ลองคิดดู ถ้าคนหมดกิเลสแล้วทำไมไม่เสียสละมาเกิดอีกเพื่อสอนผู้คนให้พ้นทุกข์และช่วยให้โลกมีสันติภาพ?

เพราะคนที่สอนอยู่ส่วนใหญ่นั้นเราก็เชื่อว่าเขายังไม่หมดกิเลส ส่วนคนที่หมดกิเลสเมื่อตายไป เราก็เชื่อว่าเขาจะไม่มาเกิดอีกแล้ว (เป็นงั้นไป เลยกลายเป็นว่าคนที่ยังไม่หมดกิเลสกลับต้องมาสอนอยู่ ส่วนคนหมดกิเลสแล้วหนีหายไปเลย)

หรือจะบอกว่าเขา "ไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว ปล่อยวางได้แล้ว จึงไม่สนใจจะมาช่วยคนที่ยังจมอยู่ในทุกข์" อย่างนี้มันดูขัดแย้งกัน เพราะเมื่อปล่อยวางแล้วก็จะมาเกิดเพื่อสอนอีกไม่ได้หรือ? จะได้มีคนหมดกิเลสมากๆ แล้วมาช่วยกันสอนผู้คนให้เห็นธรรมและช่วยให้โลกมีสันติภาพ?

นี่เป็นความเชื่อที่ดูขัดแย้งกันซึ่งเราก็ยังเชื่อกันอย่างนั้นมาโดยตลอดว่า "คนหมดกิเลสแล้วจะไม่กลับมาเกิดอีก" ซึ่งถ้ายังอยากช่วยคนอื่นอยู่ก็ยังเป็นแค่พระโพธิสัตว์ที่ยังต้องมาเกิดอีกพื่อช่วยคนอื่น แต่พอหมดกิเลสกลับไม่ยอมมาเกิดเพื่อช่วยคนอื่น...  ทำไม?  

สรุปว่า ถ้ายังเชื่อว่ามีการเวียนว่ายตาย-เกิดทางร่างกายอยู่ มันก็ยังต้องมีเรื่องที่ขัดแย้งกันเองให้เกิดคำถามได้อีกมากมาย แต่เราก็พยายามมองข้ามไม่สนใจ ซึ่งในเรื่องนี้ถ้าเข้าใจเสียแล้วว่า "มันไม่มีใครมาเกิด และ ไม่มีใครตาย" คำถามเช่นนี้ก็จะไม่มีทางเกิดขึ้นมาได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่