยี่ยงหัวหน้าครอบครัวมาตลอด
จึงได้เสนอจะถอนเงินฝาก 10 ล้านที่เก็บไว้โดยทั้ง 2 ไม่เคยทราบมาก่อนว่า จขกท มีเงินก้อนนี้
ซึ่งเป็นเงินเก็บที่ จขกท ใช้เพื่อนำดอกเบี้ยเป็นค่าใช้จ่ายส่วนตัวเนื่องจากไม่มีรายได้
และเพื่อเป็นทุนการศึกษาของบุตรและเพื่อใช้ยามเกษียณของตนเองและพี่ทั้ง 2 ซึ่งไม่เคยมีเงินสด
โดยจะนำ 10 ล้านบาทมาสมทบซื้ออาคารสำนักงานที่กำลังจะหมดสัญญาเช่าในราคา 25 ล้านบาท
ส่วนเงินที่ขาดอีก 15 ล้านจะขอกู้เพิ่มจากธนาคารโดยนำบ้านที่จะขอซื้อไปค้ำประกัน
หลังจากเสนอพี่ ๆ ไปแล้วมาคิดดูเกิดความสงสัยว่ายอด 15 ล้านบาทน่าจะไม่ผ่านอนุมัติการกู้ของเราคนใดคนหนึ่ง
ซึ่งการกู้ยอด 5+5+10 ล้านสำหรับคอนโดแห่งที่ 2 ยังไม่ผ่านการอนุมัติแล้วยอด 15 ล้านนี้ก็ไม่น่าจะผ่านเช่นกัน
สมมุติว่ายอด 5+5+10 และ ยอด 15 ล้านบาทผ่านการอนุมัติ
ต่อไปพี่สาวทั้ง 2 คงจะต้องทำงานเพื่อจ่ายค่าดอกเบี้ยเงินกู้เพียงอย่างเดียวหรือไม่
ขนาดก่อนหน้านี้ซึ่งยังไม่มีหนี้ 2 ยอดนี้ แค่หนี้ญาติและ OD Bank 5+5 ล้านยังค้างอยู่
ถ้าเพิ่มหนี้อีกจะเป็นอย่างไร?
รวมหนี้ปัจจุบันและหนี้ที่กำลังจะก่อทั้งหมดดังนี้
1. คอนโดแห่งแรกผ่อนเหลือ 10 ล้าน
2. คอนโดแห่ง 2 กำลังรออนุมัติกู้ 20 ล้าน (รอบแรกไม่ผ่านอนุมัติ)
3. หนี้ญาติสนิท 5 ล้าน
4. OD Bank 5 ล้าน
5. กำลังคิดจะกู้ 15 ล้านเพื่อซื้ออาคารสำนักงาน
รวมหนี้ทั้งสิ้น 55 ล้านบาท
เชื่อแน่ว่าพี่สาวทั้ง 2 ยังไม่ได้เคาะตัวเลขดอกเบี้ยที่จะเกิดจากหนี้ 55 ล้าน
จขกท ควรทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี?
พี่สาวทั้ง 2 บอกว่ารับปากว่าจะเบิกเงินสด 10 ล้านมาให้แล้วอย่ากลับคำเสียล่ะ!
เพื่อพี่น้องเราทำได้และพี่ ๆ คงคิดว่าทำทุกอย่างเพื่อหลาน ๆ และสมบัติทุกอย่างท้ายสุดก็เป็นของหลานทุกคน
แต่ตอนนี้ จขกท อดคิดไม่ได้ว่าเราทั้ง 3 คนมีจุดอ่อนและยังขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องใดหรือไม่?
เริ่มเกิดความกลัวในอนาคตที่ไม่แน่นอนของชีวิตของใครคนใดคนหนึ่ง
โดยเฉพาะพี่ทั้ง 2 ที่เป็นเสมือนหัวหน้าครอบครัวที่หากเกิดอะไรขึ้นทุกอย่างอาจจะจบเห่ถูกยึดไปหมดสิ้น
เรื่องที่ยากที่สุดก็คือเรื่องการทำให้พี่สาวทั้ง 2 คนเข้าใจการบริหารจัดการการเงินที่น่าจะก่อประโยชน์ที่ดีกว่า
ที่สำคัญเธอทั้ง 2 เห็น จขกท เป็นเพียงน้องที่เธอไม่เคยต้องปรึกษาหรือฟังคำแนะนำใด ๆ
เพราะลองเกริ่นลอย ๆ เผื่อว่าจะลองคิดทบทวนแค่เรื่องซื้ออาคารสำนักงานเพิ่มก็ถูกเบรคเสียแล้ว
รู้สึกเหนื่อยแทนทั้งคู่ที่ดูเหมือนกำลังทำทุกอย่างเพื่อให้ดูดีเพียงเพราะแคร์สายตาผู้อื่น
อยากให้พี่ทั้ง 2 อยู่อย่างพอเพียง สนใจสุขภาพตัวเองก่อนที่จะสายเกินไป
อยากให้ทำตัวเป็น NOBODY เหมือนน้องคนนี้
ที่น่าจะทำให้ชีวิตมีความสุขมากกว่าการต้องดิ้นรนแบบที่กำลังทำอยู่นี้เหลือเกิน!